ตอนที่ 916 ขโมย
ตอนที่ 916 ขโมย
หุ่นยนต์ต่อสู้ทำการตวัดแขนที่แหลมคมของมันออกไปโดยมีเป้าหมายคือศีรษะของคาวิส
“บัดซบ!” เลียมตะโกนเสียงดัง ก่อนที่เขาจะรีบพุ่งตัวออกไปจากตำแหน่งเดิมอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นแขนขวาของเขาก็พุ่งเข้าจู่โจมหุ่นยนต์ต่อสู้โดยตรง ขณะที่แขนซ้ายของเขายื่นออกไปพยายามดึงคาวิสออกมาจากคมมีดของศัตรู
เลียมเป็นถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับสูงที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ความเร็วในการตอบสนองของเขาจึงรวดเร็วราวกับสายฟ้า
แต่น่าเสียดายที่คาวิสอยู่ใกล้หุ่นยนต์ต่อสู้มากเกินไป และเขาไม่เคยจินตนาการว่าการเคลื่อนไหวครั้งแรกของหุ่นยนต์ตัวนี้คือการสังหาร การเคลื่อนไหวของเขาจึงเชื่องช้าไปกว่าเดิมเล็กน้อย
นี่คือแผนการก้าวแรกของเซี่ยเฟยและอย่าคิดว่าเขาจะไม่สามารถทำลายสถานีวิจัยหลักได้เพียงเพราะว่าเขาอยู่ในสถานีวิจัยหมายเลข 12 เพราะตราบใดที่เขาสามารถประยุกต์ใช้เรื่องต่าง ๆ ได้มากเพียงพอระยะทางเพียงแค่นี้ย่อมไม่สร้างปัญหาให้กับเขาเลย
นี่คือเหตุผลที่ทำไมชายหนุ่มถึงสามารถอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ นั่นก็เพราะเขาสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย และเขาก็เป็นคนที่มีความโหดเหี้ยมมากพอ
ตูม!
เลียมทุบหุ่นยนต์ต่อสู้ออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมกับดึงร่างของคาวิสออกมาได้สำเร็จ น่าเสียดายที่ถึงแม้เขาจะรักษาชีวิตของชายชราคนนี้เอาไว้ได้ แต่คาวิสก็ต้องสูญเสียแขนซ้ายไปข้างหนึ่ง
ความเจ็บปวดจากการถูกตัดแขนทำให้คาวิสร้องโหยหวนราวกับจะขาดใจ พร้อมกับเลือดสีแดงฉานที่พุ่งออกมาราวกับก๊อกน้ำแตก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?! ทำไมจู่ ๆ หุ่นยนต์ตัวนี้ถึงเริ่มโจมตี!!” เลียมตะโกนถามเสียงดัง
สีหน้าของคาวิสยังคงซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด จิตใจของเขายังคงว่างเปล่าและเขาก็ไม่เข้าใจว่าตอนนี้มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่
อย่างไรก็ตามภาพที่เกิดขึ้นบนหน้าจอกลับทำให้ทั้งเลียมและคาวิสรู้สึกโกรธมาก เพราะมันเป็นภาพของเซี่ยเฟยในสถานีวิจัยหมายเลข 12 ที่กำลังเล่นสนุกกับหุ่นยนต์ที่เขาเพิ่งสร้างขึ้นมาเมื่อสักครู่
หุ่นยนต์ในสถานีวิจัยหลักและหุ่นยนต์ในสถานีวิจัยหมายเลข 12 เหมือนกันทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบหรือการเขียนโค้ดต่างก็ถูกคัดลอกกันมาทุกระเบียบนิ้ว แต่ถึงกระนั้นหุ่นยนต์ของเซี่ยเฟยกลับไม่สร้างอันตราย ขณะหุ่นยนต์ที่ถูกคาวิสคัดลอกออกมากลับจู่โจมเข้าใส่ชายชราอย่างไร้ปรานี
ความแตกต่างระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสองมากเกินไป จนทำให้คาวิสกับเลียมกำลังรู้สึกว่าเซี่ยเฟยกำลังเล่นตลกกับพวกเขาอยู่
พนักงานที่อยู่ใกล้ ๆ รีบเข้ามาปฐมพยาบาลให้กับคาวิส ซึ่งความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากบาดแผลนี้ยังคงทำให้ชายชราส่งเสียงร้องโหยหวนขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนั้นคาวิสก็เดินกะเผลกไปที่แผงควบคุมด้วยใบหน้าอันซีดเซียว ก่อนที่เขาจะกระแทกปุ่มสีแดงซึ่งเป็นปุ่มรวมตัวของสถานีอวกาศ
โดยปกติสถานีอวกาศทั้ง 13 แห่งจะถูกแยกออกจากกัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเปิดใช้งานระบบรวมตัว สถานีวิจัยย่อยทั้ง 12 แห่งจะเคลื่อนที่มารวมกับสถานีวิจัยหลักในทันที
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็ล้วนแล้วแต่มีจุดอ่อน ซึ่งจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของคาวิสนั้นก็คือเขามีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไป
คนที่มีความมั่นใจแบบนี้ไม่สามารถรับมือกับความสูญเสียใด ๆ ได้ เมื่อเขารู้สึกหงุดหงิดเขาจะเริ่มระบายความโกรธออกไปในทันที ซึ่งในเวลานั้นเขาก็จะได้สูญเสียความเยือกเย็นของตัวเองไปแล้วจะลงมือทำได้แม้กระทั่งสิ่งที่ดูโง่เขลามากที่สุดก็ตาม
เห็นได้ชัดว่าคาวิสรู้สึกโกรธมากที่ถูกหุ่นของเซี่ยเฟยตัดแขนของเขาจนขาดด้วนแบบนี้ เขาจึงต้องการนำตัวชายหนุ่มมายังสถานีหลักโดยเร็วที่สุด และให้เลียมทำการทรมานเซี่ยเฟยเพื่อรีดความลับเรื่องเทคโนโลยีจำลองพลังกฎออกมาจากปากของชายหนุ่มโดยตรง
แน่นอนว่าเลียมย่อมไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับไม้อ่อนของคาวิสตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อในตอนนี้ชายชรามีความคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกันกับเขา เลียมจึงเผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับกำหมัดเตรียมทำการทรมานเซี่ยเฟยอย่างสมใจ
“ใช่แล้ว ตราบใดก็ตามที่คุณพาหยิงเฟยมาที่นี่ ฉันจะทำให้มันคนนั้นคายความลับออกมาเอง” เลียมกล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
—
สถานีวิจัยหมายเลข 12
ปัจจุบันเซี่ยเฟยกำลังตรวจสอบหุ่นยนต์ต่อสู้ที่เขาเพิ่งสร้างเสร็จ ขณะรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
เขาไม่รู้ว่าแผนการของเขาได้ผลหรือไม่ แต่เขารู้ดีว่าถ้าเขายังไม่ได้ลงมือทำอะไรในตอนนี้เขาจะไม่เหลือโอกาสในการโต้ตอบอีกเลย ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องพยายามทำทุกอย่างเท่าที่เขาจะทำได้
แต่ในทันใดนั่นเองสถานีอวกาศที่เขาอาศัยอยู่ก็เริ่มเร่งความเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ภาพทะเลดวงดาวนอกหน้าต่างผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว
โดยปกติสถานีวิจัยจะเปลี่ยนตำแหน่งทุก ๆ ชั่วโมงเท่านั้น แต่ในตอนนี้เวลาเพิ่งผ่านพ้นไป 20 นาทีนับตั้งแต่การเปลี่ยนตำแหน่งครั้งสุดท้าย หรือมันอาจจะหมายความว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ
ชายหนุ่มชะงักค้างไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะยืนดูคอมพิวเตอร์อย่างเงียบ ๆ
ความเร็วในการเคลื่อนที่ของสถานีวิจัยในห้วงอวกาศนั้นเร็วมาก ซึ่งหลังจากที่เวลาได้ผ่านพ้นไปไม่กี่นาที ชายหนุ่มก็มองเห็นสถานีอวกาศขนาดใหญ่ในระยะไกล โดยสถานีอวกาศนี้มีร่องอยู่ทั้งหมด 12 ร่อง ซึ่งแต่ละร่องเตรียมไว้สำหรับการรองรับสถานีวิจัยในห้วงอวกาศขนาดเล็ก
ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาอันเป็นประกาย เพราะแผนการทั้งหมดที่เขาได้ทำลงไปได้ผลดีกว่าที่เขาได้คาดคิดเอาไว้จริง ๆ
สถานีวิจัยหมายเลข 12 เข้าเทียบท่าอย่างรวดเร็ว ขณะที่สถานีวิจัยอื่น ๆ ก็กำลังมุ่งหน้าตรงมาเรื่อย ๆ
ชายหนุ่มรัวนิ้วบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็วเพื่อปล่อยสัญญาณที่เขาได้เตรียมล่วงหน้าเอาไว้ เมื่อไหร่ก็ตามที่อัลฟ่าเริ่มทำตามแผนการ เมื่อนั้นเขาก็จะสามารถยืนยันได้สักทีว่าอัลฟ่าได้ถูกเรียกรวมมาที่สถานีหลักหรือเปล่า
ทันใดนั้นหุ่นยนต์ผู้ช่วยทั้ง 12 ตัวก็เหมือนกับจะได้รับคำสั่ง พวกมันจึงเข้ามาล้อมจับเซี่ยเฟยเอาไว้ ก่อนที่จะพาตัวชายหนุ่มไปยังสถานีวิจัยหลักที่อยู่ด้านหน้า
เซี่ยเฟยปล่อยให้หุ่นยนต์พาตัวเขาไปโดยไม่คิดที่จะขัดขืน ซึ่งในระหว่างทางเขาได้เห็นนักวิจัย 2 คนกำลังมองมาทางเขาอย่างเห็นใจ ราวกับว่าทุกคนกำลังสงสารในสิ่งที่เขากำลังจะต้องพบเจอ
เมื่อหุ่นยนต์เปิดประตูพวกมันก็โยนเซี่ยเฟยเข้าไปภายในห้องอย่างแรง ซึ่งหลังจากนั้นไม่ถึงวินาทีเซี่ยเฟยก็สัมผัสได้ถึงกำปั้นที่จู่โจมเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว
เล่ห์กายา!
เซี่ยเฟยพลิกตัวหลบด้วยท่าทางผิดธรรมชาติจนทำให้หมัดของเลียมพลาดเป้าไป
แม้ว่าการเคลื่อนไหวนี้จะดูงุ่มง่ามแต่มันแสดงออกถึงความเชี่ยวชาญของผู้ใช้งานอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ชายหนุ่มยังเคลื่อนไหวด้วยท่าทางที่ดูเป็นธรรมชาติ จนยากที่คนนอกจะบอกได้ว่าเขาจงใจหลบเลี่ยงหรือมันเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ
“หือ?” เลียมอุทานพร้อมกับขมวดคิ้ว เมื่อคิดว่าตัวเองคำนวณผิดพลาดไปจนทำให้เขาจู่โจมล้มเหลวตั้งแต่ครั้งแรก
เซี่ยเฟยฉวยโอกาสพลิกตัวขึ้นจากพื้นและสำรวจพื้นที่บริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง ก่อนที่เขาจะได้เห็นว่าสถานที่แห่งนี้คือห้องควบคุมหลักที่มีพนักงานมากกว่า 10 คนกำลังยุ่งอยู่กับเครื่องจักร และมีคาวิสที่กำลังจ้องมองมาทางเขาด้วยความโกรธ
“หักแขนมันเดี๋ยวนี้!” คาวิสตะโกนสั่งอย่างโกรธเกรี้ยว
“ได้ยินแล้วใช่ไหม? รีบบอกทุกอย่างที่แกรู้มา ไม่อย่างนั้นฉันจะทรมานแกจนกว่าแกจะร้องขอความตาย” เลียมกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
เซี่ยเฟยไม่ได้ให้ความสนใจต่อชายชราทั้งสองคนนี้เลย เพราะเขากำลังให้ความสนใจไปที่หน้าจอภายในห้องควบคุม เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่อัลฟ่าสามารถควบคุมระบบหลักได้สำเร็จ แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่อีกฝ่ายส่งสัญญาณมา เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องเก็บซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเองเอาไว้อีกต่อไป
น่าเสียดายที่ในตอนนี้มันก็ยังไม่มีสัญญาณปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ ซึ่งมันก็หมายความว่าอัลฟ่ากำลังประสบปัญหาทำให้เขาไม่สามารถเข้าควบคุมระบบหลักของสถานีแห่งนี้ได้
“เฮ้ไอ้หนู! ฉันเตือนแกแล้วนะ ถ้าแกไม่ยอมพูดอะไรฉันก็คงจะต้องช่วยแกจัดกระดูกใหม่สักหน่อย” เลียมตะโกนขึ้นมาอย่างรำคาญเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเหยียดแขนของตัวเองออกไปเพื่อคว้าแขนของชายหนุ่มตรงหน้า และตราบใดก็ตามที่เขาสามารถคว้าจับแขนของเซี่ยเฟยได้สำเร็จ เมื่อนั้นเขาก็จะสามารถหักกระดูกฉีกเส้นเอ็นของอีกฝ่ายได้
แต่ในระหว่างที่เลียมกำลังลงมืออยู่นั่นเอง จู่ ๆ ระบบทั้งหมดก็เกิดอาการล่มขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ไฟภายในสถานีอวกาศขนาดใหญ่สว่างขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ราวกับว่ามันเป็นประภาคารในท้องฟ้ายามค่ำคืน
หน้าจอทั้งหมดกลายเป็นตัวอักษรที่ทุกคนยากจะอ่านออก จากนั้นตัวอักษรเหล่านี้ก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
ภายในเวลาไม่ถึง 1 วินาทีความบ้าคลั่งของระบบก็หยุดลง แต่เวลาเพียงแค่นี้มันก็เพียงพอแล้วที่เซี่ยเฟยจะได้ข้อสรุปแล้ว
“ลินนิจอยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วย!” เซี่ยเฟยคิดภายในใจพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย เพราะในตอนนี้เขาไม่จำเป็นจะต้องเก็บซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเองเอาไว้อีกต่อไปแล้ว
ฟุบ!
ชายหนุ่มกระโดดขึ้นจากพื้นด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า ก่อนที่ใบหญ้าขนาดใหญ่ทั้งหกใบจะกวาดออกไปทั่วทั้งห้องควบคุมในทันที
พนักงานหลายสิบคนถูกใบหญ้าตัดศีรษะอย่างฉับพลัน ทำให้เศษเลือดเศษเนื้อจำนวนมากสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งบริเวณ
“นี่แกเป็นนักรบงั้นเหรอ?!” เลียมตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ และเมื่อเขาพิจารณาจากการลงมือของอีกฝ่าย มันก็หมายความว่าเซี่ยเฟยจะต้องมีพลังในระดับไม่น้อยกว่าราชันย์กฎ
“กว่าจะรู้ตัวมันก็สายไปแล้วเว้ย!”
ฟิ้ว!
หงส์ครามเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วฉีกกระชากร่างของเลียมออกเป็นชิ้น ๆ
คาวิสมองภาพตรงหน้าด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไรทั่วทั้งสถานีอวกาศก็ได้เปล่งแสงสีแดงออกมาอย่างบ้าคลั่ง คล้ายกับว่ามันเป็นสัญญาณเตือนเหตุการณ์ฉุกเฉิน
“ถึงแม้แกจะฆ่าฉันแกก็หนีไปไม่พ้นหรอก ที่นี่มีความปลอดภัยระดับสูงสุดของบริษัทควบคุมอยู่ ตอนนี้สัญญาณแจ้งเหตุร้ายถูกส่งออกไปแล้ว อีกเพียงแค่ไม่กี่นาทีกองกำลังรักษาความปลอดภัยก็จะมาจัดการกับแก!” คาวิสร้องคำรามด้วยใบหน้าที่ดุร้าย
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงและหันไปมองคาวิสด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้นเงาขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในจักรวาลพร้อมกับช่องว่างมิติที่ค่อย ๆ ถูกเปิดออก
วินาทีต่อมาหนอนด้วงมิติตัวสีทองก็เคลื่อนที่ออกมาจากช่องว่างมิตินั้น แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่ใครที่ไหนนอกเสียจากแท่งทองนั่นเอง
หลังจากไม่ได้เจอกันไม่กี่วันหนอนด้วงมิติสีทองตัวนี้ก็ขยายขนาดร่างกายของมันขึ้นมาอีกครั้ง โดยในตอนแรกมันมีขนาดเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของดวงจันทร์ แต่ในตอนนี้มันมีขนาดเทียบกับดวงจันทร์ทั้งดวง
แท่งทองอ้าปากขนาดใหญ่ก่อนที่มันจะทำการกลืนสถานีวิจัยทั้งหมดลงในคำเดียว
หลังจากนั้นมันก็หนีเข้าไปภายในช่องว่างมิติอันมืดมิด ทิ้งพื้นที่อันว่างเปล่าเอาไว้ไม่เหลือร่องรอยของสถานีวิจัยลับอีกต่อไปแล้ว
คาวิสเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เพราะในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีสถานีวิจัยลับก็ถูกลากเข้าสู่ช่องว่างมิติอันมืดมิด ไร้หนทางติดต่อออกไปยังโลกภายนอกอีกต่อไป
สถานีวิจัยลับคือแกนหลักของบริษัทฟิกส์ทั้งหมด สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่จะมีห้องวิจัยระดับสูงสุดเท่านั้น แต่มันยังเป็นสถานที่รวมตัวของนักวิจัยชั้นยอดอย่างเช่นลินนิจอีกด้วย
เมื่อแผนการทั้งหมดถูกเปิดเผยออกมา มันก็ได้พิสูจน์ว่าเซี่ยเฟยไม่ได้วางแผนชิงตัวลินนิจเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น แต่เขาต้องการจะชิงสถานีวิจัยลับมาเป็นของเขาทั้งหมด
“อันดับแรกฉันไม่ได้ชื่อหยิงเฟยแต่ฉันชื่อเซี่ยเฟยต่างหาก ส่วนอันดับ 2 ใครบอกว่าฉันอยากหนี เพราะสิ่งที่ฉันหมายตาคือสถานีวิจัยของพวกแก” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
***************
แม่เจ้าาาาา ขออ้าปากค้างในแผนของพี่เฟย แกทำให้ตกตะลึงได้ตลอดจริง ๆ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 337
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น