ตอนที่ 867 ทำร้ายคนของเผ่าเทพ

“ถามอะไรแปลก ๆ ฉันมาจากเผ่าเทพฉันก็ต้องพาสองคนนั้นไปเผ่าเทพน่ะสิ บรรพบุรุษเรียกตัวพวกเขาทั้งสองคนแล้วทั้ง ๆ ที่เซี่ยบูหยุนยังไม่มีโอกาสขึ้นไปที่เผ่าเทพเลยด้วยซ้ำ” เซี่ยกวงไห่กล่าวพร้อมกับกางแขนออกทั้งสองข้าง

“เยี่ยมมาก! ทั้งนายท่านเทียนและนายน้อยเฟยต่างก็ถูกเรียกตัวขึ้นไปยังเผ่าเทพแล้วงั้นเหรอ? พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ยังเด็กมาก แบบนี้อนาคตของพวกเขาก็จะยิ่งไร้ขีดจำกัด” เซี่ยอู๋เย่กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

ในเวลาปกติพ่อบ้านชราคนนี้มักจะไม่ค่อยพูดอะไรออกมามากนัก แต่เนื่องมาจากว่าพวกเขากำลังมีความสุข เขาจึงพูดเรื่องต่าง ๆ ออกมาอย่างมากมาย

เซี่ยจงไห่สะดุ้งขึ้นมาในตอนแรก ก่อนที่เขาจะตบต้นขาด้วยความผิดหวัง

เซี่ยเฟยแซงหน้าเขาไปไกลด้วยการถูกเรียกตัวขึ้นสู่เผ่าเทพแล้ว ซึ่งการเรียกตัวในครั้งนี้มันก็เป็นการยกระดับสถานะของชายหนุ่มขึ้นไปในรวดเดียว

เซี่ยจงไห่คิดภายในใจอย่างอิจฉา ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาอย่างซ้ำ ๆ

“น้องชายไม่ต้องผิดหวังไปหรอก ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวนายก็ได้ขึ้นไปเหมือนกันนั่นแหละ” เซี่ยกวงไห่กล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับใช้มือตบหัวน้องชายของตัวเองเบา ๆ

อย่างไรก็ตามสีหน้าของเซี่ยจงไห่กลับเปลี่ยนไปอย่างหงุดหงิด เพราะเขาคือคนนำเซี่ยเฟยเข้ามายังสกายวิง แต่พี่ชายของเขากลับบอกให้เขาเดินตามเซี่ยเฟยขึ้นไปยังเผ่าเทพ

แม้ว่าเซี่ยกวงไห่จะขี้แกล้งไปบ้างแต่เขาก็เป็นคนอารมณ์ดี หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ทำให้เซี่ยอู๋เย่หัวเราะออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

พ่อบ้านชรามีปฏิสัมพันธ์กับทุกคนอย่างดี ทุกคนภายในตระกูลก็ให้ความเคารพเซี่ยอู๋เย่มากเช่นกัน เซี่ยกวงไห่จึงไม่เพียงแต่พยายามพูดให้เซี่ยอู๋เย่มีความสุขเท่านั้น แต่เขายังได้มอบของขวัญมากมายให้กับชายชราด้วย

“เอาล่ะนายท่านกวงไห่ กรุณารอสักครู่เดี๋ยวฉันจะส่งคนไปตามนายท่านเทียนกับนายน้อยเฟยให้” เซี่ยอู๋เย่กล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดี แต่ในทันใดนั้นเองสายลับของตระกูลก็บุกเข้ามาภายในสวนสายลมด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนก

“แย่แล้วครับ! นายน้อยเฟยถูกจักรพรรดิกฎทั้งสามจากกลุ่มมังกรฟ้าปิดล้อม ตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่แล้วครับ” สายลับรีบกล่าวอย่างร้อนรน

“หา!”

ทันใดนั้นจิตสังหารอันรุนแรงก็ถูกระเบิดออกมาในทันที แม้แต่ดวงตาของเซี่ยกวงไห่ที่พึ่งกลับมาจากเผ่าเทพก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

“อะไรนะ?! พูดอีกครั้งหนึ่งซิ!” เซี่ยกวงไห่ถามพร้อมกับลุกยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว

“เฝิงคูชาน, เอเลแกนซ์กับซาเลมกำลังรุมนายน้อยเฟยอยู่ในกลุ่มมังกรฟ้าครับ” สายลับรายงานขึ้นมาอีกครั้งด้วยความหวาดกลัว

อ๊าก!

เซี่ยกวงไห่ร้องคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่เซี่ยอู๋เย่กับเซี่ยจงไห่ที่อยู่ใกล้ ๆ ก็กำลังรู้สึกโกรธจนแทบจะคลั่งด้วยเช่นกัน

กฎเหล็กของสกายวิงคืออะไร?

การปกป้องคนในตระกูล!!

นักรบทุกคนจะต้องปกป้องคนในตระกูลเอาไว้ แม้ว่าการปกป้องนั้นจะหมายถึงความตายก็ตาม

“เฝิงคูชาน, เอเลแกนซ์, ซาเลม ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด!!” เซี่ยกวงไห่กัดฟันส่งเสียงร้องคำรามออกมาอย่างเย็นชา

—

ตูม!

เสียงระเบิดดังกึกก้องพร้อมกับหลังคาของอาคารธันเดอร์ที่ถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ

ร่างทั้งห้าทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกเขาจะต่อสู้กันอย่างดุเดือด

ดวงตาของขนอุยเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด ขณะที่มันพ่นลำแสงพลังงานออกมาจากปากโดยมีเป้าหมายคือซาเลม

ขนอุยรู้ดีว่าเซี่ยเฟยกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบาก มันจึงพยายามจัดการกับ 1 ใน 3 ของศัตรูโดยลำพัง

ความเชี่ยวชาญของซาเลมคือการเปลี่ยนแปลงมิติ เขาจึงมีความถนัดในการทำให้ศัตรูหลงเข้าไปในมิติพิศวง แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าเขาจะพยายามเปลี่ยนแปลงมิติแค่ไหน แต่เขาก็ยังไม่สามารถหลบหนีจากการไล่ล่าของอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวน้อยตัวนี้ได้

ในอีกด้านหนึ่งเซี่ยเฟยกับหงส์ครามก็กำลังร่วมกันต่อสู้กับเฝิงคูชานและเอเลแกนซ์

แผนการเดิมของทั้งคู่คือพวกเขาต้องการที่จะปิดฉากการต่อสู้นี้อย่างรวดเร็ว นั่นก็เพราะว่ามันได้มีผู้รับชมอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อพวกเขาลงมือต่อสู้จริง ๆ พวกเขาก็ได้ตระหนักว่าถึงแม้เซี่ยเฟยจะพึ่งเลื่อนระดับมาเป็นจักรพรรดิได้ไม่นาน แต่พลังการต่อสู้ที่แท้จริงของเซี่ยเฟยกลับก้าวล้ำนำกว่าจักรพรรดิขั้นต้นไปไกล

ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะลงมือพร้อมกัน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังไม่สามารถจัดการกับชายหนุ่มได้ง่าย ๆ อยู่ดี

ยิ่งไปกว่านั้นการเคลื่อนไหวร่างกายของเซี่ยเฟยก็แปลกประหลาดมาก เพราะหลังจากที่เขาได้เรียนรู้วิชาฝ่าเท้ารัตติกาลเดือนดับจากการเผชิญหน้ากับหุ่นเชิดโลหิตทองคำภายในซีเครดสปริง มันก็ทำให้การเคลื่อนไหวของเขามีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อมันได้รวมกับวิชาเล่ห์กายาของเขาแล้ว มันก็ทำให้การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มกลายเป็นการเคลื่อนไหวที่ยากจะคาดเดาได้

อย่างไรก็ตามพลังของเฝิงคูชานกับเอเลแกนซ์ก็สูงกว่าเซี่ยเฟยมากพอสมควร ดังนั้นถึงแม้ชายหนุ่มจะสามารถหลบหลีกการโจมตีได้สำเร็จ แต่เขาก็ไม่สามารถหาโอกาสโจมตีโต้ตอบกลับไปได้ จนทำให้สถานการณ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถหาผู้ได้เปรียบได้อย่างชัดเจน

หากซาเลมเข้ามาพัวพันในการต่อสู้นี้ เซี่ยเฟยย่อมจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ขนอุยจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ผู้พิทักษ์มังกรฟ้าเข้าไปร่วมโจมตีใส่เจ้านายของมันได้

ซาเลมถนัดการกักขังศัตรูแล้วค่อยเริ่มทำการโจมตี แต่เมื่อเขาถูกขนอุยไล่ตามอย่างต่อเนื่อง มันจึงทำให้เขาไม่สามารถปลีกตัวออกไปได้สักพัก

อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็รู้ดีว่าถึงแม้การโจมตีของขนอุยจะทรงพลัง แต่มันก็ใช้พลังงานมากเกินไป เมื่อไหร่ก็ตามที่พลังงานภายในร่างของขนอุยหมดลง ในเวลานั้นซาเลมก็จะมีโอกาสเข้ามารุมจู่โจมใส่เขาด้วยเช่นกัน

เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงอย่างแท้จริง เพราะแม้แต่คนที่มองสถานการณ์ในแง่ดีมากที่สุดก็ไม่คิดว่าเซี่ยเฟยจะต่อต้าน 3 จักรพรรดิได้นานขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ชายหนุ่มมีพลังน้อยกว่าศัตรูทั้งสามคนมาก

“นี่น่ะเหรอพลังของสกายวิง ถ้าทุกคนในสกายวิงเป็นแบบนี้ ฉันไม่มีทางจะไปเป็นศัตรูกับพวกเขาอย่างเด็ดขาด” ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“ที่เขาทำแบบนี้ได้ไม่ใช่เพียงเพราะเขาคือสกายวิง แต่เขาคือเซี่ยเฟยจากสกายวิงต่างหาก” หลางซุนเย่ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ตอบกลับด้วยแววตาอันเป็นประกาย

ช่วงเวลานี้หลางซุนเย่กำลังรู้สึกภาคภูมิใจมาก เพราะเซี่ยเฟยคือเพื่อนของเขา

เซียวรั่วหยูไม่ได้รู้สึกดีกับสถานการณ์ในตอนนี้มากนัก เพราะเมื่อเธอได้เห็นเซี่ยเฟยต้องต่อสู้อย่างหนัก มันก็ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดด้วยเช่นกัน

ทันใดนั้นมันก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นบนท้องฟ้า เพราะจู่ ๆ ความเร็วของเซี่ยเฟยก็ลดลงอย่างกะทันหัน

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูผู้แข็งแกร่งทั้งสองคนพร้อม ๆ กัน เซี่ยเฟยก็จำเป็นจะต้องเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุดต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายนาที

แน่นอนว่าการทำแบบนี้จำเป็นจะต้องใช้พลังงานสูงมาก และหลังจากที่เขาใช้ความเร็วต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ความเร็วของเขาก็ลดลงจาก 500,000 เมตรต่อวินาทีลงมาเหลือ 200,000 เมตรต่อวินาทีแล้ว

โอกาส!

ในที่สุดสิ่งที่เฝิงคูชานกับเอเลแกนซ์รอคอยก็มาถึง พวกเขาจึงเริ่มใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองเพื่อปิดฉากการต่อสู้ในครั้งนี้ให้ได้ภายในครั้งเดียว

‘แกตายแน่!’

‘ขอโทษด้วย แต่เพื่อศักดิ์ศรีของมังกรฟ้าฉันไม่สามารถปล่อยนายไปเฉย ๆ ได้’

เอเลแกนซ์กับเฝิงคูชานต่างก็คิดภายในใจ ขณะพยายามรวบรวมพลังงานภายในมืออย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามจู่ ๆ ความเร็วของเซี่ยเฟยก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน จากตอนแรกที่เขาสามารถเร่งความเร็วได้เพียง 500,000 เมตรต่อวินาที แต่ในตอนนี้ความเร็วของเขากลับทะลุ 1 ล้านเมตรต่อวินาทีไปแล้ว

ในเวลาเดียวกันเม็ดพลังงานหลากสีภายในสมองของชายหนุ่มก็ถูกระเบิดออกมาอย่างรุนแรง จนทำให้พลังงานปริมาณมหาศาลไหลท่วมไปทั่วทั้งร่างกายของชายหนุ่ม

เอเลแกนซ์กับเฝิงคูชานมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง เพราะพวกเขาไม่คิดว่าเซี่ยเฟยจะยังคงเก็บไพ่ตายเอาไว้ใช้ในวินาทีสุดท้าย

ฟุบ!

เซี่ยเฟยเร่งความเร็วพุ่งตัวออกไปราวกับลำแสงเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของเอเลแกนซ์และเฝิงคูชานอย่างหมดจด จากนั้นชายหนุ่มก็พุ่งเข้าหาศัตรูทั้งสองด้วยความเร็วมากกว่า 1 ล้านเมตรต่อวินาที

ฝ่ามือคู่ฤดูใบไม้ร่วง!

กฎแห่งความโกลาหลถูกปลดปล่อยออกไปในทั้งสองฝ่ามือ กระทบเข้ากับเอเลแกนซ์และเฝิงคูชานโดยตรง

การเคลื่อนไหวในครั้งนี้รวดเร็วมากเกินไป แม้ว่าเอเลแกนซ์กับเฝิงคูชานจะมีพลังสูงมากแต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะหลบเลี่ยงการโจมตีในครั้งนี้ได้ พวกเขาจึงทำได้เพียงใช้ทักษะเฉพาะตัวในการป้องกันการโจมตีของเซี่ยเฟยเท่านั้น

ตูม ๆ

เสียงระเบิดดังสนั่นราวกับท้องฟ้ากำลังจะแตกสลาย ผู้ชมทุกคนต่างก็ยกมือขึ้นมาปิดหูและมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

ภาพเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นภาพที่น่าตกใจที่สุดในชีวิตของใครหลาย ๆ คน เพราะเซี่ยเฟยสามารถโต้ตอบเข้าใส่ 2 ผู้มีอำนาจมากที่สุดภายในดินแดนกฎได้จริง ๆ และภาพที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือร่างทั้งสามร่างกระเด็นออกไปคนละทิศคนละทาง

อย่างไรก็ตามในพริบตาต่อมามันก็มีเงาดำปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า และความเร็วของเจ้าของร่างนี้มันก็เร็วกว่าเซี่ยเฟยที่ระเบิดเม็ดพลังงานภายในสมองของเขาเสียอีก

ตูม ๆ ๆ

เสียงการโจมตี 3 ครั้งดังขึ้นติดต่อกันพร้อมกับร่างของเฝิงคูชาน, เอเลแกนซ์และซาเลมที่ถูกกระแทกให้กระเด็นออกไปอย่างรุนแรง

ไม่มีใครเห็นว่าเสียงระเบิดเกิดขึ้นมาจากอะไร แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือจักรพรรดิกฎทั้งสามถูกฝังร่างเอาไว้กับพื้นและกระอักเลือดออกมาจากปาก

“คนจากเผ่าเทพเข้ามายุ่งกับเรื่องของคนในดินแดนกฎได้ยังไง?!” เอเลแกนซ์เป็นคนแรกที่ระบุตัวผู้มาใหม่ได้ เธอจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างหมดสภาพและตะโกนถามออกไปเพื่อทวงหาความยุติธรรม

ฟุบ! ตูม!

แต่ทันทีที่เธอพูดจบหญิงชราก็กระอักเลือดคำใหญ่ออกมาอีกครั้ง เฝิงคูชานกับซาเลมจึงมองไปยังเซี่ยกวงไห่ด้วยแววตาที่ดุร้าย

ตามกฎแล้วผู้ที่อยู่ในเผ่าเทพไม่สามารถเข้ามายุ่งกับเรื่องที่เกิดขึ้นภายในดินแดนกฎได้ พวกเขาจึงกำลังรอให้เซี่ยกวงไห่อธิบายเหตุผลดี ๆ ให้พวกเขาฟัง

“เซี่ยเฟยได้รับคำสั่งเรียกตัวแล้ว ดังนั้นเขาคือสมาชิกของเผ่าเทพ ถึงแม้วันนี้ฉันจะฆ่าพวกแกแต่ฉันก็จะไม่มีความผิด เพราะพวกแกคือคนที่มาทำร้ายคนจากเผ่าเทพก่อน” เซี่ยกวงไห่ยกกำปั้นขึ้นมาตรงใบหน้าพร้อมกับตะโกนกลับไปอย่างเย็นชา

เฝิงคูชาน, เอเลแกนซ์และซาเลมต่างก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่าเซี่ยเฟยจะถูกเรียกตัวขึ้นไปยังเผ่าเทพอย่างรวดเร็วขนาดนี้

โจมตีคนของเผ่าเทพ!?

แม้แต่คนโง่ก็รู้ดีว่าการทำแบบนี้มันจะมีบทลงโทษร้ายแรงแค่ไหนติดตามมา เมื่อจักรพรรดิทั้งสามได้รู้ว่าพวกเขากำลังทำร้ายคนจากเผ่าเทพอยู่จริง ๆ จู่ ๆ ใบหน้าของทุกคนก็ซีดเผือดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

***************

อ้าว เกมพลิกเลยยยย 5555