[fic Vocaloid] Just be…? [Gumi x Gumiya] Chapter 2

[fic Vocaloid] Just be…? [Gumi x Gumiya]

-A A +A

[fic Vocaloid] Just be…? [Gumi x Gumiya] Chapter 2

หมวดหนังสือ: 

Chapter 2

 

“กุมิ…กุมิ”  เสียงของชายหนุ่มผมเขียวคนหนึ่งกำลังปลุกหญิงสาวผมเขียวที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงในห้องของเธอเอง.. เสียงนั้นนุ่มนวลอ่อนโยนยิ่งนัก หากแต่คนที่กำลังหลับอยู่นั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

 

“กุมิ... ยัยบ้ากุมิ!” ชายหนุ่มเริ่มหมดความอดทน เขาตะโกนดังลั่นห้อง ทำให้ร่างบางนั้นลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก หญิงสาวพยายามลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตาอยู่สักครู่ ก่อนจะหันมามองร่างของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ปลายเตียง

 

“อืม…กุมิยะ” เธอพูดขึ้นอย่างงัวเงีย

 

“ปลุกฉันทำไมแต่เช้าเนี่ย วันนี้วันเสาร์น้า”

 

“ไม่ไปทำงานหรือไง?” กุมิยะถามพลางขยับแว่นเล็กน้อย

 

“ฉันไม่ไป คุณโยวาเนะบอกว่าปิดร้านน่ะ” ร่างบางตอบ ปกติเธอจะไปทำงานเป็นเด็กเสอร์ฟที่ vocaloid café ใกล้มหาวิทยาลัย แต่วันนี้ร้านปิด เพราะเจ้าของร้านเพิ่งติดต่อมาบอกเมื่อคืนว่าติดธุระ และอีกอย่างพี่สาวของเธอก็ไปค้างบ้านคนอื่นด้วย

 

“งั้นเหรอ” กุมิยะพยักหน้า ดวงตาใต้กรอบแว่นหันมามองร่างบางที่ยังคงไม่ลุกจากเตียง ทั้งคู่จ้องตากันอยู่สักพัก กุมิก็นึกอะไรขึ้นมาได้

 

“ว่าแต่ นายเข้ามาในห้องฉันได้ไง?” ร่างบางถามด้วยความงงระคนตกใจ

 

“ก็ขอกุญแจพี่ลิลี่มาน่ะสิ”

 

“หา?...” กุมิอึ้ง เธอไม่นึกไม่ฝันเลยว่าพี่สาวของเธอจะเป็นคนแบบนี้ เอากุญแจห้องไปให้เพื่อนชายคนสนิทของเธอแบบนี้ แต่อีกใจหนึ่งเธอก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ ที่เขามาหา

 

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะไป” กุมิยะไล่ ตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ในเสื้อโปโลสีน้ำเงิน กับกางเกงขายาวสีดำ และใส่เสื้อกันหนาวตัวหนาทับไว้อีกชั้นหนึ่ง อากาศด้านนอกนั้นหนาวมาก แต่ห้องของกุมิก็ยังเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ซะเย็นฉ่ำ

 

16 องศา..

 

“จริงด้วย” กุมิสำรวจร่างของตัวเองก็ถึงกับตกใจ ตอนนี้เธออยู่ในชุดนอนสีขาวตัวบาง..

 

“นายไปรอข้างนอกก่อนนะ เดี๋ยวเสร็จแล้วฉันจะไปเรียก” ข้างนอกของกุมิคือ ห้องของเขานั่นเอง ชายหนุ่มจึงต้องลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปด้วยใบหน้าที่แดงเรื่อเล็กน้อย...

 

[Gumiya’s part]

 

ผมเดินออกมาพลางซ่อนใบหน้าแดงๆ ของตัวเองไม่ให้กุมิเห็น ทำไมเธอชอบทำให้ฉันหวั่นไหวอยู่เรื่อย ยัยขี้เซาเอ๊ย คิดคาดโทษเพื่อนสาวของตัวเองสักพัก ก่อนจะไปนั่งเขียนบันทึกประจำวันที่โต๊ะทำงาน ผมเขียนได้ประมาณ 10 นาทีก็ได้ยินเสียง

 

แกร๊ก!

 

“กุมิยะ ฉันเสร็จแล้วนะ” ยัยกุมิเปิดประตูห้องเข้ามาทำเอาผมสะดุ้งเฮือก

 

“ตกใจอะไรน่ะ?” เธอถามซื่อๆ

 

“ตกใจเธอน่ะสิ อยู่ๆ ก็เปิดประตูเข้ามาไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวแบบนี้อ่ะ”

 

“แหะๆ โทษทีๆ” แต่เธอก็ทำประจำ..

 

“ไปกินข้าวกันเถอะ หิวแล้ว” กุมิชวน ผมเองก็หิวเหมือนกัน พวกเราจึงกดลิฟต์ลงไปชั้นล่างของแมนชั่น ซึ่งมีร้านสะดวกซื้อตั้งอยู่ ภายในก็คงจะมีอาหารขายบ้างละนะ..

 

“วันนี้กินอะไรดีน้า..” กุมิเดินไปเลือกอาหารที่ใส่กล่องไว้พร้อมรับประทาน ซึ่งอยู่ในชั้นวางของหน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน

 

“เอานี่มั้ย กุมิยะ” เธอยื่นกล่องข้าวหน้าเนื้อให้ผม

 

“ก็ดี” ผมรับมาแล้วรอยัยนั่นเลือกข้าวของตัวเองบ้าง หลังจากจ่ายค่ากับข้าวเสร็จ สิ่งที่พวกเราขาดไม่ได้หลังอาหารคือ น้ำแครอทคนละขวด ผมกับกุมิมีสิ่งที่ชอบเหมือนกันคือ แครอท ทั้งแบบใส่ในกับข้าวและแปรรูป อะไรก็ได้ขอให้เป็นแครอท พวกเรากินได้หมดครับ

 

“เอาละเสร็จแล้ว ขึ้นห้องกันเถอะ” ร่างบางยิ้มสดใส ซึ่งผมเองก็ชอบรอยยิ้มของเธอที่สุดแล้วละ ถึงมันจะทำให้คนแบบผมหัวใจกระตุกได้เป็นระยะก็เถอะ

 

หลังกินข้าวเสร็จ..

 

“นี่กุมิยะ วันนี้เราออกไปเที่ยวกันดีมั้ย?” และก็กุมิอีกแหละที่เป็นฝ่ายชวน

 

“ไม่ละ” ผมตอบ “ฉันไม่อยากไปไหนทั้งนั้น มันหนาว”

 

“งั้น… นอนเล่นอยู่ในนี้ก็แล้วกัน” กุมิว่าพลางปิดประตูห้องลง แอร์ที่เปิดทิ้งไว้ก็ยังไม่ได้ปิดซะด้วย โอ้ไม่ ทำไมมันหนาวขนาดนี้นะ ผมกระชับเสื้อกันหนาวของตัวเองให้แน่นขึ้นเพราะความหนาวจับใจนั้น จะบอกให้กุมิปิดแอร์แล้วเปิดหน้าต่างก็ต้องปะทะเข้ากับความหนาวด้านนอกที่มันหนาวกว่าแอร์ในห้องอีก สุดท้ายก็ต้องปล่อยเลยตามเลย ผมเข้าไปนั่งอยู่ปลายเตียงของเธอตามเดิม ก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ มือบางเปิดลิ้นชักหาอะไรอยู่สักครู่ ก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงพร้อมกับวางของสิ่งนั้นลงตรงหน้าผม

 

มันคือเครื่องเกมนินเทนโดดีเอส ของรักของหวงของกุมิ..

 

“เล่นเกมมาริโอกันมั้ย?”

 

“เอาสิ” ผมไม่ปฏิเสธ เพราะตัวเองก็เบื่อเหมือนกัน กุมิเปิดเครื่องดีเอสแล้วกดเข้าเกมแข่งรถสุดฮิท เธอกดเริ่มเกมและ..

 

‘listen… start!’

 

“ตานี้นายเล่นไปก่อนนะ” เธอยื่นเครื่องดีเอสส่งให้ ผมรับมันมาก่อนจะจ้องไปที่หน้าจอของมันทันที จริงๆ เกมนี้ผมก็ชอบเล่นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จึงชนะได้ไม่ยากนัก แต่เครื่องดีเอสของผมอยู่ที่ห้อง ขี้เกียจไปหยิบ จึงต้องยืมของกุมิเล่นไปก่อนไง

 

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป...

 

“ฉันชักเริ่มเบื่อแล้วสิ กุมิยะ ขอยืมมือถือนายเล่นหน่อยน้า” กุมิพูด ตอนนี้แบตเตอรี่เครื่องดีเอสหมดไปเรียบร้อย เพราะพวกเราใช้มันหนักไปหน่อย* ความหนาวยะเยือกของเครื่องปรับอากาศยังคงอยู่ ตอนนี้ผมอยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง โดยมีกุมินั่งอยู่ที่ปลายเตียงอีกด้าน ผมดึงผ้าห่มของเธอมาห่อตัวไว้ครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งให้กุมิ ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเพราะทนลูกอ้อนของเธอไม่ไหว..

 

เพราะคำว่า ‘รัก’ ถึงส่งมันไปง่ายๆ งั้นเหรอ?

 

“นายเอาหนังสือฉันไปอ่านก่อนแล้วกันนะ นี่จ้ะ” กุมิยื่นหนังสือเล่มหนึ่งส่งให้

 

The one who… I love [Kaito x Miku]

 

NC-18+

 

ยัยนี่คิดอะไรถึงเอาฉาก Nc มาให้ผมอ่านวะเนี่ย?

 

ครึ่งชั่วโมงถัดมา ในห้องสีสลัวที่แสนเงียบสงัด ปรากฏร่างของหญิงสาวผมสีฟ้าที่ถูกมัดรวบไว้เป็นหางม้า ร่างกายของเธอเปลือยเปล่า ผิวขาวผ่องต้องกับแสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้ร่างบางนั้นดูสวยงามยิ่งนัก

 

“อ๊า… พี่ไคโตะ… ฉัน ไม่ไหว แล้วนะคะ” และชายหนุ่มผมสีน้ำเงินที่ร่างกายเปลือยเปล่าเหมือนกัน เขาเข้าคร่อมร่างหญิงสาวบนเตียงไว้ทันที

 

และทั้งคู่ก็เริ่มทำกิจกรรมบางอย่าง ที่ผู้เขียนไม่สามารถบรรยายต่อได้...

 

“พี่ไคโตะ อ๊า...!”

 

ตุ้บ!

 

ผมก้มลงไปมองข้างล่างก็พบกับ...

 

ร่างบางของกุมิกำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักของผม ลมหายใจยาวสม่ำเสมอ บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังหลับอย่างมีความสุข ดูจากรอยยิ้มเล็กๆ ที่เผยอออกมาจากริมฝีปากบางสีชมพูนั้น..

 

ในมือของเธอถือโทรศัพท์ค้างไว้ ผมดึงโทรศัพท์ของตัวเองจากมือเธอเบาๆ กลัวยัยนี่จะตื่นน่ะสิ แล้วกวาดตามองสิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ

 

สิ่งที่กุมิกำลังเล่นเมื่อครู่คือ…

 

ข้อความร่าง

 

วันนี้ กุมิยะมาอยู่เป็นเพื่อนฉันแหละ ขอบคุณมากเลยนะ

 

ฉันเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเขาเป็นคนอบอุ่นและอ่อนโยนขนาดนี้ ถึงภายนอกจะดูเย็นชา ปากไม่ตรงกับใจ แถมขี้เก๊กก็เถอะ

 

จริงๆ แล้ว ฉันก็...

 

ข้อความเขียนค้างไว้แค่นั้น...

 

ผมก้มลงไปมองหน้ากุมิใกล้ๆ ใบหน้ายามหลับของเธอช่างไร้เดียงสา ผิดกับตอนตื่นลิบลับ..นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่ในขณะนี้ก็เป็นได้

 

ฉัน… ฉันชอบเธอนะ กุมิ

 

ผมไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีก ริมฝีปากบางเคลื่อนเข้าหาริมฝีปากของอีกฝ่าย และประกบกันอย่างเงียบงัน… ทั้งที่ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น แต่ผมรู้สึกว่าร่างกายร้อนวูบวาบ..ร้อนไปถึงปลายนิ้วเท้า.....

 

เวลาผ่านไปเพียงเสี้ยวนาที แต่ก็เหมือนกับผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ผมถอนริมฝีปากออกมา ก่อนจะยิ้มให้ร่างบางบนตักที่ยังคงหลับอย่างมีความสุข…

 

ที่ฉันทำไปเมื่อกี้ว่าน่าอายแล้วนะ เรื่องนี้ฉันจะไม่มีวันบอกเธอเด็ดขาด กุมิ… ยัยเซ่อเอ๊ย!

 

ผมปล่อยให้ร่างบางนั้นหลับต่อ แต่ก็หันไปจัดท่าทางการนอนให้ใหม่ ผมอุ้มร่างบางขึ้นแล้ววางลงให้หัวอยู่บนหมอนรูปแครอทที่กุมิใช้นอนประจำ

 

ห้องเธอน่ะ ฉันรู้จักทุกซอกทุกมุมแล้วเหอะ

 

ส่วนตัวเองก็เดินมานั่งสงบสติอารมณ์อยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือข้างประตู

 

“หนาว หนาวจังเลย หนาว แม่จ๋า พ่อจ๋า ช่วยกุมิด้วย กุมิยะ นะ..นายอย่าทิ้งฉันไปนะ” เสียงเพ้อของเธอยิ่งทำให้หัวใจผมอยู่ไม่เป็นสุข มันร้อนวูบวาบยิ่งกว่าตัวผมตอนนี้เสียอีก

 

“โธ่ ฉันจะทิ้งเธอไปได้ไงเล่า” ผมเดินเข้าไปหาเธอที่กำลังนอนดิ้นไปมาบนเตียงเพราะความหนาวจากอุณหภูมิ 16 องศานั้น ผ้าห่มที่ถูกห่อตัวเอาไว้ครึ่งเดียวนั้นหลุดลุ่ย ผมจึงเดินไปคลี่ผ้าออกแล้วคลุมตัวเธอให้ใหม่ด้วยความรวดเร็ว

 

นี่ฉันกลั้นยิ้มกลั้นเขินสุดพลังแล้วนะ…

 

“เฮ่อ… ยัยบ้าเอ๊ย” บ่นไปอย่างนั้นแต่ก็อดยิ้มในความน่ารักของเธอไม่ได้

 

หนาว… ความรู้สึกนี้มันแล่นปราดขึ้นมาทั่วร่างยามผมก้าวเดินไปหยิบรีโมทแอร์ออกมา ผมกดเบาแอร์ให้อยู่ที่ 26 องศาทันที ไม่ไหวแล้วเว้ย!

 

เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ผมดูนาฬิกาที่แขวนไว้บนผนังเห็นว่ามันจะบ่ายสามโมงแล้ว ผมจึงเดินไปปลุกยัยกุมิที่ยังคงหลับสนิท ผมเดินไปดูที่เตียงก็เห็นว่าเธอกำลังหลับสนิท และดูท่าจะหลับลึกซะด้วย..

 

“กุ… กุมิ… ยะ” เสียงของเธอเรียกชื่อผมเบาๆ หมายความว่าไง?

 

ผมยืนมอง ดูว่าเธอจะพูดอะไรออกมาอีกหรือไม่

 

“ฉัน… ชะ” ฮะ?

 

“…” เงียบ...

 

ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะ…

 

“กุมิ…” กระซิบเรียกชื่อเธอเบาๆ

 

“ตื่นได้แล้ว ยัยบ้ากุมิ”

 

Tbc

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ tor

น่ารักดีครับเรื่องนี้ 55

รูปภาพของ เอนิน

น่าร้าก

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.