ตอนที่ 773 ห้าต่อพัน
ตอนที่ 773 ห้าต่อพัน
“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกมันถึงโจมตีเข้าใส่ภูเขา ที่แท้มันก็มีคนซ่อนตัวอยู่ในภูเขานั้นนี่เอง” นกแก้วทั้งสองตัวพูดขึ้นมาพร้อมกัน
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็กำลังมองไปยังภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ เพราะอัญมณีสีม่วงที่ปรากฏให้เห็นในระยะไกลนั้นทำให้เขานึกถึงเรื่องบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
อัญมณีสีม่วงทั้งเก้าชิ้นก่อตัวขึ้นเป็นกำแพงป้องกันอย่างสวยงาม พร้อมกับร่อนไปในอากาศอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องการโจมตีของศัตรู
น่าเสียดายที่นักรบทางฝั่งมารมีจำนวนมากเกินไป เมื่อมีการโจมตีไปทางด้านหน้าเรื่อย ๆ อัญมณีทั้งเก้าจึงเริ่มที่จะไม่สามารถต้านทานการจู่โจมของศัตรูได้เต็มที
ตูม!
เสียงปะทะดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณพร้อมกับอัญมณีทั้งเก้าที่เริ่มแตกร้าว หลังจากนั้นมันก็ได้กลายเป็นอัญมณีขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วน เพื่อพยายามแยกตัวกันออกไปป้องกันการโจมตีจากศัตรู
เมื่ออัญมณีมีขนาดเล็กลงพวกมันก็มีความยืดหยุ่นในการเคลื่อนไหวมากขึ้นกว่าเดิม แต่การเคลื่อนไหวนี้เป็นการเคลื่อนไหวที่ถึงขีดจำกัดของมันแล้ว หากอัญมณีขนาดเล็กไม่สามารถที่จะต้านทานการโจมตีของศัตรูได้ ในเวลานั้นผู้ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังอัญมณีย่อมต้องพบเจอกับภัยพิบัติอย่างแน่นอน
“นั่นมันกฎอัญมณีพิทักษ์ นี่คือกฎที่หาได้ยากมากและมันก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกฎที่มีพลังป้องกันชั้นยอดของจักรวาล” ไวท์ตี้มองไปยังอัญมณีสีม่วงอย่างตื่นเต้น
“กฎอัญมณีพิทักษ์!?” คำพูดของไวท์ตี้ได้กระตุ้นความทรงจำของเซี่ยเฟยขึ้นมาอีกครั้ง และในทันใดนั้นใบหน้าของเด็กสาวคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาในความคิดของเขา
เนตรมนตรา!
เซี่ยเฟยรีบใช้วิชาเพื่อเพ่งมองไปยังเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
“นั่นมันอเมทิสต์การ์ด!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่เขาจะรีบมองหาว่าใครคือคนที่ใช้อัญมณีพวกนี้ออกมากันแน่
“อ๊าก!!” เมื่อเซี่ยเฟยได้เห็นหญิงสาวทั้งสาม เขาก็ส่งเสียงร้องคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง เพราะเขาจำได้ดีว่าหนึ่งในหญิงสาวทั้งสามนั้นคือเยว่เกอ ผู้ซึ่งเป็นสหายของเขาตั้งแต่ตอนที่เขาได้เข้าไปยังค่ายฝึกจัสทิสลีก ส่วนหญิงสาวอีกคนคือคนที่เขารู้สึกผิดต่อเธอมากที่สุด และเขาก็ไม่มีทางลืมเลือนใบหน้าของเธอคนนี้ได้เลย
แม้ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปนานหลายปีจนทำให้เด็กสาวตัวน้อยเติบโตกลายมาเป็นหญิงสาวที่งดงาม แต่เซี่ยเฟยก็สามารถที่จะจดจำเธอได้ในพริบตา โดยเฉพาะท่าทางน่าเอ็นดูที่ทำให้เซียวรั่วหยูดูไม่ต่างไปจากเมื่อก่อนมากนัก
ใช่แล้ว เธอคนนี้คือเด็กสาวที่หายตัวไปตั้งแต่การประเมินของค่ายฝึกจัสทิสลีก!
เธอคือเด็กสาวที่เขาพยายามจะหาตัวเธอให้พบมาโดยตลอด!
เซียวรั่วหยู!!
ปฏิกิริยาแรกของเซี่ยเฟยคือความตกใจ แต่หลังจากนั้นอีกไม่กี่วินาทีความรู้สึกภายในใจของชายหนุ่มมันกลับเต็มไปด้วยความโกรธ
ความหดหู่ที่ถูกเก็บกดเอาไว้ในหัวใจของเซี่ยเฟยเป็นเวลานานหลายปีปะทุออกมาด้านนอกอย่างกะทันหัน และมันก็ทำให้อารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“อย่า!! ถ้านายออกไปตอนนี้แผนทุกอย่างจะพังลงทั้งหมด” แบล็คกี้พยายามตะโกนเตือนสติขณะมองไปยังเซี่ยเฟยที่กำลังบ้าคลั่งด้วยความสับสน
น่าเสียดายที่ในตอนนี้เซี่ยเฟยไม่หลงเหลือสติสัมปชัญญะอีกต่อไป ความคิดเดียวภายในใจของชายหนุ่มมีเพียงการทำยังไงก็ได้เพื่อไม่ให้เซียวรั่วหยูตกอยู่ในอันตราย
ฟุบ!
ชายหนุ่มพุ่งตัวออกไปหาเด็กสาวจากในอดีตโดยไม่คิดจะฟังคำเตือนจากแบล็คกี้เลยแม้แต่นิดเดียว ขณะเดียวกันเมื่อขนอุยกับหงส์ครามสัมผัสได้ว่าเจ้านายของพวกมันกำลังเคลื่อนไหว พวกมันก็เตรียมพร้อมที่จะทำลายศัตรูได้ทุกเมื่อ
—
“คุณหนูดูนั่นสิ!” เซียวรั่วหยูอุทานขึ้นมาอย่างตกใจพร้อมกับชี้นิ้วไปทางด้านหน้า เพราะจู่ ๆ นักรบเผ่ามารมากกว่า 1,000 คนที่กำลังไล่ล่าพวกเธออยู่ก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอย่างกะทันหัน
จู่ ๆ มันก็มีสิ่งที่คล้ายกับหนวดปลาหมึกขนาดใหญ่ม้วนร่างนักรบมารขึ้นไปบนฟ้า และทำการฉีกกระชากร่างของนักรบพวกนั้นออกเป็นชิ้น ๆ ห่างไปไม่ไกลก็มีลูกบอลแสงสีขาวที่กำลังพุ่งเข้าชนนักรบมารเช่นเดียวกันจนทำให้จำนวนของศัตรูลดลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้มันยังมีร่างของนักรบคลั่งที่ดวงตาเป็นสีแดงเลือดกำลังฟาดฟันดาบสั้นสีแดงออกไปทุกทิศทาง และไม่ว่าร่างของนักรบคนไหนที่สัมผัสเข้ากับดาบเล่มนี้ ร่างกายของพวกเขาก็จะแห้งเหี่ยวลงไปกลายเป็นซอมบี้ คล้ายกับว่าของเหลวภายในร่างถูกดูดกลืนออกไปจนหมด
ก่อนที่ใครจะทันได้ตั้งตัวนักรบมารก็ถูกสังหารลงไปมากกว่า 30 คน และเมื่อเซี่ยเฟยเคลื่อนที่เข้ามาหากลุ่มสาว ๆ ได้สำเร็จเขาก็พุ่งตัวเข้าไปกอดเซียวรั่วหยูเอาไว้อย่างแนบแน่น
เซียวรั่วหยูสะดุ้งตกใจขึ้นมาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่น้ำตาจะเริ่มไหลรินออกมาโดยไม่สามารถพูดอะไรได้เลยแม้แต่คำเดียว
เยว่เกอกับจักจั่นขาวมองภาพตรงหน้าด้วยความสับสน โดยเฉพาะเยว่เกอที่รู้สึกประหลาดใจในตอนแรก แต่เมื่อเธอได้รู้ว่าเธอไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่เซี่ยเฟยได้บุกมาช่วยในคราวนี้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจอยู่เล็กน้อย
ส่วนทางด้านของจักจั่นขาวก็มีความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นในหัวใจ แต่เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้มันคืออะไรกันแน่
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมากก่อนที่เซี่ยเฟยจะยอมปล่อยมือออกจากเซียวรั่วหยู จากนั้นเขาก็ใช้มือลูบผมของเธอเบา ๆ และบังคับให้ตัวเองหันหน้าไปเผชิญกับศัตรู
“พวกเธอรีบหนีไปซะ” เซี่ยเฟยออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา โดยไม่มีคำพูดจาที่หวานซึ้งเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างไรก็ตามการที่เขาได้ใช้ร่างกายของตัวเองเพื่อปกป้องสามสาวเอาไว้ มันก็มากพอที่จะแสดงออกถึงความจริงใจที่เขาต้องการจะสื่อออกมาแล้ว
แม้ว่าเซี่ยเฟยจะขาดสติไปในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่เขาก็ยังรู้ว่าตอนนี้สิ่งสำคัญที่เขาต้องจัดการเป็นอันดับแรกคืออะไร ท้ายที่สุดช่วงเวลานี้มันก็ยังไม่ใช่ช่วงเวลาพูดคุยกัน เพราะมันมีสายตาของนักรบนับพันกำลังจับจ้องมองมาทางพวกเขาอยู่
แม้แต่ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ดูเลวร้ายมากที่สุด เซี่ยเฟยก็ยังคงตัดสินใจทำทุกอย่างด้วยความใจเย็น สิ่งเดียวที่เขาพูดคือการให้หญิงสาวทั้งสามล่าถอยไปและเขาก็จะเป็นคนที่เผชิญหน้ากับศัตรูเพียงแค่คนเดียว
ในเวลาเดียวกันผู้หญิงก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มักจะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล การกระทำของเซี่ยเฟยจึงยิ่งทำให้พวกเธอรู้สึกประทับใจในตัวชายหนุ่มคนนี้มากขึ้นกว่าเดิม
ตูม! ตูม!
จู่ ๆ ร่างของนกขนาดใหญ่ก็ร่อนลงข้าง ๆ เซี่ยเฟยทีละตัว โดยนกตัวหนึ่งมีร่างกายสีดำและนกอีกตัวหนึ่งมีร่างกายสีขาว เมื่อมันได้รวมเซี่ยเฟย, ขนอุยและหงส์ครามแล้ว มันก็ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้คือการเผชิญหน้าระหว่างห้าต่อพันอย่างแท้จริง
ในเวลาเดียวกันอสูรเทวะกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถที่จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของพวกมันเพื่อใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ตอนนี้แบล็คกี้กับไวท์ตี้จึงเข้าสู่รูปแบบการต่อสู้ ขนทั้งร่างของพวกมันจึงมีความแหลมคมราวกับใบมีด ลำตัวของพวกมันมีความใหญ่โตสูงมากกว่า 5 เมตร และเมื่อพวกมันกางปีกอย่างเต็มที่ความยาวของปีกด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งก็มีความกว้างมากถึง 20 เมตร
1 คน, 1 ต้นหญ้า, 1 อสูรศักดิ์สิทธิ์และ 2 อสูรเทวะเผชิญหน้ากับนักรบมารอย่างกล้าหาญ โดยไม่มีใครแสดงความกังวลออกมาเลยแม้แต่น้อย คล้ายกับว่าพวกเขาทั้งห้ามีความมั่นใจว่าฝ่ายตัวเองจะได้รับชัยชนะ
“ทำไมยังไม่ไปอีก?!”
เมื่อเห็นหญิงสาวทั้งสามคนยังไม่ขยับ เซี่ยเฟยก็ส่งเสียงตะโกนออกไปเพื่อกระตุ้นเตือนสติหญิงสาวทั้งสามอีกครั้ง
ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดของจักรวาลอย่างแท้จริง เพราะเสียงตวาดของเซี่ยเฟยไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้พวกเธอรู้สึกโกรธเขาเท่านั้น แต่มันยังทำให้พวกเธอมองไปที่ชายหนุ่มด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณอีกด้วย เพราะท้ายที่สุดพวกเธอก็รู้ดีว่าชายคนนี้กำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องพวกเธอเอาไว้
เยว่เกอกัดฟันเหลือบสายตามองไปทางเซี่ยเฟยด้วยความขุ่นเคือง ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือไปจับแขนของเซียวรั่วหยูกับจักจั่นขาวและนำตัวหญิงสาวทั้งสองจากไปอย่างรวดเร็วตามเนินเขา
เมื่อหญิงสาวทั้งสามคนจากไปแล้ว เซี่ยเฟยก็สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ ก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า
“นี่นายยังจะยิ้มได้อยู่อีกงั้นเหรอ? นายกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ถึงมาทำตัวเป็นฮีโร่ช่วยสาวงามโดยไม่ดูสภาพตัวเองแบบนี้” ไวท์ตี้บ่นเซี่ยเฟยอย่างประชดประชัน เพราะเธอกับแบล็คกี้ถูกลากเข้าสู่สนามรบนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้ง ๆ ที่แผนการเดิมคือการพยายามแอบตามดูพวกนักรบมารไปอย่างลับ ๆ เท่านั้น
ในเวลาเดียวกันเชสนี่ก็กำลังเผยรอยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เพราะทิศทางที่พวกเซียวรั่วหยูหนีไปเป็นทางเดียวกับจุดหมายปลายทางของพวกเขาพอดี พวกเขาจึงสามารถใช้หญิงสาวทั้งสามเป็นข้ออ้างในการเดินทัพต่อไปได้
ส่วนเซี่ยเฟยที่มาขวางทางก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะในความคิดของเชสนี่ศัตรูที่ปรากฏตัวตรงหน้าก็เป็นเพียงแค่ราชากฎธรรมดากับสัตว์อสูรอีก 2-3 ตัวเท่านั้นเอง
“พี่น้อง! รีบฆ่าพวกมันแล้วตามสาว ๆ ไปเร็วเข้า! เราจะปล่อยให้เหยื่อของเราหลุดรอดออกไปไม่ได้เป็นอันขาด!!” เชสนี่ส่งเสียงตะโกนพร้อมกับโบกมือส่งสัญญาณไปทางด้านหน้า
เหล่าบรรดานักรบมารพุ่งตัวออกไปข้างหน้าตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว โดยที่เชสนี่ยังคงไม่เคลื่อนไหวใด ๆ เพราะเขาต้องการที่จะสะสมพลังงานเอาไว้ในภารกิจสำคัญของตระกูล
“เหยื่อ!? ฉันจะทำให้พวกแกรู้เองว่าใครมันที่เป็นเหยื่อในสถานการณ์นี้กันแน่” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก
“ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าเหลือใครเอาไว้เป็นอันขาด”
ฟุบ!
ทันทีที่สิ้นคำสั่งขนอุยก็พุ่งตัวเข้าหาศัตรูเป็นคนแรก
ตูม!
ทันทีที่เข้าใกล้กลุ่มนักรบมาร ขนอุยก็ทำการปลดปล่อยการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของมันออกมาในทันที จนทำให้มันเป็นเหมือนกับระเบิดเวลาที่เคลื่อนไหวไปทั่วทุกที่และสร้างหายนะขึ้นมาอย่างมากมาย
ในเวลาเดียวกันเซี่ยเฟยก็พุ่งตัวเข้าใส่นักรบมารอย่างดุร้าย โดยในมือซ้ายของเขาถือบลัดบิวเทียสและมือขวาของเขาคือหงส์คราม ซึ่งเป็นอาวุธมายาที่หลอมรวมอาวุธชนิดอื่นเข้าไปแล้วถึงสองชนิด
“กระชากพวกมันซะ!”
ใบหญ้าของหงส์ครามทั้งห้าใบพุ่งออกมาจากพื้นดิน ก่อนที่พวกมันจะจับร่างของนักรบมารและฉีกกระชากร่างพวกนั้นออกจากกันอย่างไร้ปรานี
เมื่อดอกไม้คริสตัลทั่วทั้งใบหญ้าได้เบ่งบาน พลังทำลายของหงส์ครามก็เพิ่มขึ้นสูงมากขึ้นกว่าเดิม ชุดต่อสู้ระดับสูงของนักรบมารจึงไม่สามารถที่จะทนรับแรงรัดของหงส์ครามได้ด้วยซ้ำ หนามอันแหลมคมบนใบหญ้าจึงดึงเนื้อบนร่างของนักรบมารให้ฉีกแยกออกมาเป็นก้อนใหญ่
ส่วนทางด้านของเซี่ยเฟยก็อาศัยความเร็ว 120,000 เมตรต่อวินาที และการเคลื่อนไหวที่ผิดธรรมชาติในการตวัดดาบบลัดบิวเทียสท่ามกลางดงของศัตรูอย่างคล่องแคล่ว เมื่อไหร่ก็ตามที่ดาบของเขาตวัดผ่านร่างของศัตรูไป เมื่อนั้นมันก็จะมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอย่างทรมาน ไม่ว่าเหยื่อรายนั้นจะเสียชีวิตหรือจะยังคงเหลือรอดชีวิตอยู่ก็ตาม
แบล็คกี้กับไวท์ตี้มองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง เพราะในความทรงจำของพวกมันเซี่ยเฟยเป็นเพียงนักรบที่ว่องไวกว่าคนปกติเท่านั้น แตกต่างจากความแข็งแกร่งที่ชายหนุ่มได้แสดงออกมาในวันนี้อย่างสิ้นเชิง
ในที่สุดนกแก้วทั้งสองตัวก็เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยเช่นกัน และมันก็ยิ่งทำให้ศัตรูถูกกำจัดอย่างรวดเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตามนักรบมารที่มีประสบการณ์ก็เริ่มถอยกลับไปตั้งหลักรวมกลุ่มกันเพื่อทำการจู่โจมโต้ตอบชายหนุ่มกลับไป ซึ่งแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากการโจมตีของพวกเขานั้น มันก็เริ่มทำให้เซี่ยเฟยตกอยู่ในความลำบาก
ในระหว่างที่สถานการณ์กำลังย่ำแย่อยู่นั่นเอง บริเวณหุบเขาห่างออกไปไม่ไกลก็มีเสียงของหญิงสาวกรีดร้องออกมา และเสียงนั้นมันก็ยังฟังดูเหมือนกับจะเป็นเสียงของเยว่เกอ พร้อมกันนั้นเสียงที่ดังเหมือนกับรถไฟก็ดังถี่ขึ้นเรื่อย ๆ คล้ายกับว่าเสียงที่หญิงสาวร้องดังขึ้นมาเนื่องจากพบเจอเหตุการณ์แปลกประหลาดอะไรบางอย่าง
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 433
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น