ชีวิตใหม่ที่สภากาชาดไทย ตอนที่ 2

ชีวิตใหม่ที่สภากาชาดไทย

-A A +A

ชีวิตใหม่ที่สภากาชาดไทย ตอนที่ 2

    ตอนที่ 2 : บริจาคอวัยวะ 1คนดับ สร้าง 8 ชีวิตใหม่  PART 1

 

    สำหรับตอนนี้เป็นตอนสุดยอดของพิเศษเลยครับ ผมและเพื่อนๆ ได้จัดทำเป็นบทละครวิทยุใส่ซาวเสียงลงไปใน นิตยสารสนองโอฐ หน้า 38 ซึ่งจะมี QR CODE อยู่มุมขวาด้านบน เพียงท่านใช้มือถือสแกน QR ก็สามารถรับฟังบทละครวิทยุ ที่ฟังแล้ว น้ำตาท่านจะไหล ทันทีและท่านผู้อ่านจะเข้าใจในการบริจาคอวัยวะ ว่าคืออะไร ทำได้อย่างไร การเกิดสภาวะสมองตาย การเป็นเจ้าชายนิทราจะเกี่ยวข้องอะไรกับการบริจาคอวัยวะ ขอเชิญนักอ่านทุกท่านได้อ่านและโปรดแสดงความคิดเห็นด้วยครับ เพราะเป็นงานเขียนเรื่องแรกของผม ผมจะได้มีกำลังใจในการเขียนงานตอนต่อๆไป หรือท่านผู้อ่านโทรไปให้กำลังใจได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูล 1664 สภากาชาดไทย สุดท้ายผมขอนำ LINK บทละครวิทยุตอนที่ 2 มาวางให้เพื่อนๆ ช่วยวิจารณ์ด้วยนะครับ 

บทละครวิทยุ ตอนที่ 2 : การบริจาคอวัยวะ 1 คนดับ สร้าง 8 ชีวิตใหม่ (ไฟล์เสียง ) เลือกแล้ว, https://drive.google.com/file/d/1ls1qrV3WYv09lo8ND-hdiAI7JMUGusJR/view?usp=drivesdk  

 

ชีวิตใหม่ที่สภากาชาดไทย 

ตอนที่ 2 บริจาคอวัยวะ 1 คนดับ สร้าง 8 ชีวิตใหม่ PART 1 

 

(ความเดิมจากตอนที่แล้ว )  

“ไม่ ไม่ ลูกฉันยังไม่ตาย ดูสิลูกฉันยังหายใจอยู่ มาหาว่าลูกฉันตาย ฉันไม่ขอบริจาคอวัยวะของลูกชายใด ๆ ทั้งนั้น ฉันขอย้ายโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้” เสียงหญิงสาวมีอายุเกรี้ยวกราดพร้อมเสียงสะอื้นที่ทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่าลูกของเขามีภาวะสมองตาย     

“คุณแม่คะ พวกหนูและทีมแพทย์รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถรักษาชีวิตลูกของคุณแม่ได้จริง ๆ เพราะผู้เสียชีวิตจากสมองตาย คือการตายที่หัวใจยังเต้นอยู่ การตายที่ร่างกายยังอุ่นอยู่ เนื่องจากการที่ระบบประสาทส่วนกลางหรือแกนสมองไม่สั่งงาน ทำให้ระบบการหายใจหยุดทำงานหัวใจไม่บีบตัว ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ถือว่าผู้นั้นไม่สามารถรักษาให้มีชีวิตอยู่ได้ หากนำท่อช่วยลมหายใจออก ผู้ป่วยที่สมองตายจะเสียชีวิตทันที แต่ที่เห็นว่าเหมือนคนยังมีชีวิตอยู่เพราะได้รับการกระตุ้นจากการให้ยา ให้น้ำเกลือ การต่อท่อช่วยลมหายใจ ซึ่งจะพยายามยื้อชีวิตยังไงสุดท้ายผู้ป่วยก็ต้องเสียชีวิตภายใน 3 วัน ซึ่งในช่วงนี้อวัยวะของผู้ป่วยจะสมบูรณ์มากเพราะยังมีเลือดไปเลี้ยงอยู่ พวกหนูจึงอยากให้คุณแม่เปิดทางบุญให้กับน้องเขาค่ะ เนื่องจากน้องเขาแสดงความจำนงในการบริจาคอวัยวะไว้กับทางสภากาชาดไทย” พยาบาลสาวซึ่งเป็นทีมเจรจาขอรับบริจาคอวัยวะพูดกับแม่ที่กำลังร้องไห้ฟูมฟาย 

“หยุดนะ ลูกฉันยังหายใจอยู่ ยังหายใจอยู่จริง ๆ ทำไมต้องมาแช่งลูกฉัน ที่นี่รักษาไม่ได้ ฉันขอย้ายโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ สมองตายคืออะไร ฉันไม่รับรู้ ฉันไม่สนใจ ฉันอยากอยู่กับลูก ฉันรักเขา ลูกแม่ ลูกของแม่ตื่นเถอะนะ แม่จะพาลูกไปรักษาที่อื่น เขาบอกลูกแม่ตาย แม่รับไม่ได้ พวกเขาอยากได้อวัยวะลูกของเจ้าไปเพื่อต่อชีวิตให้คนอื่น แต่กลับมาดับชีวิตของลูกแม่ ช่วยคนอื่นให้มีชีวิตแต่ต้องมาพรากลูกจากแม่ไป แม่ไม่ยอมมอบอวัยวะให้ใครทั้งนั้น” ผู้เป็นแม่ร้องไห้คร่ำครวญเสียงดังกว่าเดิม 

“เจ้าจงสัมผัสเถิด มนุษย์ผู้แสวงหาปัญญา อนุภาพความรักของผู้เป็นแม่ กับอุปบารมีทานในการบริจาคอวัยวะ และผู้มีสัมมาชีพชอบของพยาบาลสาวทีมเจรจา เมื่ออานุภาพความรักของมารดาที่มีต่อบุตรได้ปิดทางบุญของลูก เพราะถูกครอบงำด้วยเหตุแห่งอวิชชาความไม่รู้ อนิสงฆ์แห่งบุญของผู้บริจาคอวัยวะเกิดตำหนิบุญ เกิดบุญที่เศร้าหมอง กลไกแห่งวัฏจักรยังเวียนวนอยู่ในมนุษย์ผู้ไม่รู้ ผู้มีอวิชชา อานุภาพสิ่งใดหนอที่ขจัดอวิชชาทำให้บุญตกผลึก เจ้ามนุษย์ผู้แสวงหาปัญญาให้เจ้าดูเหตุแห่งทุกข์ ผลแห่งทุกข์ เกิดสำแดงฤทธิ์เดชแห่งวิชา เจ้าจงดูเถิด” นายนิรบาลพูด แล้วก็ลอยลิ่วไปที่หนูน้อยที่ป่วยด้วยโรคธาลัสซีเมีย ส่วนนัทเดินไปหาผู้เป็นแม่ เพื่อต้องการบอกให้แม่ผู้บริจาคอวัยวะทราบว่าสภาวะแห่งวิญญาณมีจริง 

“โปรดเปิดทางบุญ ต่อบุญให้กับลูกของคุณป้าด้วยการอนุญาตให้น้องเขาได้บริจาคอวัยวะด้วยเถอะครับ” นัทในสภาวะแห่งวิญญาณตั้งสมาธิเข้าไปพูดใกล้หูของผู้เป็นแม่ของผู้บริจาคอวัยวะ 

“แค่อนุญาต ก็สร้างบุญ” แม่ของผู้บริจาคอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ พร้อมมองหาเจ้าของเสียงที่เป็นผู้ชาย 

“ใช่ค่ะ แค่อนุญาต ก็เปิดทางบุญให้กับลูกของคุณแม่ได้ค่ะ” พยาบาลสาวทีมเจรจาขอบริจาคอวัยวะรีบตอบกลับ พร้อมกับหยิบบัตรผู้แสดงความจำนงในการบริจาคอวัยวะกับสภากาชาดไทยให้คุณแม่ทันที 

“ไม่จริง ไม่จริง ลูกของฉันถ้าเขาจะทำอะไรเขาต้องบอกฉัน บัตรใบนี้พวกเธอปลอมมันขึ้นมาเพื่ออยากได้อวัยวะนำไปขาย พอฉันเผลอก็ปลอมเสียงผู้ชายเหมือนลูกฉัน มาพูดที่ข้างหูให้ฉันอนุญาตอีก ทำไมพวกเธอใจร้ายกับฉันและลูกฉันอย่างนี้นะ ฉันทนไม่ไหวแล้ว ขอเปลี่ยนโรงพยาบาลตอนนี้เลย” คุณแม่พูดพร้อมหยิบมือถือโทรไปที่บ้านให้มาช่วยย้ายลูกของตนไปที่โรงพยาบาลอื่น

“เจ้าหนูน้อยธาลัสซีเมีย มนุษย์ผู้มีกรรมมาก เราจะเปิดโอกาสให้เจ้าได้สร้างบุญ” นายนิรบาลเข้าไปใกล้ตัวหนูน้อย พร้อมเปิดสัมผัสที่ 6 ทำให้หนูน้อยมองเห็นวิญญาณลูกชายที่ต้องการบริจาคอวัยวะ ยืนร้องไห้อยู่ข้างแม่ของเขา พร้อมหันหน้ามาสบสายตาหนูน้อยธาลัสซีเมีย

“หนู ช่วยพี่ด้วย ช่วยไปบอกคุณแม่ของพี่ด้วยนะ ว่าลูกชายคุณแม่ที่ชื่อพล ให้มาบอกคุณแม่ที่ชื่อแม่อ้อม ให้เปิดไลน์ของลูกชายเขาอ่านด้วย” พลซึ่งเป็นผู้บริจาคอวัยวะซึ่งตอนนี้อยู่ในสภาวะวิญญาณ แต่ถูกผู้เป็นแม่ไม่ยอมมอบอวัยวะแก่สภากาชาดไทย ได้มาขอความช่วยเหลือหนูน้อยธาลัสซีเมีย โดยที่ทั้งสองสัมผัสกันได้เกิดจากอานุภาพของนายนิรบาล 

“คุณป้าครับ คุณป้าชื่ออ้อม ลูกคุณป้าชื่อพล ใช่ไหมครับ” หนูน้อยธาลัสซีเมียวิ่งเข้าไปหาด้วยอาการหน้าตื่น

“ใช่จ้ะ แต่ทำไมหนูถึงได้รู้จักชื่อป้า” แม่ของผู้บริจาคถามด้วยความประหลาดใจ พร้อมซับน้ำตา 

“พี่ที่นอนอยู่บนเตียง เขายืนร้องไห้ตลอดเวลาเลยครับ เขาพยายามคุยกับคุณป้า แต่ไม่มีใครสนใจพี่เขาเลย พี่เขาบอกผมว่าอยากให้คุณป้าอ่านไลน์พี่เขาด้วยครับ” หนูน้อยธาลัสซีเมียพูดแล้วเดินเข้าไปยืนใกล้ ๆ ลูกของเธอ 

“ใคร ? คนไหน ที่มาสอนเด็ก 5 ขวบ โกหกฉันว่าลูกฉันตายเป็นวิญญาณมาบอกให้บริจาคอวัยวะ อยากได้ชีวิตลูกของฉันขนาดนี้เลยหรือ เธอเป็นเด็ก 5 ขวบ โกหกเก่งขนาดนี้ โตขึ้นไปเป็นภาระสังคมแน่นอน แล้วก็อย่ามาใกล้ลูกของฉัน เดี๋ยวเชื้อโรคธาลัสซีเมียจะแพร่เชื้อร้ายมาสู่ลูกฉันอีก ไปอยู่กับแม่เธอไป” แม่ของผู้บริจาคอวัยวะไล่หนูน้อยธาลัสซีเมียอย่างคลุ้มคลั่ง เสียสติ

“ฮือๆ หนูไม่ได้โกหก หนูเห็นพี่เขายืนร้องไห้ หนูเลยอยากช่วยพี่เขาครับ ฮือ ๆ โตขึ้นหนูจะเป็นคนดี คุณป้าเชื่อหนูด้วยนะครับ หนูไม่ได้โกหกจริง ๆ ฮือ ๆ” หนูน้อยธาลัสซีเมียร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้วเข้าไปกอดแม่ของเขา 

“หนูอย่าร้องไห้ไปเลย พวกเราเป็นผู้ขอรับการบริจาคโลหิตมาตลอด แม่กับหนูจึงเข้าใจในความรู้สึกของผู้รับ แต่ป้าเขากำลังต้องสูญเสียในสิ่งที่เป็นแก้วตาดวงใจไป หากเป็นแม่คงขาดสติเช่นกัน อย่าไปโกรธป้าเขาเลยนะ คนดีของแม่ เดี๋ยวแม่จะพาหนูไปรับเลือดถุงสุดท้าย นี่แหละชีวิตของผู้รับ” แม่ของหนูน้อยพูดพร้อมน้ำตาซึม รู้สึกสงสารลูกที่อยากเป็นผู้ให้บ้าง  

“ถึงแม้พี่จะเป็นนักบริจาคโลหิตที่ถือว่าเป็นผู้ให้ แต่สักวันหนึ่งเมื่อกาลเวลาเปลี่ยน พี่อาจเป็นผู้รับ ส่วนหนูก็กลับมาเป็นผู้ให้ได้ พี่เชื่อ ทำดีต้องได้ดี” ชัยพูดกับหนูน้อยและลูบหัวด้วยความสงสาร แล้วเดินไปหาพยาบาลสาวทีมเจรจา  

“ขอโทษครับ ถ้าณัฐพงษ์เพื่อนผมที่นอนอยู่บนเตียงเป็นเจ้าชายนิทราแบบนี้ ผมสามารถอนุญาตให้สภากาชาดไทยรับอวัยวะเพื่อนผมได้ไหมครับ เพราะนัทเคยสั่งผมไว้ครับ เขาขอยกอวัยวะทุกส่วนให้กับทางสภากาชาดไทยครับ” ชัยพูดออกมาพร้อมน้ำตา เพราะคิดว่าเพื่อนเขาคงไม่รอดแน่นอน จึงอยากทำตามความตั้งใจของเพื่อนครั้งสุดท้าย 

“ไม่ได้ค่ะ คุณณัฐพงษ์เป็นเจ้าชายนิทรา หากเอาท่อช่วยหายใจออกเขายังคงหายใจเองได้ เพราะแกนสมองยังไม่ถูกทำลาย แต่ถ้าผู้ป่วยอย่างคุณพลที่สมองตาย หากนำท่อช่วยหายใจออกเขาจะค่อย ๆ หยุดหายใจไปเอง ถึงจะใส่ท่อช่วยหายใจ ใช้ยากระตุ้นหัวใจ ให้น้ำเกลือ สุดท้ายก็ต้องเสียชีวิตค่ะ ยื้อชีวิตได้ไม่เกิน 3 วัน และที่คุณถามว่าจะเซ็นอนุญาตมอบอวัยวะให้กับสภากาชาดไทยในฐานะเพื่อนสนิท ก็ทำไม่ได้เช่นกันค่ะ เนื่องจากกฎหมายบังคับให้คนที่อนุญาตได้ต้องเป็นญาติสนิท นับลำดับจาก สามีภรรยา บุตรธิดา บิดามารดา เชื่อไหมค่ะมีคนบริจาคอวัยวะเป็นหลักหมื่น แต่ที่ใช้ได้จริง ๆ แค่หลักร้อยเองค่ะ ฉันเห็นผู้ป่วยที่รอขอรับบริจาคอวัยวะ ไม่ว่าจะเป็น หัวใจ ลิ้นหัวใจ ปอด ไต ตับ ดวงตา ม้าม และผิวหนัง ต่างรอคอยอย่างสิ้นหวัง แต่เมื่อฉันมาเจอสิ่งที่ทำให้ความฝันของผู้ป่วยที่รอคอยอวัยวะเป็นจริง ฉันจึงอยากทำให้ความฝันของผู้ขอรับการบริจาคอวัยวะเป็นจริงค่ะ 1 ผู้ให้ 8 ผู้รับ เป็นบุญอันยิ่งใหญ่ที่ผู้มีบุญมากถึงทำได้ ฉันได้แต่ภาวนาให้ป้าเขาเข้าใจในเรื่องนี้เหมือนกับคุณค่ะ” พยาบาลสาวทีมเจรจาพูดจบก็ก้มหน้ารีบทำเอกสารให้แม่ของผู้บริจาคอวัยวะเพื่อย้ายโรงพยาบาล ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าลูกเขาสมองตายแล้ว 

“มนุษย์ผู้ประกอบสัมมาชีพชอบ ย่อมเห็นในสิ่งที่ต่าง แม้นความตายกลับมองเห็นเป็นช่องทางสร้างกุศล หาได้สะพรึงกลัวต่อความตายไม่ นำส่วนเป็นรูปขันธ์มาต่อชีวิต ผลิตผลบุญอุปบารมีทาน แต่มนุษย์กลับคิดร้ายกลายกลับ การมอบอวัยวะให้ผู้อื่น ตนต้องกลายเป็นผู้พิการ หาได้มีสติคิดไม่ ร่างที่ถูกเพลิงเผาดับสูญหมดเหลือเถ้ากระดูก เหตุนั้นทำไมไม่ฉงนคิดเฉกเช่นว่า ดับสูญเกิดใหม่อวัยวะสูญสิ้นไปไม่ ด้วยกำเนิดเกิดใหม่รูปกายมนุษย์ครบ สมบูรณ์ มีรูปองค์ทรงดีผลิออกจากจิตกุศลจากการมอบอวัยวะเป็นเหตุแต่ด้วยเดชแห่งอวิชชา ย่อมนำมนุษย์ เทวดา แม้แต่พรหม สู่อบายเสมอ” นายนิรบาลได้พิจารณาบทแห่งปฏิจจสมุปบาท กายของท่านก็หายวับ คงปล่อยให้นัทอยู่คนเดียวในห้อง

“เสียดาย... คนเป็นไม่ได้เห็น เสียดาย... คนตายไม่ได้บอก เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน ร่างกายผมในภาวะแห่งวิญญาณอยากกลับไปที่ร่างของผม อยากสัมผัสร่างของตนเอง ผมทำไม่ได้ ผมจับต้องกายเนื้อของผมไม่ได้ ผมเอาอะไรไปไม่ได้เลย นอกจากกรรมลิขิตดีชั่วของผม การบริจาคอวัยวะย่อมทำให้กรรมดีหนุนผลบุญให้สูงขึ้น ไม่มีตกต่ำแน่นอน เพราะสร้างชีวิตใหม่ได้ถึง 8 ชีวิต บุญ 8 เท่า ชาติหน้าทุกอย่างต้องดีงาม 8 เท่า หากคนที่คิดว่าการบริจาคอวัยวะแล้วพิการขอให้ท่านคิดใหม่ตรองใหม่ เมื่อเราตายนำร่างไปเผาเหลือแต่เถ้าถ่าน มันไม่เหลืออะไร ไม่มีอะไรน่าชื่นชมเลยหลังคนเราถูกฌาปนกิจ ผมขออนุโมทนาบุญกับผู้บริจาคอวัยวะทุกท่านเพื่อเปิดทางบุญ 8 เท่าของผมในสภาวะแห่งวิญญาณ ขออนุโมทนาบุญกับพยาบาลผู้มีสัมมาชีพชอบที่มองเห็นความตายเป็นโอกาสสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่” นัทในสภาวจิตที่อิ่มบุญทำให้เขามองเห็นดวงจิตของพยาบาลสาวที่สว่างขึ้นมา 

“คุณแม่คะ ทางโรงพยาบาลปลายทางที่คุณแม่จะย้ายลูกคุณแม่ไป เขาปฏิเสธไม่รับผู้ป่วยนะคะ เนื่องจากคุณหมอเห็นประวัติการรักษาแล้วแจ้งว่าถึงย้ายมาก็รักษาไม่ได้เหมือนกัน” พยาบาลสาวพูดพร้อมเปิดข้อความเสียงที่คุณหมอพูดกับพยาบาลสาวให้คุณแม่ฟัง 

(โปรดติดตามตอนต่อไป ) 

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.