บทที่ 6 หลุมพรางโฉมสะคราญ

นักบู๊หฤโหด

-A A +A

บทที่ 6 หลุมพรางโฉมสะคราญ

บทที่ 6 หลุมพรางโฉมสะคราญ

 

ซงซานประกอบด้วยทิวเทือกบรรพตมากมาย ภูมิประเทศสลับซับซ้อนสูงชันอันตราย โขดหินระเกะระกะปรากฏต้นไม้ใบหญ้างอกเงยเติบโต สะท้อนประกายร้อนแรงใต้แสงอาทิตย์ ปุยเมฆคลอเคล้าลอยอ้อยอิ่ง สายลมลูบไล้แตกสลายพลัดพลิ้วกระจัดกระจาย หมอกยามเช้าเพิ่งผ่านพ้นบรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นอบอุ่นโปร่งโล่งสบาย

 

ทันใดชายหนุ่มเสื้อครามก้าวเนิบนาบเหลียวมองรอบบริเวณด้วยใบหน้ากระด้างเย็นชา มุมปากประดับรอยยิ้มอันทารุณเหี้ยมโหด  ข้างทางเปิดแผงน้ำชาเล็กๆ ชายชราแต่งกายซอมซ่อยืดเอวจับจ้องมองชายหนุ่มนั้น คนเสื้อครามผงกศีรษะทักทายกล่าวว่า

 

"รบกวนท่านผู้เฒ่านำชาหลงจิ่งมาให้แก่เราเถอะ"

 

ชายชราเจ้าของแผงรับคำรอชั่วขณะมันค่อยยกถาดถึงโต๊ะชายหนุ่ม คนเสื้อครามยื่นมือเรียกรั้งไว้ เพ่งตาคมวาวราวอาวุธเลียบเคียงถามไถ่

 

"เช้าตรู่ใช่เห็นสตรีสองนางเร่งรุดขึ้นเขาผ่านทางหรือไม่"

 

ชายชราเสื้อผ้าซอมซ่อแม้หวาดหวั่นต่อประกายคุกคามคน ยังแยกเขี้ยวยิ้มประจบหัวร่อฮาๆ

 

"กงจื่อกล่าวไม่ผิด พวกนางเพิ่งจากไปประมาณหนึ่งชั่วยาม ดูท่าท่านคงรู้จักสองนายบ่าวนั้นแล้ว"

 

ชายหนุ่มเสื้อครามเงียบงันหาตอบวาจา ยัดเยียดเงินแท่งแก่มันพลางรินชาใส่ถ้วยไม่แยแสอีก ชายชรานั้นก้มลงมองแวบ ที่แท้จำนวนทั้งสิ้นสองตำลึง กลืนน้ำลายรีบทำท่าส่งเงินแท่งคืนต่อชายหนุ่ม ตะกุกตะกักสีหน้าลนลาน

 

"มากมายถึงเพียงนี้เรามิกล้ารับ ขอกงจื่อนำคืนไปด้วย"

 

"หากก่อกวนเราอีกครึ่งคำ จะให้ขาดใจตายอย่างทรมาน"

 

น้ำเสียงเย็นเยียบเสียดกระดูกแม้เหลือบแลยังไม่เหลือบแล ชายชราเสื้อผ้าซอมซ่อกายสั่นงันงก ล่าถอยถึงหน้าแผงแตกตื่นจนหลั่งเหงื่อชุ่มโชกแล้ว เมื่อครู่สตรีสะคราญปานหยาดฟ้า ตอนนี้กลับพบพานบุรุษหล่อเหลาราวสลักจากหยก เพียงบุคลิกหยิ่งทะนงนิสัยเหี้ยมโหดเปี่ยมอาถรรพ์ฆ่าฟันเข้มข้นยิ่ง

 

คนเสื้อครามหลังดื่มกินเสร็จสรรพ ทิ้งเงินแท่งลงบนโต๊ะหันกายสาวเท้ามุ่งขึ้นเขา ชายหนุ่มผู้นี้ย่อมเป็นเซี่ยเคอ สืบเนื่องเร่งรุดติดตามตลอดทั้งราตรี จึงแวะพักเอาแรงครู่ใหญ่ กงจู่ชุดขาวสองนายบ่าวน่ากลัวบรรลุถึงบนเส้าหลินแล้ว พอฉุกคิดกระโดดปราดกรีดวาบดุจหมอกควันเบาบาง ลดเลี้ยวหักสอกทางภูเขาประมาณลี้เศษ บันไดหินทอดยาวขึ้นสู่วัดวาพลันปรากฏ ขณะจะโลดแล่นสืบต่อมิคาดด้านซ้ายขวาแว่วเสียงแกร่งกร้าวตวาดกึกก้อง

 

"ผู้มาโปรดหยุดเท้า"

 

ขาดคำหลวงจีนชราหนึ่งอ้วนหนึ่งผอมมือยึดถือไม้เท้าพระธรรมทะยานขวับแยกย้ายสกัดขวางทาง เซี่ยเคอชะงักกายยืนหยัดห่างประมาณแปดเชียะ คิ้วเรียวขมวดมุ่นสีหน้ายังข่มเป็นปรกติแค่นเสียงยะเยียบปานหล่มหิมะ หลวงจีนผอมซูบทางขวาประนมมือสรรเสริญพระคุณเอ่ยถาม

 

"โอมมณีตัสสะประสกประกาศนาม บ่งบอกเจตนาให้ชัดเจน"

 

"ในวัดไม่มีเหตุการณ์ผิดวิสัยกระมัง"

 

วาจาอันจับต้นชนปลายไม่ถูก สร้างความงุนงงแก่หลวงจีนทั้งสอง เหลือบแลสบตากันวูบหลวงจีนอ้วนใหญ่พลันขมวดคิ้วสำทับ

 

"วาจากล่าวให้ชัดเจน ยังหวังประสกประกาศนาม"

 

"ฮาๆชื่อแซ่ต่ำต้อยไหนเลยเป็นที่รู้จัก"

 

ตาทอประกายเกรี้ยวกราดวูบเค้นเสียงสืบต่อ

 

"ก่อนหน้าข้าพเจ้ารุดมา ใช่มีหนึ่งสตรีสาวหนึ่งดรุณีรับใช้ขึ้นเขาหรือไม่"

 

"อ้อ!ประการนี้ขออภัยประสกน่ากลัวพลาดผิดแล้ว"

 

หลวงจีนผอมซูบส่ายศีรษะ ชายหนุ่มรักษาความกระด้างลี้ลับส่งเสียงอ้อพลางถดถอยสองก้าวประสานมือขอตัว

 

"อย่างนั้นขอลา"

 

หลวงจีนอ้วนใหญ่คล้ายฉุกคิดถึงสาเหตุประการณ์หนึ่ง ชิงยื่นไม้เท้าขวางกันกล่าวอย่างสำรวม

 

"ประสกส่อเจตนาลี้ลับ อาตมาขอเรียนถามอีกประโยค ท่านชื่อแซ่ใดมีประวัติเป็นมาอย่างไร"

 

เซี่ยเคอเพ่งตาแน่วนิ่ง ปลายไม้เท้าอีกฝ่ายหดรั้งกลับ จึงเค้นเสียงกระด้างตอบ

 

"นักบู๊หฤโหด"

 

หลวงจีนทั้งสองแตกตื่นหน้าถอดสี สำหรับฉายานี้นับว่าเพิ่งยินเป็นคราแรกจริงๆ ยามนั้นพากันกราดตาสำรวจชายหนุ่มเสื้อครามราวนัดแนะ เขาลบคราบยาปลอมแปลงออกแต่แรก คิ้วเรียวโค้งจมูกโด่งองคาพยพทุกส่วนกลมกลืนไร้ตำหนิ ขาวละเอียดหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาประดุจหยก เคลือบคลุมเค้ากระด้างน่าหวาดหวั่นชั้นหนึ่ง กอบเป็นบุคลิกทะนงลำพองและกล้าหาญเด็ดเดี่ยว เงาสีครามขยับวูบวาบกรีดขวับเข้ายังป่าขวามือทันที กระทั่งหลวงจีนผอมซูบสายตาคมกล้าปานใด ยังไม่อาจสังเกตุถนัดชัด ทอดถอนใจยาวหันรำพึงกับหลวงจีนอ้วนใหญ่

 

"โอ้!ทำเนียบยอดฝีมือรุ่นเยาว์ถึงคราวสั่นคลอนแล้ว"

 

"มิได้ประมือท่านสามารถยืนยันแน่หรือ"

 

ขณะจะตอบคำรู้สึกข้างกายคล้ายปรากฏลมเย็นพัดผ่าน กลิ่นหอมประหลาดโชยปะทะนาสิก หลวงจีนอ้วนใหญ่ใบหน้าเคร่งขรึมสำรวม กวาดตาสำรวจบริเวณยกไม้เท้าป้องอกตวาดร้องสุดเสียง

 

"ผู้ใด"

 

ทั่วสี่ทิศแปดทางแว่วเสียงหัวร่อไพเราะเจื้อยแจ้วเสียงหนึ่งกระทบโสต หลวงจีนทั้งสองอากัปกิริยาพอตื่นตัว ก็ผละแยกยืนหยัดตามตำแหน่งส่งเสียงตวาดถามซ้ำๆซ้อนๆถึงสามครั้งครา ปราศจากสำเนียงผิดปรกติอันใด จิตใจเริ่มเขม็งเกร็งบรรยากาศตึงเครียดทีละน้อยแล้ว

 

"เฮอะๆ!หลวงจีนเฒ่า"

 

ซุ่มเสียงแหลมเล็กคล้ายอยู่ห่างหกวาเพียงทิศทางตรงกันข้าม สร้างความตระหนกแตกตื่นแก่ทั้งสองใจสั่นสะท้านปานขาดรอน กระทั่งเงาร่างอีกฝ่ายยังมิทันสังเกตุพบ ห้วงสมองหวนประวัติหรือจะเป็นนายบ่าวสตรีชุดขาวและดรุณีรับใช้คู่นั้นที่ชายหนุ่มเสื้อครามถามไถ่ รีบเกร็งกำลังถาโถมยังต้นเสียงไหนเลยเคยคาดคิด ไม่ผนึกลมปราณพอทำเนาพลังภายในเพิ่งก่อเกิดท้องน้อยพลันปวดแปลบราวเข็มร้อยๆพันๆทิ่มแทงใส่ หลวงจีนผอมซูบกระแทกโครมทรุดนั่งอ้าปากกระอักโลหิตฉีดพุ่ง

 

"ย่ำแย่พวกเราหลงกลเด็กหญิงนั้นแล้ว"

 

กล้ามเนื้อสั่นกระตุกขยับเขยื้อนริมฝีปากเค้นเสียงขุ่นแค้น หลวงจีนอ้วนใหญ่ส่ายร่างโงนเงนล้มพับสิ้นสติอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง

 

ทางภูเขาคดเคี้ยวเงาร่างสีเขียวพุ่งปราดกระโดดขวับๆ แคล่วคล่องว่องไวราวสกุณาน้อยถลาลม แต่ละคราพอแตะหยั่งกำลังห่างร่วมแปดวา ทอดระยะไม่ขาดไม่เกินแม้แต่น้อย คล้ายทุ่มเทจนสุดฝีเท้า พริบตาบรรลุจุดตรวจที่สองหลวงจีนกลางคนสูงใหญ่ศีรษะล้านเลี่ยนเป็นมันวาวโถมสกัดขวางหน้า ส่งเสียงประหนึ่งอัสนีบาตฟาดทำลาย สะท้านแก้วหูอึงอลแทบแตกสลาย

 

"ประสกหญิงโปรดชะงักเท้าตอบวาจา"

 

ร่างปานเจดีย์เหล็กกระชับดาบพระแนบแน่น เขม่นประกายสองสายครอบคลุมใส่ ดรุณีเสื้อกระโปรงเขียวเกล้าผมสองมวยเสียบปิ่นประดับไข่มุกนวลใยตวาดเสียงแหลมเล็ก มือซ้ายพลิกวูบแส้อ่อนหนึ่งวาแปดเชียะควงตวัดจู่โจมดุจงูเงินปราดเปรียว หลวงจีนสูงใหญ่อุทานประหลาดพิกลกวัดแกว่งดาบในมือขวาเข้าปะทะปัดป่าย ปลายแส้เบนตำแหน่งจุดชีวิตหว่างคิ้วสองตาคอหอย พลันดีดขวับวกวูบหวดใส่ศีรษะด้านซ้ายมันดุจประกายไฟ สร้างความลนลานแก่หลวงจีนนั้นจนเหงื่อกาฬหลั่งโซมกาย ถดถอยสองก้าวตวัดดาบเฉียงๆปิดป้องสภาวะโหดร้ายผ่านพ้นคำรบสอง

 

ดรุณีเสื้อกระโปรงเขียวข้อมือชาวูบกู่ร้องสดใสเร่งเร้าเพลงอาวุธกระหน่ำรุกไล่ แส้อ่อนด้านระยะถือว่ามีเปรียบ มิหนำฉวัดเฉวียนเวียนวนยอกย้อนลี้ลับยากคาดเดา หลวงจีนเฝ้าปากทางหะแรกมือไม้ปั่นป่วนวุ่นวาย แทบถูกหวดทำร้ายเฉียดจุดสำคัญหวุดหวิดหวาดเสียวยิ่ง ชั่วขณะค่อยระงับสติจดจ่อรับมืออย่างรัดกุมเข้มแข็ง ทันใดตัวแส้ม้วนพันวูบราวอสรพิษร้ายโผล่พ้นถ้ำ กายแน่งน้อยดีดขวับคุกคามด้านตรง หลวงจีนสูงใหญ่ฟาดฟันดาบชิงสกัดกลางคัน ปากสรรเสริญพระพุทธคุณถามไป

 

"โอมมณีตัสสะ ประสกหญิงไฉนโหดเหี้ยมคิดฆ่าคน"

 

ดรุณีอาภรณ์เขียวเบี่ยงกายเคลื่อนขวางสองเชียะ ลดแส้กวาดใส่หว่างเอวอีกฝ่าย ส่งเสียงแค่นเฮอะๆตลอดเวลา หลวงจีนนั้นงงงันวูบกรีดดาบต้านปะทะอย่างหักโหม ตัวแส้ห่างนิ้วเศศดรุณีน้อยควงข้อมือติดต่อกันหลายรอบ ดาบพระถูกม้วนพันไม่อาจใช้ออก

 

หลวงจีนรูปนั้นตวาดหนักๆพลันเร่งเร้ากำลังภายในบรรจุเข้าใส่ มืออีกข้างกราดฟาดลงยังศีรษะผู้บุกรุก ดรุณีชุดเขียวแย้มยิ้มหยาดเยิ้มแขนขวาสลัดรั้งดึงทางเบื้องนอก ย่อกายก้าวเฉียงหลบหลีกสองก้าวนิ้วชี้กลางข้างซ้ายประกบจี้ขึ้นไปหลวงจีนเฝ้าปากทางรู้สึกตึงวูบร่างไถลเสียหลักเล็กน้อย สภาวะแส้ผ่อนคลายสาบสูญ ชีพจรข้อมือขวาปวดแปลบสุดทนทาน ที่แท้พริบตาแขนเสื้อดรุณีชุดเขียวสะบัดขึ้นลอบบังคับเข็มเล็กละเอียดดุจขนวัวเล่มหนึ่งแหวกพุ่งนำหน้า พลังดรรชนีเพียงหลอกล่อให้อีกฝ่ายรับมือ เพิ่งส่งเสียงคำรามเหลือกตาโปนโต อาการชาด้านแผ่ลามถึงไหล่ขวา รีบสะกดกลั้นเลือดลมจี้จุดยับยั้ง ดรุณีลึกลับพลันสาบสูญไร้ร่องรอย

 

ขบกรามกรอดล้วงหวีดทองเหลืองจากอกเสื้อ เป่าเป็นเสียงยาวสามสั้นสี่ สัญญาณเตือนภัยกังวานแหลมเล็กสะท้อนระหว่างหุบเหวบรรพตเนิ่นนาน เงาจีวรพลุกพล่านสับสนระฆังมหึมาบนหอสูงย่ำตัง.ตัง.ตัง อารามส่วนหน้าคล้ายบังเกิดความโกลาหลขึ้นแล้ว เหล่าหลวงจีนถูกเรียกให้ชุมนุมยังประตูวัด กระทั่งตีนเขาพลอยตรวจตราเข้มงวดกวดขัน

 

อาทิตย์แดงฉานเหนือศีรษะยามเที่ยงเพิ่งผ่านพ้นครู่ใหญ่ ทันใดจุดสีครามจุดหนึ่งพลันวาบสู่คลองจักษุ หลวงจีนสี่รูปผลัดเปลี่ยนประจำการ ผุดลุกกระจายสี่มุมสกัดขวางไว้ ชั่วพริบตาเงาประหลาดขยายใหญ่ขึ้นทีละน้อย ชายหนุ่มเสื้อครามหวนกลับโลดแล่นอย่างเร่งร้อน

 

"กลางวันแสกๆประสกกล้าบังอาจบุกรุกเขตสถาบันสงฆ์หรือไร"

 

เสียงกึกก้องพร้อมถลันเฉียงๆหลวงจีนจีวรเทาสองรูปดาหน้าเข้ารับห่างแปดเชียะ เซี่ยเคอเหลือบแลผ่านแวบด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน หากคิดอธิบายน่ากลัวเปลืองวาจาเหตุผลมากหลาย มิหนำเขาไม่ถนัดเจรจาเท่าใด ทั้งยังอาจกระทบกระเทือนให้เกียรติภูมิสำนักอาจารย์ด่างพร้อยเกิดมลทิน หัวร่อเฮอะๆสองมือประกบกรีดปาดด้วยกระบวนท่าลี้ลับพิสดาร

 

หลวงจีนจีวรเทางุนงงวูบไม้เท้าพระธรรมแยกย้ายหนึ่งบนหนึ่งล่าง กวาดฟาดกระหน่ำดุจขุนเขาทลาย เงามากมายกระจัดกระจายเกลื่อนฟ้า ผสานพลังลมแกร่งกร้าวรุนแรง กระบวนท่าพอใช้ถึงกลางคันเป้าพลันสาบสูญ ที่แท้เซี่ยเคอเพียงหลอกล่อกระตุ้นอีกฝ่ายลงมือ รอจนปลายไม้เท้าใกล้บรรลุย่อกายหมุนคว้างรอบหนึ่ง สองมือพอยื่นออกก็จี้สกัดจุดหลับกลางหลังหลวงจีนจีวรเทาสองรูปแรกล้มลง

 

อีกสองเห็นวิชาท่าเท้าคนเสื้อครามรวดเร็วปานนี้ อดสะท้านใจส่งเสียงสรรเสริญพุทธคุณดังกังวาน ไม้เท้าทั้งคู่กราดกระหน่ำชิงรุกเอาเปรียบ หลวงจีนทางซ้ายทั้งกวาดทั้งจี้ ใช้ออกสิบแปดไม้เท้าในอึดใจเดียว ขณะหลวงจีนทางขวาควงอาวุธราวพายุ วงกลมสุดคณานับแตกทะลักครอบคลุมรัศมีวาเศษ คล้องใส่ศีรษะเซี่ยเคอโดยพร้อมเพรียง กระบวนท่าผสานจู่โจมคำรบสอง กลับแน่นหนารัดกุม ปิดสกัดหนทางล่าถอยสิ้นเชิง

 

"มาได้ประเศริฐ"

 

แค่นเสียงตวาดชมเชยแล้วพลิกมือทั้งสองง๋ายใจกลาง พลังดึงดูดมหาศาลแผ่อบอวนกดทับผู้คนแทบขาดห้วง หลวงจีนจีวรเทาทางซ้ายรู้สึกเผชิญลมปราณอันพิสดารยากแข็งขืน ถลาซวนเซครึ่งก้าว ตัวไม้เท้าพลันดีดกระดอนขึ้นไป รีบส่งเสียงร้องเตือนอีกผู้หนึ่งทันที

 

"รั้งกระบวนท่าล่าถอย"

 

ไหนเลยทันท่วงที เสียงอุทานร่ำร้องระงม ไม้เท้าทั้งสองถูกชักนำกระทบกันถนัดถนี่ ก่อกวนเลือดลมพลุ่งพล่านปั่นป่วนจนหน้าบิดเบี้ยว  พริบตานั้นเองชายหนุ่มพลันดีดพุ่งดรรชนีสองสาย เงาสีเทาแผดร้องพลางล้มคว่ำฟุบแน่นิ่งในมือยังกำอาวุธแนบแน่น เซี่ยเคอทุ่มเทฝีเท้าโลดตะบึงชั่วขณะไม่พบพานจุดตรวจอันใด คาดว่าคงโยกย้ายแออัดเฝ้าตรวจตราหน้าซุ้มประตูใหญ่ ขณะสถานการณ์ตึงเครียดเขม็งเกร็ง ประดาหลวงจีนต่างมึนงงสงสัยสมองพองโต...

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.