ตอนที่ 1 ผมและเธอ

อีกครึ่งของหัวใจ

-A A +A

ตอนที่ 1 ผมและเธอ

ตอนที่ 1

ผมและเธอ

ฮิโรโตะ!

ปัง ปัง ปัง!!

ฮิโรโตะ!!

ไอ้ฮิโรโตะ!!!

“รู้แล้ววว” เสียงเด็กหนุ่มที่กำลังคลุมโปรงพร้อมเอามือปิดหูอยู่บนเตียง เขารู้สึกรำคาญที่พี่สาวตัวแสบมาปลุกเขาในตอนเช้า “พี่จะมาปลุกฉันทำไม” เสียงตอบที่อารมณ์เสียและงัวเงียในเวลาเดียวกัน

“นี่! มันกี่โมงกี่ยามแล้วฉันไม่ได้อยากจะปลุกนายตลอดหรอกนะ แต่มันคือคำสั่งของแม่” พี่สาวตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เพราะเธอก็โดนแม่ปลุกมาอีกที “รีบลุกแล้วเอาสังขารอันสกปรกของนายเข้าไปในห้องน้ำได้แล้ว”

ก่อนจะสิ้นเสียงฮิโรโตะทำหน้าล้อเลียนยัยพี่สาวจอมจุ้นจ้านก่อนที่ตนเองจะลุกเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน

ฮิโรโตะ เด็กหนุ่มหน้าตาดี  ชั้นมอห้า วัยสิบเจ็ดปี  กำลังแต่งตัวเพื่อลงไปรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว เขาเดินลงจากบนห้องพร้อมยกมือมาป้องที่หู กันเสียงพิฆาตจากแม่และพี่สาว เพราะทุกเช้าแม่จะบ่นเขาจนหูช้าทุกวัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนในบ้าน ถ้าไม่ได้ฟังแม่ด่าการไปโรงเรียนของเขาจะไม่สนุก  ฮิโรโตะถึงแม้จะไม่ชอบไปโรงเรียนเพราะไม่อยากอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่มีผู้คุมขังอย่างคุณครูคอยชี้นู้นชี้นี้แนะนำเขาไปเรื่อย แถมเวลาสั่งงานก็สั่งเหมือนพรุ่งนี้จะไม่มีชีวิตมาเรียนอีกแล้ว เขาจึงทำตัวให้โดนด่าแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

พอถึงเวลารถเมย์มารับที่สถานีหน้าบ้าน เขาขึ้นรถเมย์อย่างมั่นใจแต่ลืมไปว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่ไปโรงเรียนเหมือนกัน เพราะยังมีเด็กนักเรียนหลากหลายสถาบันร่วมเดินทางอยู่ในรถคันเดียวกับเขาด้วย แต่ไม่ทันได้หาที่นั่ง ทุกคนพร้อมใจกันหลีกทางลุกเอาก้นออกจากที่นั่งให้กับเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาคนนี้ ฮิโรโตะทำหน้าอย่างพอใจก่อนที่จะเดินไปทักทายเพื่อนในแก้ง

“เฮ้ย! ทางนี้ ” เสียงทุ้มดังมาแต่ไกล นั่นคือเสียงของคิโระ เพื่อนตั้งแต่สมัยอนุบาลของฮิโรโตะ เสียงทักทายทุกเช้าที่ฮิโรโตะได้ยินทุกวัน “หน้ามุ้ยขนาดนี้กูพอนึกออกได้ว่ามึงโดนแม่ด่ามาอีกแล้วหรอวะ” คิโระเห็นสีหน้าของฮิโรโตะก็ทราบถึงหายนะที่ฮิโรโตะเจอมา

“เอออ่ะดิ กูหล่ะเบื่อเสียงพี่สาวที่มาคอยเคาะห้องปลุกกูจากฝันอันแสนสวยซะจริง”

“มึงก็เว่อเกิ้นนน เขาก็แค่อยากให้มึงเรียนจบป้ะวะ” คิโระพยายามอธิบายถึงเจตนาของพี่สาวที่กระทำกับฮิโรโตะทุกเช้า

“อยากให้เรียนจบเหี้ยไร ขนาดพี่กูยังตื่นสายจะไม่ทันไปทำงานเลย” เขารีบสวนกลับเพื่อนอย่างรวดเร็ว “แต่ช่างมันเถอะ กูชินละเอาเวลานี้หาเหยื่อรายใหม่ดีกว่า” ฮิโรโตะเริ่มแผนการอันสุดโต่ง เขาชะเง้อมองคนบนรถทั้งซ้ายและขวาว่าคนไหนเหมาะกับเป็นผู้โชคร้ายในวันนี้

“คนนี้ป้ะ ไอ่ทีมเด็กมอสี่ หรือน้องพลอยเด็กมอสาม” คิโระช่วยตามหาผู้โชคดีให้ฮิโรโตะ แต่ก็ยังไม่ถูกใจเขาซักคน

“กูว่ากูเจอละ” ฮิโรโตะทำเสียงเหมือนตัวร้ายพร้อมสะแยะยิ้มอันน่ากลัวหันมาที่เพื่อนของเขา

ในเวลาเจ็ดโมงสามสิบนาทีรถเมย์ได้เคลื่อนตัวมาจอด ณ จุดสุดท้ายคือหน้าโรงเรียนทีเซ็น ซึ่งเป็นโรงเรียนของฮิโรโตะ ตอนลงฮิโรโตะและคิโระประกบข้างหญิงสาวตัวเล็ก ๆ เอาไว้ นี่คือเหยื่อคนล่าสุดที่พวกเขาเล็งไว้ตั้งแต่บนรถนั่นเอง ทั้งคู่ได้แย่งกระเป๋าและรีบวิ่งลงไปจากรถ หญิงสาวได้วิ่งตามไปแต่เธอเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จึงไล่ตามพวกฮิโรโตะไม่ทัน

“ไอ้บ้าเอ้ย! วันนี้วันซวยอะไรของชั้นเนี่ย” เสียงพูดที่หอบพร้อมอารมณ์หงุดหงิด เธอเปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินเพราะถ้าวิ่งต่อไปเธอได้เป็นลมก่อนเรียนวิชาแรกแน่ ๆ เธอรู้ว่าพวกนั้นจะเอากระเป๋าของเธอไปไว้ที่ไหนเธอเลยเดินขึ้นห้องเรียนละค่อยทวงคืนอีกที

เวลาเจ็ดโมงสี่สิบห้า ณ ห้องเรียนมอห้าทับสี่ ซึ่งเป็นห้องเรียนที่วุ่นวายและเสียงดังเป็นพิเศษ เพราะอะไรหน่ะหรอมันเป็นห้องของฮิโรโตะและเหล่าแก้งเพื่อนนักเลงหัวไม้ที่อยู่รวมกันนั่นเอง ทั้งห้องมีนักเรียนอยู่สี่สิบสิบห้าคน โดยแบ่งเพศชายได้สิบหกคนและเพศหญิงยี่สิบเก้าคน ในขณะเดียวกันผู้ชายในห้องที่อยู่แก้งเดียวกับฮิโรโตะปาไปแล้วเกือบสิบคน ทำให้ทั้งห้องดูวุ่นวายซึ่งเต็มไปด้วยเสียงเจี้ยวแจ้วของเหล่านักเรียนหญิง

“นี่! ฮิโรโตะ คิโระ ช่วยคืนกระเป๋าชั้นมาทีเถอะก่อนที่ชั้นจะฟ้องเซนเซ” หญิงสาวทวงถามถึงกระเป๋าที่โดนแย่งไป

“กระเป๋าอะไรของเธอ? ของเธอก็อยู่กับเธอสิ”  คิโระตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่กวนตีน

“และที่วางอยู่ใต้โต๊ะนายเนี่ย ของหมาที่ไหนห้ะ!!” หญิงสาวพูดตะโกนด้วยอารมณ์เสียก่อนที่จะเอามือลงไปหยิบกระเป๋าที่อยู่ใต้โต๊ะของฮิโรโตะ ทันใดนั้นฮิโรโตะได้คว้าเอาแขนอันเล็กของเธอยกขึ้นมาพร้อมบีบข้อมือเธออย่างแรง

“พวกชั้นก็บอกตั้งแต่แรกแล้วไงว่าของของเธอก็อยู่กับเธอ แต่นี่มันของชั้นเธอไม่มีสิทมาแตะต้องจำไว้” พูดจบฮิโรโตะสบัดข้อมือพร้อมง้างมือที่จะตบ

“พวกเธอทำอะไรกันหน่ะ...?” เซนเซงาตะ ตะโกนถามไปยังกลุ่มคนที่ยืนอยู่เป็นจำนวนมาก

“เปล่าครับเซนเซ แค่ปรึกษาเรื่องการบ้านที่ต้องส่งวันนี้ครับ” เพื่อนในแก้งฮิโรโตะพูดตอบกลับเซนเซเพื่อไม่ให้เขาสงสัย

“เธอกลับไปที่โตะได้ละ ถ้าอยากได้คืนอ่ะเที่ยงวันนี้มาเจอพวกเราหลังตึกสนามกีฬา โอเคป้ะ?” ฮิโรโตะยื่นขอเสนอ “แต่ถ้าเธอเล่นตุกติกพาเซนเซมาด้วย เธอเจ็บตัวแน่!!!!!” เขาได้ข่มขู่หญิงสาว หญิงสาวได้ตกลงและรีบเดินไปนั่งที่โต๊ะของตนเอง

นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงวัน เด็กนักเรียนต่างกรูกันเพื่อไปที่โรงอาหาร เหลือแต่เพียงหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าร้องไห้อยู่ที่โต๊ะคนเดียว เธอรู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมโทษตัวเองที่ไม่ระมัดระวังตัวจากไอ่พวกผู้ชายพวกนี้เลย แต่ที่แน่ ๆ วันนี้เธอต้องได้กระเป๋าของเธอคืนให้ได้เพราะมีของสำคัญของแม่ที่เป็นเครื่องรางไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจติดไว้ในกระเป๋าของเธอ ขณะนั้นเองเสียงผู้หญิงอันนุ่มนวลและไพเราะตะโกนเรียกชื่อหญิงสาวมาแต่ไกล

เอริกะ

เอริกะ...(เรียกพร้อมทำทำนองเพลง)

เอริกะจัง..........จ๋า

เสียงเรียกที่นี้ทำให้คนได้ยินต่างหันมาสนใจกับเสียงที่น่ารักของคนคนนี้ เธอนั้นก็คือชิโนริ เพื่อนมอห้าทับหนึ่ง มีดีกรีนักเรียนเรียนดีประจำโรงเรียนทีเซน และเป็นคนที่อ่อนโยนกับเพื่อน ๆ ในโรงเรียนอีกด้วย เธอเรียกเอริกะจังเสียงดังไปทั่วตึก ก่อนที่เสียงเรียกของเธอจะหยุดลง เพราะเห็นเอริกะเพื่อนคนสนิทกำลังร้องไห้อยู่ในห้องคนเดียว

“เอริกะเธอเป็นอะไร ทำไมร้องไห้หล่ะ” ชิโนริรีบถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

“เปล่าหรอก แค่มีเรื่องกับเพื่อนในห้องนิดหน่อยเอง” เธอตอบด้วยเสียงที่ขึ้นจมูก พร้อมยกหน้าขึ้นมายิ้มให้กับชิโนริ

“นิดหน่อยอะไรหล่ะ เราเป็นเพื่อนกันมาชั้นไม่เคยเห็นเธอร้องไห้เท่านี้มาก่อน บอกมาเดะนี้นะเอริกะ!!!!” ชิโนริไม่เชื่อกับสิ่งที่เพื่อนของเธอพูด เพราะจากสภาพของเอริกะเหมือนคนกำลังจะขาดออกซิเจน น้ำหูน้ำตาไหล หน้าแดงตาแดงยิ่งกว่าสีของมะเขือเทศ

“ก็ได้ คือชั้นโดนแก้งฮิโรโตะแย่งกระเป๋าไปตั้งแต่ตอนเช้าอ่ะ พอชั้นเข้าไปเอาคืน ไอ้พวกนั้นก็บิดข้อมือชั้นและสบัดชั้นลงไปที่พื้น พร้อมด่าทอต่าง ๆ นานา” เอริกะตอบคำถามของชิโนริพร้อมพูดไปร้องไห้ไป แทบจำใจความไม่ได้ ชิโนริได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกโกรธแทนเพื่อน พร้อมทั้งด่าทอคนพวกนั้น

“พวกมันเป็นใครอ่ะ...? กล้าดียังไงมาแกล้งเพื่อนชั้น พวกมันอยู่ไหนไปเอากระเป๋าของเธอคืนกัน” ชิโนริพูดด้วยความโกรธ เธอได้ชักชวนเพื่อไปเอากระเป๋าของเอริกะคืน

“ไอ้พวกนั้นมันนัดชั้นให้ไปหาที่หลังตึกสนามกีฬาอ่ะ เธอไปเป็นเพื่อนชั้นหน่อยได้ไหม...?” เอริกะบอกตำแหน่งที่พวกนั้นนัดหมาย ก่อนจะขอความช่วยเหลือจากชิโนริ

“ได้สิ ชั้นก็อยากเห็นหน้าไอ้พวกนั้นเต็มทีละ” ชิโนริรีบตอบกลับอย่างมั่นใจ

ทั้งคู่ได้ไปตามสถานที่นัดหมาย แต่กลับเจอเพียงกระเป๋าของเอริกะวางไว้กลางสนามบาส

“ทำไมกระเป๋าของเธอถูกวางไว้ตรงนั้นหล่ะ และไอ่พวกนั้นมันไปไหน” ชิโนริพูดและมองหาแก้งของฮิโรโตะ

“ชั้นว่ามันแปลก ๆ รีบไปเอากระเป๋าละไปกันดีกว่า” เอริกะรีบเดินไปเอากระเป๋าที่วางไว้ และรีบวิ่งออกจากสถานที่แห่งนี้ ทันใดนั้นขณะที่พวกเธอกำลังจะก้าวขาออกจากประตู กลุ่มพวกฮิโรโตะได้ทำการปิดประตูและผลักพวกเธอให้ไปอยู่ ณ จุดที่วางกระเป๋า

“เธอคิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรอ...?” เสียงฮิโรโตะพูดด้วยน้ำเสียงดุดันและยิ้มอย่างตัวร้าย

“ชั้นก็มาตามที่พวกนายบอกแล้วไง ยังต้องการอะไรอีก” เอริกะพูดด้วยน้ำเสียงโกรธ็้ณ๕๖๖๖๘ญ

“การที่เธอบุกเข้ามาในรังของฉันเนี่ยเธอไม่มีทางออกไปได้ นอกจากพวกเธอจะทำให้ชั้นพอใจ แต่เอ้ะ! เพื่อนที่มาด้วยกับเธอเป็นคือใครอ่ะ กล้ามาเป็นเพื่อนเธอด้วยหรอ” ฮิโรโตะเริ่มสนใจในตัวชิโนริ

“อย่ายุ่งกับเธอ เธอไม่เกี่ยวอะไรด้วย” เอริกะเอื้อมตัวมาปกป้องชิโนริ

“โถ่ โถ่ โถ่!!!! แม่คนรักเพื่อน แค่ตัวเองยังเอาไม่รอดเลยยังจะมาห่วงเพื่อนอีก เชื่อแม่งเลยว่ะ”

“พวกแกเป็นบ้าอะไรกันมากป้ะ ชอบแกล้งคนอื่นเขาไปทั่ว สนุกมากเลยหรอ” ชิโนริลุกขึ้นยืนพร้อมชี้หน้าพวกคนอันธพาล “ถ้าพวกแกแน่จริงทำไมต้องหลบ ๆ ซ้อน ๆ ในที่แห่งนี้ด้วยหล่ะ น่าสมเพษ”

พวกแก้งฮิโรโตะพยายามเข้ามาทำร้ายชิโนริ แต่โดนฮิโรโตะสั่งห้ามเอาไว้

“เห้ย! อย่าเพิ่ง ฉันว่าฉันเริ่มจนใจในตัวเธอแล้วหล่ะสิ” ฮิโรโตะจ้องหน้าชิโนริเหมือนจะกินเธอเข้าไปทั้งตัว ก่อนที่เขาจะคืนและยื่นขอเสนออย่างนึงให้ชิโนริ “รอบนี้ชั้นจะปล่อยและคืนของให้กับพวกเธอ แต่เธอชิโนริต้องมาเป็นคนรับใช้ให้ฉันตลอดเทอมนี้”

“พวกแกจะบ้าหรอ ลูกน้องแกก็มีเยอะแยะ แกจะเอาเธอไปทำไมอีก” เอริกะรีบท้วง

“หรือพวกเธอจะไม่เอาข้อเสนอนี้ก็ได้นะ แต่เตรียมพบกิจกรรมนันทนาการของพวกเราไว้ได้เลย คิดดี ๆ นะ”

ช่วงเวลานี้ทั้งเอริกะและชิโนริเกิดความเครียดกับข้อเสนอที่ฮิโรโตะนั้นเสนอให้ เพราะมันไม่ยุติธรรมกับชิโนริเลย ทั้งยังไม่ใช้ปัญหาของเธออีก

“ก็ได้” ชิโนริตกลงทันที

“เธอจะบ้าหรอชิโนริมันอันตรายนะ” เอริกะรีบเอามือไปปิดปากเพื่อนของเธอ

“ชั้นทำได้ มันก็ดีกว่าโดนพวกนั้นทำร้ายไม่ใช่หรอ แค่เทอมเดียวเองชั้นสบายมาก” เธอพูดพร้อมหันมายิ้มให้กับเพื่อนของเธอ

“งั้นแปลว่าเธอตกลงใช่ไหม...?” ฮิโรโตะถามอีกรอบ

“ใช่!”

“พวกมึงจำข้อตกลงนี้ไว้นะ และจับตามองเอริกะด้วย ถึงแม้รอบนี้ชั้นจะปล่อยเธอไป ก็ไม่ได้หมายความว่าชั้นจะไม่ได้ปล่อยเธอไป เพราะเพื่อนเธอยังอยู่ในกำมือของชั้น ฉะนั้นถ้าคิดจะมาช่วยเพื่อนเธอ เธอก็เตรียมตัวโดนลูกน้องชั้นจัดการได้เลย”

“อ่อ และสำหรับเธอนับตั้งแต่พรุ่งนี้ไปเธอต้องขึ้นรถเมย์คันเดียวกับชั้น จองที่นั่ง ถือกระเป๋า จัดเตรียมข้าวเช้า กลางวัน ให้ชั้นทุกวัน เรื่องแค่นี้คงไม่ยากไปสำหรับเธอหรอกเนาะ” ฮิโรโตะบอกในสิ่งที่ชิโนริต้องทำให้แก่เธอด้วยน้ำเสียงสะใจ

ตั้งแต่นั้นมาชิโนริก็ตามปรนนิบัติฮิโรโตะมาโดยตลอด เธอดูแลฮิโรโตะเหมือนเขาเป็นลูกชายของเธอ ตามติดเหมือนปลิง อีกทั้งยังโดนแกล้งให้ซื้อของผิดอยู่ตลอด ทำให้เธออารมณ์เสีย หากเธอมีอารมณ์เธอจะยิ้มและปลอบใจตัวเอง เหตุการณ์นี้วนเวียนซ้ำ ๆ จนผ่านไปหนึ่งเดือน ชิโนริเริ่มชินกับสิ่งที่เธอทำ ฮิโรโตะก็เริ่มพึงพอใจกับสิ่งที่เธอทำให้

ณ ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านคังแท ชิโนริได้เข้าไปซื้อของให้แม่โดยดูลิสต์คำสั่งซื้อที่แม่ได้จดไว้ให้ ทันใดนั้นก็มีหญิงปริศนาเข้ามาตัดหน้าของเธอ

“เธอใช่มั้ยที่ชื่อชิโนริ” หญิงปริศนาเอ่ยทักทาย

“ใช่ค่ะ” ชิโนริตอบด้วยท่าทีมึนงง

“ฮิโรโตะใฝ่ต่ำคบเธอไปได้ยัง” พร้อมมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

“นี่คุณ กรุณามีมารยาทนิดนึงนะคะ เราไม่เคยรู้จักกันด้วยซ้ำ” ชิโนริเริ่มโมโห

“อุ้ย! ชั้นทำเธอโมโหแล้วหรอเนี่ย”ทำทีกวนตีนพร้อมทำหน้าแบบตัวร้าย “ชั้นก็แค่มาเตือนอ่ะไม่มีอะไรหรอก แต่ช่วยห่างจากฮิโรโตะสักที” เธอพูดพร้อมเดินเชิ่ดหน้ามุ่งตรงไปทางประตูร้านสะดวกซื้อ

ชิโนริเกิดอาการงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ทำไมเธอถึงต้องให้เลิกยุ่งกับฮิโรโตะหรือว่าเธอจะเป็นแฟน

“ไอ้บ้าเอ้ย!! ชั้นอยากจะยุ่งกับไอ่หมอนั่นตายแหละ” เธอระบายความรู้สึกโกรธพร้อมกับงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเตรียมตัวเอาเรื่องนี้ไปบอกฮิโรโตะ

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.