ตอนที่ 891 มุ่งหน้าสู่มัดดี้
ตอนที่ 891 มุ่งหน้าสู่มัดดี้
“แล้วผมต้องทำอะไรครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เซี่ยเค่อกับเซี่ยเหลียนหนิงจ้องมองไปที่แขนขวาของเซี่ยเฟยด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“เรารู้อยู่แล้วว่าอาวุธมายาของนายได้ทำการหลอมรวมอาวุธเข้าด้วยกันแล้ว 3 ชิ้น ถึงแม้ตอนนี้หงส์ครามจะมีประสิทธิภาพสูงมาก แต่บรรพบุรุษก็อยากให้นายหลอมรวมอาวุธมายาธาตุพืชให้ครบทั้งเจ็ดชิ้น เพื่อสร้างอาวุธมายาธาตุพืชที่สมบูรณ์” เซี่ยเหลียนหนิงกล่าว
‘บรรพบุรุษต้องการให้เขาหลอมรวมอาวุธมายาทั้งเจ็ดชิ้นเลยงั้นเหรอ?!’ เซี่ยเฟยสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ
ทุกวันนี้ด้วยอาวุธมายาที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน 3 ชนิด มันก็ทำให้เขาสามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้เหนือกว่าคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันอยู่แล้ว ถ้าหากเขาสามารถหลอมรวมอาวุธมายาธาตุพืชเข้าด้วยกันครบทั้งเจ็ดชิ้นจริง ๆ ในเวลานั้นเขาก็คงจะทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ
อย่าลืมว่าในปัจจุบันเขาเป็นนักรบสกายวิงผู้มีความเร็วอันเป็นเอกลักษณ์ เขาได้ครอบครองขนอุยผู้ซึ่งเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ทวีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้ครอบครองกฎแห่งความโกลาหล กฎที่สามารถพลิกผันทุกสิ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อรวมทุก ๆ สิ่งเข้าด้วยกันมันจึงทำให้เซี่ยเฟยได้ครอบครองพลังที่เหนือเกินกว่าจินตนาการ
“ทำไมบรรพบุรุษถึงให้ความสำคัญกับอาวุธมายามากขนาดนั้นเหรอครับ? พูดตามตรงเลยว่าสาเหตุที่ผมได้รับอาวุธมายาทั้งสามชิ้นนี้มา มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างสับสน
“นายคิดผิดแล้ว การรวบรวมอาวุธมายาธาตุพืชทั้งเจ็ดไม่ใช่ภารกิจของนายคนเดียวแต่เป็นภารกิจของตระกูล สิ่งที่เราต้องการจากนายมีเพียงแค่ให้นายทำการหลอมรวมอาวุธมายาธาตุพืชทั้งเจ็ดชิ้นเข้าด้วยกันเท่านั้น”
“อีกอย่างคือนายอย่าประมาทความแข็งแกร่งของสกายวิงมากเกินไป ตราบใดก็ตามที่บรรพบุรุษอยากให้พวกเราหาอาวุธมายาธาตุพืช พวกเราก็พร้อมที่จะระดมกองกำลังหาอาวุธพวกนั้นมาให้ได้”
เซี่ยเค่อกล่าวก่อนที่เขาจะชี้นิ้วไปยังราชันย์ทั้งห้าที่กำลังยืนรออยู่นอกห้อง
“พวกเรากำลังจะตามไปสมทบเซี่ยกวงไห่ที่มัดดี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปถึงที่นั่นกองกำลังของเราก็จะมีราชันย์ถึง 12 คน นายคิดว่าราชันย์ 12 คนบวกกับนายมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะกวาดล้างทุกอย่างได้หรือเปล่า?”
ชายหนุ่มอดจะขนลุกสู้ขึ้นมาไม่ได้เมื่อได้รู้ว่าภารกิจรวบรวมอาวุธมายาครั้งนี้ถึงกับจำเป็นจะต้องใช้ราชันย์กฎของสกายวิงถึง 12 คน
“นายโชคดีมากที่อาวุธมายาชิ้นแรกที่นายทำสัญญาด้วยคือหงส์ครามที่มีความดื้อรั้นมากที่สุดภายในอาวุธมายาทั้ง 30 ชิ้น”
“นอกจากนี้หงส์ครามยังมีคุณสมบัติที่สำคัญคือความอดทน และความสามารถในการปรับตัวเหนือกว่าอาวุธมายาทั้งหมด หงส์ครามจึงกลายเป็นอาวุธที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเป็นฐานที่มั่นอันแข็งแกร่งเพื่อหลอมรวมเข้ากับอาวุธมายาชิ้นอื่น ๆ”
“ถ้าหากว่าอาวุธมายาชิ้นแรกของนายไม่ใช่หงส์คราม แต่เป็นอาวุธมายาชิ้นอื่นในอาวุธมายาธาตุพืช กระบวนการหลอมรวมอาวุธทั้งเจ็ดเข้าด้วยกันมันก็จะยิ่งยากลำบาก เพราะพวกมันไม่ได้มีความสามารถในการปรับสภาพอย่างดีเหมือนกับหงส์คราม” เซี่ยเค่อกล่าวอธิบาย
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ท้ายสุดวัชพืชก็เป็นพืชที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีที่สุดในบรรดาพืชทั้งหมดในจักรวาลแห่งนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบนหน้าผา, ในทุ่งหิมะหรือแม้กระทั่งในแม่น้ำ มันก็สามารถมีวัชพืชเติบโตขึ้นมาได้ทั่วทุกที่
นอกเหนือจากความสามารถในการปรับตัวอันยืดหยุ่นแล้ว หงส์ครามยังมีความดื้อรั้นเหนือเกินกว่าใคร มันจึงพร้อมจะค่อย ๆ ทรมานศัตรูไปอย่างช้า ๆ เพื่อทำการหลอมรวมเข้ากับอาวุธชนิดอื่นได้สำเร็จ
หงส์ครามอาจจะไม่ใช่อาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาอาวุธมายาทั้งหมด แต่มันก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าหงส์ครามคืออาวุธที่เหมาะสมที่สุดในการหลอมรวมอาวุธมายาชิ้นอื่นเข้าด้วยกัน
“ถ้าไม่มีคำถามอะไรแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางกันเถอะ เซี่ยกวงไห่กำลังรอพวกเราอยู่” เซี่ยเหลียนหนิงกล่าว
—
เซี่ยเฟยติดตามเหล่าบรรดาราชันย์ของตระกูลไปยังเขตชายแดนของมัดดี้ ก่อนที่เขาจะได้พบว่าท้องฟ้าบริเวณนี้เต็มไปด้วยดวงดาวอันแปลกประหลาด ในจักรวาลมีช่องว่างมิติปรากฏขึ้นมาให้เห็นอยู่ทั่วทุกที่ ซึ่งถ้าหากว่าใครเคลื่อนไหวอย่างประมาทพวกเขาก็อาจจะเผชิญหน้ากับอันตรายได้ทุกเวลา
การเดินทางในครั้งนี้จำเป็นจะต้องใช้ยานรบขนาดเล็ก เพราะพื้นที่ภายในมัดดี้อยู่เหนือเกินระยะการวาร์ปของเข็มทิศมิติ โดยจุดมุ่งหมายแรกของการเดินทางในครั้งนี้คือการเดินทางไปรับพวกเซี่ยกวงไห่ที่ออกมาลาดตระเวนอยู่ก่อนแล้ว
เครื่องยนต์ส่งเสียงร้องคำรามขึ้นมาดังสนั่น ก่อนที่ยานรบลำสีเงินขนาดเล็กจะมุ่งหน้าตรงไปยังท้องฟ้าอันลึกลับด้วยความเร็วสูง
“พวกเขาพบหนึ่งในอาวุธมายาธาตุพืชงั้นเหรอครับ?” เซี่ยเฟยถามอย่างสงสัย
“เรายังตอบอย่างแน่ชัดไม่ได้ว่ามันคืออะไร แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถยืนยันได้แน่ ๆ คือมันจะต้องเป็นวัตถุโบราณอย่างแน่นอน” เซี่ยเค่อกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“วัตถุโบราณคืออะไรงั้นเหรอครับ?” เซี่ยเฟยถามเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องนี้
“วัตถุโบราณคือสิ่งที่หลงเหลือมาตั้งแต่สมัยยุคจักรวาลก่อกำเนิด อาวุธมายาทั้ง 30 ชิ้นก็เป็นหนึ่งในวัตถุโบราณพวกนั้นด้วย นอกเหนือจากนั้นมันก็มีพวกกฎโบราณหรือวิชาจากสมัยโบราณ แต่ฉันก็อธิบายรายละเอียดอะไรได้ไม่มากนักหรอก มันมีเพียงแค่บรรพบุรุษของเราเท่านั้นที่สามารถตอบคำถามในเรื่องนี้ได้” เซี่ยเค่อกล่าวตอบ
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ และทันใดนั้นมันก็ทำให้เขานึกถึงวิชามนตราอสูรของตัวเอง แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวิชานี้คือวิชาจากสมัยโบราณเหมือนกับที่เซี่ยเค่อได้พูดเอาไว้หรือเปล่า
วิชามนตราอสูรฉบับดั้งเดิมมีความแตกต่างจากวิชามนตราอสูรฉบับดัดแปลงแบบคนละเรื่อง ซึ่งถ้าหากว่าเขาต้องการจะฝึกฝนวิชามนตราอสูรฉบับดั้งเดิมจริง ๆ เขาก็จำเป็นจะต้องลบความรู้ดั้งเดิมทั้งหมดที่เขาเคยฝึกฝนมาแล้วต้องเริ่มฝึกฝนวิชามนตราอสูรใหม่ตั้งแต่แรก
วิชามนตราอสูรทั้งหกขั้นที่เขาได้ฝึกฝนมาอำนวยความสะดวกให้กับเขามาหลาย ๆ เรื่อง เซี่ยเฟยจึงลังเลที่จะเริ่มฝึกวิชามนตราอสูรฉบับดั้งเดิม และในปัจจุบันเขาก็ยังมีเวลาไม่มากพอที่จะเรียนรู้วิชานี้จากศูนย์อีกด้วย
—
12 ชั่วโมงต่อมาบริเวณลึกเข้าไปภายในมัดดี้
ยานรบเคลื่อนที่เข้าไปจอดใกล้ดาวเคราะห์น้อยแห่งหนึ่ง ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้เห็นพวกเซี่ยกวงไห่ยืนรอบนดาวดวงนี้อยู่ก่อนแล้ว
เมื่อทั้งสองกลุ่มรวมตัวกันมันก็เป็นการรวมกองกำลังของราชันย์ถึง 13 คน ซึ่งในเหล่าบรรดาลูกเรือที่อยู่บนยาน มันก็มีเพียงเซี่ยเฟยคนเดียวเท่านั้นที่มีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิ
“ทำไมถึงมาแค่นี้ล่ะครับ?” เซี่ยกวงไห่ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“นี่คือกำลังสูงสุดที่ขับเคลื่อนได้แล้ว เซี่ยเหลียนหนิงยังต้องคอยอยู่ดูแลคฤหาสน์อีวิลวิง เขาเลยเดินทางมาด้วยไม่ได้” เซี่ยเค่อกล่าว
“สถานการณ์ในปัจจุบันตอนนี้คือพวกเผ่าไคลี, อิโดซ่าและซุยซูได้ครอบครองพื้นที่เอาไว้หมดแล้ว”
“1 ชั่วโมงที่แล้วพวกเราเปิดการโจมตีอย่างรุนแรง เพื่อเปิดทางให้เซี่ยเกิงเข้าไปหาสัญญาณจากอาคมของศัตรู ผลลัพธ์ที่ได้คือมีโอกาสสูงมากที่หนึ่งในอาวุธมายาจะอยู่ภายใต้พื้นที่บริเวณนั้น” เซี่ยกวงไห่อธิบายสถานการณ์
“นายระบุตำแหน่งของอาวุธมายานั้นได้หรือเปล่า? แล้วสามารถยืนยันได้ไหมว่ามันคืออาวุธมายาธาตุอะไรกันแน่?” เซี่ยเค่อหันไปถามเซี่ยเกิง
“ผมระบุตำแหน่งของอาวุธมายาได้ แต่ไม่สามารถระบุธาตุของอาวุธมายาชิ้นนั้นได้ครับ” เซี่ยเกิงกล่าวตอบเบา ๆ
“แล้วพวกนักรบมันมีกันกี่คน?” เซี่ยเค่อถามอีกครั้ง
“พวกมันมีราชันย์ประมาณ 30 คนและมีจักรพรรดิอยู่อีกมากกว่า 100 คนครับ” เซี่ยกวงไห่รายงานด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“เยอะมาก! ไหนขอฉันดูตำแหน่งของศัตรูกับวิดีโอบันทึกสถานการณ์หน่อยสิ” เซี่ยเค่อสะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ
สกายวิงไม่ชอบสงครามที่มีคนเป็นจำนวนมาก เพราะในการต่อสู้ระดับสูงนักรบระดับต่ำมีโอกาสที่จะตายได้ง่าย ๆ
ขณะเดียวกันในบรรดาทุกตระกูลมันก็ไม่มีตระกูลไหนทะนุถนอมสมาชิกของตระกูลเหมือนสกายวิงแล้ว ดังนั้นเมื่อพวกเขาออกเดินทางมาในครั้งนี้ พวกเขาจึงไม่ได้นำจักรพรรดิกฎคนอื่นเดินทางมาด้วยยกเว้นเพียงแต่เซี่ยเฟยคนเดียวเท่านั้น
แม้ว่าสกายวิงจะได้ออกคำสั่งรวมตัวนักรบของตระกูลแล้ว แต่พวกเขาก็สามารถรวบรวมราชันย์ได้เพียง 12 คนเท่านั้น ขณะที่ทางฝั่งของศัตรูมีราชันย์อยู่มากถึง 30 คน
ภาพแผนที่ดวงดาวถูกฉายขึ้นบนหน้าจอ ก่อนที่มันจะเผยให้เห็นวิดีโอการต่อสู้ของสกายวิงกับศัตรูเมื่อ 1 ชั่วโมงก่อน
“หือ!?” เมื่อได้เห็นข้อมูลทั้งหมด เซี่ยเฟยก็อุทานขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจทำให้ราชันย์ทั้ง 12 คนจ้องมองมายังชายหนุ่มเป็นตาเดียว
“ถ้านายมีไอเดียดี ๆ ก็เสนอมาได้เลย” เซี่ยเค่อกล่าว
“ตำแหน่งของอาวุธมายาน่าจะเป็นพื้นที่บริเวณแถว ๆ นี้ใช่ไหมครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามพร้อมกับชี้นิ้วไปบนหน้าจอ
“ใช่ นายรู้ได้ยังไงหรือว่านายก็มีความสามารถในการค้นหาด้วย?!” เซี่ยเกิงอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
สถานการณ์นี้ไม่ได้ทำให้เซี่ยเกิงตกใจคนเดียวเท่านั้น เพราะทุกคนต่างก็กำลังมองไปยังเซี่ยเฟยด้วยความตกตะลึง ก่อนหน้านี้มันยังไม่มีใครอธิบายสถานการณ์โดยละเอียดออกมาด้วยซ้ำ แต่เซี่ยเฟยกลับสามารถระบุได้แล้วว่าอาวุธมายาถูกซุกซ่อนเอาไว้ตรงไหน
“ผมไม่เคยเรียนรู้กฎแห่งการค้นหา แต่ผมสามารถคาดเดาความคิดของผู้คนได้ครับ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“คาดเดาความคิดของผู้คน?” ทุกคนอุทานขึ้นมาด้วยความสับสน
“ตำแหน่งของพวกนักรบมารดูคล้ายกับกระจัดกระจาย แต่เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขากำลังล้อมรอบพื้นที่ดาวสีขาวในบริเวณนี้เอาไว้ ดังนั้นถ้าหากจะมีอะไรที่พวกเขากำลังปกป้องอยู่ ของสิ่งนั้นมันก็จะต้องอยู่พื้นที่บริเวณนี้แน่ ๆ”
ทุกคนต่างก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แล้วมันก็ดูเหมือนกับว่าความสามารถในการวิเคราะห์ของเซี่ยเฟยจะมีความแม่นยำมากกว่าในข่าวลือที่พวกเขาได้ยินมาเสียอีก
“คำถามที่ 2 มันเห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาอยู่ที่นี่มานานแล้ว และเหตุผลที่พวกเขายังไม่จากไปมันก็ต้องเป็นเพราะว่าพวกเขายังไม่ได้สิ่งที่พวกเขาต้องการ ผมเดาว่าถึงแม้พวกเขาจะเจอเป้าหมายแล้ว แต่มันก็มีอุปสรรคบางอย่างทำให้พวกเขายังไม่สามารถเอาอาวุธมายาชิ้นนั้นกลับไปได้” เซี่ยเฟยเริ่มอธิบายอีกครั้ง
“ใช่แล้ว พื้นที่ดาวบริเวณนั้นเต็มไปด้วยช่องว่างมิติอันซับซ้อน ถึงแม้นักรบระดับสูงจำนวนมากจะรวมพลังกัน แต่การพยายามบุกเข้าไปพื้นที่บริเวณนั้นมันก็ไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ ก่อนหน้านี้พวกเราก็ได้ลองดูแล้วแต่พวกเราไม่สามารถบุกฝ่าพื้นที่นั้นเข้าไปได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงเรียกกำลังเสริม” เซี่ยเกิงกล่าวขึ้นมาเสียงดังอย่างประหลาดใจมากกว่าเดิม
“ไม่ต้องห่วง คราวนี้ฉันได้นำสมบัติของบรรพบุรุษมาด้วย ไม่ว่าพื้นที่บริเวณนั้นจะมีข้อจำกัดมากแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่เชื่อว่าพวกเราจะไม่สามารถบุกฝ่าเข้าไปภายในนั้นได้” เซี่ยเค่อกล่าวพร้อมกับใช้นิ้วแตะแหวนมิติ
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 332
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น