บทที่ 226: ท่านแม่ ท่านพ่อจ้องเสี่ยวเหยา!

[จบแล้ว] ขนเสบียงนับล้าน มาเป็นมาร(ดา)ของเหล่าวายร้าย (อ่านฟรีวันละตอน 12.00)

-A A +A

บทที่ 226: ท่านแม่ ท่านพ่อจ้องเสี่ยวเหยา!

“น้ำร้อนพร้อมแล้ว!”

 

หลังจากนั้นไม่นาน เป้าเฟิงก็เข้ามาในบ้านพร้อมชามน้ำร้อน

 

ชายหนุ่มเดินอย่างไม่เร่งรีบ เดิมทีเขาเป็นคนหยาบกระด้างเหมือนภูตชายทั่วไป แต่เขาก็ระมัดระวังมากในการปกป้องน้ำในชาม เพราะเขากลัวว่ามันจะกระเด็นไปลวกหวงเยว่

 

“หวงเยว่ ดื่มน้ำดับกระหายเสียสิ”

 

หงส์สาวดึงสติตัวเองกลับมามองคนเป็นสามีที่มีใบหน้าใสซื่อ… ไม่สิ โง่เขลา ก่อนที่นางจะหันหน้าไปทางอื่นด้วยความขยะแขยง และพูดเสียงเย็นชา

 

“ข้าไม่อยากดื่ม เอาออกไปซะ”

 

คำตอบของภรรยาสาวทำให้เป้าเฟิงยืนแข็งค้างอยู่กับที่ ก่อนจะเกาหูด้วยความงุนงงเพราะเขาไม่รู้ว่าตนเองทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจตรงไหน

 

ในตอนที่ทั้งคู่ตกลงปลงใจกัน หวงเยว่ยังคงทำตัวปกติ นางทั้งอ่อนโยน นุ่มนวล แล้วคำพูดคำจาของนางก็ไพเราะราวกับเสียงนกร้อง

 

แต่ทำไมตอนนี้นางถึงกลายเป็นคนเย็นชาเฉยเมยกันล่ะ?

 

“หวงเยว่ เจ้าไม่ชอบข้าแล้วหรือ…” เสือดาวหนุ่มรู้สึกเสียใจจึงถามออกมาพร้อมกับมีสีหน้าเศร้าหมอง

 

หงส์สาวลูบขมับตัวเองอีกครั้งและตอบอย่างเด็ดขาดว่า “เปล่า”

 

ในตอนนี้นางต้องโกหกเจ้าคนทึ่มนี่ก่อน

 

เมื่อเป้าเฟิงได้ยินคำตอบของหวงเยว่ ใบหน้าเศร้าหมองของเขาก็ดีขึ้นเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงกังวลไม่หาย

 

“แล้วทำไมเจ้าไม่กินหรือดื่มอะไรเลยล่ะ มันไม่ดีต่อสุขภาพของเจ้านะ เจ้าผอมเกินไป เจ้าต้องกินให้มากหน่อย”

 

“หวงเยว่ เจ้าผอมมากเลย ถ้าเจ้าเกิดป่วยขึ้นมาจะต้องแย่แน่ และการที่เจ้าผอมเกินไปมันจะส่งผลต่อการตั้งครรภ์…”

 

“เจ้าอยากกินอะไรก็บอกข้ามา ข้าจะทำให้เจ้าเอง”

 

ในเวลาเดียวกัน หวงเยว่ปิดตาลงพลางฟังเขาพูดพล่ามต่อไป

 

เมื่อนางได้ยินประโยคสุดท้ายจากปากชายหนุ่ม นางก็ลืมตาขึ้นและพูดว่า

 

“ถ้าอย่างนั้นข้าอยากกินเหยื่อสด ๆ เจ้าออกไปจับมันตอนนี้เลยได้ไหม?”

 

ด้วยวิธีนี้ นางจะสามารถกำจัดคนงี่เง่าที่ทำให้หูของนางชาได้!

 

พอเป้าเฟิงได้รู้ว่าหญิงสาวต้องการอะไรก็พยักหน้าโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา

 

“ตกลง! ข้างนอกหิมะหยุดตกแล้ว ข้าจะไปจับเหยื่อมาเดี๋ยวนี้!”

 

ชายหนุ่มพูดขณะที่กำลังเปิดประตูบ้าน จากนั้นเขาถอดหนังสัตว์บนตัวออก แล้วเปลี่ยนร่างเป็นเสือดาวเพื่อออกไปล่าสัตว์

 

แล้วสีหน้าขยะแขยงของหวงเยว่ก็แข็งทื่อทันที

 

ผู้ชายคนนี้โง่เกินเยียวยาจริง ๆ!

 

ปัจจุบันภูเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสัตว์ป่า ถ้าเขาสามารถมองเห็นนกก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว ไอ้หมอนี่ยังมีหน้าจะออกไปล่าเหยื่อในสภาพแวดล้อมเช่นนี้อีก

 

เขาไม่กลัวที่จะออกไปแล้วหนาวตายอยู่ข้างนอกคนเดียวหรือไง?

 

ช่างโง่เขลาเสียจริง!

 

“ช่างเถอะ ๆ ข้าไม่อยากกินเหยื่อสดแล้ว เอาผลไม้มาให้ข้าก็พอ”

 

หวงเยว่รีบห้ามปรามคนซื่อบื้อไว้ทันที ก่อนจะชี้นิ้วไปยังส้มโอที่ปอกแล้วบนโต๊ะ

 

“เอ้านี่! กินให้เยอะ ๆ เลย”

 

เมื่อเป้าเฟิงได้ยินเช่นนี้ก็หันกลับมาหยิบผลไม้ไปประเคนให้นางทันที พร้อมกับแสดงรอยยิ้มไร้เดียงสา

 

ส่วนหงส์สาวยัดเนื้อส้มโอเข้าไปในปากของตัวเอง ไม่นานรสเปรี้ยวอมหวานก็กระจายในปากซึ่งทำให้สดชื่นขึ้นมาก

 

นี่ดูเหมือนจะเป็นผลไม้ที่อร่อยที่สุดเมื่อเทียบกับผลไม้ที่นางได้กินในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

 

จากนั้นหญิงสาวกลอกตามองไปทางเป้าเฟิงที่กำลังยิ้มกว้าง แล้วนางก็มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ปะทุขึ้นมาในหัวใจ

 

เจ้าหน้าโง่คนนี้ดูแลนางในฐานะผู้หญิงธรรมดาและบอบบางด้วยใจจริง... แต่ช่างน่าเสียดายที่นางไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาคิด

 

 

“หัวหน้า หิมะข้างนอกหยุดแล้ว”

 

ทันทีที่หิมะหยุดลง ภูตหมาป่าก็วิ่งเข้าไปในถ้ำเพื่อรายงาน

 

“ในที่สุดก็หยุดสักที…” หลางซัวที่กำลังงีบหลับบนหนังสัตว์อย่างเกียจคร้านลืมตาขึ้น ก่อนจะบิดตัวไปมา 2-3 ครั้งด้วยท่วงท่าที่ชวนหลงใหล

 

“มันนานจนข้าไม่อยากอยู่ในสถานที่สกปรกแบบนี้อีกต่อไป หลางเมี่ย เจ้าจงรวบรวมทุกคนเพื่อไปคว้าชัยชนะโดยเร็ว”

 

เมื่อหลางเมี่ยได้ยินผู้นำของเผ่าเรียกชื่อตน เขาก็กระโดดขึ้นจากพื้นเหมือนติดสปริงและขานรับเสียงดัง

 

“รับทราบ หัวหน้า!”

 

ตอนนี้สภาพร่างกายของหลางเมี่ยเต็มไปด้วยพลัง ซึ่งไม่มีแม้แต่รอยแผลเป็นบนร่างกายเลยสักแห่ง ปัจจุบันเขาแตกต่างจากรูปลักษณ์ที่ไหม้เกรียมเป็นตอตะโกก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

 

ส่วนอูหลิวที่ยืนอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วและพูดขัดขึ้นมาเสียงดัง

 

“หัวหน้า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดในการโจมตี”

 

ฤดูหนาวเพิ่งผ่านมาได้เพียง 10 วัน และเสบียงของเผ่ายังหมดไปไม่มากนัก นี่เป็นเวลาที่ฝ่ายตรงข้ามยังมีแรงเหลือเฟือกันอยู่

 

หากเลือกโจมตีในเวลานี้ การฝ่าเข้าไปในเผ่าจะทำได้ยากขึ้น

 

ทว่าหลางซัวลุกขึ้นยืนแล้วบิดคอไปทางซ้ายทีขวาที ทำให้กระดูกตามตัวลั่นเสียงดัง และพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย

 

“พวกมันเป็นแค่เผ่าเล็ก ๆ ที่คนจากเผ่าที่ล่มสลายมาอาศัยอยู่ด้วยกัน การต่อสู้คงจะสบาย ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนักหรอก”

 

ปัจจุบันชายหนุ่มลืมสิ่งที่พูดคุยกับอูหลิวไปหมดแล้ว

 

นั่นทำให้ชายชราหมดหนทาง เขาไม่คาดคิดว่าหัวหน้าเผ่าจะบ้าบิ่นถึงขนาดนี้ และต้องการเกลี้ยกล่อมเขาอีกครั้ง “แต่เผ่านี้มีอาวุธแปลก ๆ ข้าเกรงว่า—”

 

“ไม่มีอะไรต้องกังวล ตราบใดที่เจ้าไม่ตาย ก็แค่ให้หมอผีรักษาเจ้า”

 

หลางซัวโบกมือแบบขอไปที เขาไม่สามารถทนฟังเสียงของชายแก่หลังค่อมได้อีก ก่อนจะเดินออกจากถ้ำไป

 

ภูตหมาป่าที่อยู่รอบ ๆ ก็ลุกขึ้นหลีกทางให้ผู้เป็นนายอย่างรวดเร็ว

 

ส่วนอูหลิวทำได้เพียงถอนหายใจ แต่ก็ยังเดินตามอีกฝ่ายออกไปแบบไม่เต็มใจนัก

 

ในขณะเดียวกัน ภูตหมาป่ากลุ่มหนึ่งถูกทิ้งไว้ข้างหลัง พวกเขามองไปที่หลางเมี่ยอย่างงุนงง “พี่เมี่ย เราควรระวังตัวไว้ก่อนดีหรือไม่?”

 

หลางเมี่ยตบหน้าผากลูกน้องผู้ตั้งคำถามก่อนจะก่นด่าว่า “ไร้สาระ ถึงยังไงเราก็ต้องสู้กับพวกมันอยู่แล้ว พอสงครามจบลงเราจะได้รีบกลับไปที่เผ่า ข้าเองก็ไม่อยากทนอยู่ที่นี่แล้วเหมือนกัน น่าเบื่อจะตายชัก”
 

หลังจากพูดจบเขาก็เตะภูตที่อยู่ข้าง ๆ อย่างไม่สบอารมณ์ 

 

“เร็วเข้า อย่ามัวชักช้า!”

 

จากนั้นกลุ่มภูตหมาป่าก็จัดเสบียงและเสื้อผ้าเพื่อเตรียมออกเดินทาง ราวกับว่าพวกเขาเคลื่อนไหวแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

 

 

ในเผ่า

 

ขณะนี้หูเจียวเจียวและลูก ๆ กำลังปั้นตุ๊กตาหิมะเล่น จนกระทั่งมีตุ๊กตาหิมะทั้งหมด 8 ตัว ซึ่งตุ๊กตาหิมะ 7 ตัวมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกัน

 

เดิมที หลงเหยาวางแผนที่จะสร้างตุ๊กตาหิมะเป็นรูปร่างเหมือนหลงโม่แล้วแก้แค้นอีกฝ่าย แต่หลังจากที่เขาสร้างมันขึ้นมา เขาก็ลังเลที่จะทำลายมัน

 

นี่คือตุ๊กตาหิมะตัวแรกที่เขาสร้าง!

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เจ้าตัวแสบก็ปั้นตุ๊กตาหิมะรูปพ่อมังกรให้มีจมูกและปากเบี้ยวเพื่อระบายความคับแค้นในใจของเขา

 

ในตอนที่หลงโม่ออกมาข้างนอก เขาเห็นตุ๊กตาหิมะตัวเล็กสวยงาม 7 ตัว และตุ๊กตาหิมะหน้าตาน่าเกลียดตัวหนึ่งที่ดูสูงกว่าตัวอื่น

 

“...”

 

อย่าบอกนะว่านั่นคือข้า

 

ทันทีที่หลงเหยาเห็นผู้เป็นพ่อเดินมาใกล้ ๆ เขาก็กระโดดไปซ่อนอยู่ด้านหลังแม่จิ้งจอกเพราะกลัวถูกพ่อมังกรจับตัวไปฟาดก้น

 

“ท่านแม่ ท่านพ่อจ้องเสี่ยวเหยา” คนตัวเล็กบ่นเบา ๆ

 

หูเจียวเจียวกำลังจัดกิ่งไม้ให้ตุ๊กตาหิมะของตัวเอง พอเธอหันกลับมาเห็นตุ๊กตาหิมะหน้าตาอัปลักษณ์ของลูกชาย เธอก็แทบจะพ่นน้ำลายออกมา

 

“อุ๊บ! ตุ๊กตาหิมะตัวนี้...” 

 

น่าเกลียดชะมัด…

 

มันน่าเกลียดกว่าตุ๊กตาหิมะตัวจ้ำม่ำที่เป็นตัวแทนของหลงเหยาเสียอีก!

 

เมื่อหลงโม่ได้เห็นเช่นนั้นก็มีสีหน้าบึ้งตึงทันที ก่อนที่เขาจะเดินไปข้างหน้าเพื่อหิ้วหลงเหยาขึ้นมา

 

“ช่วยด้วย! ท่านแม่ ช่วยด้วย! ท่านพ่อกำลังจะฆ่าเสี่ยวเหยา!”

 

เจ้าตัวเล็กตะโกนสุดเสียงอย่างหวาดกลัว พลางเตะขาสั้น ๆ ไปมาเหมือนลูกสัตว์ที่ถูกดึงเนื้อตรงหลังคอ

 

“หุบปาก” หลงโม่ดุเสียงต่ำ แล้วเด็กน้อยก็ยกมือปิดปากตัวเองในทันใดพลางมองไปที่ผู้เป็นพ่อด้วยความตกใจ

 

“เล่นพอแล้ว ได้เวลากลับเข้าบ้านแล้ว”

 

มังกรหนุ่มเพียงแค่ต้องการอุ้มหลงเหยากลับไปที่บ้านหินพร้อมกับเรียกทุกคนด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

 

หูเจียวเจียวก็เพิ่งตระหนักว่าวันนี้เธอออกมาเล่นข้างนอกเป็นเวลานาน เธอไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ามือและเท้าของตนเย็นมากแค่ไหน

 

ถัดมา หญิงสาวยิ้มให้คนเป็นสามี ก่อนจะปัดหิมะตามตัวออกและเตรียมที่จะพาลูกคนอื่นกลับเข้าบ้าน

 

แต่หลังจากที่เธอก้าวไปได้ 2 ก้าว จู่ ๆ ก็มีบางอย่างอุ่น ๆ มาอยู่ในมือเธอ

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.