บทที่ 14...1/3

จันทร์ซ่อนใจ

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 14...1/3

          อรอินทุ์ตื่นมาตั้งแต่ตีห้าเพื่อเข้าครัวทำอาหารเช้าให้พ่อและทำอาหารสำหรับคนป่วยด้วยความตั้งใจ พอทำเสร็จก็รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า 15 นาทีให้หลัง พ่อตื่นแล้วกำลังกินข้าวผัดที่ลูกสาวทำให้ เธอหอมแก้มพ่อก่อนจะรีบขับรถออกมาจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมคนป่วย

พยาบาลอนุญาตให้เข้าเยี่ยมเพราะจำได้ว่าอรอินทุ์มากับพันธินเมื่อวาน ห้องคนป่วยสลัวจากผ้าม่านที่ปิดเต็มบานกระจกแม้ว่าจะเกือบเจ็ดโมงเช้าแล้ว เสียงแอร์ทำงานเบาๆ คนบนเตียงยังหลับสนิทอยู่ หญิงสาววางกระเป๋าตัวเองไว้ที่โซฟาตัวหนา แล้วเดินไปยังส่วนของห้องที่คล้ายๆ กับห้องครัวเพื่อหยิบแจกันใบหนึ่งมา ก่อนจะจัดดอกกล้วยไม้ที่ตัดมาจากบ้าน

พอเสร็จก็ถือถือแจกันมาวางที่หัวเตียงอย่างแผ่วเบา ไรหนวดเริ่มขึ้นที่คางของพันธินจางๆ ดูแปลกตาไปอีกแบบ เธอเปิดปิ่นโตที่ใส่ข้าวต้มหมูสับคิดว่าจะใส่ถ้วยของโรงพยาบาลให้ ถ้าเขาตื่นจะได้ทาน คนป่วยขยับตัวก่อนจะเปิดเปลือกตามองมาที่เธอแล้วยิ้มให้

          “ฉันทำให้คุณธินตื่นหรือเปล่าคะ”

          “ก็กลิ่นข้าวต้มของเธอหอม ฉันจะนอนหลับต่อได้ยังไง” พันธินยันแขนกับที่นอนลุกขึ้นมานั่ง รู้สึกสบายดีกว่าเมื่อวานจนเหมือนไม่ได้เป็นอะไรแล้ว

          “จะกินเลยไหมคะ”

          “ฉันอยากเข้าห้องน้ำก่อน เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหม”

          อรอินทุ์ไม่ตอบ แต่เข้ามาประคองพาพันธินเดินไปที่ห้อง แล้วงับประตูปิดไว้ ไม่ล็อคเผื่อเขาลื่นล้ม ไม่อย่างนั้นเธอคงถูกคุณเธียรเกลียดทั้งชาตินี้จนไปถึงชาติหน้าแน่ๆ

          “อรเปิดประตูทีแล้วเข้ามาช่วยฉันหน่อย ฉันอยากล้างหน้า แต่ไม่ถนัด”

          ก็สมควรที่จะไม่ถนัด หลังมือของเขามีสายน้ำเกลือ ส่วนมือข้างขวายังว่าง เขาถนัดมือขวาไม่ใช่หรือ อรอินทุ์สงสัย แต่ไม่อยากถาม เธอทำให้เขาต้องมานอนให้น้ำเกลือ ช่วยแค่นี้จะเป็นไรไป

          “เดี๋ยวฉันช่วยค่ะ”

          อรอินทุ์บีบโฟมล้างหน้าใส่มือแล้วถูกับน้ำจนเป็นฟอง พันธินยื่นหน้ามา เธอวางมือลงบนแก้มนุ่ม เผลอๆ นุ่มกว่าแก้มของเธอเสียอีก สายตาของเขามองมา มือบางชะงัก รู้สึกอยากเป็นลม คราวหน้าถ้าเขาขอให้ช่วยล้างหน้า เธอจะใจแข็งกว่านี้ เธอวักน้ำมาช่วยล้างฟองโฟมออกมาจากหน้าคนป่วย มือที่ว่างของเขาช่วยวักน้ำล้างหน้าตัวเอง

          อรอินทุ์ยื่นผ้าขนหนูให้พันธิน ก่อนที่จะช่วยประคองเขากลับไปที่เตียง หญิงสาวรีบพาตัวเองไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามเพราะหัวใจเจ้ากรรมดันเต้นแรงจนกลัวเขาจะได้ยิน แล้วเขาน่ะยิ้มอะไรอีกแล้ว พยาบาลเปิดประตูห้องเข้ามาพอดี  บุญของเธอแท้ๆ ไม่อย่างนั้นอาจเป็นลมจริงๆ ก็คราวนี้แหละ

          “มียาก่อนอาหารไหมครับคุณพยาบาล”

          “ไม่มีค่ะ” พยาบาลตอบพลางมองไปที่หัวเตียงเลยยิ้มให้คนไข้และคนเยี่ยม “ถ้าหิวจะทานอาหารเช้า ก็ทานได้เลยนะคะ วันนี้อาหารโรงพยาบาลคงเป็นหมันแล้ว”

          พันธินยื่นแขนไปหยิบชามข้าวต้ม พยาบาลช่วยเลื่อนโต๊ะวางอาหารมาให้ อรอินทุ์อยากมองเฉยๆ แต่ทำไม่ได้จึงช่วยหยิบช้อนแล้วโรยกระเทียมเจียวจะได้หอมๆ

          “คุณธินกินเองไหวไหมคะ”

          “ถ้าบอกว่าไม่ไหวจะช่วยป้อนหรือไง”

          ปกติแล้วพันธินไม่ใช่คนชอบพูดเล่น แล้วตอนนี้ล่ะ เขาพูดเล่นหรือพูดจริง

          “ค่ะ ฉันอยากทำเรื่องดีๆ บ้าง คำขอโทษคงไม่พอสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเกิดมาหาหมอไม่ทัน แล้วคุณธินเป็นอะไรไป...”

          พันธินพูดแทรกขึ้นมาทันที “ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า เทข้าวต้มที่เหลือใส่อีกชามสิ แล้วมากินพร้อมกัน ถ้าเธออยากขอโทษฉัน”

          ไม่ต้องรอคำตอบเมื่ออรอินทุ์เทข้าวต้มมาอีกชาม แล้วยังเผื่อไปให้คุณพยาบาลที่กำลังขอตัวไปเมื่อเห็นว่าค่อยมาใหม่น่าจะดีกว่าด้วย เธอถือชามมานั่งกินข้าวต้มข้างเตียง พันธินดึงชามของเธอมาวางที่โต๊ะแล้วพยักหน้าให้กินตรงนี้ด้วยกัน เธอหัวเราะแล้วยอมทำตาม อีกเดี๋ยวเถอะได้หัวชนกัน แต่กินจนหมดชามแล้ว หัวกลับไม่ชนกันสักทีเลยแฮะ

          พันธินตีหน้าเฉย ก็เขาได้ยินเวลาเธอจะก้มลงตักข้าวต้มตลอดว่ากลัวหัวโขก แล้วอย่างนี้จะไปพลาดได้ยังไงล่ะ อรอินทุ์รอจนเขากินยาเรียบร้อยก็ขอตัวไปทำงาน พันธินมาตามอยากรั้งเธอไว้นานๆ ถ้าเจ็บตัวแล้วสามารถดึงเธอมาใกล้ตัวได้ก็ถือว่าคุ้ม 

 

          อรอินทุ์รู้ตัวว่ามาทำงานสาย แต่พิพัฒไม่น่าจะถึงขนาดมานั่งรอหน้าออฟฟิศ แล้วรถใครมาจอดตรงส่วนของลูกค้า หรือว่าจะมีลูกค้า หญิงสาวรีบเดินขึ้นบันไดไป แต่ฉุกคิดขึ้นมาเมื่อเห็นหน้าเพื่อนอีกที ถ้ามีลูกค้าเขาจะมานั่งหน้าหงิกเป็นมะเหงกแบบนี้ทำไมกัน

          “มีอะไรนายพัฒ ทำหน้าเหมือนถูกทวงหนี้ แล้วทำไมมาอยู่ตรงนี้ ยัยดาล่ะ มาแล้วหรือยัง วันนี้เรามีงานใหญ่ต้องทำกันนะ”

          “อรเข้าไปข้างในก่อน มีคนมาหา เราไม่ค่อยชอบนิสัยไอ้หมอนั่น เจอกันคราวก่อนเกือบแลกหมัด” พิพัฒเอ่ยเสียงเซ็งๆ

          อรอินทุ์ขมวดคิ้วไม่เข้าใจนัก เธอเพิ่งรู้ว่าคนอย่างนายพัฒของขึ้นเป็นกับเค้าด้วย เธอดันประตูกระจกเข้าไปในออฟฟิศ คราวนี้อยากร้องเฮ้อเหมือนกัน

          “คุณมาทำอะไรที่นี่คะ” ที่จริงอรอินทุ์อยากถามว่ามาทำไมอีก แต่แรงไป คนทำงานบริการไม่ควรทำแบบนั้น

          จิรกรยิ้มกว้างพร้อมกับเดินมาหาแล้วส่งดอกไม้ซึ่งเป็นกุหลาบช่อโตให้ ไม่น่าเชื่อว่าเขาเหนื่อยกับการติดต่อนักข่าวเพื่อปิดข่าวมาทั้งคืน แต่พอได้หลับแล้วตื่นมาตอนสาย เขากลับคิดถึงผู้หญิงที่กล้าปฏิเสธ การที่เธอยาก เขายิ่งอยากเอาชนะ แล้วเมื่อรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของพันธิน เขายิ่งอยากได้

          “ผมมาขอโทษที่ทำให้คุณไม่พอใจคราวก่อน เรามาเริ่มความรู้สึกดีๆ กันใหม่นะครับ”

          อรอินทุ์ยืนเฉย เธอไม่ไว้ใจจิรกร ธนิดากลัวเสียเรื่องเลยกระทุ้งศอกใส่เอวเพื่อนเบาๆ แล้วกระซิบให้รับดอกไม้มา อรอินทุ์รับดอกไม้มาถือไว้ ท่าทางเฉยๆ ไม่ได้ยินดีอะไร

          “ก็ได้ค่ะ แค่นี้ใช่ไหมคะ”

          “ครับ ผมมาเพื่อบอกคุณแค่นี้” จิรกรยิ้ม แม้จะกรุ่นๆ อยู่ในอก ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำแบบนี้กับเขา แต่เพราะเธอพิเศษกว่าใคร เขาต้องได้

          “ถ้างั้นเชิญค่ะ ฉันกับเพื่อนต้องประชุมกัน อย่าหาว่าไล่นะคะ แต่ฉันไม่ว่างดูแลคุณจริงๆ”

          “ไม่เป็นไรครับ เอาไว้ผมจะมาหาใหม่”

          อรอินทุ์ถอนใจโล่งอกเมื่อเห็นจิรกรเปิดประตูออกไปจากออฟฟิศเสียที ไม่ถึงอึดใจพิพัฒก็เดินกลับเข้ามา สีหน้ายังไม่ดีเท่าไหร่ เช้าอันสดใสกลายเป็นมัวซัวไปทันตา แต่ว่าธนิดาสามารถทำให้กลับมามีชีวิตชีวาได้ การประชุมเริ่มขึ้นหลังจากนั้น

 

          พันธินได้รับอนุญาตจากหมอให้กลับบ้านในเที่ยงของวันเดียวกัน พ่อมาถามอาการที่ห้องนอนของเขาอยู่หลายคำก็บอกให้พัก เขาอยากทำงาน แต่ยาที่กินทำให้หลับไป กว่าจะตื่นอีกครั้งก็เกือบค่ำแล้ว เขาลุกขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาข้างล่าง บ้านดูเงียบพอตุลยาไม่อยู่ เขาคิดว่าจะไปหาพ่อสักหน่อย ประตูห้องหนังสือเปิดพอดี พ่อออกมาจากห้องพร้อมลุงอิชย์สีหน้าเรียบเฉยกันทั้งคู่

          เราทั้งหมดเดินกันไปที่ห้องอาหาร พันธินกระซิบถามอิชย์ถึงอรอินทุ์ คำตอบดังขึ้นในสมองของเขาว่า

          ‘ไปเรือนกระจกเพื่อนำรูปบางรูปไปใช้ในงานโฆษณา’

          พันธินร้อนใจอยากไปที่นั่นทันทีหากทำได้ แต่ไม่สบโอกาส เรื่องสำคัญที่ไม่น่าลืม ที่นั่นมีเพียงเขา อรอินทุ์และแม่บ้านเท่านั้นที่มีกุญแจ

          นาทีเดียวกันนั้นอรอินทุ์กำลังไขกุญแจเข้าไปยังเรือนกระจกที่ถูกปิดม่านเอาไว้ทุกด้าน ทุกอย่างยังคงอยู่ที่เดิมราวกับว่าเจ้าของภาพไม่ได้จากไปไหน แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดทุกสัปดาห์ หญิงสาวเปิดไฟให้สว่าง แทนการเปิดม่านเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเมื่อภายนอกมืดแล้ว

          เธอเดินหาภาพที่หมายใจไว้ พันแสงชอบวาดภาพแนวแอบสแตรก แต่ก็มีหลายภาพที่เป็นภาพเสมือนจริง นานมาแล้วเขาไปที่เขาใหญ่แล้ววาดภาพวิวของสายหมอกท่ามกลางหุบเขา เป็นภาพที่เธอชมว่าดูรู้เรื่อง เธอมองหาแต่กลับไปสะดุดตาที่แฟรมซึ่งตั้งอยู่และมีผ้าคลุม หลายสัปดาห์ก่อนที่เธอเข้ามายังไม่มีแฟรมตั้งอยู่ตรงนี้สักหน่อย เมื่อดึงผ้าคลุมออก ภาพแอบสแตรกที่เธอเคยบ่นว่าดูไม่รู้เรื่องก็ปรากฏสู่สายตา ทั้งการลงสี ลายเส้น แม้กระทั่งลายเซ็นเป็นของพันแสง

          “เป็นไปได้ยังไง คุณแสงตายไปแล้ว”

          อรอินทุ์ก้าวถอยหลังมองไปรอบตัว ก่อนจะคิดได้ว่าถ้าพันแสงมาหาจริงๆ คงดีไม่น้อย เธอจะได้ถามว่าใครที่ฆ่าเขาจนตาย ทว่าไม่มีใครหรืออะไรเข้ามาสู่สายตานอกจากภาพที่อยู่ตรงหน้า

          ถ้าอย่างนั้นก็น่าแปลก เธอจำภาพของพันแสงได้ทุกภาพ แต่ไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน แล้วใครกันที่มาวาด คำตอบหนึ่งวาบกลางใจ อาจจะเป็นคุณธิน อรอินทุ์ส่ายหน้าเมื่อมั่นใจว่าเป็นไปไม่ได้ พันธินไม่ถนัดการวาด หญิงสาวนั่งลงเริ่มคิด

          ความสงสัยที่รอเวลาให้ฉุกคิดผุดขึ้นในสมอง แพ้ถั่ว ลายมือ วาดรูป มือข้างที่ถนัด หมายความว่ายังไง อีกทั้งหลายๆ อย่างที่พันธินแสดงออกช่างคล้ายคนที่จากไป เธอคงบ้าไปแล้วแน่ๆ ถ้าคิดว่าการสลับวิญญาณเกิดขึ้นจริงๆ  หญิงสาวเดินออกมาจากเรือนกระจก คิดหนักเรื่องพันธินจนเกือบถึงประตูเล็กจึงนึกได้รีบวิ่งกลับมาจะล้อคประตู

          ภาพที่หมายตาไว้ไม่ได้ถือมาเลยต้องเข้าไปในเรือนกระจกอีกรอบ เมื่อได้ภาพกำลังจะออกมาจากที่เก็บ พันธินก็เข้ามาพอดี เขามองหาไปทั่วเรือนกระจกพร้อมกับเรียก

          “อร ยังอยู่ในนี้หรือเปล่า”

          สายตาคู่นั้นกวาดตามองไปทั่ว ในห้องเงียบ ไม่มีเสียงตอบ อรอินทุ์ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ขานรับ เธอมองนิ่งไม่ขยับ ความอยากรู้กระมังทำให้เธอรอว่าพันธินมาที่นี่ทั้งที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลทำไม แล้วเมื่อไม่เห็นใครพันธินได้จัดการเก็บภาพออกจากเฟรมที่เห็น ก่อนจะล็อคประตูแล้วจากไปพร้อมภาพใบนั้น อรอินทุ์ออกจากที่ซ่อนมองตามก็เห็นเขากำลังเผาภาพ เธอยิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่อยากให้ใครรู้ว่าวาดภาพเก่งไม่แพ้พันแสง

          หรือว่า...ไม่หรอก จะเป็นไปได้ยังไง นั่นมันมีแต่ในละคร

          พันธินก็ทำตัวให้น่าสงสัยจริงๆ นะ หรือว่าเราจะถูกอรอินทุ์ทำให้คล้อยตาม 555

แจ้งข่าวนะคะ

1 จันทร์ซ่อนใจ ได้วางจำหน่ายในรูปแบบ E-Book แล้วนะคะ (20/11/2023)  ในหมวด นิยายรัก เว็บ/แอพพลิเคชั่น MEB ค่ะ

ลิงค์ค่ะ

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDI0NjkyIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NjoiMjcxODg0Ijt9

2 โบว์ทำโปรโมชั่นเรื่อง จันทร์ซ่อนใจ จากราคาปกติ 249 ลงเหลือ  149 บาท 17 วัน ตอนเหลือเวลา 2 วันค่ะ  สามารถพาอรอินทุ์กับพระเอกของเธอมาไว้ที่ชั้นหนังสือในราคาน่ารักได้แล้วนะคะ

3  โบว์จะลงจันทร์ซ่อนใจให้อ่านถึงบทที่ 14 แล้วหยุดการลงนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาด้วยกันค่ะ

  •  

 

จันทร์ซ่อนใจเป็นนิยายที่จะคุณรู้ว่าการรอคอยและไม่หมดหวัง

สักวันคุณจะสมหวัง...

และร่วมกันหาฆาตกรตัวจริงด้วยกัน หวังว่าจะชอบนะคะ

  •  
  • _บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.