ตอนที่ 775 เหยื่อล่อ
ตอนที่ 775 เหยื่อล่อ
แบล็ครีเบลเลี่ยนเป็นสัตว์อสูรที่แปลกประหลาดมาก เพราะในบางครั้งร่างกายของมันก็แยกออกเป็นส่วน ๆ คล้ายกับตู้รถไฟหลายหมื่นตู้ แต่ในบางครั้งตู้รถไฟพวกนั้นก็กลับมารวมตัวกันกลายเป็นสัตว์อสูรขนาดยักษ์ จึงทำให้ไม่มีใครสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของอสูรชนิดนี้ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนสามารถคาดเดาอย่างง่ายดายคือสัตว์อสูรชนิดนี้พึ่งพาเพียงแค่การพุ่งชนเพื่อทำร้ายศัตรูเพียงวิธีเดียว
แม้ว่าวิธีการโจมตีของแบล็ครีเบลเลี่ยนจะมีเพียงแค่วิธีเดียวเท่านั้น แต่ผลลัพธ์ของการจู่โจมของมันกลับมีประสิทธิภาพอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะท้ายที่สุดการพุ่งชนของชิ้นส่วนร่างกายขนาดใหญ่ก็เป็นเหมือนกับการที่รถบรรทุกพุ่งเข้าชนมนุษย์อย่างรุนแรง ขณะที่เหล่าบรรดานักรบไม่สามารถที่จะใช้พลังทำอันตรายใด ๆ ต่ออสูรตัวนี้ได้เลย
เซี่ยเฟยใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายแยกตัวออกไปจากสนามรบขนาดย่อมอย่างเงียบ ๆ ซึ่งในตอนนี้พวกมารก็ไม่ได้ให้ความสนใจชายหนุ่มอีกต่อไปแล้ว เพราะทุกคนต่างก็ตื่นตระหนกเมื่อกระดูกสันหลังของพวกเขาอย่างเชสนี่ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ
“เอาล่ะพวกเธอรออยู่ที่นี่ก่อน ฉันจะกลับไปดูสถานการณ์ทางฝั่งโน้น” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากที่พาสามสาวออกมาจากหุบเขาสีแดงได้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะมองไปทางแบล็คกี้กับไวท์ตี้และกล่าวว่า
“ฉันขอฝากพวกคุณสองคนด้วยนะ”
แบล็คกี้พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะเขารู้ดีว่าเซี่ยเฟยยังคงติดใจเรื่องเป้าหมายของเชสนี่ที่ยังไม่คลี่คลาย หากไม่มีพวกเซียวรั่วหยูคอยอยู่ใกล้ ๆ ชายหนุ่มก็จะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากยิ่งขึ้น
“ฉันสัญญาว่าฉันจะกลับมา” เซี่ยเฟยให้คำสัญญาเซียวรั่วหยูอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่รอคำตอบจากอีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว
—
หลังจากฝากพวกเซียวรั่วหยูเอาไว้กับแบล็คกี้และไวท์ตี้ เซี่ยเฟยก็กลับไปที่สนามรบอีกครั้งพร้อมกับทำการเปิดแหวนมิติเพื่อเชื่อมต่อการสื่อสารกับโอโร่
“นายกำลังทำอะไร? ทำไมจู่ ๆ ถึงปิดแหวนไปล่ะ?” โอโร่กล่าวถามอย่างหงุดหงิด
เซี่ยเฟยไม่ได้อธิบายรายละเอียดอะไรมากนัก เพียงแต่เขาบอกว่าบริเวณใกล้ ๆ นี้มีสมาชิกเผ่าเทพอยู่ 2 คนและเขาก็กลัวว่าเทพขาวกับเทพดำจะสัมผัสได้ถึงโอโร่ที่อยู่ภายในแหวนมิติ
“ดูเหมือนว่าผมคงจะเก็บคุณเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว ถ้าหากคนอื่นรู้ว่าผมติดต่อกับเผ่ามาร ผมอาจจะลากสกายวิงให้เดือดร้อนไปด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
เมื่อมีสัญญาณว่าเซี่ยเฟยจะสังหารเขาแล้ว โอโร่ก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เพราะในที่สุดเขาก็จะได้มีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตอีกครั้ง
“เมื่อไหร่ก็ตามที่นายพร้อมก็ให้ใช้บลัดบิวเทียสสังหารฉันได้เลย” โอโร่กล่าวอย่างจริงจัง
“บลัดบิวเทียสฆ่าผู้มีชีวิตอมตะแบบคุณได้ด้วยงั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามอย่างตกตะลึง
“ได้สิ ถ้าหากว่านายไม่ได้ใช้บลัดบิวเทียสนายก็คงจะไม่มีทางสังหารควินซี่ได้ อย่าลืมนะว่าเขาคือผู้ฝึกฝนกฎแห่งชีวิต การสังหารเขามันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำได้ง่าย ๆ และแม้แต่ฉันเองก็ไม่สามารถที่จะหนีรอดจากอาวุธเล่มนั้นได้เหมือนกัน” โอโร่กล่าวอย่างหวาดกลัวบลัดบิวเทียสอยู่เล็กน้อย
เซี่ยเฟยไม่เคยคิดเลยว่าบลัดบิวเทียสจะมีผลกับผู้เป็นอมตะอย่างโอโร่ด้วย แน่นอนว่าเรื่องนี้ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับเขาด้วยเช่นกัน เพราะหากในอนาคตเขาได้พบกับศัตรูที่เป็นอมตะ เขาก็จะได้มีวิธีในการสังหารอีกฝ่ายได้
ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เซี่ยเฟยก็ได้กลับมายังหุบเขาสีแดงและได้เห็นนักรบมารนอนตายอยู่เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ผู้ที่เหลือรอดชีวิตมีเพียงแค่ไม่ถึง 100 คน แต่นักรบพวกนี้ก็คงจะต้านทานอสูรร่างยักษ์เอาไว้ได้อีกเพียงแค่ไม่นาน
ในระหว่างที่ชายหนุ่มสำรวจสนามรบเขาก็ได้พบว่าจักรพรรดิกฎเชสนี่ ผู้ซึ่งเป็นคนนำกองกำลังเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ได้หายตัวไปจากกองกำลังเผ่ามารแล้ว
“เดี๋ยวก่อน นี่ฉันตกหลุมพรางงั้นเหรอ? ทั้งพวกเราและนักรบมารต่างก็ถูกเชสนี่ใช้เป็นเหยื่อล่อเพื่อที่มันจะมุ่งหน้าไปหาสิ่งที่มันต้องการ” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อเขาได้ค้นพบจุดประสงค์ของอีกฝ่าย
“จุดมุ่งหมายของเขาคือที่นี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้วสินะ ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมเชสนี่ถึงรวมกองกำลังมาเป็นจำนวนมาก นั่นก็เพราะว่าเขาคิดจะใช้กองกำลังนั้นดึงดูดความสนใจอสูรตัวนี้เอาไว้” โอโร่กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
เซี่ยเฟยกัดฟันและเริ่มรู้สึกลังเลกับสถานการณ์ในปัจจุบันอยู่เล็กน้อย ซึ่งถ้าหากว่ามันจะมีสถานที่ใดที่เหมาะสมสำหรับการซ่อนสมบัติ มันจะต้องเป็นถ้ำสักแห่งภายในหุบเขาแห่งนี้อย่างแน่นอน
แต่ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังคิดอยู่นั่นเอง พื้นดินใต้ฝ่าเท้าของเขาก็เริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง ราวกับว่าอสูรร่างยักษ์กำลังเคลื่อนที่ใต้พื้นดินด้วยความเร็วสูง
“มันมาแล้ว” เซี่ยเฟยตะโกนและกระโดดออกไปจากตำแหน่งเดิมอย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับร่างของอสูรขนาดใหญ่ที่พุ่งทะลุดินขึ้นมาจากตำแหน่งเดิมของเขา
สิ่งที่ปรากฏเป็นเพียงชิ้นส่วนร่างกายของแบล็ครีเบลเลี่ยนชิ้นเดียวเท่านั้น แต่มันก็ยังมีขนาดใหญ่มากราวกับยานอวกาศลำเล็ก ๆ
ฝ่ามือใบไม้ร่วง!
เซี่ยเฟยรู้ดีว่าอีกไม่นานเขาก็จะต้องเผชิญหน้ากับอสูรตัวนี้อยู่ดี และเนื่องมาจากว่าบลัดบิวเทียสไม่สามารถเจาะทำลายผ่านเปลือกแข็งของอสูรตัวนี้เข้าไปได้ เขาจึงทำได้เพียงแค่ใช้กฎแห่งความโกลาหลออกมาเท่านั้น
ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังของกฎแห่งความโกลาหลปะทะเข้ากับเปลือกสีดำอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นมันก็มีรอยแตกแพร่กระจายออกไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้มีรอยร้าวปรากฏขึ้นมาทั่วทั้งเปลือกแข็ง
“มันได้ผล! กฎแห่งความโกลาหลใช้กับอสูรตัวนี้ได้” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความดีใจ ก่อนที่เขาจะปล่อยฝ่ามือใบไม้ร่วงออกไปอีกสามฝ่ามือติดต่อกัน
อย่างไรก็ตามแบล็ครีเบลเลี่ยนก็มีความแตกต่างจากสัตว์อสูรทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เพราะถึงแม้ว่าร่างกายส่วนหนึ่งของมันจะถูกเซี่ยเฟยทำร้าย แต่มันก็ไม่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว ร่างกายส่วนอื่นของมันจึงยังคงเคลื่อนไหวจู่โจมเข้าใส่ชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่าชิ้นส่วนร่างกายที่ถูกทำลายลงไปนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของมันมากนัก
อสูรศักดิ์สิทธิ์แต่ละชนิดต่างกันล้วนแล้วแต่มีความพิเศษเฉพาะตัว ยกตัวอย่างเช่น ขนอุยก็มีความโดดเด่นในเรื่องการใช้พลังงาน ขณะที่แบล็ครีเบลเลี่ยนมีความโดดเด่นที่สามารถแบ่งพลังชีวิตออกเป็นส่วน ๆ และใช้ร่างกายอันแข็งแกร่งของมันในการบดขยี้ศัตรูได้โดยปราศจากความเจ็บปวด
ชิ้นส่วนร่างกายที่เซี่ยเฟยทำลายลงไปเป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนไม่กี่ชิ้นภายในชิ้นส่วนหลายหมื่นชิ้นของมันเท่านั้น การโจมตีของชายหนุ่มจึงยังคงห่างไกลจากคำว่าการทำร้ายอสูรชนิดนี้ได้
ทันใดนั้นเสียงที่ฟังดูคล้ายกับรถไฟใต้ดินก็ดังกึกก้องขึ้นมากกว่าเดิม คล้ายกับว่าการโจมตีของเซี่ยเฟยได้ไปกระตุ้นให้แบล็ครีเบลเลี่ยนรู้สึกโกรธ
ตูม ๆ ๆ
ชิ้นส่วนร่างกายหลายสิบชิ้นพุ่งทะลุออกมาจากพื้นดิน พร้อมกับจู่โจมเข้าใส่เซี่ยเฟยจากทุกทิศทาง ซึ่งภาพการโจมตีของอสูรตัวนี้เป็นภาพที่แปลกประหลาดมาก เพราะมันดูคล้ายกับขบวนรถไฟพยายามไล่ล่าจู่โจมเข้าใส่มนุษย์คนหนึ่ง
น่าเสียดายที่ถึงแม้ฝ่ามือใบไม้ร่วงของเซี่ยเฟยจะสามารถสร้างอันตรายให้กับชิ้นส่วนร่างกายแบล็ครีเบลเลี่ยนได้ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะใช้วิชานี้ออกมาได้อย่างต่อเนื่อง
ท้ายที่สุดการปล่อยวิชาออกมาครั้งหนึ่งก็จำเป็นจะต้องใช้พลังงานปริมาณมหาศาล และถึงแม้ว่าภายในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาจะมีพลังงานเก็บตุนเอาไว้อย่างมากมาย แต่เขาก็ต้องการที่จะเก็บพลังงานพวกนั้นเอาไว้ใช้ในยามวิกฤตเท่านั้น
ขนอุยส่งเสียงร้องคำรามอย่างดุเดือดพร้อมกับเรียกกลุ่มก้อนพลังงานออกมา พุ่งเข้าชนชิ้นส่วนร่างกายของแบล็ครีเบลเลี่ยนที่มีขนาดร่างกายใหญ่กว่ามันมาก
ปัง!
เมื่ออสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองปะทะกัน ร่างของพวกมันก็กระเด็นออกไปคนละทิศคนละทาง โดยในตอนนี้มันก็ดูเหมือนกับว่าขนอุยจะได้พบกับคู่ต่อสู้ของมันแล้ว เพราะร่างของแบล็ครีเบลเลี่ยนแข็งแกร่งมากจนแม้แต่ขนอุยก็ไม่สามารถที่จะเจาะทะลุเปลือกแข็งบนร่างของศัตรูไปได้
เซี่ยเฟยอาศัยร่างกายอันยืดหยุ่นและความเร็วในการหลบหลีกอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับใช้หงส์ครามที่แขนขวาเหยียดยาวออกไปเพื่อพยายามปัดป้องการโจมตีของชิ้นส่วนร่างกายอสูรขนาดยักษ์
แม้ว่าชายหนุ่มจะสามารถปกป้องตัวเองจากอันตรายได้ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายอีกฝ่ายได้ด้วยเช่นเดียวกัน สถานการณ์จึงเข้าสู่ทางตันมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะไม่มีใครสามารถทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งลงได้เลย
แต่ในทันใดนั้นเองแบล็ครีเบลเลี่ยนก็ชะงักไปอย่างกะทันหัน ก่อนที่มันจะรีบมุดตัวลงไปในดินคล้ายกับว่ามันสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของอะไรบางอย่าง
“เชสนี่จะต้องได้ของที่เขาต้องการไปแล้วแน่ ๆ อสูรตัวนี้เลยรู้ตัวและพยายามรีบกลับไปที่รังของมัน” โอโร่วิเคราะห์ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เซี่ยเฟยชะงักไปเล็กน้อยและเหตุผลที่อีกฝ่ายพูดมาก็ดูเหมือนจะเป็นความจริงทุกประการ
เชสนี่ได้ใช้นักรบเป็นจำนวนมากดึงดูดความสนใจอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ไว้ เพื่อที่เขาจะได้แยกตัวออกไปค้นหาสิ่งที่เขาต้องการ แน่นอนว่าในตอนนี้อีกฝ่ายย่อมค้นหาเป้าหมายของเขาได้จนเจอแล้ว มันจึงกระตุ้นให้แบล็ครีเบลเลี่ยนรีบกลับไปที่รังของมันแบบนี้
เมื่ออีกฝ่ายไม่มีความคิดที่จะต่อสู้อีกต่อไป เซี่ยเฟยก็ได้ใช้หงส์ครามโอบรัดชิ้นส่วนร่างกายชิ้นหนึ่งของแบล็ครีเบลเลี่ยนเอาไว้อย่างแน่นหนา เพื่อให้ชิ้นส่วนร่างกายนั้นเป็นตัวนำพาร่างของเขามุดลงไปในพื้นดิน
แบล็ครีเบลเลี่ยนได้อาศัยอยู่ในดาวดวงนี้มาเป็นเวลานานแล้ว ภายในพื้นดินจึงเต็มไปด้วยอุโมงค์ขนาดยักษ์อย่างมากมาย และมันก็ได้ใช้อุโมงค์พวกนี้ในการเดินทางลึกลงไปยังแกนกลางของดวงดาวอย่างรวดเร็ว
หลังจากเคลื่อนที่ไปได้สักพักชิ้นส่วนร่างกายทุกชิ้นก็ได้กลับมารวมกันจนกลายเป็นอสูรร่างยาวอีกครั้ง แต่ในขณะนี้มันกำลังเร่งรีบมันจึงไม่สนใจเซี่ยเฟยที่กำลังเกาะตัวมันอยู่เลย เพราะสิ่งที่อยู่ลึกลงไปในดินมีความสำคัญมากกว่ามนุษย์คนหนึ่งที่กำลังเกาะร่างของมันอยู่มาก
ด้วยความที่สนามรบโบราณมีขนาดใหญ่มากกว่าดาวโลกถึง 100 เท่า แบล็ครีเบลเลี่ยนจึงจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการเดินทางใต้ดินนานกว่า 10 นาที ก่อนที่มันจะหยุดตัวลง
เซี่ยเฟยรีบแยกตัวออกจากอสูรขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว และปีนขึ้นไปเกาะหินย้อยขนาดยักษ์ที่อยู่ด้านบนของถ้ำขนาดใหญ่ และใช้ระบบมองกลางคืนเพื่อมองสำรวจไปยังถ้ำอันมืดมิด
ใหญ่มาก!
ถ้ำนี้มันมีขนาดใหญ่โตประมาณมหาสมุทรแปซิฟิกได้เลยด้วยซ้ำ!
ด้วยขนาดถ้ำอันใหญ่โตมันจึงทำให้แม้แต่แบล็ครีเบลเลี่ยนก็ดูมีขนาดเล็กลงเมื่อเทียบกับพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันมันก็กำลังร้องคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง และเคลื่อนที่สำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ไปมาด้วยความเร็วสูง
“ตระกูลดาร์กมิสท์จะต้องค้นพบความลับของถ้ำนี้มานานแล้วแน่ ๆ แต่ว่ามันเป็นถ้ำที่ถูกคุ้มกันโดยอสูรศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจึงไม่สามารถเข้ามาเก็บเกี่ยวสมบัติกลับไปยังตระกูลของตัวเองได้”
“แต่หลังจากที่พวกเขาเตรียมการมานานหลายปี ในที่สุดเชสนี่ก็ลงมาเอาสมบัติในถ้ำนี้ไปได้สำเร็จ และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมแบล็ครีเบลเลี่ยนถึงรู้สึกโกรธมากขนาดนั้น” โอโร่วิเคราะห์สถานการณ์
เซี่ยเฟยพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานของโอโร่ แต่การวิเคราะห์พวกนั้นมันก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่าไหร่ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือเขาต้องหาเชสนี่ให้เจอเพื่อชิงสมบัติชิ้นนั้นมาเป็นของเขาเอง
น่าเสียดายที่ดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดใหญ่มาก และถ้ำใต้พื้นดินก็มีความซับซ้อนจนไม่มีทางที่เขาจะหาอีกฝ่ายพบเจอได้ง่าย ๆ ซึ่งถ้าหากวัดกันตามหลักจิตวิทยา ทันทีที่เชสนี่ได้รับสิ่งที่เขาต้องการเขาก็ควรจะรีบหนีออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
แบล็ครีเบลเลี่ยนเคลื่อนที่รอบถ้ำด้วยความโกรธ แต่ในทันใดนั้นมันก็ดูเหมือนกลับจะได้ค้นพบสัญญาณอะไรบางอย่าง มันจึงรีบดำดิ่งลงไปใต้พื้นถ้ำอย่างรวดเร็ว
เซี่ยเฟยปล่อยมือจากหินย้อยทิ้งร่างลงมายังพื้นถ้ำ แต่ในคราวนี้เขาก็ไม่ได้เคลื่อนที่ตามแบล็ครีเบลเลี่ยนไปเหมือนกับคราวก่อน
“ทำไมนายถึงไม่ตามมันไปล่ะ?” โอโร่กล่าวถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“เชสนี่ฉลาดมาก ผมเชื่อว่าเขารู้ดีว่าตัวเองไม่มีทางรับผลจากการไล่ล่าของอสูรตัวนั้นได้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“นายกำลังบอกว่าเขาใช้เหยื่อล่อให้สัตว์อสูรออกไปงั้นเหรอ?” โอโร่ถามด้วยความสับสน
“ประมาณนั้น” เซี่ยเฟยกล่าวตอบอย่างหนักแน่น
แต่ในทันใดนั้นเองเซี่ยเฟยก็ชะงักค้างไปอย่างกะทันหัน เพราะมันมีเหตุการณ์อันแปลกประหลาดได้ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขา
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 408
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น