ตอนที่ 887 ฉันจะฆ่านาย
ตอนที่ 887 ฉันจะฆ่านาย
แม้ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปนานกว่า 30 นาที แต่การต่อสู้ก็ยังมีความเข้มข้นอยู่เช่นเดิม
วันนี้คาเตอร์ใช้ความพยายามทั้งหมดในการจัดการกับหยิงเฟยลงให้ได้ จนทำให้ทั่วทั้งร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
แน่นอนว่าหยิงเฟยย่อมไม่ใช่ชายที่ไหนนอกจากเซี่ยเฟยนั่นเอง และในฐานะที่เขาเป็นนักรบสายความเร็วสูงประกอบกับวิธีการเรียนรู้ที่เขาได้รับมาใหม่ มันจึงทำให้เขาสามารถตอบคำถามหลาย ๆ คำถามได้ในคราวเดียว
ขณะเดียวกันถึงแม้คาเตอร์จะตอบคำถามได้ไม่เร็วเท่ากับเซี่ยเฟย แต่คำถามทุกคำถามที่เขาเลือกต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นคำถามระดับสูงทั้งหมด คะแนนเฉลี่ยแต่ละคำถามที่คาเตอร์ได้รับอยู่ที่ประมาณ 30,000 คะแนน ดังนั้นถึงแม้เขาจะตอบคำถามน้อยกว่าแต่คะแนนของเขาก็ยังคงนำหน้าเซี่ยเฟยอยู่นิดหน่อย
“600,000 คะแนน! วันนี้คาเตอร์บ้าไปแล้ว!! เขาทำได้ยังไง? ทำคะแนนได้ 600,000 คะแนนในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง สถิติที่เขาทำได้ในวันนี้มันดีกว่าในช่วง 2 วันที่ผ่านมาด้วยซ้ำ”
“ฉันเดาว่าคาเตอร์คงจะไม่ได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดในช่วง 2 วันที่ผ่านมาหรอก แต่การปรากฏตัวของหยิงเฟยได้ไปปลุกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาขึ้นมา สิ่งที่เขาได้แสดงออกมาในวันนี้เนี่ยแหละคือความน่ากลัวที่แท้จริงของอัจฉริยะจากสาขานิรันดร์”
“สมแล้วที่คาเตอร์ถูกขนาดนามว่าเป็นอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะ”
“ฉันว่าคนที่ชื่อหยิงเฟยก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เขาเป็นเพียงสมาชิกในทีมซ่อมบำรุงแต่เขาสามารถทำคะแนนได้ 580,000 คะแนน แล้วตามหลังคาเตอร์อยู่เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น”
“ใช่ ความเร็วในการแก้ปัญหาของหยิงเฟยเร็วมาก ฉันไม่เคยเห็นใครแก้ปัญหาด้วยความเร็วระดับนี้มาก่อนเลย”
“พวกนายคิดว่าใครจะชนะ?”
“ไม่รู้เหมือนกัน มันเห็นได้ชัดว่าการตอบคำถามของคาเตอร์มีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ความเร็วของหยิงเฟยก็ไม่ใช่สิ่งที่จะประมาทได้ บางทีผลลัพธ์ของคู่นี้อาจจะตัดสินในวินาทีสุดท้ายเลยก็ได้ใครจะรู้”
สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาทุกชนิดต่างก็ล้วนแล้วแต่ชอบเรื่องที่น่าตื่นเต้น ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานการแข่งขันระหว่างหยิงเฟยกับคาเตอร์ก็ได้รับความสนใจจากพนักงานทั่วทั้งบริษัทฟิกส์เกือบทั้งหมด
—
ศูนย์วิจัยหลัก 4
การแข่งขันในกระทู้ตอบคำถามไม่เพียงแต่จะกระตุ้นความสนใจของพนักงานในบริษัทได้เท่านั้น เพราะมันยังสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้บริหารบางคนได้อีกด้วย
ภายในห้องทำงานอันหรูหราปัจจุบัน มิวท์ผู้ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยหลัก 4 กำลังจ้องมองไปยังกระดานจัดอันดับด้วยความประหลาดใจ ขณะที่มูเอ็มม่าผู้ซึ่งเป็นผู้ช่วยของเขากำลังถูฝ่ามืออยู่ใกล้ ๆ อย่างตื่นเต้น
“ไม่คิดเลยว่าในศูนย์วิจัย 137 จะมีอัจฉริยะแบบนี้ซ่อนอยู่ด้วย การที่คาเตอร์เลือกฝึกงานในศูนย์วิจัยภายใต้สังกัดของพวกเราก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากพอแล้ว ความสามารถของหยิงเฟยก็เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นด้วยเหมือนกัน ผมขอแสดงความยินดีกับผู้อำนวยการด้วยที่คุณได้อัจฉริยะชั้นยอดมาร่วมงานพร้อม ๆ กันถึงสองคน” มูเอ็มม่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายนี่ไม่รู้อะไรเลย ยิ่งคาเตอร์กับหยิงเฟยทำตัวสะดุดตาเท่าไหร่เราก็ยิ่งยากจะรักษาพวกเขาเอาไว้ในศูนย์วิจัยของพวกเราได้ยากมากขึ้นเท่านั้น อย่าลืมนะว่าพวกตาเฒ่าในศูนย์วิจัยหลักกำลังจับตาดูทุกคนอยู่ บางทีมันอาจจะมีคำสั่งโอนย้ายทั้งสองคนนี้ขึ้นไปที่ศูนย์วิจัยหลักเลยก็ได้” มิวท์กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“เด็กจบใหม่จะถูกดึงตัวขึ้นสู่ศูนย์วิจัยหลักเลยงั้นเหรอครับ? ไม่ใช่ว่าคนที่เข้าสู่ศูนย์วิจัยหลักจะต้องมีประสบการณ์หลาย 10 ปีก่อนงั้นเหรอ?” มูเอ็มม่าอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
แม้ว่าบริษัทฟิกส์จะมีศูนย์วิจัยหลักอยู่ 4 แห่ง แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าศูนย์วิจัยหลักที่แท้จริงคือศูนย์วิจัยหลัก 1 นักวิจัยทุกคนภายในบริษัทสามารถถูกดึงตัวเข้าสู่ศูนย์วิจัยหลักได้เสมอ ขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นมีคุณสมบัติที่จะถูกดึงตัวขึ้นไปเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
ศูนย์วิจัยหลักคือสถานที่รวบรวมเทคโนโลยีหลักของบริษัทเอาไว้อย่างแท้จริง ซึ่งคนที่อยู่ในศูนย์วิจัยหลักทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะชั้นยอดที่มีประสบการณ์อย่างโชกโชน ดังนั้นมูเอ็มม่าจึงมองว่าไม่ว่าหยิงเฟยกับคาเตอร์จะเก่งกาจมากแค่ไหน แต่เด็กหนุ่มทั้งสองคนนั้นก็ไม่ควรจะถูกดึงตัวเข้าสู่ศูนย์วิจัยหลักได้อย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนในช่วงนี้ทางศูนย์วิจัยหลักจะมีเรื่องสำคัญเข้ามา เพราะเดือนที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียวมันก็มีนักวิจัยถูกดึงตัวไปที่ศูนย์วิจัยหลักถึงสามคนแล้ว”
“คาเตอร์เป็นอัจฉริยะอันดับ 1 จากสาขานิรันดร์ ฉันไม่รู้สึกแปลกใจเลยถ้าหากว่าเขาจะถูกดึงตัวเข้าไปในศูนย์วิจัยหลักอย่างรวดเร็ว แต่ในกรณีของหยิงเฟยแตกต่างกันออกไป เพราะว่าเขาเป็นตัวประหลาดที่จบการศึกษามาจากสาขาอิสระ”
“ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ที่ปรึกษาของเขายังเป็นตัวประหลาดในหมู่ตัวประหลาด พวกตาเฒ่าหลาย ๆ คนไม่ชอบนิสัยของฟลินน์ตั้งแต่แรก และมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ความบาดหมางพวกนั้นมันจะส่งผลกระทบลงมาถึงหยิงเฟยด้วย” มิวท์กล่าว
ชื่อเสียงของสาขาอิสระไม่ค่อยดีภายในหมู่ผู้บริหารของบริษัทฟิกส์มากนัก เพราะไม่มีใครรู้ว่ากฎเกณฑ์ในการรับนักศึกษาของสาขาอิสระเป็นยังไง แล้วมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงว่าเนื้อหาการเรียนการสอนเป็นยังไงกันแน่
ด้วยเหตุนี้สาขาอิสระจึงถือได้ว่าเป็นสาขาที่มีความแตกต่างจากสาขาอื่นในวิทยาลัยฟิกส์สตาร์อะคาเดมี่ทั้งหมด เหล่าบรรดาศิษย์เก่าของวิทยาลัยนี้จึงมักจะมีคำเรียกติดปากของพวกสาขาอิสระว่าพวกตัวประหลาด
“ถ้าหยิงเฟยยังไม่ถูกเรียกตัวมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคุณ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาถูกเรียกตัวในอนาคต ในวันนั้นเขาจะต้องขอบคุณคุณอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนว่าไคเซอร์ที่รับผิดชอบศูนย์วิจัย 137 จะมีวิสัยทัศน์ที่ค่อนข้างแคบไปหน่อย เขาคิดยังไงถึงส่งอัจฉริยะแบบนั้นไปที่ทีมซ่อมบำรุง ผมว่าคุณควรหยิบยื่นโอกาสให้หยิงเฟยในตอนนี้ ให้เขาขึ้นมาทำงานในศูนย์วิจัยของพวกเราดีกว่า” มูเอ็มม่ากล่าว
ศูนย์วิจัยหลักของบริษัทฟิกส์มีความสำคัญสูงมาก ผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยหลักอีกสามแห่งจึงพยายามแข่งขันกันเพื่อส่งคนของตัวเองขึ้นไปยังเบื้องบน ด้วยหวังว่าในอนาคตคนเหล่านี้จะช่วยพูดให้พวกเขามีสิทธิ์ได้เข้าไปในศูนย์วิจัยหลักด้วยเช่นกัน
“ตอนนี้หยิงเฟยกับคาเตอร์กำลังแข่งขันกันอยู่ ถ้าฉันหยิบยื่นความช่วยเหลือให้หยิงเฟยในเวลานี้ มันก็จะทำให้คาเตอร์ไม่ชอบขี้หน้าฉันไปด้วย ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะหรือพ่ายแพ้ แต่ฉันก็ไม่ควรเป็นศัตรูกับผู้สำเร็จการศึกษาจากสาขานิรันดร์หรอกใช่ไหม” มิวท์กล่าวพร้อมกับส่ายหัว
ทันใดนั้นมูเอ็มม่าก็หน้าซีดลง ก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับอย่างซ้ำ ๆ ด้วยความหวาดกลัว
ตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วิจัยหลัก 4 เป็นสถานะที่ไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ง่ายจริง ๆ เพราะเพียงแค่การมองไปยังสถานการณ์เดียวกัน มิวท์กลับสามารถมองเห็นปัญหาแตกต่างจากมูเอ็มม่าได้อย่างชัดเจน
แต่ในทันใดนั่นเองการแข่งขันอันเข้มข้นก็หยุดลงอย่างกะทันหัน เพราะเมื่อเวลาผ่านพ้นไปครบ 1 ชั่วโมง หยิงเฟยก็หายตัวไปคล้ายกับว่าเขาไม่ได้สนใจจะแข่งขันกับคาเตอร์เลยแม้แต่นิดเดียว
“นี่มันหมายความว่ายังไง?”
“หยิงเฟยยอมรับความพ่ายแพ้แล้วงั้นเหรอ?”
ทั้งสองคนต่างก็อุทานขึ้นมาพร้อมกันอย่างสับสน เมื่อจู่ ๆ หยิงเฟยก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน
—
การหายตัวไปของหยิงเฟยไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยหลัก 4 รู้สึกสับสนเท่านั้น เพราะพนักงานทั่วทั้งบริษัทต่างก็กำลังผิดหวังที่ไม่ได้ผลลัพธ์ของการแข่งขันด้วยเช่นกัน
การแข่งขันในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการแข่งขันระหว่างเสือปะทะมังกรอย่างแท้จริง ช่องว่างคะแนนระหว่างทั้งสองฝ่ายถือว่าไม่ห่างกันมากนัก และตราบใดก็ตามที่หยิงเฟยยังคงยืนหยัดต่อไปเขาก็อาจจะมีโอกาสได้รับชัยชนะในวินาทีสุดท้าย
เพล้ง!
คาเตอร์ขว้างถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะจนแตกกระจายออกเป็นชิ้น ๆ ใบหน้าของเขากำลังเป็นสีแดงดำและร่างกายของเขากำลังสั่นเทาด้วยความโกรธ
ตลอดเวลา 1 ชั่วโมงที่ผ่านมาเขาทำการแข่งขันกับหยิงเฟยอย่างจริงจัง แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ให้ความสนใจกับการแข่งขันในครั้งนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้มากกว่าการที่เขาได้รับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันเสียอีก!
“ไอ้คนขี้ขลาด! แน่จริงก็ออกมาสู้กันต่อสิวะ!!” คาเตอร์โพสต์ข้อความลงกระทู้สาธารณะอย่างรวดเร็ว ทำให้พนักงานจำนวนหลายหมื่นคนเข้ามาเห็นกระทู้ของเขาในเวลาเพียงแค่ไม่นาน
“ดูนี่! คาเตอร์กำลังท้าทายหยิงเฟยอยู่”
“ฉันว่าพรุ่งนี้พวกเขาจะต้องกลับมาแข่งขันกันอีกแน่ ๆ”
“หัวหน้า! พรุ่งนี้ให้ทุกคนหยุดงานระหว่างการแข่งได้ไหม? ไม่อย่างนั้นทุกคนก็คงจะไม่มีสมาธิทำงานหรอก”
การโยนหินลงไปในทะเลสาบก่อให้เกิดคลื่นน้ำขึ้นมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน คำท้าทายในกระทู้สาธารณะของคาเตอร์แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนจึงเฝ้าตารอการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ถึงขนาดที่พนักงานบางคนลางานล่วงหน้าเพื่อที่จะมาเฝ้าดูว่าใครจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะในการแข่งขันอันดุเดือดครั้งนี้กันแน่
วันรุ่งขึ้นในเวลา 8 โมงเช้าตั้งแต่พนักงานไปจนถึงผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยหลัก 4 ต่างก็จ้องมองไปยังกระทู้ตอบคำถามทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด
เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึง 10 โมงเช้าหยิงเฟยก็ปรากฏตัวตรงเวลา แต่ในคราวนี้เขาสามารถตอบคำถามได้อย่างรวดเร็วมากกว่าเดิม คล้ายกับว่าเขาได้กลับไปเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันมาเป็นอย่างดี
เวลาเดียวกันคาเตอร์ก็เริ่มต้นแข่งขันเพื่อปกป้องเกียรติยศของตัวเองเอาไว้ และในฐานะอัจฉริยะของสาขานิรันดร์ในรอบ 150 ปี เขาย่อมไม่มีทางยอมแพ้ใครง่าย ๆ อย่างเด็ดขาด
คะแนนของทั้งคู่เพิ่มสูงขึ้นด้วยอัตราที่บ้าคลั่ง ซึ่งในเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงคาเตอร์ก็สามารถทำคะแนนได้มากกว่า 1,700,000 คะแนน ซึ่งมันมากกว่าเมื่อวานถึง 500,000 คะแนน
ทางด้านของหยิงเฟยก็ไม่น้อยหน้าด้วยเช่นกัน เพราะในวันนี้เขาสามารถทำคะแนนได้ถึง 1,540,000 คะแนน
สถิติคะแนนสูงสุดภายในเวลา 1 ชั่วโมงถูกทำลายลงโดยหยิงเฟยและคาเตอร์ในเวลาเดียวกัน ทำให้ทุกคนต่างก็เฝ้าดูการแข่งขันในครั้งนี้อย่างตื่นเต้น
น่าเสียดายที่เมื่อเวลาผ่านพ้นไปครบชั่วโมง หยิงเฟยก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นเดิม คาเตอร์ผู้ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ถูกเมินเฉยแบบนี้จึงโพสต์กระทู้ต่อว่าหยิงเฟยต่าง ๆ นานา
เพื่อนร่วมงานที่ให้การสนับสนุนหยิงเฟยในตอนแรกเริ่มแปรพักตร์กลับมาสนับสนุนคาเตอร์ในตอนท้าย เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมหยิงเฟยถึงไม่ทำการแข่งขันให้ถึงที่สุดแบบนี้
เช้าวันที่ 3 คาเตอร์ตั้งกระทู้ด่าทอหยิงเฟยตั้งแต่ 7 โมง โดยพยายามเรียกร้องให้อีกฝ่ายออกมาตัดสินผลลัพธ์ในวันนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
น่าเสียดายที่ไม่ว่าคาเตอร์จะโพสต์ข้อความออกมามากแค่ไหน แต่หยิงเฟยก็ไม่เคยออกมาตอบกลับเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เวลา 10:50 น.
วันนี้หยิงเฟยไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาเหมือนเช่นเคย และเมื่อทุกคนไม่ได้เห็นการต่อสู้ที่พวกเขารอคอยมานาน พวกเขาก็รู้สึกว่าหยิงเฟยเป็นคนขี้ขลาดไม่กล้ายอมรับคำท้าทายของคาเตอร์
ในที่สุดฝูงชนก็ค่อย ๆ แยกย้ายกันออกไปด้วยความผิดหวัง แต่ในทันใดนั้นมันก็มีเหตุการณ์อันน่าตื่นตกใจเกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณการเตือนล่วงหน้า
“ดูนั่น! หยิงเฟยออกมาตอบโต้อะไรบ้างแล้ว!!”
“เขาพูดว่ายังไง? เขายอมรับการท้าทายหรือเปล่า?”
ฝูงชนเริ่มมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว เมื่อทางฝั่งของหยิงเฟยมีการเคลื่อนไหวหลังจากที่ถูกด่าทอฝ่ายเดียวอยู่นาน
“วันก่อนนายด่าฉันและฉันก็พยายามไม่เก็บมันมาใส่ใจ”
“เมื่อวานนี้นายก็ด่าฉันและฉันก็พยายามยกโทษให้นายอีกครั้ง”
“แต่วันนี้นายก็ยังด่าฉันอยู่ ในเมื่อนายต้องการแบบนั้น ฉันก็จะเป็นคนฆ่านายเอง!!”
***************
จัดการมันนนนนนนนน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 341
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น