บทที่ 5 ต่างมิติเคลื่อนไหว
บทที่ 5 ต่างมิติเคลื่อนไหว
ณ ทวีปมืด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งซากศพของสัตว์อสูรกองระเนรนาทหากมีผู้ใดผ่านมาพบเห็นคงจะต้องสั่นสท้านด้วยความหวาดกลัว เพราะว่ามันกลับไม่ใช่สำหรับชายหนุ่มทั้งสอง 1 นั้นท่าทางเยาว์วัย 1 นั้นท่าทางสูงวัย
ชายหนุ่มทั้งสองกำลังยืนประจันหน้า หนึ่งสูงวัยหนึ่งนั้นเยาวัย เลือดสีแดงฉานไหลออกจากบาดแผล ทว่าสำหรับชายทั้งสอง นี่มันนับเป็นอะไรได้ พวกเขาเคยผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดและโหดร้ายมามากกว่านี้ เป็นร้อยเป็นพันเท่า ชายหนุ่มผมดำกว่าตามองชายหนุ่มที่ท่าทางเน็ตเหนื่อย เขากำลังดับในมือแน่นก่อนที่จะกล่าวอย่างยิ้มแย้ม
“รู้สึกว่าพลังจะตกลงไปเยอะเลยนี่ หลังจากยกพลังให้กับวินไป พี่ก็คงไม่ได้มีพลังเท่าเดิมเลยสินะ ไม่สิถ้าจะพูดให้ถูกแล้วก็ผมคิดว่าต่อให้พี่พยายามฟื้นฟูพลังเวทย์ พลังปราณก็คงไม่สามารถทำได้ง่ายๆ”
คารอสยิ้มก่อนที่จะมองไปยังแฟนท่อม “ถ้าเทียบกันแล้ว ตอนนี้พลังของข้าคงฟื้นฟูมาได้เพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ต่อให้จะเสียดายอย่างไรก็คงไม่สามารถนำพลังที่ให้กับเจ้าหนูนั่นคืนมาได้ แต่ว่ามันจะนับเป็นอะไรได้ สิ่งที่ข้าได้ตัดสินใจไปแล้วต่อให้มันจะเป็นเรื่องที่ผิดหรือถูกก็ตามข้าก็ยังจะทำมัน”
“ตอนแรก ผมก็นึกว่าพี่จะเสียใจเสียอีกที่นำพลังทั้งหมดไปให้กับวิน แต่ตอนนี้ผมเริ่มคิดว่าผมมองพี่ผิดไป สำหรับพี่เองพลังเวทย์แค่นั้นต่อให้มีหรือไม่ก็คงไม่นับเป็นอะไรได้”
สิ้นคำกล่าวชายหนุ่มท่าทางสมวัยก็ตบมือ “มิผิด สำหรับข้าแล้วการต่อสู้แบบนี้ก็เราจ่ายไปอีกแบบนึง แต่ว่าทางที่ดีข้าก็อยากได้พลังเวชเหมือนเมื่อก่อนกลับมาเช่นเดียวกัน ความจริงแล้วมันไม่ใช่เพราะว่าถ้ายกพลังให้กับเจ้าหนูนั่นไปหรอก แต่สาเหตุที่ข้าต้องเสียพลังก็เพราะว่า……”
สิ้นคำของชายหนุ่ม แฟนท่อมจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ “นี่สินะที่เป็นสาเหตุที่แท้จริง แสดงว่านอกจากพี่ที่รู้เรื่องนี้ก็มีพี่อะคาอีกคนนึง ส่วนผมก็คงเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้”
แฟนท่อม หยุดไปสักพักก่อนที่จะตัดสินใจกล่าว “ผมขอถามอะไรหน่อยสิรู้สึกเสียใจหรือเปล่าที่ให้พลังและวิชากับคนที่ไม่ใช่เป้าหมายของพวกเรา”
“ไม่เลยสักนิด ต่อให้นายคนเจ้าหนูนั่นจะเป็นศัตรูของพวกเราฆ่าก็ไม่รู้สึกเสียใจ กลับกันรู้สึกตื่นเต้น ถ้าหากพวกเราได้สู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งขนาดนั้นคงสนุกพิลึก”
“สมแล้วแหละที่เป็นพี่ ไม่สิสมแล้วแหละที่เป็นพี่ทั้งสองคน ถ้าผมไม่ได้เจอพี่และพี่อะคาชีวิตของผมก็คงน่าเบื่อเหมือนกัน “
คารอสยิ้มก่อนที่จะกล่าว “ถ้างั้นเรามาเริ่มกันต่อเลยดีไหม” สิ้นคำกล่าวของคารอสพวกเขาทั้งสอง พลันรู้สึกถึงจิตอาฆาตอันรุนแรงก่อนที่จะมีเสียงลึกลับได้กล่าวขึ้น
“แหมๆ ต่อสู้กันแค่สองคนมันก็คงน่าเบื่อเกินไปละมั้ง ให้ฉันได้ฝึกด้วยสิ”
สิ้นเสียงชายทั้งสองจึงหันขวับไปมอง
ชายผมดำท่าทางองอาจนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้อย่างสบายใจ ชายคนนั้นค่อยๆหยิบบางสิ่งมาจากกระเป๋าก่อนที่จะกล่าวขึ้น
“ไม่ได้พบกันนานเลยนะ ไม่คิดเลยว่าพวกแกจะมาอยู่ที่นี่ได้ “
คารอสกัดฟันก่อนที่จะเตียมตัวโจมตี แต่ทว่าคำถามของ แฟนท่อมทำให้คารอสต้องหยุดฟัง
แฟนท่อมมองภาพเบื้องหน้าอย่างตกตะลึงก่อนที่จะตัดสินใจถาม “ทำไม ทำไมพวกเราถึงมาอยู่ที่นี่ได้ พวกเราก็ปิดประตูมิติไปเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือไง”
“เรื่องนั้นคงไม่จำเป็นต้องบอกหรอกนะ เพราะว่าคนที่กำลังจะตายไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากไปกว่าที่รู้อยู่แล้วหรอก”
ท่าทางที่ดูโอหังของชายเบื่องหน้าทำให้ชายทั้งสองคิ้วกระตุก ก่อนที่คารอสจะยิ้มและแฟนท่อมจะปล่อยจิตสังหาร “อย่างนั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นพวกฉันจะทำให้พวกแกรู้เองชาวต่างมิติ ว่าตอนนี้พวกแก่กำลังสู้กับใคร และอีกอย่างหนึ่งต่อให้แกไม่บอกพวกฉันก็ต้องหาวิธีถามพวกแกอยู่แล้ว”
แฟนท่อมกล่าวก่อนที่จะยกดาบขึ้นแล้วฟันออกไปอย่างรวดเร็ว คลื่นดาบพุ่งไปปะทะร่างกายของชายตรงหน้า ทว่าก่อนที่ขึ้นดาบจะเข้าไปปะทะร่างชายเบื้องหน้าก็ขึ้นตัวหลบได้อย่างรวดเร็ว
คารอสเคลื่อนร่างอ้อมไปไปข้างหลังชายหนุ่มก่อนที่จะก้าวขึ้น “ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าการที่พวกเจ้ามาหาเรื่องพวกข้าจะต้องสูญเสียอะไรบ้าง”
—----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทางฝั่งของกลุ่มของโทยะ
เด็กหนุ่มผมสีดำสัมผัสถึงพลังเวทย์อันรุนแรง จากเดิมที่พวกเขาคิดจะออกจากทวีปมืด แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสามตับต้มหยุดเพื่อปรึกษาหารือ
เนกิ ค่อยๆปล่อยพลังออกไปรอบๆ พลังสีฟ้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเพศตรวจจับค่อยๆแผ่ไปรอบๆบริเวณ ผ่านไปไม่นานเด็กหนุ่มผมแดงจึงตัดสินใจกล่าว
“เป็นอย่างที่พวกเราคาดไว้ พวกสาวต่างมิติมันออกมาจากไม่ติดของมันได้แล้ว แต่ว่ามันน่าจะออกกันมาได้ไม่มากมันเลยส่งคนที่แข็งแกร่งมาที่โลกของพวกเรา”
“แสดงว่าที่ฉันบุกขึ้นไปมันก็ไร้ประโยชน์น่ะสิ” โทยะกล่าวพลานกำหมัดแน่น เขารู้สึกเจ็บใจหากเขาตัดสินใจให้เร็วกว่านี้เขาคงจะสามารถจัดการพวกชาวต่างไม่ดีพวกนี้ได้
“อย่าประเมินตัวเองสูงเกินไปนะโทยะ ต่อให้พวกเราจะบุกขึ้นไปพวกเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้หรอก กำลังลบมันต่างกันเกินไป พวกเราต้องมีแผนที่ดีกว่านี้” รูรุกล่าวอย่างสุขุม เด็กหนุ่มผมฟ้าเรียกแว่นตาก่อนที่จะค่อย ๆ หยิบมันมาใส่อย่างช้า ๆ
“จากที่ฉันคำนวณดู ผู้คนที่สู้กับชาวต่างมิติฝีมือไม่ใช่ธรรมดา มันไม่เหนื่อยหรอกที่ว่าเขาจะแพ้ ถ้าเราต้องการจะไปช่วยฉันว่ามันคงไม่มีประโยชน์สักเท่าไร”
“มันเป็นเพราะว่าฉันยังบาดเจ็บอยู่อย่างงั้นหรอ ถ้าฉันเป็นตัวถ่วงพวกนายก็ไปช่วยพวกนั้นก็ได้นะ ฉันว่าการต่อสู้กับชาวต่างมิติมันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น ถ้าคนที่ไม่เคยรับมือกับพวกมัน หรือหรือไม่มีอุปกรณ์พิเศษเหมือนพวกเราก็ไม่แน่หรอกว่าจะชนะ “
สินคำกล่าวของโทยะ เนกิจึงยิ้มหยามยันกับความคิดของเพื่อน ก่อนที่เด็กหนุ่มผมแดงจะตัดสินใจกลาง ข้อมูลที่เขาปิดบังเพื่อนๆมาตลอด “ฉันว่านายเป็นห่วงเกินเหตุ เพราะว่าคนที่กำลังต่อสู้กับชาวต่างมิติคือ อดีต….”
สิ้นคำกล่าวของเด็กหนุ่มผมแดงเด็กหนุ่มทั้งสองก็มองเขาด้วยท่าทางตกตะลึง เพียงไม่นานโทยะก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก“มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะไม่ห่วง แล้วอีกอย่างหนึ่งต่อให้ฉันไปสมทบตอนนี้พวกเราก็คงเป็นได้แค่พวกถ่วงแข่งถ่วงขาเท่านั้น”
“ถ้านายคิดได้แบบนี้ก็ดี ถ้าอย่างนั้นพวกเราเตรียมตัวเดินทางกันต่อเถอะ” รูรุกล่าวก่อนที่พวกเขาจะรีบเร่งเดินทางเพื่อกับไปถอนคำสาปให้กับชายหนุ่มผมสีดำ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เด็กหนุ่มผมทองมองฟ้าที่ค่อย ๆ มืด เขาถอนหายใจก่อนที่จะหวนรำลึกถึงความเลือดร้อนของตนเอง เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนที่จะหันไปดูอาการของเด็กสาว เมื่อเขาพบว่าตอนนี้จีหน้าหายดีเป็นที่เรียบร้อยแล้วเด็กหนุ่มจึงยิ้มออกมาอย่างพอใจ แต่ทว่าสายตาของเด็กสาวผมทองกับมองเขาด้วยท่าทางไม่พอใจสักเท่าไหร่นัก
ตอนแรก วินคิดจะเข้าไปถาม แต่ว่าเขาก็ต้องหยุดความคิดนั้นลงเมื่อกลุ่มของเด็กสาวผมสีดำเข้ามาหากลุ่มของตนเอง วินมองท่าทางของมากะ กับเด็กหนุ่มผมสีดำที่ดวงตาของเด็กหนุ่มคนนั้นมองไม่เห็น เขามองท่าทางของทั้งสองอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจกล่าวเด็กหญิงผมสีดำก็ตัดสินใจแนะนำตัวเสียก่อน
มากะกวาดตาสำรวจรอบๆเพียงไม่นาน หล่อนมองกลุ่มของพวกวินอย่างพินิจพิเคราะห์ หลังจากนั้นเด็กสาวจึงตัดสินใจพูดขึ้น “ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนจ้า ฉันชื่อมากะ อายุ 15 ปี ส่วนนี่คาเสะอายุ 15 ปีเหมือนกับฉัน พวกเรากำลังจะเตรียมตัวสอบเข้าวิทยาลัยเวทมนตร์ จากที่ฉันดูพวกเธอก็จะเข้าวิทยาลัยเวทมนตร์เหมือนกันใช่ไหม”
สิ้นเสียงของเด็กสาวผมดำ เด็กสาวผมฟ้าคนเดียวในกลุ่มของวินจึงหันกลับมามอง รินมองท่าทางของมากะท่าทางอันเป็นมิตรของเด็กสาวผมดำทำให้เด็กสาวผมฟ้ายิ้มพลางผายมือประกอบ “ใช่แล้วจ้า พวกเรากำลังจะสอบเข้าโรงเรียนเวทมนตร์เหมือนกัน เธอชื่ออะไรกันหรอจ๊ะ ฉันชื่อว่ารินนะ ส่วนคนที่ผมสีทองชื่อว่าจีน่าเป็นน้องสาวของฉัน คนที่มีผมสีน้ำตาลชื่อว่าอาโออิ ส่วนเด็กทั้งสองคนเด็กผู้หญิงชื่อว่าชิโระส่วนเด็กผู้ชายชื่อว่าคุโระจ้า”
ท่าทางที่ดูเป็นมิตรของเด็กสาวผมฟ้า ทำให้มากะรู้สึกดีอย่างประหลาด มากะมองท่าทางของลินที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ตัวแรกเด็กสาวผมดำคิดว่ากลุ่มของรินคุณต้องแนะนำตัวเป็นพิธีเฉยๆ เพราะว่าเธอก็ต้องแปลกใจเมื่อเด็กสาวผมฟ้าแนะนำตัวเองอย่างกระตือรือร้น
เด็กสาวผมดำยิ้มตอบ “ฉันชื่อมากะ ยินดีที่ได้รู้จักพวกเธอทุกคนนะจ๊ะ ส่วนคนข้างๆฉันชื่อว่าคาเสะจ้า” เธอพูดก่อนที่จะมองไปยังจีน่าเพื่อสำรวจร่างกายของเด็กสาว
“มีอะไรหรือเปล่า” จีน่าหันกลับมาถาม ทำให้มากะส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่แปลกใจเฉยๆ อากาศที่เธอโดนมันไม่น่าจะหายอยู่แบบนี้ จากที่ฉันดูบาดแผลที่เธอโดนแทงน่ะมันน่าจะใช้เวลาในการรักษามากกว่านี้”
คำถามของเด็กสาวผมดำ ทำให้ทุกคนในกลุ่มของเด็กหนุ่มผมทองหันกลับมามองอย่างประหลาดใจ ก่อนที่ทุกคนจะเอ่ยเด็กน้อยผมสีดำพลันพูดขึ้น “ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลยนี่ครับ มันก็เป็นเพราะว่าฝีมือในการรักษาของพี่รินมันสุดยอดยังไงล่ะครับ ถ้าพี่บาดเจ็บพี่ก็ให้พี่รินรักษาได้นะครับ”
เสียงใสๆประกอบกับท่าทางที่ไร้เดียงสา ทำให้มากะบตัดสินใจพูดอย่างทีเล่นทีจริง “จริงด้วย ดีเหมือนกันถ้าพี่บาดเจ็บเดี๋ยวพี่จะให้พี่สาวของเราเป็นคนรักษาก็แล้วกันนะ ว่าแต่เรารักษาให้พี่ไม่ได้หรอ”
คำถามของมากะทำให้คุโระหัวเราะออกมา ก่อนที่เด็กน้อยผมสีดำจะตอบยิ้มยิ้ม “ไม่ได้หรอกครับผมไม่ถนัดด้วยรักษา แต่ถ้าพี่ต้องการคนฝึกการต่อสู้ชวนผมได้นะผมถนัดการต่อสู้มากกว่า”
“อย่างงั้นหรอ ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวพี่ให้คุโระช่วยสอนก็แล้วกันนะ”
“อื้อ” เด็กน้อยผมสีดำยิ้มรับก่อนที่เขาจะจับมือของพี่สาวของตน
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 228
แสดงความคิดเห็น