บทที่ 402: ข้ารู้ว่าเฟิงเฉิงไปที่ไหน

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 402: ข้ารู้ว่าเฟิงเฉิงไปที่ไหน

“พี่ใหญ่เป็นลมหรือ?” เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินเช่นนี้ก็ถามแทรกขึ้นมาด้วยสีหน้าวิตกกังวล

 

จากนั้นเธอก็เห็นว่ามีภูตหลายคนยืนอยู่ในบ้านหิน ซึ่งในบรรดาพวกเขามีหมอ 2 คนจากเผ่าหนูด้วย

 

และคนที่อยู่เบื้องหน้าหมอคือหูชิงซานที่นอนหมดสติอยู่

 

“เจ้าไม่ต้องกังวล เขาไม่เป็นไร เขาแค่เป็นลมเท่านั้น” หลงโม่ปลอบภรรยาสาวเสียงเบาพลางจับมือเธอไว้

 

ปัจจุบันจิ้งจอกหนุ่มยังคงหายใจอยู่ และไม่มีเลือดอยู่บนพื้น

 

เมื่อจิ้งจอกสาวเห็นเช่นนั้นก็สงบลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในบ้านหินพร้อมกับมังกรหนุ่ม 

 

“ท่านหมอ ทำไมพี่ชายของข้าถึงเป็นลม?” หูเจียวเจียวเอ่ยถาม

 

หมอหนูยืนขึ้นมองไปที่หญิงสาวและคนอื่น ๆ ก่อนจะอธิบายว่า

 

“หูชิงซานไม่เป็นไร เขาแค่สูดผงยาที่ทำให้ภูตง่วงและผล็อยหลับไปเท่านั้น”

 

ต่อมา หมอคนหนึ่งหยิบกระถางหินที่มีดอกเหมยสีแดงอยู่ในนั้นแล้วใช้มือถูกระถางหินเบา ๆ ไม่นานก็มีผงสีขาวปรากฏขึ้นบนปลายนิ้ว

 

“นี่คือสิ่งที่ข้าบอก หูชิงซานไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ บนร่างกายของเขา เราลองตรวจสอบบ้านหินดูและมีเพียงผงนี้เท่านั้นที่สามารถทำให้ภูตหลับได้”

 

หูเจียวเจียวที่ได้ฟังคำอธิบายจากหมอถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

“เมื่อไหร่พี่ชายของข้าจะฟื้น?” เธอถามพลางมองไปยังพี่ชายคนโตที่นอนไม่ได้สติอยู่บนพื้น

 

ยามนี้จิ้งจอกหนุ่มยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเขา ราวกับว่าเจ้าตัวกำลังฝันหวาน

 

เธอจึงอดไม่ได้ที่จะนวดขมับตัวเอง

 

พี่สะใภ้วิ่งหนีหายไปแล้ว แต่เขายังคงนอนหลับฝันหวานได้อีก...

 

“ลองปลุกเขากันเถอะ” จิ้งจอกสาวเสนอความคิด

 

จากนั้นหมอหนูก็หันกลับมาเพื่อปลุกหูชิงซาน

 

ในขณะเดียวกัน ภูตทุกคนยังคงมีสีหน้ากังวล

 

“แม่หมอหายไปไหน?”

 

“เป็นไปได้ไหมว่ามีใครแอบเข้ามาในเผ่าและจับตัวหมอผีไป?”

 

“แม่หมอเป็นผู้หญิง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนาง เราต้องหาแม่หมอให้เจอ!” ชาวเผ่ารู้สึกกระวนกระวายระหว่างที่คาดเดากันไปต่าง ๆ นานา 

 

เนื่องจากหมอผีเป็นคนที่หาได้ยากมาก แต่สุดท้ายพวกเขาก็สูญเสียนางไป

 

“ทุกคนเงียบ”

 

ในตอนนั้นเอง หัวหน้าเผ่าเดินเข้าไปในบ้านพร้อมจะมีสีหน้าบูดบึ้ง

 

เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหมอ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยก็เคร่งเครียดมากขึ้น และเขาถามอย่างจริงจังว่า

 

“แต่ทำไมในบ้านหินถึงมีผงแบบนี้?”

 

หมอหนูชำเลืองมองทุกคนโดยที่เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า

 

“ภูตธรรมดาไม่น่ามีผงนี้ แม่หมออาจจะมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างถึงได้ทิ้งมันไว้”

 

ทันทีที่หมอหนูวิเคราะห์สถานการณ์ ใบหน้าของเหล่าภูตที่เฝ้าดูอยู่นอกประตูก็เปลี่ยนไป

 

“แม่หมอทำให้หูชิงซานสลบไปงั้นรึ?”

 

“เป็นไปได้ไหมว่านางทำให้หูชิงซานหมดสติไปเพราะคิดจะหลบหนีเพื่อที่นางจะได้ใช้โอกาสนี้ออกจากเผ่าของเรา” 

 

“แต่ทำไม... ทำไมแม่หมอต้องหนีออกไปล่ะ?”

 

ภูตทั้งหลายที่มารวมตัวกันไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้

 

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เผ่าของพวกเขาจะมีหมอผี กลับกลายเป็นว่านางหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย 

 

ส่งผลให้บรรยากาศ ณ ปัจจุบันอึดอัดยิ่งนัก

 

“หูชิงซานตื่นแล้ว!”

 

ขณะนั้นเสียงของหมอก็ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของทุกคน

 

“พี่ใหญ่” หูเจียวเจียวรีบเข้าไปช่วยพยุงพี่ชายที่เพิ่งถูกยัดน้ำแข็งเข้าไปในปาก และเขาก็ถูกปลุกให้ตื่นเนื่องจากความเย็น

 

“พรูดดดด!!”

 

ชายหนุ่มพ่นน้ำแข็งออกมาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง จากนั้นเขาก็เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีภูตอยู่รอบตัวเขามากมาย

 

“น้องเล็ก? ท่านผู้เฒ่า?” 

 

“ทำไมพวกท่านถึงมาอยู่ที่นี่?”

 

หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น 

 

“ข้ามานอนอยู่บนพื้นได้ยังไง แล้วเฟิงเฉิงล่ะ ข้าไม่ได้อยู่กับเฟิงเฉิงหรือ...”

 

หูชิงซานลุกขึ้นนั่งด้วยความสงสัย ก่อนจะมองไปรอบ ๆ เพื่อตามหาร่างของหมอผีสาว

 

ทางด้านผู้นำสูงสุดของเผ่า ตอนนี้ใบหน้าของเขาแสดงอารมณ์ซับซ้อน

 

ส่วนหมอหนูทนต่อไปไม่ได้จึงอธิบายกับชายที่เพิ่งฟื้นตรง ๆ ว่า 

 

“หูชิงซาน แม่หมอทำให้เจ้าหมดสติแล้วก็หายตัวไป” 

 

“เฟิงเฉิงหายไป!?” จิ้งจอกหนุ่มลุกขึ้นยืนทันที “นางถูกภูตหมาป่าจับตัวไปหรือ!?” 

 

แม้แต่ความคิดแรกของเขาก็ยังกังวลว่าเฟิงเฉิงจะตกอยู่ในอันตราย ผู้อาวุโสจึงเข้าไปตบไหล่เขาเป็นการปลอบโยน

 

“หูชิงซาน ใจเย็น ๆ ไม่มีภูตหมาป่าแทรกซึมเข้ามาในเผ่าเรา เฟิงเฉิงอาจจะออกไปเอง” 

 

“เป็นไปได้ยังไง…” หูชิงซานไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เมื่อกี้นางบอกเขาเองว่านางชอบบ้านหินหลังนี้มาก 

 

แม้ว่าหญิงสาวจะไม่อยากเป็นคู่กับเขาก็ตาม แต่สาเหตุที่นางทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะว่านางอยากจะออกจากเผ่าไปเพื่อหลีกเลี่ยงเขาใช่ไหม? 

 

ความจริงที่ปรากฏทำให้จิ้งจอกหนุ่มตกตะลึง โชคดีที่เขาไม่ใช่ภูตที่ไม่มีสมอง ดังนั้นเขาเลยกลับมาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว แล้วเขาก็กอดอกพูดกับหัวหน้าเผ่าอย่างเคร่งขรึมว่า

 

“ท่านผู้เฒ่า โปรดให้ข้านำกลุ่มภูตไปตามหาเฟิงเฉิงเถอะ นางเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว การปล่อยนางออกไปข้างนอกตามลำพังแบบนี้มันอันตรายมาก สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการตามหาเฟิงเฉิงก่อน” หูชิงซานไม่ได้ตื่นตระหนกเนื่องจากการหายตัวไปของผู้เป็นหมอผี เขากลับคิดถึงเหตุผลแล้วตัดสินใจพูดออกมา 

 

พอท่านผู้เฒ่าเห็นว่าชายหนุ่มไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบ อีกทั้งยังปราศจากความเย่อหยิ่งหรือความหุนหันพลันแล่น เขาจึงแสดงความชื่นชมอยู่ในใจ

 

“เจ้าพูดถูก สิ่งสำคัญที่สุดคือการค้นหาเฟิงเฉิงก่อน” ชายชราพยักหน้าเห็นด้วย 

 

“แต่…”

 

ในเวลานี้ภูตที่พบหูชิงซานหมดสติเป็นคนแรกพูดขึ้นมาว่า

 

“เราตามหานางแล้ว ข้างนอกหิมะตกหนักมาก ร่องรอยของภูตก็ถูกกลบไปจนหมด เราไม่รู้ว่าแม่หมอไปทางไหน...” 

 

ทันทีที่เขาพูดจบ สถานการณ์ก็ตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 

“เราจะหานางเจอได้ยังไง?”

 

“ป่ามันกว้างใหญ่ไพศาลมาก และตอนนี้ก็อยู่ในช่วงฤดูหนาว เราจะรู้ได้ยังไงว่าแม่หมอมุ่งหน้าไปทางไหน...” 

 

“นี่ก็ผ่านไปนานมากแล้ว ถ้าหมอผีเจอสัตว์ป่าโจมตีล่ะ?” 

 

“คงไม่ใช่ว่า...”

 

เราจะต้องตามหาศพนางแทนหรอกหรือ?

 

ภูตคนนั้นไม่ได้พูดประโยคสุดท้ายออกมา

 

แต่ทุกคนก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศน่าอึดอัดรอบตัวพวกเขา

 

“เอาล่ะ ทุกคน” หูเจียวเจียวเหลือบมองกลุ่มภูตก่อนจะยกมือขึ้นแล้วพูดขัดจังหวะเสียงเบา “อันที่จริง พวกท่านไม่ต้องกังวล”

 

“ข้ารู้ว่าเฟิงเฉิงหายไปไหน”

 

ภูตทั้งหมดหันขวับมองไปจิ้งจอกสาวเป็นตาเดียว

 

!!!

 

“น้องเล็ก เจ้ารู้จริงหรือ?” ดวงตาของหูชิงซานเบิกกว้าง

 

“เจียวเจียว ถ้าเจ้ารู้แล้วทำไมเจ้าไม่รีบพูดตั้งแต่ก่อนหน้านี้!” หัวหน้าเผ่าเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

 

นางปล่อยให้พวกเขาต้องมากังวลกับการคาดเดาต่าง ๆ นานาอยู่นาน!

 

ทางด้านหูเจียวเจียวเกาจมูก “ก็ท่านไม่ให้โอกาสข้าพูด...”

 

เธออยากจะพูดหลายครั้งแล้ว แต่เธอก็โดนขัดจังหวะอยู่ตลอด

 

“น้องเล็ก บอกพี่ใหญ่มาว่าเฟิงเฉิงอยู่ที่ไหน?” หูชิงซานถามขณะจับมือน้องสาวอย่างตื่นเต้น

 

“พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล เฟิงเฉิงจะไม่ตกอยู่ในอันตราย” หูเจียวเจียวตบมือปลอบโยนพี่ชายคนโต

 

“ท่านเดาถูก นางมีเหตุผลที่ต้องออกจากเผ่า”

 

“หลงโม่ให้ภูตนก 2-3 คนบินไปช่วยคุ้มกันเฟิงเฉิงตลอดทางแล้ว ตอนนี้นางปลอดภัยดีและข้าจะพาพวกท่านไปหานางเอง”

 

คำพูดของจิ้งจอกสาวช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเหล่าภูต ทุกคนจึงรู้สึกโล่งใจทันที

 

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะรออะไรอีกล่ะน้องเล็ก พาพี่ไปที่นั่นเร็วเข้า!” หูชิงซานทนรอไม่ได้อีกต่อไปและพูดเร่งน้องสาว

 

...

 

อีกด้านหนึ่ง

 

“เฟิงเฉิง ยอมกลับไปกับข้าแต่โดยดีเถอะ  ตราบใดที่เจ้ามอบไม้เท้าเฟิงหลีให้กับข้าและบอกวิธีใช้มัน ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”

 

ปัจจุบันเฟิงเฉิงผู้ซึ่งถูกต้อนจนมุมรู้สึกกดดันมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

หญิงสาวกระชับไม้เท้าไว้แนบอก และมองคนที่พยายามพูดเกลี้ยกล่อมอย่างเย็นชา

 

ในขณะที่นางมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวังเพื่อพยายามหาช่องว่างหลบหนีจากภูตกลุ่มนี้

 

เฟิงอันก็สังเกตเห็นท่าทางของหญิงสาว เขาจึงพูดแบบประชดประชันว่า

 

“เฟิงเฉิง อย่ามองหาทางหนีอีกเลย คราวนี้ข้าพาภูตมาด้วย 20 คน ไม่ว่าเจ้าจะฉลาดแค่ไหน เจ้าก็หนีไปไหนไม่พ้นหรอก” 

 

“ข้าไม่คาดคิดเลยว่าวันหนึ่งเจ้าจะตกอยู่ในเงื้อมมือของข้าแบบนี้”

 

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เจียวเจียวบอกอยากพูดใจจะขาด แต่ไม่มีช่องว่างให้พูดสักที รีบไปช่วยแม่หมอกันเร็ว!

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.