ตอนที่ 874 มนุษย์!?
ตอนที่ 874 มนุษย์!?
โอโร่ร้องคร่ำครวญออกมาด้วยความโกรธ เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าพลังอันแปลกประหลาดของเซี่ยเฟยจะทำให้เขาเกิดใหม่กลายเป็นมนุษย์
อดีตจอมมารมองเงาตัวเองในสระน้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เขาได้พบเพียงแค่มนุษย์ผมดำปราศจากขนสีทองอันภาคภูมิใจของเขาอีกต่อไป
ความสูงของเขาลดลงจากเดิมอย่างน่าสมเพช และถึงแม้ว่าเขาจะมีความสูงเกือบ 2 เมตร แต่เมื่อเทียบกับราชวงศ์ไลอ้อนฮาร์ทที่มีความสูงเกินกว่าเมตรแล้ว ความสูงเพียงเท่านี้มันก็เป็นเพียงความสูงอันน่าสมเพชเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าหากวัดตามมาตรฐานของมนุษย์ ร่างกายของเขาก็ถือว่าค่อนข้างหล่อเหลาเลยทีเดียว
ตุบ!
โอโร่ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหมดหวัง เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหลังจากที่เขาเฝ้ารอมาเป็นเวลานาน ผลลัพธ์ของการเกิดใหม่มันจะออกมาเป็นแบบนี้
ในความเป็นจริงอดีตจอมมารก็ยึดติดกับรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองมากเกินไปหน่อย เพราะถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะเป็นมนุษย์ แต่จิตใจของเขาก็ยังคงเป็นจอมมารเกราะดำผู้ยิ่งใหญ่ ที่ครั้งหนึ่งเคยนำเผ่าไลอ้อนฮาร์ทไปสู่ความรุ่งโรจน์
ไม่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน แต่ภายในเขาก็ยังคงเป็นยอดนักรบอยู่วันยังค่ำ
“ดูสิ! มีมนุษย์โป๊อยู่ตรงนั้นด้วย” จู่ ๆ มันก็ได้มีเสียงของมนุษย์คนหนึ่งดังขึ้นมาแต่ไกล
“มนุษย!? แกสิเป็นมนุษย์ ฉันจะไปเกิดใหม่อีกครั้งเดี๋ยวนี้” โอโร่อุทานขึ้นมาด้วยความโกรธ ก่อนที่เขาจะรีบใช้มือแทงเข้าไปในหัวใจของตัวเองอย่างดุร้าย
ฉึก!
“ทำไมฉันถึงยังเป็นมนุษย์อยู่อีก!!” โอโร่ร้องคำรามด้วยความโกรธเมื่อเขาได้พบว่าหลังจากที่เขากลับมาเกิดใหม่เป็นรอบที่ 2 แต่เขาก็ยังคงเป็นมนุษย์
ตูม!
โอโร่รีบกระโดดลงไปในทะเลอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะจมน้ำตายในเวลาเพียงแค่ไม่นาน
“หา! มนุษย์อีกแล้วเหรอ?! เช้านี้ฉันจะกินยาพิษ”
ง่ำ ๆ ๆ
โอโร่พยายามหาสมุนไพรพิษกินเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้ทั่วทั้งร่างของเขากลายเป็นสีม่วง
“ทำไมฉันยังเป็นมนุษย์อยู่อีก!!!!!” โอโร่ร้องคำรามหลังจากเกิดใหม่อีกครั้ง
…
หลังจากพยายามตายด้วยหลากหลายวิธีและกลับมาเกิดใหม่อีกหลายสิบครั้ง โอโร่ก็ต้องนั่งหมดหวังและยอมรับว่าคราวนี้เขาคงจะไม่สามารถกลับไปเป็นไลอ้อนฮาร์ทได้แล้วจริง ๆ
ตราบใดก็ตามที่นักรบสามารถบรรลุพลังไปจนถึงระดับจอมเทพหรือจอมมารได้ ในเวลานั้นพวกเขาก็จะได้รับเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตเป็นสิ่งที่แตกต่างจากต้นไม้แห่งชีวิตของเซี่ยเฟยอย่างสิ้นเชิง เพราะมันทำให้ผู้มีเมล็ดพันธุ์สามารถกลับมาเกิดใหม่กี่ครั้งก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมจอมเทพหรือจอมมารจึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเหล่าบรรดาผู้เฒ่าอมตะ
โอโร่ลุกขึ้นมาเช็ดของเหลวสีขาวหนืด ซึ่งหลังจากที่เขาเช็ดสิ่งสกปรกออกจากร่างกายเขาก็ค่อย ๆ นั่งลงอย่างสงบ
หลังจากจ้องมองร่างของตัวเองอยู่นาน โอโร่ก็กลับไปนั่งแช่ของเหลวสีขาวหนืดอีกครั้ง เพราะสารละลายจากเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตพวกนี้มันจะช่วยให้เขาสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่มีทางย้อนกลับไปเป็นไลอ้อนฮาร์ทได้แล้วจริง ๆ เหรอ?” โอโร่พึมพำกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า
ใครจะรู้ว่ากฎแห่งความโกลาหลจะให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ เพราะแม้แต่ตัวของเซี่ยเฟยที่ใช้พลังของกฎแห่งความโกลาหลออกมาเองก็ไม่เคยคาดคิดถึงผลลัพธ์เช่นนี้มาก่อนด้วยเช่นกัน
—
มัดดี้ หนึ่งในสถานที่ที่อันตรายที่สุดในจักรวาล
ปัจจุบันเซี่ยกวงไห่ผู้ซึ่งเป็นราชันย์กฎขั้นที่ 8 ของตระกูลสกายวิงกับเซี่ยเกิง ผู้ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาของตระกูลกำลังก้าวข้ามผ่านประตูมิติมายังสถานที่ที่อันตรายแห่งนี้
พื้นที่ภายในมัดดี้เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ทำให้ฟากฟ้าเต็มไปด้วยภาพที่ให้ความรู้สึกอันแปลกประหลาด
เห็นได้ชัดเลยว่าพื้นที่แห่งนี้ไม่ใช่พื้นที่อันเงียบสงบ แต่มันคือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายอยู่ทุกหนทุกแห่ง
“นายพาฉันมาที่นี่ทำไม?” เซี่ยเกิงกล่าวถามหลังจากได้พบว่าจุดหมายปลายทางคือมัดดี้
“พวกเราต้องตามหาวัตถุโบราณ โดยเฉพาะอาวุธมายาธาตุพืช” เซี่ยกวงไห่กล่าวตอบพร้อมกับสำรวจสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง
“วัตถุโบราณ!? ไม่ใช่ว่าวัตถุโบราณส่วนใหญ่ใช้การไม่ได้งั้นเหรอ? ที่สำคัญอาวุธมายามีตั้ง 30 ชิ้น ทำไมพวกเราถึงจงใจตามหาแต่อาวุธมายาธาตุพืช?” เซี่ยเกิงถามอย่างสงสัย
“อย่างแรกถึงแม้วัตถุโบราณส่วนใหญ่จะใช้ไม่ได้ แต่มันก็มีวัตถุโบราณ 1 ใน 100,000 ล้านชิ้นที่ยังพอใช้งานได้อยู่ ส่วนอย่างที่ 2 เหตุผลที่เราจะต้องตามหาโดยเฉพาะอาวุธมายาธาตุพืช นั่นก็เพราะว่าอาวุธมายาของเซี่ยเฟยเป็นอาวุธมายาธาตุพืช” เซี่ยกวงไห่กล่าว
“เซี่ยเฟย!? เซี่ยเฟยที่เพิ่งถูกดึงตัวขึ้นมาในเผ่าเทพ? เซี่ยเฟยที่เป็นอีวิลวิวคนที่ 2 นอกจากบรรพบุรุษคนนั้นน่ะเหรอ?”
“ใช่คนนั้นแหละ อย่าพึ่งถามเยอะ รีบจัดการเรื่องนี้ก่อน จำไว้ว่าเรื่องนี้เป็นคำสั่งจากบรรพบุรุษ” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“บรรพบุรุษบอกว่าอะไร?”
“บรรพบุรุษบอกว่าพวกเราจะต้องตามหาวัตถุโบราณพวกนั้นให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกมากับอะไรก็ตาม” เซี่ยกวงไห่กล่าวอย่างจริงจัง
โดยปกติเซี่ยกวงไห่เป็นคนขี้เล่นตลอดเวลา เมื่ออีกฝ่ายพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เซี่ยเกิงจึงเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้ได้ในทันที
หลังจากทั้งคู่ตกลงกันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เซี่ยเกิงก็หยิบคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 7 ซึ่งเป็นคริสตัลสีส้มออกมาจากแหวนมิติ เพื่อเตรียมใช้พลังของกฎแห่งการค้นหาทำการค้นหาวัตถุโบราณตามคำสั่ง
การใช้กฎแห่งการค้นหาจำเป็นจะต้องใช้พลังงานปริมาณมหาศาล ผู้ค้นหาจึงสมควรจะต้องใช้คริสตัลต้นกำเนิดที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการค้นหาที่ดีที่สุดเป็นการตอบแทน
เซี่ยกวงไห่โบกมือเบา ๆ เป็นสัญญาณให้เซี่ยเกิงเก็บคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 7 กลับไป จากนั้นเขาก็ใช้นิ้วแตะแหวนมิติเพื่อหยิบคริสตัลก้อนสีดำออกมา
“คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 8! นี่มันสมบัติของบรรพบุรุษไม่ใช่เหรอ?! ทำไมนายถึงเอามันมาได้” เซี่ยเกิงอุทานอย่างตกตะลึง
คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 8 เป็นสิ่งที่หาได้ยากมากจนทำให้แม้แต่บรรพบุรุษของพวกเขาก็ยังถือว่าของชิ้นนี้คือสมบัติของตระกูล ตัวของเซี่ยเกิงเองจึงไม่เคยใช้คริสตัลต้นกำเนิดระดับสูงแบบนี้มาก่อน
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าเราจะต้องตามหาวัตถุโบราณพวกนั้นให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม” เซี่ยกวงไห่เน้นย้ำอีกครั้ง
สีหน้าของเซี่ยเกิงจริงจังขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เพราะการที่บรรพบุรุษนำคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 8 ออกมาใช้งานแบบนี้ แสดงว่ามันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่ชนิดที่ส่งผลกระทบต่อตระกูลอย่างแน่นอน
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ถึงแม้วัตถุโบราณจะซ่อนอยู่ในรังมด แต่ฉันก็จะหามันให้เจอ” เซี่ยเกิงกล่าวอย่างเคร่งครัด
หลังจากนั้นราชันย์กฎทั้งสองจากตระกูลสกายวิงก็เดินทางลึกเข้าไปภายในมัดดี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อันตรายที่สุดในจักรวาลเพื่อตามหาอาวุธมายามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับเซี่ยเฟย
—
สถานที่ที่อันตรายที่สุดคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด เซี่ยเฟยจึงลอบเร้นเข้าไปภายในห้องใต้หลังคาของตระกูล ๆ หนึ่งภายในเผ่าเทพ ซึ่งบริเวณด้านนอกมีทหารยามคอยเดินลาดตระเวนอยู่ตลอดเวลา แสดงให้เห็นว่าสถานะของตระกูลนี้ไม่ใช่ตระกูลที่ต่ำต้อยอย่างแน่นอน
เซี่ยเฟยเลือกสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิดเอาไว้เป็นที่ฝึก เพราะใครจะไปคิดว่าเขาจะได้แทรกซึมเข้ามาฝึกในตระกูลของคนอื่นแบบนี้
การที่จู่ ๆ มีนักฆ่ามาตามล่าเขาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาดใจมากนัก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้สร้างศัตรูไว้เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เพียงแต่นักฆ่าพวกนั้นปรากฏตัวขึ้นมาเร็วมากจนเกินไป ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เกินกว่าความคาดหมายของเขาไปนิดหน่อย
หลังจากมีเวลาคิดพิจารณาสถานการณ์เขาก็คิดว่าตัวตนในฐานะเชฟหยิงเฟยจะต้องรั่วไหลออกไปแล้วอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นใครจะรู้ว่าเขาได้ปลอมตัวมาเป็นเชฟอันต่ำต้อยที่เดินทางเข้าเผ่าเทพมาผ่านประตูหมายเลข 7
ในดินแดนที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กความแข็งแกร่งคือสิ่งที่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง เมื่อเขาเดินทางมาจนถึงเผ่าเทพเขาก็ได้ตระหนักว่าพลังระดับจักรพรรดิไม่ได้เป็นตัวตนอันทรงอำนาจเหมือนกับที่เขาเคยจินตนาการไว้ เพราะในเผ่าพันธุ์สูงสุดของจักรวาลจักรพรรดิกฎเป็นสิ่งที่หาพบได้ทั่วทุกที่ และแม้แต่การปรากฏตัวของราชันย์กฎก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
ท้ายที่สุดสถานที่แห่งนี้ก็คือสถานที่รวมตัวของนักรบชั้นยอดในจักรวาล ถ้าหากว่าเขาต้องการที่จะลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่ เขาก็สมควรจะต้องเร่งเพิ่มพลังของตัวเองให้เพิ่มจากเดิมอย่างเร็วที่สุด
ชายหนุ่มทำการดูดซับพลังงานจากคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 6 ผ่านทางแหวนมังกรหยกขาว พร้อม ๆ กับใช้พลังงานจากเม็ดพลังงานสีรุ้งภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขา
เมื่อพลังงานจากทั้งสองส่วนถูกป้อนออกมาพร้อม ๆ กัน มันก็ช่วยสนับสนุนการฝึกของชายหนุ่มให้เร่งความเร็วขึ้นอย่างบ้าคลั่ง และทำให้ความก้าวหน้าในการฝึกฝนของเขาอยู่ในระดับที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่ที่หยดน้ำจากชิ้นส่วนอาร์คเข้ามาเพิ่มความกว้างให้กับพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขา มันก็เริ่มเกิดเรื่องแปลก ๆ ขึ้นกับเขาด้วยเช่นกัน เพราะเขามักจะได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นในสมองตลอดเวลา
เสียงนี้เป็นเสียงที่เขาไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่นิดเดียว และเขาก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เสียงของสัตว์อสูรอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่ไม่ว่าเขาจะพยายามนึกยังไง แต่เขาก็ไม่สามารถหาที่มาของเสียงที่เกิดขึ้นในสมองของเขาได้
กาลเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในที่สุดหลังจากที่เวลาล่วงเลยมาจนถึงเย็นวันที่ 2 เซี่ยเฟยก็เพิ่มระดับจนกลายเป็นจักรพรรดิกฎขั้นที่ 2 แล้ว
ความเร็วในการฝึกฝนในปัจจุบันค่อนข้างจะทำให้เขารู้สึกพอใจอยู่มากพอสมควร และถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ความรวดเร็วเหมือนกับตอนที่เขาดูดซับพลังจากชิ้นส่วนอาร์ค แต่ความเร็วในการพัฒนาระดับนี้ก็เป็นสิ่งที่ใครยากจะตามทันอย่างแน่นอน
ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาอย่างช้า ๆ ก่อนที่เขาจะใช้พลังงานบางส่วนเพื่อตรวจสอบวิชามนตราอสูรฉบับดั้งเดิมที่เขาเพิ่งได้รับมา
เนตรมนตรา!
แสงภายในห้องดับลงจนมืดสนิทแล้วแต่เขาไม่สามารถจุดไฟขึ้นมาได้ เขาจึงจำเป็นจะต้องใช้วิชาเนตรมนตราเพื่อเร่งประสิทธิภาพในการมองเห็น ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เปิดหนังสือภายในมืออย่างระมัดระวัง
“ความต่างระหว่างวิชาฉบับปรับปรุงกับวิชาฉบับดั้งเดิมมันจะต่างกันเกินไปไหมเนี่ย!” เซี่ยเฟยอุทานภายในใจอย่างตกตะลึง แต่ถึงแม้ว่าการเรียนวิชานี้จะยากลำบากมาก แต่เขาก็ไม่คิดจะยอมแพ้จนกว่าจะพยายามถึงที่สุด
***************
สงสารโอโร่อ่ะ! 5555555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 295
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น