ตอนที่ 868 คำสั่งจากราชวังราชันย์เทพ

-A A +A

ตอนที่ 868 คำสั่งจากราชวังราชันย์เทพ

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 868 คำสั่งจากราชวังราชันย์เทพ

“เผ่าเทพ!? เซี่ยเฟยถูกเรียกตัวขึ้นไปแล้วงั้นเหรอ?”

“ไม่มีทาง! เขาเพิ่งจะเลื่อนระดับมาเป็นจักรพรรดิได้เพียงแค่ไม่นาน ตามกฎแล้วเขาไม่สามารถที่จะขึ้นไปสู่เผ่าเทพได้เว้นแต่ว่าเขาจะมีความสามารถพิเศษ”

“บางทีสงครามอาจจะใกล้เริ่มแล้วก็ได้ ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้มีคนถูกเรียกตัวขึ้นไปเยอะมาก”

ฝูงชนต่างก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ในทันที เมื่อเซี่ยกวงไห่ประกาศว่าเซี่ยเฟยถูกเรียกตัวไปยังเผ่าเทพ

คนส่วนใหญ่เชื่อว่าสาเหตุที่เซี่ยเฟยถูกเรียกตัวเร็วขนาดนี้ นั่นก็เพราะว่าเขาเป็นสมาชิกของสกายวิง ท้ายที่สุดหลังจากสงครามครั้งที่ผ่านมาชื่อเสียงของสกายวิงก็โด่งดังไปไกล จนทำให้ใคร ๆ ต่างก็รู้สึกหวาดกลัว

ในเวลาเดียวกันเฝิงคูชาน, เอเลแกนซ์และซาเลมต่างก็รู้สึกตกตะลึงจนพูดไม่ออก เพราะการโจมตีใส่เผ่าเทพไม่ใช่ข้อหาที่จะถูกปล่อยผ่านไปได้ง่าย ๆ ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดพวกเขาก็อาจจะถูกตัดสินโทษประหารชีวิต

พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้จริง ๆ ว่าคนที่เพิ่งทะลุผ่านระดับจักรพรรดิกฎมาได้เมื่อเช้าจะถูกเรียกตัวขึ้นไปยังเผ่าเทพในทันทีแบบนี้

“ฉันไม่เชื่อ! เซี่ยเฟยเพิ่งจะพัฒนามาเป็นจักรพรรดิได้เพียงแค่ไม่นาน แล้วเขาจะถูกเรียกตัวขึ้นสู่เผ่าเทพได้ยังไง?!” เฝิงคูชานตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ

“ใช่ เรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องโกหกของสกายวิงแน่ ๆ ถ้าหากฉันรู้ว่าคุณกำลังโกหก ฉันไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปเด็ดขาด!!” เอเลแกนซ์กล่าวเสริม

เซี่ยเฟยที่กำลังรับฟังบทสนทนาอยู่จากด้านข้างก็กำลังรู้สึกสับสนด้วยเช่นกัน และถึงแม้ว่าเขาจะต้องการเข้าสู่เผ่าเทพโดยเร็วที่สุด แต่เหตุการณ์นี้มันก็ค่อนข้างจะกะทันหันเกินไปหน่อย

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่เซี่ยกวงไห่กำลังจะลงมืออีกครั้ง มันก็มีเสียงดังสนั่นขึ้นมาจากฟากฟ้า ก่อนที่จะมีร่างอีกสามร่างเคลื่อนที่ลงมาอย่างรวดเร็ว

“ไอ้พวกสารเลว! ทำผิดแล้วยังไม่รู้จักสำนึกอีกนะ!!”

พริบตาต่อมาชายชรา 3 คนก็ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน โดยสีหน้าของพวกเขาต่างก็ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความโกรธ

การปรากฏตัวของชายชราทั้งสามทำให้ผู้ชมตกอยู่ในสภาวะตื่นตระหนกอีกครั้ง เพราะไม่เพียงแต่เซี่ยกวงไห่จะปรากฏตัวเท่านั้น แต่ชายชราจากเผ่าเทพทั้งสามคนก็ปรากฏตัวขึ้นมาด้วยเช่นกัน

“เจ้าพวกนี้กล้าโจมตีคนของเผ่าเทพ พวกคุณเชิญจัดการพวกมันตามสมควรได้เลย” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับพยักหน้าไปทางจักรพรรดิกฎทั้งสามที่กำลังนั่งบาดเจ็บอยู่บนพื้น

ชายชราทั้งสามคือเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในโถงยุติธรรมของเผ่าเทพ ซึ่งเป็นสมาคมที่คอยควบคุมกฎและอยู่เหนือสมาคมผู้คุมกฎในดินแดนกฎอีกที

“พวกแกกล้ามากนะที่มาทำร้ายคนของเผ่าเทพแบบนี้” ชายชราร่างผอมกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา และถึงแม้ว่าเสียงของเขาจะไม่ดังมากนัก แต่มันเปรียบเสมือนดาบแหลมที่กำลังแทงเข้าสู่หัวใจของผู้ฟัง

“นายรู้กฎดีอยู่แล้ว ดังนั้นฉันจะไม่อธิบายอะไรมาก เฝิงคูชานถูกถอดออกจากตำแหน่งผู้นำกลุ่มมังกรฟ้าทันที จงนำซาเลมไปที่โถงยุติธรรมเพื่อยอมรับบทลงโทษซะ หลังจากนี้กลุ่มมังกรฟ้าจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบรูซเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำตัดสินลงมาใหม่”

“เอเลแกนซ์ผู้นำตระกูลสโนว์ดริฟท์มีความบกพร่องในการดูแลตระกูล เผ่าเทพไม่ยอมรับตำแหน่งของเอเลแกนซ์อีกต่อไป จงเข้าไปที่โถงยุติธรรมเพื่อยอมรับการลงโทษแต่โดยดี ส่วนหัวหน้าตระกูลสโนว์ดริฟท์คนต่อไปให้ทางตระกูลเป็นผู้คัดเลือกกันขึ้นมาเอง”

คำสั่งของเทพชราทำให้เฝิงคูชาน, เอเลแกนซ์และซาเลมต่างก็รู้สึกตกตะลึง เนื่องจากไม่มีใครเคยคิดเลยว่าพวกเขาจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงจนถึงขนาดนี้ เพราะไม่เพียงแต่พวกเขาจะถูกถอดออกจากตำแหน่งในปัจจุบันของตัวเองเท่านั้น แต่พวกเขายังจะต้องเดินทางไปยังโถงยุติธรรมเพื่อรอรับบทลงโทษเพิ่มเติมอีกด้วย

“นี่มันไม่ยุติธรรม! เซี่ยเฟยเพิ่งจะเลื่อนระดับเป็นจักรพรรดิได้เมื่อเช้า เขามีคุณสมบัติอะไรที่จะเข้าสู่เผ่าเทพ?!” เอเลแกนซ์ตะโกนออกมาอย่างไม่ยินยอม

“เซี่ยเฟยเพิ่งเลื่อนระดับเมื่อเช้าแล้วทำไม? พวกแก 3 คนมีพลังสูงกว่าเขาตั้งเยอะแต่พวกแกยังไม่สามารถจัดการกับเขาได้ แบบนี้ยังจะมีหน้ามาคัดค้านอีกงั้นเหรอ?” เซี่ยกวงไห่ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม

คำพูดของชายคนนี้ทำให้พวกเอเลแกนซ์หน้าแดงด้วยความอับอาย เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งสามจะร่วมมือกัน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะโค่นล้มเซี่ยเฟยได้จริง ๆ

“แกจะไม่ยอมรับคำตัดสินใช่ไหม?” เทพชรากล่าวขึ้นมาด้วยความโกรธ เพราะเขาชี้แจงบทลงโทษทุกอย่างอย่างชัดเจนแล้ว แต่เอเลแกนซ์ก็ยังคงไม่เชื่อถือคำตัดสินของพวกเขา

“นี่คือคำสั่งดึงตัวจากราชวังราชันย์เทพ ถ้าหากว่าแกไม่เชื่อก็ลองดูคำสั่งด้วยตาของตัวเอง” ชายชรากล่าวก่อนที่เขาจะหยิบกระบอกสีทองออกมายื่นไปต่อหน้าเอเลแกนซ์

อย่างไรก็ตามมันกลับไม่มีใครกล้ารับกระบอกสีทองชิ้นนี้เลยแม้แต่คนเดียว

“คำสั่งดึงตัวจากราชวังราชันย์เทพ ปกติทางฝั่งโถงยุติธรรมจะเป็นคนออกคำสั่งดึงตัวไม่ใช่เหรอ?”

“นี่มันการอนุมัติจากราชันย์เทพโดยตรง หมายความว่าคำสั่งดึงตัวเซี่ยเฟยไม่ได้ผ่านโถงยุติธรรม แต่ถูกส่งไปยังราชวังราชันย์เทพเพื่ออนุมัติเป็นการส่วนตัว”

“พวกผู้เฒ่าในราชวังรู้จักเซี่ยเฟยด้วยงั้นเหรอ?”

คำสั่งดึงตัวจากราชวังราชันย์เทพไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ มันจึงทำให้ทุกคนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ราชวังราชันย์เทพคือสถานที่ทำงานของสมาคมผู้เฒ่า หรือจะถูกเรียกว่ามันคือศูนย์กลางอำนาจของเผ่าเทพก็ไม่ผิดนัก ซึ่งมันก็มีเพียงแต่บุคคลระดับสูงในเผ่าเทพเท่านั้นที่สามารถเข้าออกสถานที่แห่งนี้ได้

ดวงตาทุกคู่ต่างก็จ้องมองไปยังเซี่ยเฟยด้วยความอิจฉาริษยามากยิ่งขึ้น เนื่องจากฐานะของชายหนุ่มถูกยกระดับขึ้นมากกว่าเดิมชนิดที่พวกเขาไม่อาจจะจินตนาการได้

เฝิงคูชานทำได้เพียงแต่เผยรอยยิ้มและส่ายหัวไปมาอย่างขมขื่น เพราะดูเหมือนว่าในรอบนี้เขาจะเคลื่อนไหวอย่างผิดพลาดร้ายแรงไปแล้วจริง ๆ

แม้ว่าเฝิงคูชานกับซาเลมจะยอมรับความผิดของตัวเองอย่างเงียบ ๆ แต่เอเลแกนซ์เป็นคนปากร้ายมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเธอจึงยังคงกล่าวใส่ร้ายเซี่ยเฟยต่าง ๆ นานา

“หุบปาก!”

ทันใดนั้นมันก็ได้มีเสียงอันเย็นชาดังเข้ามาภายในจิตใจของเอเลแกนซ์

“ท่านราชินี!?” เอเลแกนซ์สะดุ้งขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะเจ้าของเสียงที่ดังขึ้นมาภายในจิตใจของเธอนี้คือหญิงชราผู้ซึ่งเป็นคนก่อตั้งตระกูลสโนว์ดริฟท์ขึ้นมาในอดีตอันยาวนาน ทุก ๆ คนในตระกูลจึงเรียกหญิงชราคนนี้ว่าราชินี

“ถ้าเธอไม่หยุดเธอจะไม่ได้ตายเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เธอยังจะลากตระกูลสโนว์ดริฟท์ทั้งตระกูลตายไปพร้อมกับเธอด้วย หากว่าเธอพูดอะไรไปมากกว่านี้ แม้แต่ฉันก็จะช่วยอะไรเธอไม่ได้อีกแล้ว” ราชินีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

เมื่อมีคำสั่งลงมาจากเบื้องบน ในที่สุดเอเลแกนซ์ก็ต้องก้มหน้าลงโดยไม่คิดที่จะเถียงอะไรอีกแล้ว

“คุณไม่คัดค้านคำตัดสินนี้ใช่ไหม?” เมื่อเอเลแกนซ์เงียบเสียงลงชายชราทั้งสามก็หันไปถามความเห็นจากเซี่ยกวงไห่

“ถามผมไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก พวกคุณไปถามบรรพบุรุษของผมดีกว่า” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับยักไหล่

เทพชราหน้าซีดขึ้นมาในทันที เพราะเมื่อพูดถึงบรรพบุรุษของตระกูลสกายวิง มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกปวดหัว ทุกคนต่างก็คิดในใจว่าพวกเขาจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยมากที่สุด ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จะถูกรังควานจากคนบ้าที่อยู่ในเผ่าเทพ

“ทำไมพวกเราถึงไม่ฆ่าพวกเขาเลยล่ะครับ…” เซี่ยเฟยกล่าวถามเซี่ยกวงไห่ขึ้นมาเบา ๆ

“ดูเหมือนว่านายจะโหดเหี้ยมกว่าฉันอีกนะ” เซี่ยกวงไห่มองไปยังเซี่ยเฟยด้วยความประหลาดใจ

เซี่ยเฟยไม่พูดอะไรเพราะสำหรับเขา ศัตรูทุกคนจะต้องถูกกำจัด

“นายคิดว่าฉันไม่อยากฆ่าพวกมันเหรอ? แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษด้วย คนพวกนั้นมันก็เป็นเพียงแค่มดปลวกในสายตาของพวกเรา ที่พวกเราสามารถจะฆ่าพวกมันเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ เพียงแต่บรรพบุรุษอยากจะรีดไถเงินจากพวกมันสักหน่อย ถ้าหากว่านายไปทำลายแผนการของบรรพบุรุษก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน” เซี่ยกวงไห่ดึงตัวเซี่ยเฟยมากระซิบที่ข้างหูเบา ๆ

คำอธิบายนี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออก เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าบรรพบุรุษจะใช้เหตุการณ์นี้เพื่อรีดไถเงินจากคู่กรณี

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็เริ่มจินตนาการถึงบรรพบุรุษที่เขาไม่เคยพบมาก่อน จากตอนแรกที่เขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นชายชราใจดี แต่ตอนนี้เขาเริ่มคิดว่าอีกฝ่ายกลายเป็นชายชราที่น่ากลัวแล้ว

เหตุการณ์จบลงด้วยการลงโทษจักรพรรดิทั้งสามคน ทำให้ข่าวเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที ทั่วทั้งดินแดนกฎก็ได้ยินข่าวนี้เหมือนกันหมด แล้วมันก็ทำให้ชื่อของเซี่ยเฟยกลับมาเป็นชื่อที่โด่งดังอีกครั้ง

ยิ่งไปกว่านั้นข่าวเรื่องที่เซี่ยเฟยยอมละทิ้งตระกูลเพื่อปกป้องสาวใช้เพียงคนเดียวยังได้สร้างตำนานขึ้นมาในหมู่หญิงสาว และตำนานนี้ก็คงจะอยู่ต่อไปอีกยาวนาน จนกว่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จะตายจากไป

ณ สวนสายลม

เซี่ยอู๋เย่รู้สึกเอ็นดูเซียวรั่วหยูมาก เขาจึงได้นำขนมและผลไม้เป็นจำนวนนับไม่ถ้วนเข้ามาเสิร์ฟให้กับหญิงสาวอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ขนอุยก็ตัวติดเซียวรั่วหยูอย่างไร้อย่างอาย ยิ่งไปกว่านั้นหญิงสาวคนนี้ยังไม่ทำให้มันรู้สึกอึดอัดเหมือนกับตอนที่มันอยู่กับแอวริล

เซี่ยกวงไห่เรียกเซี่ยเฟยเข้าไปในห้องประชุมพร้อมกันกับเซี่ยเทียน ซึ่งชายชราผู้สวมแว่นคนนี้ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจในเรื่องที่เขาถูกดึงตัวขึ้นสู่เผ่าเทพมากนัก เพราะเขาได้คาดเดาเรื่องนี้เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่เขาไม่ได้คาดเดาว่าคนที่จะถูกดึงตัวขึ้นไปพร้อมกับเขาจะเป็นเซี่ยเฟย

“พวกคุณทั้งสองคนเตรียมตัวให้พร้อม อีกสักพักพวกเราจะเริ่มออกเดินทางแล้ว” เซี่ยกวงไห่กล่าว

“รีบขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ

เขายังมีเรื่องอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ ทั้งเรื่องของการสังหารโอโร่ตามสัญญา, เรื่องของการไปดูตู้เซฟขั้นสูงสุดของธนาคารฟารซี รวมถึงเรื่องที่เขาจะต้องวางแผนเข้าไปสืบหาข่าวคราวเกี่ยวกับลินนิจภายในบริษัทฟิกส์

“บรรพบุรุษเตรียมเรื่องพิเศษเอาไว้ให้กับนายแล้ว อีก 2-3 วันนายค่อยตามมาก็ได้ แต่เซี่ยเทียนจะต้องไปพร้อมกับฉันในวันนี้” เซี่ยกวงไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น อย่างไรก็ตามในระหว่างที่เซี่ยกวงไห่พูดคำว่าเรื่องพิเศษ มันก็ทำให้เขารู้สึกขนลุกขึ้นมาเล็กน้อย

“พวกคุณรู้ไหมว่าทำไมพวกคุณถึงถูกดึงตัวขึ้นไปอย่างเร่งด่วนแบบนี้?” เซี่ยกวงไห่ถาม

เซี่ยเฟยกับเซี่ยเทียนส่ายหัวตอบกลับด้วยความสับสน

“เพราะว่าสงครามมันใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้วยังไงล่ะ” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับจิตสังหารที่พุ่งผ่านออกมาจากแววตา

***************

หมายถึงสงครามระหว่างเผ่าเทพกับเผ่ามารใกล้จะเกิดขึ้นอีกแล้วใช่ไหม?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.