บทที่ 415: เด็กดี เจ้าชอบผู้ชายแบบไหน?

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 415: เด็กดี เจ้าชอบผู้ชายแบบไหน?

ภูตคือผู้ที่มีความภักดีที่สุด พวกเขาไม่ต้องการเห็นคนในเผ่าของตนถูกคนภายนอกรังแก ดังนั้นพวกเขาจึงรีบลงไปช่วยอิงหยวนและสหายคนอื่น

 

ส่วนภูตเฟิงหลีที่อยู่ตรงปากหลุมก็หันมาเห็นพวกเขาเช่นกัน

 

“พวกมันมีกำลังเสริมมาช่วย!”

 

“เร็วเข้า รีบจัดการพวกมัน!”

 

จังหวะนั้นภูตเฟิงหลีชายขยับมายืนอยู่ข้างหน้าภูตเฟิงหลีหญิง ก่อนจะขว้างก้อนหินใส่กลุ่มภูตที่บินอยู่บนท้องฟ้าไม่หยุด

 

แล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความโกลาหล

 

เนื่องจากตอนนี้หิมะตกหนัก พวกภูตนกที่ตามมาสมทบจึงไม่รู้ว่ามีภูตหญิงกลุ่มหนึ่งอยู่ข้างใต้

 

จากนั้นเหล่าภูตนกก็บินโฉบลงไปโจมตีศัตรูพร้อมกับหลบหลีกสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามขว้างปามาด้วย นั่นทำให้พวกภูตเฟิงหลีรีบพากันกระโดดหลบจนกระจัดกระจายกันไปคนละทิศทาง แม้ว่าพวกเขาจะค่อย ๆ หมดแรงกันแล้ว แต่ทุกคนก็ยังคงต่อสู้ไม่หยุด

 

ในเวลาเดียวกัน นี่สิ่งแรกที่เฟิงเฉิงเห็นเมื่อนางเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ

 

ปัจจุบันท่ามกลางสนามรบมีแต่ขนนกปลิวว่อนผสมกับเกล็ดหิมะที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

 

ยามนี้ภูตเฟิงหลีหญิงหอบเหนื่อยจนทรุดตัวลงบนหิมะ ขณะที่บางคนก็ถีบภูตที่พยายามปีนขึ้นจากหลุม ซึ่งท่าทางเวลาต่อสู้ของพวกนางนั้นดุดันยิ่งกว่าหู่จิงเสียอีก

 

“...”

 

นี่เป็น 1 ในเหตุผลที่เฟิงเฉิงต้องการพาคนในเผ่าของนางกลับมาแทบขาดใจ

 

เพราะนางกลัวว่าคนพวกนี้จะเผลอไปทำร้ายคนดี ๆ คนอื่นเข้าน่ะสิ!

 

ไม่กี่อึดใจต่อมา จู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป นางจึงมองไปรอบ ๆ ก่อนจะพบว่ามีมังกรดำกำลังมองสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บนท้องฟ้า!

 

แล้วมุมปากของเฟิงเฉิงก็กระตุก 

 

มันเป็นอย่างที่นางคาดไว้ คู่ของหูเจียวเจียวไม่ใช่คนที่หุนหันพลันแล่น หรือทำอะไรที่ส่งผลให้ตัวเองเสียเปรียบ

 

สุดท้าย เฟิงเฉิงก็ต้องลงไปยุติการทะเลาะวิวาท และอธิบายให้ทุกคนฟังเองว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เมื่อภูตทั้ง 2 ฝั่งได้ยินเรื่องราวทั้งหมด พวกเขาก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าตนกำลังทำร้ายคนของตัวเอง มันทำให้ทุกคนรู้สึกอับอายมาก

 

 

3 วันต่อมา

 

ในถ้ำหมอประจำเผ่า

 

“ฮัดชิ่ว! ฮัดชิ่ว...”

 

กลุ่มภูตเฟิงหลีที่ห่อด้วยหนังสัตว์กำลังนั่งตัวสั่นอยู่หน้ากองไฟ พวกนางพากันสลับกันจามเป็นจังหวะจนเสียงสะท้อนในถ้ำไม่ต่างจากเสียงดนตรี

 

ก่อนหน้านี้พวกเขาทะเลาะกันท่ามกลางพายุหิมะ ซึ่งทำให้ภูตหญิงส่วนใหญ่เป็นหวัด

 

โชคดีที่ภูตบินได้สามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นพวกเขาจึงรีบแบกภูตคนอื่นขึ้นหลัง จนในที่สุดพวกเขาก็กลับมาถึงเผ่าหลังจากบินมาตลอด 3 วัน

 

ทันทีที่เหล่าภูตถึงที่หมาย พวกเขาก็รีบพาภูตหญิงที่ป่วยมุ่งหน้าไปยังถ้ำของหมอเป็นอันดับแรก

 

ปัจจุบันหมอหนูทั้ง 2 งานยุ่งมาก พวกเขากำลังก่อไฟและต้มยากันมือระวิงจนเหงื่อออกท่วมตัว

 

“ท่านป้า นี่คือยาต้มของท่าน ท่านดื่มให้หมดนะ”

 

ตอนนี้หลงหลิงเอ๋อถือชามหินเดินไปมาในกลุ่มภูตหญิงเพื่อแจกจ่ายยาต้มให้พวกนาง

 

ด้วยเสียงอันไพเราะและหน้าตาที่น่ารักของเด็กหญิง มันทำให้นางสามารถครองใจสาว ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

 

“สาวน้อยคนนี้ช่างเก่งกาจเสียจริง ตัวแค่นี้ก็ช่วยหมอทำงานได้แล้ว” 

 

“แถมหน้าตาก็ยังน่ารัก ถ้าข้ามีลูก ข้าจะให้เขาหมั้นหมายกับเจ้าเอาไว้ ในอนาคตเขาจะได้เป็นคู่กับเจ้า ดีไหม?” 

 

“ไม่ เจ้าอย่ามาแย่งข้านะ ตอนนี้ข้าท้องและข้าหมายตานางไว้ก่อน แล้วอีกอย่างลูกข้าก็คลอดก่อนลูกเจ้า คราวนี้ก็ต้องมาวัดกันว่าใครดีใครได้แล้วย่ะ!”

 

เดิมทีหลงหลิงเอ๋อกำลังแจกจ่ายน้ำแกงให้ทุกคนซดให้อุ่นท้อง แต่ไม่นานหลังจากนั้น นางก็ถูกกลุ่มภูตหญิงรุมทึ้งในขณะที่ดวงตาของพวกนางเป็นประกายเหมือนหมาป่าผู้หิวโหยที่ไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน

 

พอเด็กน้อยเห็นท่าทางของผู้หญิงกลุ่มนี้ก็รู้สึกหวาดกลัว

 

ป้า ๆ กลุ่มนี้...ทำไมพวกนางถึงโวยวายเสียงดังกว่าป้าจิงอีกนะ

 

พวกนางไม่เห็นเหมือนป้าเฟิงเฉิงที่มักจะทำตัวเย็นชาไม่สุงสิงกับคนอื่นเลยสักนิด

 

“ขอบคุณท่านป้าทุกคนที่เมตตาหลิงเอ๋อ แต่ตอนนี้หลิงเอ๋อยังเด็กนัก ท่านแม่ของหลิงเอ๋อบอกไว้ว่ารอให้หลิงเอ๋อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก่อนจึงค่อยคิดเรื่องหาคู่” หลงหลิงเอ๋อปฏิเสธอย่างสุภาพโดยต้องการหนีจากเงื้อมมือของเหล่าหมาป่าที่กำลังหิวโหย

 

แต่ใครจะไปคาดคิดว่า ยิ่งคนพวกนี้รู้สึกผิดหวังมากเท่าไหร่ พวกนางก็ยิ่งอาจหาญมากขึ้นเท่านั้น

 

ไม่นานผู้หญิงคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า

 

“จะมัวแต่ไปสนเรื่องอายุทำไม การบ่มเพาะความรักกันตั้งแต่อายุยังน้อยมันเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ?” 

 

“เด็กดี เจ้าชอบผู้ชายแบบไหน บอกป้ามาสิ แล้วป้าจะไปทาบทามให้” 

 

“...” เมื่อเด็กหญิงถูกยิงคำถามมากมาย นางก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจ

 

ในเวลาเดียวกัน ขณะที่หลงหลิงเอ๋อกำลังจะจมหายไปในฝูงชน ร่าง ๆ หนึ่งก็มายืนอยู่ตรงหน้าของนาง

 

จากนั้นเขารับชามหินจากมือของคนที่พูด ก่อนที่เขาจะกล่าวด้วยเสียงแหบห้าวว่า

 

“อาจารย์เรียกหาเจ้าน่ะ”

 

ปัจจุบันหยินชางสามารถพูดประโยคสั้น ๆ ได้แล้ว

 

แม้ว่าเสียงของเขาจะยังแหบเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ฟังดูขัดหูเหมือนตอนแรก แต่มันกลับกลายเป็นน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ลึกล้ำแบบผู้ใหญ่มากกว่า

 

พอหลงหลิงเอ๋อเห็นหยินชางเข้ามาแทรกกลาง นางก็รู้สึกขอบคุณเขาพร้อมกับใช้โอกาสนี้ในการหลบหนีไปจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัด 

 

เมื่อกลุ่มภูตเฟิงหลีประจันหน้ากับเด็กหนุ่ม พวกนางก็รู้สึกถึงวิกฤตในใจ

 

อย่าบอกนะว่านี่คือคู่แข่งของลูกพวกข้า?

 

อีกด้านหนึ่งที่ทางเข้าถ้ำ เฟิงเฉิงมองท่านผู้เฒ่า หูเจียวเจียวและภูตคนอื่น ๆ ด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

 

“ข้าขอโทษท่านผู้เฒ่า ข้าสร้างปัญหาให้ท่านมากมาย และข้าไม่ได้คาดคิดว่าคนในเผ่าจะถูกคนของข้าโจมตี ข้า-ข้าขอโทษจริง ๆ...” 

 

หญิงสาวคิดแค่ว่านางต้องการตามหาคนในเผ่าและพาพวกนางกลับมา แต่นางคาดไม่ถึงว่าเรื่องราวมันจะกลายเป็นแบบนี้ แถมผู้หญิงก็พากันป่วยไปหมด

 

แม้ว่าการโจมตีครั้งนี้จะไม่ถึงแก่ชีวิต ทว่ามันทำให้พวกเขาสูญเสียเสบียงสำคัญของเผ่าไปเป็นจำนวนมาก

 

“ไม่เป็นไร พวกนางแค่พยายามปกป้องตัวเอง ภูตในเผ่าของเรามีแต่คนแข็งแกร่ง ฉะนั้นเราไม่ใส่ใจปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้หรอก”

 

หัวหน้าเผ่ายังคงมีสีหน้าใจดีในขณะที่โบกมือตอบ

 

เมื่อเทียบกับการต่อสู้กับภูตเร่ร่อนครั้งก่อน เหตุการณ์ตอนนี้ไม่มีอะไรควรค่าแก่การกล่าวถึง

 

“โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรไป หลังจากให้ท่านหมอรักษาแล้ว อีกไม่นานพวกนางก็จะฟื้นตัว เฟิงเฉิง เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก” หูเจียวเจียวเข้ามาช่วยปลอบอีกฝ่ายให้คลายความกังวล

 

ตอนที่เธอได้ยินคนที่กลับมาจากภารกิจพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอก็แอบตกใจเพราะเธอไม่ได้คาดคิดว่าเฟิงเฉิงที่เป็นผู้หญิงที่เย็นชาเช่นนี้จะมีคนร่วมเผ่าที่เป็นกลุ่มผู้หญิงดุเหมือนแม่เสือ

 

อย่างไรก็ตาม เฟิงเฉิงสามารถทำให้พวกนางเชื่อฟังคำสั่งของนางด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ยอดเยี่ยมของนาง

 

ในขณะนั้น หัวหน้าเผ่ากับหูเจียวเจียวช่วยกันปลอบโยนเฟิงหลีสาวอยู่นานกว่านางจะเลิกโทษตัวเอง

 

“เวลานี้ในเผ่าไม่มีหินมากพอที่จะสร้างบ้านหิน ดังนั้นคงต้องให้พวกนางทนลำบากอยู่ในถ้ำไปก่อน แล้วข้าจะให้หูชิงซานส่งเสบียงมาให้พวกผู้หญิงเพื่อไม่ให้ทุกคนต้องขาดแคลนอะไร” ผู้นำสูงสุดของเผ่ากล่าว

 

“หลังจากฤดูหนาวสิ้นสุดลง ข้าจะสั่งให้คนไปสร้างบ้านใหม่ให้พวกนางอาศัยอยู่ แต่อาจต้องใช้เวลานานสักหน่อยเพราะหินแถวนี้ไม่เหลือแล้ว เราต้องเดินทางไปขนหินที่ที่ไกลขึ้น”

 

เมื่อเฟิงเฉิงได้ยินเช่นนี้ก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว

 

“ให้พวกนางอยู่ในถ้ำก็ดีมากแล้ว พวกข้าไม่อยากให้ทางเผ่าต้องลำบากมากไปกว่านี้อีก”

 

เดิมทีนางและคนของนางไม่ใช่คนที่จะเอาเปรียบใคร

 

พอหญิงสาวรู้ว่ายามนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ความปลอดภัยของเผ่าจึงมีความสำคัญมากกว่า การที่พวกนางมีที่กำบังลมและมีเสบียงให้กินให้ใช้เพียงพอมันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากแล้วที่พวกนางได้รับ

 

ทางด้านหูเจียวเจียวจำได้ว่าเคยสอนโหวเสี่ยวเตียวทำก้อนอิฐก่อนที่จะไปพาพวกภูตเฟิงหลีมาที่นี่ เธอจึงเอ่ยปากกับทั้ง 2 คนว่า

 

“ท่านผู้เฒ่า เฟิงเฉิง ข้าจะไปดูว่าโหวเสี่ยวเตียวทำก้อนอิฐสำเร็จหรือยัง ถ้ามีก้อนอิฐเราก็จะสามารถใช้มันแทนหินได้เลย”

 

ในตอนแรกที่จิ้งจอกสาวพูดถึงก้อนอิฐ ไม่มีใครเข้าใจว่ามันคืออะไร มีหน้าตาเป็นแบบไหน หรือมีประโยชน์มากเพียงใด

 

แต่เมื่อทุกคนได้ยินหูเจียวเจียวบอกว่าก้อนอิฐมีความทนทานกว่าหิน หากสามารถทำก้อนอิฐออกมาได้ดี บ้านที่ถูกสร้างขึ้นจากก้อนอิฐจะสามารถคงอยู่ได้นานนับพันปี ในตอนนั้นเหล่าภูตทั้งหลายเชื่อคำพูดของหญิงสาวจนหมดใจ

 

“ดี! มันคงจะดีถ้าเราได้ก้อนอิฐมาสร้างบ้านให้พวกผู้หญิง!”

 

หัวหน้าเผ่าพูดพร้อมพยักหน้าอย่างตื่นเต้น

 

ปัจจุบันเขาได้ชะลอการสร้างกำแพงให้ช้าลงเนื่องจากวัสดุเริ่มขาดแคลน

 

นอกจากนี้ หากมีการซ่อมแซมกำแพงก็จะไม่มีหินสำหรับสร้างบ้านหินในอนาคต

 

“หูเจียวเจียว ข้าต้องขอรบกวนเจ้าแล้ว” เฟิงเฉิงยังส่งสายตาขอบคุณไปให้จิ้งจอกสาว 

 

ยิ่งไปกว่านั้น มีคนบอกว่ายาที่นำมาให้พวกภูตหญิงกลุ่มใหม่กินใช้เป็นของที่เทพอสูรประทานมาให้ หากไม่มียาพวกนี้ หมอทั้ง 2 ของเผ่าคงจะรู้สึกปวดหัวแทบระเบิด

 

ต่อมา หูเจียวเจียวยิ้มจาง ๆ ตอบรับเฟิงหลีสาวขณะวางแผนไว้ในใจว่าจะไปที่บ้านของโหวเสี่ยวเตียวพร้อมกับหลงโม่

 

ในตอนที่จิ้งจอกสาวเดินออกมาจากถ้ำ เธอพบหลงโม่กับอิงหยวนยืนรออยู่ข้างนอก โดยที่คนหนึ่งอยู่ฝั่งซ้ายและอีกคนอยู่ฝั่งขวาของปากถ้ำ

 

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นความกลมกลืนของทั้งคู่ เธอก็ยังรู้สึกสับสนในใจ

 

“เจ้าทำงานของเจ้าเสร็จแล้วหรือ?” มังกรหนุ่มทักทายภรรยาสาวด้วยสายตาอ่อนโยนหลังจากเห็นเธอเดินออกมา โดยที่ใบหน้าเคร่งขรึมยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรผิดปกติ

 

“ข้าต้องไปหาโหวเสี่ยวเตียวเพื่อดูความคืบหน้าที่เขาทำก้อนอิฐ” หูเจียวเจียวพยักหน้าก่อนจะบอกจุดมุ่งหมายถัดไป

 

หลังจากหญิงสาวพูดจบ เธอก็เหลือบมองอิงหยวนที่มีใบหน้าบูดบึ้งอยู่ข้าง ๆ อย่างสงสัย และกระซิบถามผู้เป็นสามีด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ภูตอื่นกลับไปกันหมดแล้วไม่ใช่หรือ?”

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.