ตอนที่ 856 ราชากฎระดับสูงสุด

-A A +A

ตอนที่ 856 ราชากฎระดับสูงสุด

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 856 ราชากฎระดับสูงสุด

ณ ตระกูลเบนิน แห่งเผ่าดาร์ดพัพเพท

ภายในห้องโถงขนาดใหญ่มีราชากฎ 2 คนและจักรพรรดิกฎ 1 คนกำลังนั่งชุมนุมกัน ชายหัวโล้นทั้งสองคนคือโซโอกับโซอา ฝาแฝดผู้ที่มีรอยสักบนแก้มซ้ายกับอีกคนที่มีรอยสักบนแก้มขวานั่นเอง ซึ่งทั้งคู่ก็มีพลังอยู่ในระดับราชากฎขั้นที่ 8 แล้ว

การโกนหัวคือวัฒนธรรมอันโดดเด่นของตระกูลเบนิน มันจึงทำให้แม้แต่โซฮังผู้ซึ่งเป็นพ่อของสองฝาแฝดก็ยังหัวโล้นด้วยเช่นกัน เพียงแต่ชายชราคนนี้มีพลังอยู่ในระดับจักรพรรดิกฎขั้นที่ 3

โซโอกับโซอามอบศีรษะของป้าให้กับพ่อ และบอกว่าป้าของพวกเขาเต็มใจที่จะเสียสละชีวิตเพื่อแก้แค้นศัตรู

โซฮังพยักหน้าอย่างเฉยเมยราวกับว่าเขาไม่ได้รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพี่สาวของตัวเอง คล้ายกับว่าเขารับฟังเรื่องราวของคนอื่น

เบนินเป็นตระกูลนักฆ่าที่มีชื่อเสียงภายในเผ่าดาร์ดพัพเพท และแม้แต่ภายในพื้นที่ของเผ่ามารตระกูลของพวกเขาก็ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงโดดเด่นเช่นเดียวกัน นิสัยของผู้คนในตระกูลต่างก็ล้วนแล้วแต่มีความโหดเหี้ยมโดยกำเนิด และตราบใดก็ตามที่พวกเขารับงานมาแล้ว พวกเขาก็สามารถสังหารได้แม้กระทั่งญาติของตัวเอง

“รู้แล้วหรือยังว่าใครเป็นคนทำ?” โซฮังกล่าวถาม

“ลูกชายของท่านป้าเป็นเด็กที่เกิดมาระหว่างป้ากับเซียงจินเฉิงจากตระกูลมูนวอร์ด ปกติเขามักจะทำตัวต่ำต้อยและไม่เคยสร้างความบาดหมางให้กับผู้อื่น สกายวิงที่กำลังกวาดล้างสมาชิกของมูนวอร์ดจึงเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด แต่เราจะได้ข้อสรุปก็ต่อเมื่อสหายจากเผ่าเทพสืบสวนเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว” โซโอกับโซอาเล่าสถานการณ์ขึ้นมาพร้อมกัน

อาชีพนักฆ่าเป็นอาชีพที่จำเป็นจะต้องมีสายสัมพันธ์กับผู้อื่น นักฆ่าจากทั้งสองเผ่าพันธุ์จึงมักจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่เสมอ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาพบเจอเป้าหมายที่ไม่สะดวกต่อการลงมือ มันก็มักจะมีการเชิญสมาชิกจากเผ่าพันธุ์อื่นมาร่วมแก้ปัญหาด้วยเช่นกัน และเนื่องมาจากเหตุการณ์ในคราวนี้มีความเกี่ยวข้องกับสกายวิง ฝาแฝดหัวโล้นจึงขอให้สหายภายในเผ่าเทพช่วยสืบหาว่าใครเป็นคนสังหารหวู่หยูหมิง

“ผลการสืบสวนออกมาเมื่อไหร่ให้ล้างแค้นแทนป้าของพวกนายได้ทันที ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคนของสกายวิงแต่เราก็ไม่สามารถจะปล่อยพวกมันไปได้ ป้าของพวกนายจ่ายค่าลงมือมาเป็นชีวิตของเธอแล้ว พวกเราตระกูลเบนินจะต้องทำภารกิจอย่างสุดความสามารถ” โซฮังกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

แต่ในระหว่างที่พ่อลูกกำลังนั่งสนทนากันอยู่นั่นเอง แม่บ้านผู้สูงอายุก็ได้มารายงานจากหน้าประตู

“นายท่านคะ คุณวิลโล่จากซีเครดสปริงมาขอพบค่ะ”

“วิลโล่? เขาจะมาที่นี่ทำไม?” โซฮังขมวดคิ้วขณะพึมพำกับตัวเอง

“ให้เขาเข้ามา” โซฮังตะโกนตอบกลับไป

ในไม่ช้าวิลโล่ก็เดินเข้ามาภายในห้อง ซึ่งหลังจากที่เขาทักทายเจ้าบ้านสั้น ๆ เขาก็เริ่มพูดคุยเข้าประเด็นถึงเหตุผลที่เขาเดินทางมาในวันนี้

“ฉันมีคนที่อยากจะให้พวกคุณจัดการให้หน่อย”

“ใคร?” โซฮังกล่าวถามอย่างเฉยเมย

“มันเป็นคนของสกายวิง ปัจจุบันมันซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่แกนกลางของซีเครดสปริง แต่สถานที่แห่งนั้นมีความไม่เสถียรสูงมาก เราไม่สามารถจะใช้การโจมตีอันรุนแรงเพื่อจัดการกับศัตรูได้” วิลโล่กัดฟันพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ

“สกายวิง?!” โซฮังสะดุ้งขึ้นมาอย่างฉับพลัน ขณะที่โซโอกับโซอาบริเวณด้านข้างก็รู้สึกตกใจด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขากำลังพูดคุยเรื่องสกายวิงได้เพียงแค่ไม่นาน จู่ ๆ วิลโล่ก็มาจ้างให้สังหารคนจากสกายวิง

“ฉันรับงาน แต่เงื่อนไขคือศพของเป้าหมายจะต้องเป็นของเรา” โซฮังกล่าว

เหตุผลที่ตระกูลเบนินผงาดขึ้นมากลายเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมนักฆ่า นั่นก็เพราะว่าพวกเขามีวิชาที่สามารถทำให้ซากศพกลายเป็นหุ่นเชิดของพวกเขาได้

เป้าหมายในคราวนี้คือสมาชิกจากตะกูลสกายวิง ซึ่งถ้าหากว่าพวกเขาสามารถเปลี่ยนศพของนักรบสกายวิงให้กลายเป็นหุ่นเชิดโลหิตได้สำเร็จ มันก็จะเปรียบเสมือนว่าพวกเขาได้ไพ่ชั้นดีเอามาไว้ใช้ภายในอนาคต

“ตกลง ฉันขอราคาเท่าเดิมส่วนร่างกายของมันจะเป็นของพวกคุณ” วิลโล่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า เพราะเขาพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าโซฮังจะขอศพของเซี่ยเฟย

“พวกนายไปจัดการกับศัตรูซะ อย่าลืมว่าการลอบสังหารในครั้งนี้จะต้องสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่น้อยที่สุด” โซฮังหันไปสั่งการฝาแฝดทั้งสองคน

“ครับ” โซโอกับโซอายืนขึ้นรับคำสั่งอย่างพร้อมเพรียงกัน

คำสั่งของโซฮังทำให้วิลโล่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เพราะเขาได้เห็นความสามารถของเซี่ยเฟยด้วยตาของตัวเองมาแล้ว เขาจึงคิดว่าถึงแม้โซอากับโซโอจะเป็นฝาแฝดที่มีความคิดเชื่อมโยงกัน แต่ศัตรูอย่างเซี่ยเฟยก็มีความแข็งแกร่งมากจนเกินไป

นักรบสกายวิงสามารถที่จะสังหารนักรบในระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นถึงแม้ว่าสองฝาแฝดนี้จะมีพลังอยู่ในระดับราชากฎขั้นที่ 8 แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะสังหารเซี่ยเฟยได้อยู่ดี สิ่งที่วิลโล่คาดหวังคือการให้โซฮังออกไปจัดการกับศัตรูด้วยตัวเอง

แต่ในระหว่างที่วิลโล่กำลังตั้งข้อสงสัยอยู่นั่นเอง คำพูดของโซฮังก็สามารถขจัดความกังวลของเขาออกไปได้อย่างรวดเร็ว

“คราวนี้ฉันอนุญาตให้พวกนายนำหุ่นโลหิตทองคำออกไปด้วย”

คำว่าหุ่นโลหิตทองคำทำให้วิลโล่ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นเอาไว้ได้อีกต่อไป เพราะหุ่นเชิดประเภทนี้คือหุ่นเชิดที่มีชื่อเสียงที่สุดของตระกูลเบนิน

ว่ากันว่าหุ่นโลหิตทองคำถูกสร้างขึ้นมาจากซากศพของจักรพรรดิกฎระดับสูง หุ่นเชิดประเภทนี้จึงถูกส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคน และมีซากศพถูกสังหารภายใต้หุ่นโลหิตทองคำเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

ด้วยเหตุนี้เองถึงแม้ผู้ลงมือจะไม่ใช่นักฆ่าชั้นยอดอย่างโซฮัง แต่การที่สองฝาแฝดได้นำหุ่นโลหิตทองคำออกไปด้วย มันก็จะให้ผลลัพธ์ไม่แตกต่างไปจากเดิมมากนัก มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมวิลโล่จึงเต็มไปด้วยความมั่นใจ

ราชากฎระดับสูงสุด!

ระหว่างที่วิลโล่เดินทางไปยังเผ่ามารเพื่อว่าจ้างตระกูลเบนิน เซี่ยเฟยก็สามารถบุกทะลวงผ่านการเป็นราชากฎขั้นที่ 9 ได้สำเร็จ

“เยี่ยมมาก! ไม่น่าเชื่อเลยว่านายจะสามารถพัฒนากลายเป็นราชากฎระดับสูงสุดได้ในเวลาเพียงแค่วันเดียว หลังจากนี้คือการท้าทายการเลื่อนระดับเป็นจักรพรรดิ ความเร็วในการเลื่อนระดับอันบ้าคลั่งของนาย มันจะต้องสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาในดินแดนกฎแน่ ๆ” โอโร่ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเซี่ยเฟยมีพรสวรรค์ในด้านการควบคุมพลังงานชนิดที่แม้แต่ตัวของโอโร่เองก็ยังไม่เคยเห็นใครทำแบบนี้ได้มาก่อน และเมื่อมันได้รวมกับการควบคุมพลังงานอันน่ากลัว เข้ากับเม็ดพลังงานอันแปลกประหลาดภายในสมองของชายหนุ่ม มันก็ทำให้เซี่ยเฟยสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วราวกับติดจรวด

ในครั้งแรกที่เขาได้เดินทางมายังดินแดนแห่งนี้ จักรพรรดิกฎเป็นตำแหน่งที่ทรงพลังและดูห่างไกล แต่ในตอนนี้เซี่ยเฟยกลับได้พบว่าเขาอยู่ห่างจากการเป็นจักรพรรดิกฎเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น

ภายในตระกูลมีจักรพรรดิกฎอยู่เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น ซึ่งถ้าหากว่าเซี่ยเฟยสามารถทะลวงผ่านอุปสรรคในครั้งนี้ไปได้สำเร็จ เขาก็จะมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าเซี่ยเทียนอย่างแท้จริง และกลายเป็นผู้ที่มีพลังอยู่ในอันดับที่ 3 ของตระกูล

ที่สำคัญไปกว่านั้นการเลื่อนระดับเป็นจักรพรรดิกฎ มันก็จะหมายความว่าเขาเข้าใกล้เผ่าเทพไปอีกก้าว เพราะผู้ที่จะถูกพิจารณาขึ้นไปยังเผ่าพันธุ์สูงสุดต่างก็ล้วนแล้วแต่จะต้องมีความโดดเด่นในสาขาวิชาชีพของตัวเอง

หากเขาเข้าสู่เผ่าเทพได้สำเร็จ ในเวลานั้นเขาก็จะมีโอกาสได้เรียนรู้พลังอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น และมันก็หมายความว่าเขาได้ก้าวเท้าเข้าใกล้ประตูจักรวาลด้วยเช่นกัน ที่สำคัญมันก็จะช่วยให้เขาเข้าใกล้ความลับเรื่องของอดีตผู้นำเผ่าจักรกลที่เขาพยายามตามหามานาน

แน่นอนว่าสาเหตุที่ทำให้โอโร่ตื่นเต้นขนาดนี้ นั่นก็เพราะว่ายิ่งเซี่ยเฟยมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ ชายหนุ่มก็เข้าใกล้การถูกดึงตัวเข้าสู่เผ่าเทพด้วยเช่นกัน เมื่อนั้นเซี่ยเฟยก็จะปลดปล่อยเขาเป็นอิสระ ซึ่งมันเป็นเวลาที่เขาได้รอคอยมาอย่างเนิ่นนานจนจำไม่ได้แล้วว่าเขาได้รอมานานเท่าไหร่

“จะว่าไปเรื่องนี้มันก็แปลกจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ขนอุยเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่โดดเด่นเรื่องการใช้พลังงาน แต่มันกลับไม่สามารถทำอะไรกับพลังงานจากชิ้นส่วนอาร์คได้ แต่ทำไมนายถึงสามารถใช้พลังงานพวกนั้นมาพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว หรือมันจะมีความลับอะไรบางอย่างที่พวกเรายังไม่รู้?” โอโร่พึมพำขึ้นมาอย่างสับสน

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพลังงานพวกนั้นคืออะไร ที่แน่ ๆ คือมันแตกต่างจากพลังต้นกำเนิดและพวกมันไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผมพัฒนาได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่มันยังช่วยชำระล้างพลังงานภายในร่างกายของผมให้มีความละเอียดอ่อนมากขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญคือผมรู้สึกว่าในชิ้นส่วนโลหะชิ้นนั้นมันน่าจะมีข้อมูลอะไรบางอย่างถูกทิ้งเอาไว้” เซี่ยเฟยกล่าว

“ข้อมูล? ข้อมูลอะไร?” โอโร่กล่าวถามอย่างตื่นเต้น

“ตอนที่ผมดูดซับพลังงานจากมันเข้าไป ผมรู้สึกได้ถึงเสียงแปลก ๆ ที่ดังขึ้นมาในสมองของผม แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าเสียงพวกนั้นมันหมายถึงอะไร” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

“นายคิดไปเองหรือเปล่า? เสียงพวกนั้นอาจจะเกิดขึ้นมาจากความผันผวนของพลังงานก็ได้” โอโร่กล่าว

“ไม่ใช่ ผมรู้ดีว่าเสียงจากความผันผวนของพลังงานมันเป็นยังไง แต่เสียงนี้มันไม่ใช่เสียงที่เกิดจากความผันผวนของพลังงานแน่นอน” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างหนักแน่น

“ถ้าชิ้นส่วนอาร์คใหญ่กว่านี้บางทีผมอาจจะได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากยิ่งขึ้น น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนชิ้นเล็ก ๆ และผมก็ไม่รู้ด้วยว่ามันเป็นชิ้นส่วนโลหะที่ถูกสร้างขึ้นมาจากโลหะประเภทไหน” เซี่ยเฟยกล่าว

“บางทีมันอาจจะไม่ได้เป็นเพราะโลหะที่สร้างมันขึ้นมาก็ได้ อย่าลืมนะว่าอาร์คจะต้องเดินทางมาไกลมากก่อนที่มันจะระเบิดแตกแยกออกเป็นชิ้น ๆ” โอโร่กล่าว

เซี่ยเฟยเลือกที่จะนิ่งเงียบโดยไม่พูดอะไร แต่ภายในใจของเขายังคงสงสัยว่าทำไมชิ้นส่วนโลหะชิ้นเล็ก ๆ เพียงแค่นี้ถึงบรรจุพลังงานเอาไว้อย่างมหาศาล

แต่ไม่ว่าอาร์คจะคืออะไรและมันมีพลังงานมหาศาลแบบนี้ได้ยังไง มันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ช่วยให้เขาพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว

เซี่ยเฟยใช้มือข้างหนึ่งลูบศีรษะของขนอุยอย่างเอ็นดู พร้อมกับพยายามเพ่งสมาธิเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อม ถึงยังไงตอนนี้เขาก็อยู่ใจกลางฐานทัพของศัตรู ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องระมัดระวังทุกสิ่งเท่าที่จะเป็นไปได้

ขนอุยก็ได้ดูดซับพลังงานเข้าไปอย่างมหาศาลด้วยเช่นกัน น่าเสียดายที่ถึงแม้เซี่ยเฟยจะเลื่อนระดับพลังมาถึงสองขั้นแล้ว แต่เจ้าตัวน้อยก็ยังคงนอนนิ่งอยู่เหมือนเดิม

การวิวัฒนาการของขนอุยยังคงเป็นปริศนามาจนถึงปัจจุบัน เพราะในบางครั้งเจ้าตัวน้อยก็เกิดการวิวัฒนาการอย่างไม่คาดคิด และในบางครั้งมันก็ยังคงนอนนิ่งอยู่เหมือนเดิมไม่ว่าเขาจะพยายามป้อนพลังงานให้กับมันมากแค่ไหนก็ตาม

อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านั้นมันก็ยังไม่สำคัญมากนัก เพราะพลังงานภายในชิ้นส่วนอาร์คยังไม่หมด ดังนั้นตราบใดก็ตามที่ขนอุยยังคงดูดกลืนพลังงานเข้าไปได้ เขาก็จะให้พลังงานมันไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะกินต่อไปไม่ไหวแล้ว

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

สามเสาหลักแห่งซีเครดสปริงเสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่เสาหลักอีกสามคนที่กำลังยืนต้อนรับสองพี่น้องฝาแฝดจากตระกูลเบนิน

ปัจจุบันดวงตาทั้งห้าคู่กำลังจับจ้องมองไปยังหุ่นโลหิตทองคำในตำนาน ซึ่งมันเป็นหุ่นเชิดที่ทรงพลังที่สุดของตระกูลนักฆ่าแห่งนี้แล้ว

“โดยปกติระดับพลังของพวกเรายังไม่เพียงพอที่จะควบคุมหุ่นเชิดชนิดนี้ได้ โชคดีที่พวกเราเป็นฝาแฝดที่มีความคิดเชื่อมโยงกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเราควบคุมหุ่นเชิดนี้ด้วยกัน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมันก็จะดีกว่าการที่ท่านพ่อคอยควบคุมหุ่นเชิดตัวนี้ซะอีก” โซโอกล่าวอย่างมั่นใจ

“ไม่ต้องห่วง ถึงแม้ศัตรูจะเป็นสกายวิงแต่มันก็ไม่มีทางหนีรอดจากหุ่นเชิดของพวกเราไปได้” โซอากล่าวเสริมจากด้านข้าง

หลังจากนั้นสองพี่น้องฝาแฝดก็เริ่มส่งพลังเข้าไปควบคุมหุ่นเชิดโลหิตทองคำพร้อม ๆ กัน จนทำให้หุ่นเชิดตัวนี้ลืมตาสีแดงเลือดออกมาและทำให้ทั่วทั้งบริเวณตกอยู่ในจิตสังหารอันบ้าคลั่ง

**************

หลังการต่อสู้รอบนี้จบลงทุกคนคิดว่าซีเครดสปริงจะยังเหลืออยู่ไหม?

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.