บทที่ 416: หูชิงหลู่ ช่างฝีมือผู้บ้างาน

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 416: หูชิงหลู่ ช่างฝีมือผู้บ้างาน

หลงโม่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยในขณะที่ตอบหูเจียวเจียวอย่างใจเย็น

 

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีเขาอาจแค่บังเอิญผ่านมา”

 

หลังจากชายหนุ่มพูดจบ เขาก็กอดภรรยาสาวก่อนจะกลายร่างเป็นมังกรและพาเธอไปที่บ้านของโหวเสี่ยวเตียว

 

แต่... ข้าจำได้ว่าบ้านของลู่เมี่ยนเอ๋อไม่น่าจะเดินผ่านทางนี้

 

หูเจียวเจียวกลืนคำพูดที่อยู่ในใจลงคอไป

 

ทางด้านอิงหยวนที่กลายเป็นคนบังเอิญเดินผ่านมาทำหน้ามืดมน เขาได้ยินคำพูดของหลงโม่ทุกคำ นั่นจึงทำให้ใบหน้าหล่อเหลายิ่งบึ้งตึงมากขึ้นไปอีก

 

ไอ้มังกรดำตัวนี้นี่!

 

ตอนที่คนในเผ่าตกหลุมพรางโดนพวกภูตเฟิงหลีซุ่มโจมตี มันก็ไม่มาช่วยคนอื่น แล้วมันยังมีหน้ามายืนมองอยู่ห่าง ๆ อีก

 

มิหนำซ้ำ พออินทรีหนุ่มกลับมาถึงเผ่า ไอ้มังกรนั่นก็ลากเขาไปข่มขู่กำชับเรื่องที่ให้เก็บเป็นความลับอีกครั้ง

 

เขาก็บอกไปแล้วไงว่าเขาไม่สนใจเรื่องของคนอื่น!

 

เป็นเพราะเจ้ามังกรน่ารังเกียจคนนี้เลยทำให้เขาเสียเวลาในการไปหาเมี่ยนเอ๋อ!

 

อีกด้านหนึ่ง หูเจียวเจียวกับหลงโม่ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงที่บ้านของโหวเสี่ยวเตียว

 

เมื่อจิ้งจอกสาวมาถึงที่หมาย หิมะข้างนอกก็หยุดตกพอดี ปัจจุบันลานบ้านขนาดใหญ่ด้านนอกบ้านของโหวเสี่ยวเตียวถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่สำหรับทำงาน แล้วบริเวณนั้นมีเพิงหลายหลังถูกสร้างไว้ โดยมีภูตคนหนึ่งคอยเดินตรวจตราทุกคนอย่างทั่วถึง

 

ความคึกคักนี้ดูไม่เข้ากับฤดูหนาวอันน่าหดหู่เลยสักนิด

 

ในระหว่างที่ทำงาน เหล่าภูตชายพากันทำหน้าเคร่งขรึม เนื่องจากทุกคนกำลังจริงจังกับงานตรงหน้า อีกทั้งพวกเขาทำราวกับว่าของที่อยู่ในมือเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดในโลก

 

สิ่งที่ทำให้หูเจียวเจียวประหลาดใจที่สุดก็คือ ภูตที่เดินตรวจตราไม่ใช่โหวเสี่ยวเตียวที่เป็นคนรับคำสั่งจากหัวหน้าเผ่า แต่เป็นหูชิงหลู่ พี่ชายคนที่ 3 ที่เธอไม่ได้เจอมาหลายวัน 

 

ในบางครั้ง กลุ่มคนงานก็จะออกมาขอความช่วยเหลือจากจิ้งจอกหนุ่มเอง

 

ไม่นานหูเจียวเจียวกับหลงโม่ก็ลงจอดบนพื้น และทันทีที่ทั้งคู่เข้าไปใกล้ ๆ พวกเขาก็เห็นภูต 2-3 คนกำลังรายล้อมหูชิงหลู่พลางเอ่ยถามกันไม่หยุด

 

“หูชิงหลู่ ข้าต้องทำยังไงกับเจ้านี่ต่อ?”

 

“หูชิงหลู่ มันขึ้นรูปแบบนี้หรือเปล่า เจ้าคิดว่าข้าทำถูกไหม?”

 

“หูชิงหลู่ ดินของข้าเหมือนจะเหลวไป...”

 

หลังจากที่ชายหนุ่มตอบคำถามของคนหนึ่งเสร็จ เขาก็ต้องตอบคำถามของคนต่อไปเรื่อย ๆ จนแทบไม่มีเวลาพักเลย

 

ตอนนี้เขาอยากจะให้ตัวเองมีปากสัก 10 อันเพื่อจะได้ตอบทุกคนได้ทันใจ

 

ในเวลาเดียวกัน โหวเสี่ยวเตียวคอยติดตามหูชิงหลู่โดยเขาทำตัวคล้ายเป็นคนรับใช้คอยช่วยจิ้งจอกหนุ่มส่งน้ำหรือข้าวของต่าง ๆ ซึ่งเขาเองก็ยุ่งไม่ต่างจากอีกคนเลย 

 

“พี่สามเก่งขนาดนี้เลยหรือ!?” หูเจียวเจียวที่เห็นภาพตรงหน้าถึงกับตกตะลึง

 

จิ้งจอกสาวจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่โหวเสี่ยวเตียวบอกว่าพี่ชายคนที่ 3 อดหลับอดนอนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อทำคันธนูและลูกธนู ในตอนแรกเธอรู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่พอเธอได้เห็นมันกับตาตัวเองว่าท่าทางของพี่สามเต็มไปด้วยพลัง แม้ว่าเขาอาจจะเหนื่อยล้าบ้าง ทว่าแววตาของเขากลับมีความมุ่งมั่นตั้งใจมากกว่าเมื่อก่อน

 

มันเหมือนกับว่าเขาได้ค้นพบความชอบของตัวเอง

 

อีกทั้งหูเจียวเจียวจำได้ว่าในนิยายเขียนไว้ว่านอกจากหูชิงหลู่จะมีเส้นเสียงที่ดีแล้ว เขายังสนใจสิ่งของแปลกใหม่มาก

 

เพียงแต่ว่าภูตในเวลานั้นไม่เข้าใจความชอบของเขาเลยและรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ไร้ประโยชน์ ชายหนุ่มจึงค่อย ๆ ซ่อนความชอบที่แท้จริงไว้ในใจ

 

ด้วยเหตุนี้ ภูตทุกคนเลยรู้จักเพียงเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเขามีความสามารถพิเศษอะไรอีก

 

“น้องเล็ก หลงโม่ ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่?” จิ้งจอกหนุ่มเห็นน้องสาวยืนอยู่นอกลานบ้านทันทีที่นางลงมาจากหลังมังกรดำ 

 

เขาจึงรีบวางงานในมือและออกไปพบอีกฝ่าย

 

ในขณะเดียวกัน โหวเซียงที่อยู่ในบ้านหินได้ยินเสียงเรียกชื่อหูเจียวเจียว นางกับคู่อีกคนของนางก็เดินออกมาต้อนรับหญิงสาวอย่างมีความสุข 

 

“เจียวเจียว เข้ามานั่งข้างในสิ”

 

เดิมที ลิงสาวลดน้ำหนักจนหุ่นดีแล้ว แต่ตอนนี้นางกำลังตั้งท้อง เพื่อบำรุงครรภ์นางจึงกินอาหารมากหน่อยเลยทำให้ใบหน้าเริ่มมีเนื้อหนังขึ้นมาบ้างแต่มันก็แค่ดูอวบขึ้นเท่านั้น 

 

ทางด้านหูเจียวเจียวยิ้มจาง ๆ พลางเอ่ยทักทายพวกเขา “ไม่เป็นไร ข้าแค่มาที่นี่เพื่อดูว่าการทำก้อนอิฐเป็นยังไงบ้าง”

 

แล้วเธอยังบอกข่าวดีกับทุกคนอีกว่าคนในเผ่าเฟิงเฉิงก็เดินทางมาถึงที่เผ่าแล้วเช่นกัน 

 

นั่นยิ่งทำให้พวกภูตชายมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้นเมื่อพวกเขาได้ยินว่าเผ่านี้มีภูตหญิงเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

 

“งั้นข้าจะหาน้ำร้อนมาให้เจ้าดื่ม ร่างกายเจ้าจะได้อุ่นขึ้น” โหวเซียงมีท่าทางกระตือรือร้นมาก พอนางเห็นว่าจิ้งจอกสาวกำลังยุ่งกับเรื่องอื่นอยู่ นางก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อให้มากความ

 

ส่วนหูเจียวเจียวเองก็ไม่ปฏิเสธน้ำใจของอีกฝ่าย

 

เมื่อหญิงสาวเห็นคู่คนใหม่ของโหวเซียงเข้าไปในบ้านเพื่อเอาน้ำร้อน เธอจึงสังเกตเขาอีกครั้ง ระหว่างที่มองดู เธอรู้สึกว่าภูตชายคนนั้นเป็นคนซื่อสัตย์ พูดน้อยแต่ขยันขันแข็ง แถมความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ก็ดีมากด้วย

 

ปัจจุบันโหวเสี่ยวเตียวกำลังยุ่งกับงานของเผ่า เขาจึงปล่อยให้คู่ครองคนใหม่คอยดูแลลิงสาวแทน ซึ่งสำหรับภูตนี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและลงตัวพอดีแล้ว

 

เนื่องจากในลานบ้านมีรั้วรอบขอบชิดมันจึงช่วยป้องกันลมหนาวได้เป็นอย่างดี ประกอบกับหูเจียวเจียวได้ดื่มน้ำร้อน ส่งผลให้ร่างกายของเธออบอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว 

 

“พี่สาม ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่?” จิ้งจอกสาวเอ่ยถาม

 

ก่อนที่หูชิงหลู่จะทันได้ตอบ โหวเสี่ยวเตียวที่อยู่ข้างหลังเขาก็รีบอธิบายว่า

 

“ครั้งที่แล้วหูชิงหลู่ช่วยข้าทำคันธนูและลูกธนู พอเขาได้ยินว่าเจ้ามอบหมายให้ข้าทำก้อนอิฐ เขาก็เลยมาช่วย และปรากฎว่า…”

 

ลิงหนุ่มหยุดพูดไปพักหนึ่งพลางเกาหัวตัวเองก่อนจะพูดต่อว่า

 

“กลายเป็นว่าวิธีทำก้อนอิฐมันซับซ้อนเกินไป ข้าทำมันด้วยตัวเองไม่ได้ แต่หูชิงหลู่หัวเร็ว เขาเรียนรู้ทุกอย่างได้เพียงแค่มองปราดเดียวและเขาก็สามารถสอนพวกเราทำมันออกมาได้สำเร็จ!” 

 

หูเจียวเจียวที่ได้ยินคำอธิบายของเขาก็พอจะเดาได้ว่าทำไมที่ผ่านมาเธอถึงไม่ค่อยได้เจอหน้าพี่สาม

 

ตอนนี้พี่ชายคนที่ 3 ของเธอกลายเป็นคนบ้างานช่างไปโดยสมบูรณ์แล้ว

 

“เจียวเจียว ถ้าเจ้าต้องการถามเกี่ยวกับกระบวนการทำก้อนอิฐก็ให้หูชิงหลู่บอกเจ้านะ เขารู้เรื่องนี้ดีที่สุดแล้ว” โหวเสี่ยวเตียวพูดพร้อมกับผลักหูชิงหลู่ออกไปข้างหน้า

 

การที่เขาทำแบบนี้มันหมายความว่าเขายกความดีความชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องการทำอิฐให้แก่จิ้งจอกหนุ่ม

 

“ข้าแค่คอยแนะนำเท่านั้น นี่เป็นผลมาจากความพยายามอย่างหนักของทุกคน” หูชิงหลู่ไม่ได้สนใจที่จะเอาหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างเต็มใจ

 

“น้องเล็ก เจ้าอยากจะใช้ก้อนอิฐสร้างบ้านให้กับพวกผู้หญิงที่มาใหม่หรือเปล่า?”

 

ชายหนุ่มถามขณะคิดถึงสถานการณ์ปัจจุบัน บวกกับคำพูดของน้องสาวเมื่อกี้นี้ เขาก็สามารถเดาเหตุผลที่อีกฝ่ายมาถึงที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว

 

“ใช่” หูเจียวเจียวพยักหน้า

 

ทางด้านคนเป็นพี่ชายไม่พูดอะไรต่อ จากนั้นเขาหันหลังเดินไปหยิบก้อนอิฐออกมาจากใต้หนังสัตว์ตรงมุมลานบ้านทันที 

 

“น้องเล็ก เจ้าคิดว่ามันเป็นก้อนอิฐในแบบที่เจ้าต้องการหรือไม่?”

 

ถัดมา จิ้งจอกสาวหยิบก้อนอิฐขึ้นมาดูอย่างละเอียด

 

ฝีมือการทำก้อนอิฐนี้มีความละเอียดอ่อน เนื้ออิฐแน่น อีกทั้งความแข็งยังยอดเยี่ยม ทำให้มันเป็นวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปที่มีคุณภาพดีมาก

 

“แบบนี้แหละ ถูกต้องตามที่ข้าต้องการพอดีเป๊ะ” หูเจียวเจียวรู้สึกประหลาดใจที่พี่สามทำผลงานออกมาได้ดีกว่าที่คาด 

 

เดิมทีจิ้งจอกสาวต้องการที่จะมาดูสถานการณ์สักหน่อย เธอไม่ได้ตั้งความหวังอะไรเอาไว้ แต่เธอไม่คาดคิดว่าพี่ชายคนที่ 3 จะทำสำเร็จ!

 

“พวกท่านทำก้อนอิฐได้เท่าไหร่แล้ว?”

 

“พี่สาม โหวเสี่ยวเตียว ในเมื่อพวกท่านทำสำเร็จแล้วทำไมไม่รีบไปแจ้งท่านผู้เฒ่าล่ะ?” หูเจียวเจียวถามอย่างกระวนกระวายใจ

 

นี่ถือได้ว่าเป็นข่าวดีของเผ่า ทำไมพวกเขาถึงเก็บงำเอาไว้?

 

“ข้าเกรงว่าเราจะสร้างบ้านไม่ได้ในฤดูหนาวนี้” หูชิงหลู่พูดด้วยใบหน้าที่เสียใจ “ฤดูหนาวดินมันแข็ง มันจึงขุดขึ้นมาได้ยาก แถมไม้สำหรับเผาก้อนอิฐก็มีจำกัดเช่นกัน ปัจจุบันเราทำได้แค่ร้อยกว่าก้อนเท่านั้น พี่ก็เลยไม่ได้แจ้งให้ท่านผู้เฒ่าทราบ” 

 

“ตอนแรกเราจะรอจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิแล้วค่อยเผาก้อนอิฐในปริมาณมาก”

 

จิ้งจอกหนุ่มคำนวณเอาไว้แล้วว่าก้อนอิฐไม่กี่ร้อยก้อนมันไม่เพียงพอสำหรับสร้างบ้านหินหลังหนึ่ง

 

เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินคำพูดของพี่ชายคนที่ 3 เธอก็ระงับความตื่นเต้นในใจลง

 

สิ่งที่พี่สามพูดนั้นถูกต้อง

 

กระบวนการเผาอิฐยุ่งยากกว่าการเผาถ่านมาก และใช้เวลานานกว่า ถ้าทำในปริมาณน้อย ไม้ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงก็จะสูญเปล่า แต่ถ้าเผาทีละมาก ๆ พวกเขาก็จะต้องมีดินเหนียวในปริมาณที่เพียงพอ การที่คนงานทำขึ้นมาได้ร้อยกว่าก้อนในเวลาอันสั้นก็ถือว่าไม่ง่ายเลย 

 

“ไม่เป็นไร การที่ท่านทำมันสำเร็จแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี งั้นเราค่อยมาทำต่อในตอนฤดูใบไม้ผลิก็แล้วกัน” หูเจียวเจียวไม่รู้สึกหงุดหงิดและกล่าวปลอบโยนทุกคน

 

ก่อนหน้านี้คนงานทุกคนมองไปที่จิ้งจอกสาวอย่างประหม่า

 

เหล่าภูตคิดว่านางคงจะดูถูกพวกตนที่ไร้ความสามารถ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่านางจะเอ่ยปากปลอบโยนพวกเขาแทน

 

ทันใดนั้นก็มีกระแสแห่งความอบอุ่นแล่นอยู่ในใจทุกคน

 

หูเจียวเจียวเป็นผู้หญิงที่สวยและใจดีที่สุดในโลก!

 

“พี่สาม ช่วงนี้ท่านคงนอนไม่พอใช่ไหม?” จิ้งจอกสาวมองรอยคล้ำใต้ตาของจิ้งจอกหนุ่มที่เทียบได้กับหมีแพนด้ายักษ์แล้วถามแกมบ่น

 

“น้องเล็ก เจ้ารู้ได้ยังไง?”

 

หลังจากหูชิงหลู่ถามออกไป เขาก็รีบปิดปากตัวเอง

 

แล้วดวงตาจิ้งจอกคู่นั้นก็ฉายแววรู้สึกผิดที่ทำให้น้องสาวสุดที่รักเป็นห่วง

 

นี่เขาเผยความคิดของเขาออกไปได้ยังไงกัน?

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: พี่สามหายหน้าหายตาไปนานมาก ไหนใครคิดถึงพี่สามบ้างยกมือขึ้น~~

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.