บทที่ 2...3/3

ขอเพียงรักนี้นิรันดร

-A A +A
อ่านต่อ

บทที่ 2...3/3

          กาญเกล้ามองธามิณีที่มาถึงบ้านในสภาพปกติดี ไม่มีบาดแผลแม้แต่รอยเดียว มันเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเธอเห็นว่ารุ่นพี่คนนั้นกับเพื่อนตามธามิณีไปที่ห้องน้ำ ซึ่งรู้กันว่างานนี้มีตบแน่ ครั้นเธอจะไปถามกับธามิณีหรือรุ่นพี่ก็ไม่ได้เพราะคงถูกสงสัย แต่ถึงกระนั้นกาญเกล้าก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะแกล้งจนธามิณีอยู่ไม่ได้ แล้วขอย้ายออกไปจากบ้านเอง เพียงแต่เธอรอให้เวลาผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์จึงวางแผนใหม่ คราวนี้เธอมั่นใจว่าต้องได้ผลแน่ๆ

          “วันนี้กลับบ้านพร้อมกันนะ อ้อ ไม่ใช่ว่าฉันอยากกลับกับเธอหรอกนะ แต่เป็นเพราะแม่สั่ง” กาญเกล้าเอ่ยในเช้าวันศุกร์ก่อนเริ่มเรียนคาบแรก

          ธามิณีไม่ไว้ใจกาญเกล้านัก แต่แค่กลับบ้านพร้อมกันคงไม่มีอะไรกระมัง

          “ถ้างั้นไปเจอกันหน้าปากซอยแล้วกัน”

“ก็ได้”

กาญเกล้ายิ้มให้ธามิณี เธอหวังว่ายิ้มนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย การต้องมาอยู่ร่วมบ้านกับคนที่ดีกว่าตัวเองทุกอย่างจนถูกเปรียบเทียบมันไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นคงมีแค่ธามิณีกลัวแล้วช่วยกลับไปอยู่ในที่ของตัวเองเท่านั้น

 

ธามิณีมารอกาญเกล้าที่หน้าปากซอยในเวลา 1 ทุ่ม หลังจากเลิกซ้อมเชียร์กีฬาสีซึ่งจะมีในสัปดาห์หน้า ผ่านไป 15 นาที ธามิณีจึงโทรหากาญเกล้าเพราะไม่ไว้ใจอีกฝ่ายว่าจะแกล้งอะไรเธออีกหรือเปล่า เสียงของกาญเกล้าขาดๆ หายๆ เหมือนกับมีเรื่องกับใครอยู่ เสียงดังมาก ประโยคสุดท้ายที่เธอได้ยินคือ

‘กลับบ้านไปซะ ไม่ต้องรอฉันแล้ว พวกแกอย่าเข้ามานะ ไม่งั้นมีตบแน่’

ธามิณีเดาว่าคู่กรณีของกาญเกล้าคงเป็นรุ่นน้องมัธยม 4 กระมัง วันก่อนเธอบังเอิญได้ยินว่ากาญเกล้ากับรุ่นน้องคนหนึ่งเคยมีเรื่องกันมาเมื่อเทอมที่แล้ว การมีเรื่องมีราวของกาญเกล้าเป็นเรื่องที่เธอไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยวนักเพราะมันเกิดขึ้นประจำ แต่กาญเกล้าก็ปิดรัดเกล้ามาได้ตลอด

การกลับบ้านไปแล้วบอกให้เตวินที่น่าจะกลับจากมหา’ลัยแล้วไปช่วยกาญเกล้าคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ถ้าเพียงแต่ว่าจะไม่มีชายแปลกหน้า 3 คนเดินเข้ามาหาธามิณี เธอไม่เห็นใครในบริเวณใกล้ๆ เพราะฉะนั้นการเลี่ยงไปจากตรงนี้แล้ววิ่งกลับบ้านซึ่งห่างไปพอสมควรน่าจะดีกว่า แต่ว่าชายแปลกหน้าพวกนั้นกลับไม่หลบ ธามิณีโทรไปที่บ้านเผื่อว่าลุง ป้า หรือเตวินจะอยู่รับสายแล้วออกมารับเธอ แต่ให้โทรอย่างไรก็ไม่มีใครรับสายสักที

          “ทำไมไม่รับสายกันนะ”

          “ล้อมไว้ สวย น่ารักขนาดนี้ ปล่อยไปเสียของแย่” หนึ่งในสามคนเอ่ยน้ำเสียงอ้อแอ้คลายคนเมา พวกมันอีกสองคนพากันมาล้อมธามิณีไว้

          สิ่งแรกที่ธามิณีทำคือตะโกนไปสุดเสียงเผื่อว่าจะมีใครสักคนได้ยิน แต่เธอกลับถูกชายที่ตัวใหญ่ที่สุดในพวกมันตะปบปิดปาก แล้วช่วยกันอุ้มเธอเข้าไปในซอยเล็กๆ ที่เปลี่ยวไม่มีคนผ่านไปมา เธอดิ้นและพยายามส่งเสียง แต่กลับทำได้แค่ร้องอึกอักอยู่ในลำคอ ต้นแขนของเธอถูกบีบ ข้อเท้าทั้งข้างถูกจับตรึงเอาไว้แน่น เธอถีบพวกมันไปสุดแรง แต่กลับถูกตบจนปากแตก ความปร่าของเลือดทำให้เธอมองพวกมันด้วยสายตาเกลียดชัง

ธามิณีมองสิ่งที่พวกมันกำลังทำด้วยความโกรธที่มีมากกว่าความกลัว ดวงตาของเธอจับจ้อง เรียวปากเม้มปิดด้วยความแค้นเมื่อมนุษย์ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนกลับมาทำร้ายกันแบบนี้ หน้าอกของเธอราวกับอัดแน่นไปด้วยความร้อนจากความโกรธมหาศาล เสมือนมีพลังงานที่ครอบร่างของธามิณีไว้และกำจัดสิ่งที่เธอไม่ต้องการออกไป

ฉับพลันร่างของชายทั้งสามคนก็กระเด็นหวือไปกระแทกกับต้นไม้!

แล้วร่วงลงพื้นประหนึ่งใบไม้ พวกมันยังงงงวยสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นในวินาทีก่อน สายตาของพวกมันมองมาที่ธามิณีด้วยความหวาดกลัว อยากจะลุกขึ้นแล้ววิ่งหนี แต่ร่างกายที่บอบช้ำจากการถูกมือที่มองไม่เห็นจับไปกระแทกกับต้นไม้ ทำให้ตอนนี้แค่นอนหายใจก็ร้าวไปทั้งร่างแล้ว

ร่างของธามิณีลอยขึ้นในสภาพที่เจ้าตัวก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง  ทว่าเธอกลับรู้สึกร้อนที่อกตรงตำแหน่งหัวใจและกำลังจะหายใจไม่ออก!

          “ช่วยด้วย...” ธามิณีเอ่ยออกมาทั้งที่คิดว่าตะโกนสุดเสียง ทว่ามันกลับเบาหวิว

          ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกไม่กี่นาทีเธอคงจะต้องตายแล้วใช่ไหม ทำไมถึงหายใจไม่ออก ภายในอกก็ร้อนราวกับไฟ

มันเกิดอะไรขึ้น?

เสี้ยววินาทีแห่งความสับสนนั้นร่างของธามิณีกำลังจะร่วงลงสู่พื้น เธอหลับตาแน่นพร้อมกับกอดอกไว้ ความสูงเท่าตึก 2 ชั้นจะทำให้เธอปางตายไหมนะ ทว่าสิ่งที่คิดว่าจะกระแทกจนเจ็บ กลับไม่รู้สึกเจ็บ เธอรู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลและลมหายใจของตัวเองที่กลับมาแล้ว ความร้อนในอกก็ค่อยๆ หายไป

ธามิณีลืมตาเพื่อมองว่าอะไรหรือสิ่งใดทำให้เธอเสมือนกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง ใบหน้าของชายที่เธอไม่รู้จักชื่อใกล้แค่เอื้อมเท่านี้เอง แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่าร่างของเธออยู่ในอ้อมแขนของเขาที่กำลังลอยอยู่เหนือพื้น!

          “คราวนี้เธอต้องตอบคำถามว่าดึงฉันมาที่นี่ได้อย่างไร”

          ศนิซัดพลังไปยังชายชั่วทั้งสามคนให้สลบไปพร้อมกับลบความทรงจำในตอนนี้ออกไปทั้งหมด แต่สำหรับความชั่วช้าของพวกมัน เขาจะเพิ่มความทรงจำบางอย่างให้เป็นการตอบแทนอย่างสาสม

          “คุณ...มาอีกแล้ว” ธามิณีเอ่ยพร้อมยิ้มอย่างอุ่นใจ แม้จะฝืนไว้ แต่เธอก็สลบไปอยู่ดี

          ศนิยกมือขึ้นมาที่หน้าตำแหน่งหัวใจของธามิณี ตอนนี้ผลึกกาลกำลังจะฆ่าเธอ หากเขาไม่ใช้พลังตัวเองช่วยไว้ในเบื้องต้น การปล่อยให้ธามิณีตายเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับเขา แต่การหาคำตอบของคำถามที่เขาอยากรู้ต่างหาก ทำให้เขายอมช่วยเธอไว้ แต่อีกไม่เกินชั่วโมงเหตุการณ์เดิมจะเกิดซ้ำอีก ความโกรธของธามิณีสามารถใช้พลังจากผลึกกาลได้ราวกับเขาเป็นผู้เรียกพลังออกมาเอง เขาเพิ่งรู้ในตอนนี้ว่ามนุษย์ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำให้เกิดเรื่องไม่คาดฝัน โชคดีเท่าไหร่แล้วที่สามคนนั้นไม่ถึงกับตาย แม้ว่ามันจะสมควรตายเพราะทำสิ่งเลวทรามก็ตาม

 

        ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

        อัมราน_บรรพตี

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.