ตอนที่ 892 มุดตัวเข้าไปท่ามกลางความวุ่นวาย
ตอนที่ 892 มุดตัวเข้าไปท่ามกลางความวุ่นวาย
“ไม่ต้องห่วง คราวนี้ฉันได้นำสมบัติของบรรพบุรุษมาด้วย ไม่ว่าพื้นที่บริเวณนั้นจะมีข้อจำกัดมากแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่เชื่อว่าพวกเราจะไม่สามารถบุกผ่านเข้าไปภายในนั้นได้” เซี่ยเค่อกล่าวพร้อมกับใช้นิ้วแตะแหวนมิติแล้วหยิบของชิ้นหนึ่งขึ้นมา
ของชิ้นนี้มีความคล้ายคลึงกับปืนใหญ่ที่มีความยาวประมาณ 2 เมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร
“ปีศาจทะลายดาว! คราวนี้พวกเราย่อมสามารถบุกฝ่าเข้าไปได้แน่ ๆ”
เหล่าบรรดาราชันย์ของสกายวิงต่างก็อุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น โดยปืนใหญ่พลังงานชิ้นนี้คือสิ่งที่ถูกออกแบบมาให้เจาะทะลวงทุกอย่างด้วยพลังงานมหาศาลที่ถูกระเบิดออกไป
แม้ว่าทุกคนจะเต็มไปด้วยความตกใจ แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงนั่งอยู่นิ่ง ๆ มันจึงทำให้เซี่ยเค่อรู้สึกสับสนขึ้นมาเล็กน้อย
“นายพึ่งมาเผ่าเทพนายเลยไม่ค่อยรู้จักอะไรมากนัก นี่คือปืนใหญ่พลังงานต้นกำเนิดที่สามารถบรรจุคริสตัลเข้าไปบริเวณด้านหลังได้ ความสามารถของอาวุธชิ้นนี้คือการระเบิดพลังงานปริมาณมหาศาลออกมาในคราวเดียว มันจึงเป็นอาวุธที่ทรงพลังและระยะในการยิงก็อยู่ในระยะที่ไกลมาก” เซี่ยเค่อแนะนำเพราะเขาคิดว่าเซี่ยเฟยไม่รู้ว่าปีศาจทะลายดาวคืออะไร
“ไม่มีเวลาแล้วครับ” จู่ ๆ เซี่ยเฟยก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหันจนทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจ เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ เซี่ยเฟยถึงพูดแบบนี้ขึ้นมา
“นายกำลังหมายถึงอะไร?” เซี่ยกวงไห่ถามอย่างสงสัย
“ถ้าเราเรียกกำลังเสริมได้ศัตรูก็เรียกกำลังเสริมได้ด้วยเหมือนกัน ลองมองไปที่บริเวณนี้พวกคุณจะเห็นว่ามันมีความปั่นป่วนทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ตำนานเคยกล่าวไว้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่อาวุธมายาถือกำเนิด มันจะมีการป้องกันอันแข็งแกร่งปกป้องอาวุธพวกนั้นอยู่ ตอนนี้พวกนักรบมารคงพยายามเจาะการป้องกันพวกนั้นเข้าไปแล้ว หากเราเคลื่อนไหวช้าการป้องกันของอาวุธมายาก็จะแข็งแกร่งขึ้น” เซี่ยเฟยกล่าว
“ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าการป้องกันของอาวุธมายาจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ปีศาจทะลายดาวย่อมทำลายมันลงไปได้อย่างแน่นอน” เซี่ยเค่อกล่าวพร้อมกับใช้มือตบสมบัติที่อยู่ภายในมือ
“ผมไม่ได้สงสัยในความแข็งแกร่งของอาวุธชิ้นนี้หรอกครับ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่การป้องกันของอาวุธมายาถูกทำลาย มันก็ไม่เพียงแต่พวกเราจะสามารถเข้าใกล้อาวุธมายาได้เท่านั้น แต่ศัตรูก็สามารถเข้าไปใกล้อาวุธมายาได้เช่นกัน และถ้าหากว่าเราไม่ระวังปีศาจทะลายดาวก็อาจจะสร้างความเสียหายให้กับอาวุธมายาได้เลย” เซี่ยเฟยกล่าวขณะเหลือบตามองไปยังปีศาจทะลายดาว
สีหน้าของทุกคนเริ่มเปลี่ยนไปตามคำอธิบายของเซี่ยเฟย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาใช้อาวุธชิ้นนี้เปิดเส้นทาง มันก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับพวกนักรบมารโดยตรง
สถานการณ์ที่เลวร้ายมากกว่านั้นคือปีศาจทะลายดาวอาจจะทำลายอาวุธมายาลงไปได้เลย เพราะอาวุธชิ้นนี้มีพลังมากเกินไป ซึ่งทุกคนก็ไม่จำเป็นจะต้องตั้งข้อสงสัยเลยว่ามันมีพลังมากพอจะทำลายอาวุธมายาได้ไหม
แม้ว่าอาวุธมายาที่ถูกทำลายจะถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ แต่การกลับมาเกิดใหม่นั้นก็เป็นการกำเนิดขึ้นมาแบบสุ่ม มันจึงไม่มีใครรู้เลยว่าอาวุธมายาจะเกิดใหม่ขึ้นมาตรงไหน และพวกเขาจะมีโอกาสหาอาวุธมายาชิ้นนั้นเจอหรือเปล่า
ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับกองกำลังนักรบมารหรือสถานการณ์ที่อาวุธมายาถูกทำลาย ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการให้เกิดอย่างแน่นอน
“แล้วนายคิดว่าพวกเราควรจะทำยังไง?” เซี่ยเค่อถามอย่างเร่งรีบ
“พยายามเปิดช่องแล้วให้ผมเข้าไปข้างใน” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาเบา ๆ
“นายมีวิธีเข้าไปข้างในงั้นเหรอ?!” ทุกคนถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเซี่ยเฟยมีพลังของกฎแห่งความโกลาหล
หากว่าแม้แต่กฎแห่งแสงที่กักขังโอโร่มาเป็นเวลานานก็ถูกกฎแห่งความโกลาหลทำลายลงไปได้ ชั้นป้องกันรอบ ๆ อาวุธมายาย่อมไม่สามารถต้านทานพลังของกฎแห่งความโกลาหลได้ด้วยเช่นเดียวกัน
“ไม่มีเวลาแล้ว! จำนวนคนของพวกเราด้อยกว่า ถ้าหากกำลังเสริมของศัตรูมาถึงสถานการณ์มันก็จะเลวร้ายมากขึ้นกว่านี้ พวกคุณไม่จำเป็นจะต้องเป็นห่วงว่าผมจะเข้าไปข้างในด้วยวิธีไหน ตราบใดก็ตามที่คุณสร้างเส้นทางเอาไว้ผมย่อมสามารถเข้าไปใกล้อาวุธมายาได้อย่างแน่นอน” เซี่ยเฟยกล่าว
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ?” เซี่ยกวงไห่ถาม
“ผมจะพยายามพิชิตอาวุธมายาชิ้นนั้นให้ได้ ระหว่างนั้นพวกคุณก็ถอยออกมาในระยะปลอดภัยและเตรียมปีศาจทะลายดาวเอาไว้ให้ดี เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมส่งสัญญาณขอให้พวกคุณทุกคนบุกเข้ามากลางดงเพื่อรับผมอีกครั้ง ถ้าหากว่าจำนวนของศัตรูมีมากจนเกินไปก็ใช้ปีศาจทะลายดาวทำลายพวกมันทั้งหมดลงไปเลย”
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนแปลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งมันก็ไม่ใช่เพราะว่าแผนของเซี่ยเฟยไม่ดี แต่มันเป็นเพราะว่าชายหนุ่มคนนี้จะต้องแบกรับความเสี่ยงมากที่สุด
สกายวิงเป็นตระกูลที่มีความโดดเด่นทางด้านความเร็ว เซี่ยเฟยย่อมเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะสามารถฝ่าเข้าไปในดงของศัตรูและหนีกลับออกมาอย่างปลอดภัยได้อย่างแน่นอน ส่วนในกรณีของปีศาจทะลายดาวเขาได้เก็บเอาไว้เป็นแผนสำรอง เพื่อใช้ในกรณีที่สมาชิกของตระกูลต้องเสี่ยงอันตรายมากเกินไป
ก่อนที่ใครจะทันได้รู้ตัวเซี่ยเฟยก็ได้กลายเป็นผู้นำของปฏิบัติการในครั้งนี้ไปแล้ว เพราะมันไม่มีใครสามารถคิดแผนการที่เหนือล้ำเกินกว่าความคิดของชายหนุ่มคนนี้ได้
“นายแน่ใจนะว่านายสามารถเปิดชั้นป้องกันของอาวุธมายาได้?” เซี่ยกวงไห่ถามย้ำอีกครั้ง
“ผมไม่เพียงแต่จะแน่ใจว่าผมสามารถเปิดชั้นป้องกันของอาวุธมายาได้เท่านั้น แต่วิธีการของผมยังไม่สร้างอันตรายให้กับอาวุธมายาที่อยู่ด้านในอีกด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างมั่นใจ
เซี่ยเค่อกับเซี่ยกวงไห่มองหน้ากันก่อนที่พวกเขาจะพยักหน้าให้กันเล็กน้อย ท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็เป็นอีวิลวิงเพียงคนเดียวนอกเหนือจากบรรพบุรุษของพวกเขา และจากสิ่งที่ชายหนุ่มแสดงออกมาทุกคนก็ยอมรับว่าเซี่ยเฟยคือนักวางแผนที่ดีที่สุดของสกายวิง
เหตุผลที่สกายวิงสามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวทั้ง ๆ ที่ทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนบ้า นั่นก็เพราะว่าพวกเขามีความเชื่อใจในสมาชิกของตระกูล
เมื่อเซี่ยเฟยยืนยันสมาชิกของตระกูลย่อมเชื่อมั่นในคำพูดของเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข และถึงแม้ว่าแผนการของเซี่ยเฟยจะผิดพลาดไป แต่มันก็ไม่มีใครออกมาเรียกร้องหาความผิดจากชายหนุ่มอย่างแน่นอน
นี่คือแก่นแท้ภายในจิตวิญญาณของสกายวิงที่พวกเขาจะเชื่อมั่นในพวกพ้องโดยไม่ตั้งข้อสงสัยใด ๆ ขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว
—
ท่ามกลางพื้นที่อันวุ่นวายกองกำลังหลักของสามตระกูลเผ่ามารกำลังล้อมแนวป้องกันอันหนาแน่นของอาวุธมายาไว้
ในท้องฟ้าเต็มไปด้วยพื้นที่สีดำผสมกับพื้นที่สีขาวกระจายตัวกันอยู่อย่างมากมาย โดยพื้นที่สีขาวคือพื้นที่ปกติและพื้นที่สีดำคือช่องว่างมิติที่เต็มไปด้วยอันตราย
การบุกเข้ามาในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยช่องว่างมิติแบบนี้คือเรื่องที่อันตรายมาก เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มันเกิดพายุมิติขึ้นมา กระแสมิติเหล่านั้นก็จะฉีกร่างของทุกคนออกจากกันได้อย่างง่ายดาย
เหล่าบรรดานักรบมารต่างก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างกังวล อย่างแรกคือพวกเขาอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานานแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะบุกฝ่าชั้นแนวป้องกันของอาวุธมายาเข้าไปได้ ประการที่สองคือการปรากฏตัวของสกายวิงที่ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทุกคนในดินแดนกฎต่างก็รู้ดีว่าสกายวิงเป็นตระกูลที่ทรงพลัง ยิ่งไปกว่านั้นคนบ้ากลุ่มนี้ยังมีความดื้อรั้นมากกว่าใคร มันจึงไม่มีใครสามารถรับประกันได้เลยว่านักรบสกายวิงจะปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อบุกจู่โจมเข้าใส่พวกเขาอีกครั้งเมื่อไหร่ แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขามั่นใจคือพวกสกายวิงไม่มีทางถอยกลับไปเฉย ๆ แน่นอน
สิ่งที่เซี่ยเฟยคาดเดาคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะนักรบมารเหล่านี้ทำการเรียกกองกำลังเสริมมาจริง ๆ เพียงแต่ความเร็วในการเรียกรวมพลของพวกเขายังห่างชั้นจากสกายวิง แล้วมันก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรกว่ากำลังเสริมจะเดินทางมาถึง
ทันใดนั้นมันก็ได้มีประกายแสงวูบวาบ 13 ดวงปรากฏเรียงกันบนท้องฟ้า โดยแสง 12 ดวงรวมตัวกันเป็นฝูงหมาป่า ขณะที่แสงอีกดวงหนึ่งเคลื่อนไหวอย่างอิสระในฐานะของหมาป่าเดียวดาย
เร็วมาก!
“นี่คือเรื่องของสกายวิง ใครไม่เกี่ยวไสหัวออกไปซะ!” เสียงสโลแกนอันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูลสกายวิงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาทั่วทั้งท้องฟ้า พร้อมกับประกายแสงที่เคลื่อนไหวไปมาจนทำให้เหล่าบรรดานักรบมารรู้สึกเวียนหัว
คราวที่แล้วเซี่ยกวงไห่นำทีมเข้าออกสนามรบอย่างรวดเร็ว และยังไม่ได้เริ่มทำการสังหารนักรบพวกนี้อย่างจริงจัง แต่ในคราวนี้สถานการณ์แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะเป้าหมายของพวกเขาคือการกำจัดศัตรูลงให้ได้มากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้นกองกำลังสกายวิงในคราวนี้ยังมีราชันย์กฎถึง 12 คนประกอบกับสัตว์ประหลาดอย่างเซี่ยเฟยที่มีพลังเกือบจะเทียบเท่ากับราชันย์
“ฆ่าพวกมันซะ!” เซี่ยเค่อยกแขนตะโกนออกคำสั่ง
“ทุกคนรีบมารวมตัวกันใช้รูปแบบป้องกัน หยุดพวกบ้านั่นเอาไว้ให้ได้!!” นักรบระดับราชันย์จากเผ่ามารตะโกนออกคำสั่งเสียงดังด้วยเช่นกัน
พื้นที่บริเวณรอบนอกถูกปกป้องเอาไว้ด้วยนักรบมารระดับจักรพรรดิเป็นส่วนใหญ่ เพราะนักรบระดับราชันย์คอยทำหน้าที่ปกป้องบริเวณใกล้ ๆ ชั้นป้องกันของอาวุธมายา
เหล่าบรรดานักรบระดับราชันย์รีบมารวมกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว เพราะถึงแม้ว่าจักรพรรดิของตระกูลจะถูกสังหาร แต่ตราบใดก็ตามที่พวกเขายังอยู่สกายวิงก็ไม่สามารถจะทำอะไรกับพวกเขาได้
ท้ายที่สุดพวกเขาก็คือนักรบระดับราชันย์ถึง 30 คน ถึงแม้สกายวิงจะมีนักรบที่แข็งแกร่งแต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะเอาชนะศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าเกือบ 3 เท่าได้ง่าย ๆ
แต่ในทันทีที่ราชันย์ของเผ่ามารได้มารวมตัวกัน กลุ่มนักรบสกายวิงก็เคลื่อนไหวออกไปยังพื้นที่ที่เต็มไปด้วยสีขาวดำในทันที
“กับดัก! เป้าหมายของพวกมันคืออาวุธมายา!!”
“รีบไปหยุดพวกมันเร็วเข้า!!”
นักรบมารตะโกนเสียงดังก่อนที่พวกเขาจะเริ่มใช้การโจมตีระยะไกล โดยหวังว่าพวกเขาจะสามารถหยุดหมาป่าจากสกายวิงได้ก่อนที่คนพวกนั้นจะเข้าใกล้อาวุธมายา
น่าเสียดายที่นักรบสกายวิงเคลื่อนที่ได้เร็วมาก กว่าที่พวกนักรบมารจะรู้ตัวฝูงหมาป่าก็อยู่ห่างจากชั้นป้องกันของอาวุธมายาไม่ถึง 500 กิโลเมตร
เซี่ยเฟยที่อยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่าต่อยพลังเข้าใส่ชั้นป้องกันโดยตรง โดยการใช้พลังของกฎแห่งความโกลาหลผ่านทางวิชาฝ่ามือคู่ฤดูใบไม้ร่วง
“หายไปซะ!”
พลังของกฎแห่งความโกลาหลระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง ฉีกช่องว่างภายในพื้นที่อันวุ่นวายให้กลายเป็นเส้นทางที่เขาสามารถมุดเข้าไปได้
ชายหนุ่มเคลื่อนไหวราวกับปลาไหลที่มุดตัวเข้าไปภายในโคลน ทันทีที่ชั้นป้องกันของอาวุธมายาเริ่มซ่อมแซมตัวเอง ร่างของเซี่ยเฟยก็หายตัวเข้าไปด้านในแล้ว
“ทุกคนถอย!” เซี่ยเค่อตะโกนออกคำสั่ง ขณะมองไปยังตำแหน่งที่เซี่ยเฟยหายตัวเข้าไปท่ามกลางพื้นที่อันวุ่นวาย
ฝูงหมาป่าสกายวิงเริ่มทำการเคลื่อนไหวถอยกลับไปอีกครั้ง แต่ตอนขามาพวกเขามีหมาป่าจำนวน 13 คน ขณะที่ขากลับจำนวนของหมาป่าภายในฝูงลดลงเหลือเพียง 12 คนเท่านั้น
***************
กำลังคิดอยู่เชียวว่าพวกมารจะไม่ตามเข้าไปด้วยเหรอ? ที่แท้ชั้นป้องกันก็ซ่อมแซมตัวเองได้นี่เอง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 324
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น