หัวใจมายา ตอนที่ 17 ออกจากบ้านหลังใหญ่

หัวใจมายา

-A A +A

หัวใจมายา ตอนที่ 17 ออกจากบ้านหลังใหญ่

“คุณหนู คุณหนูจะไปไหนคะ” ป้าอิ่มวิ่งตามหญิงสาว แล้วเหนี่ยวรั้งเธอไว้สุดชีวิต พลางร้องไห้น้ำตาไหลพรากเช่นเดียวกัน

“ป้าอิ่มคะ อย่าร้องไห้นะ” ปลายฝนยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาหญิงชราด้วยความรัก ก่อนที่ป้าอิ่มจะส่ายศีรษะไปมาแล้วโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความเจ็บปวด

“ป้าจะไปคุยกับคุณท่านให้รู้เรื่อง คุณหนูอย่าไปนะคะ คุณท่านแค่โมโห ที่ของในตู้เชฟหายไปเท่านั้น ไม่นานคุณท่านก็หายโกรธ เชื่อป้านะ อย่าทิ้งป้าไปนะคะ” ป้าอิ่มละล่ำละลักพูดพลางจับมือหญิงสาวไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยเธอไป ก่อนที่ปลายฝนจะยิ้มทั้งน้ำตา แล้วแกะมือหญิงชราออกช้า ๆ

“ฝนต้องไปแล้วค่ะ ไม่มีเหตุผลใดที่ฝนจะอยู่ต่อ การที่ฝนอยู่ที่นี่ก็มีแต่จะทำให้คุณพ่อทุกข์ใจ ป้าอิ่มอย่าร้องไห้นะคะ ฝนฝากดูแลกองทัพและแม่กานดาด้วย”

“คุณหนูพูดแบบนี้ คิดจะไม่ติดต่อกลับกันเลยใช่ไหมคะ” ปลายฝนก้มหน้าลงพร้อมหยดน้ำตาที่ไม่อาจยับยั้งได้ ก่อนจะตัดสินใจหันหลังเดินจากมา แม้ว่าเสียงเรียกของหญิงชราจะร้องเหนี่ยวรั้งเธอไว้ด้วยความเจ็บปวด แต่ปลายฝนก็จำกลั้นใจไม่หันหลังกลับไป

นับจากนี้เธอจะไม่เหลียวหลังกลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีก จะให้วันเวลาที่ผ่านมา สลายกลายเป็นสายลม ทำเหมือนว่าบ้านหลังนี้ไม่มีอยู่จริงในชีวิต เธอจะทิ้งความทรงจำต่าง ๆ ไว้ที่นี่และจะไม่หวนนึกถึงอีก

ร่างเล็กหอบเอาความเจ็บปวดที่มีเดินเหม่อลอยตามถนนไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย แสงสว่างจากหลอดไฟริมถนนค่อย ๆ เปิด ผู้คนที่พลุกพล่านผ่านไปมาไม่ทำให้เธอรู้สึกตัวแต่อย่างใด

“บางครั้ง ฝนก็อยากไปอยู่กับแม่ให้รู้แล้วรู้รอด” หญิงสาวเงยหน้ามองท้องฟ้า แล้วปล่อยน้ำตารินไหล ก่อนได้สติกลับมาแล้วมุ่งหน้าเดินต่ออย่างไร้จุดหมาย ใบหน้าแดงช้ำขึ้นเป็นรอยนิ้วมือ พร้อมกับขอบปากมีเลือดซึมออกมา ทำให้ผู้เดินผ่านไปผ่านมามองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ

“คุณเป็นอะไรไหมคะ” หญิงวัยทำงานหยุดเดินแล้วถามเธอด้วยสายตาเป็นห่วง ก่อนที่ปลายฝนจะส่ายหน้าไปมา แล้วรีบเดินหลบไปทางอื่น

ป้าช่ออิ่มเดินน้ำตาซึมเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ พลางจับจ้องไปยังภาคภูมิ แล้วปล่อยน้ำตาหลั่งไหลออกมา ก่อนจะตัดสินใจพูดบางอย่าง

“คุณท่านไม่รักคุณหนูจริง ๆ เหรอคะ ทำไมถึงปล่อยให้คุณหนูไปอย่างนั้นคะ”

“...” ชายกลางคนนิ่งเงียบ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งยังโซฟา แล้วทอดสายตามองไปยังถุงนาฬิกานั้น

“คุณหนูรอความรักจากคุณท่านมาตลอด เธอมักจะมาบ่นน้อยใจอยู่เสมอ แต่ป้าก็พยายามปลอบใจว่าอีกไม่นานคุณท่านจะเข้าใจ แต่ทำไมคะ ยิ่งนานวันเข้าทำไมเรื่องราวถึงได้ใหญ่โตขนาดนี้”

“ก็ถ้าของในตู้เชฟฉันไม่หายไป ยัยปลายฝนไม่ทำแบบนี้ คิดเหรอว่าฉันจะไล่มันไป” เขาเถียงกลับ

“คุณหนูไม่ได้เอาไปค่ะ ฉันเลี้ยงเธอมากับมือ ยังไงเธอก็ไม่ได้เอาไป” ป้าช่ออิ่มสะอื้นไห้เถียงกลับเช่นกัน เป็นครั้งแรกที่ป้าช่ออิ่มกล้าขึ้นเสียงกับคนมีอำนาจสูงสุดอย่างภาคภูมิ

“ก็ถ้ายัยปลายฝนไม่เอาไป ฉันเอาไปเองงั้นสิ หรือว่าเมียฉันเป็นคนเอาไป หรือจะโทษว่ากองทัพเอาไป จะให้ฉันโทษใครดี โทษป้าอิ่มดีไหม” หญิงชราชะงักนิ่ง พลันเดินไปยังถุงนาฬิกาที่วางอยู่ แล้วค่อย ๆ หยิบเปิดช้า ๆ ก่อนจะยกมือปิดปากแล้วปล่อยโฮออกมาด้วยความเสียใจ

“คุณหนูซื้อนาฬิกาให้คุณท่านจริง ๆ ด้วย หลายปีก่อนเธอบอกกับป้าว่าจะเก็บเงินซื้อของขวัญวันเกิดให้คุณท่าน เธอพยายามเก็บเงินจากค่าขนม ไม่ยอมซื้อเสื้อผ้า ไม่ยอมซื้อเครื่องสำอาง ไม่ยอมซื้อของที่อยากได้ เพราะต้องเก็บทุกบาทเพื่อนาฬิกาเรือนนี้ แต่ก็คุณท่าน กลับโทษว่าเธอขโมยของจากเชฟ เพื่อไปซื้อนาฬิกานี้เหรอคะ” ชายกลางคนนิ่งเงียบ พลางเบี่ยงหน้าไปทางอื่น เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าของในเชฟหายไปเป็นเพราะใครกันแน่

“คุณท่านทำกับคุณหนูขนาดนี้ คุณท่านไม่ละอายใจต่อแม่ของคุณหนูบ้างเหรอคะ ที่ปล่อยให้ลูกสาวของเธอต้องรอนแรมอยู่ข้างนอกคนเดียวแบบนั้น ถ้าคุณหนูเป็นอะไรไป ป้านี่แหละจะไม่ให้อภัยคุณท่านเลย คอยดู” หญิงชราพูดจบก็กระทืบเท้าเดินจากไป ปล่อยให้ชายกลางคนนั่งอยู่เช่นนั้นตามลำพัง ก่อนเขาจะนึกบางอย่างได้ จึงรีบขับรถออกมาจากบ้านหลังใหญ่

“ไปไหนของเขานะ” ชายกลางคน ส่องสายตามองตามข้างถนนเพื่อหาปลายฝน แต่ก็ไร้วี่แววของเธอ เขาขับวนหลายรอบจนถอดใจ จึงขับกลับเข้ามาบ้านพร้อมกับสายตาสับสน สองเท้าของภาคภูมิเดินเข้ามา ยังเห็นกล่องนาฬิกาเรือนนั้นวางอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน

“สุขสันต์วันเกิดครบรอบห้าสิบห้าปีนะคะ ปีนี้ฝนขอให้คุณพ่อมีสุขภาพแข็งแรง อยู่กับฝนและกองทัพไปอีกนานแสนนาน หวังว่าคุณพ่อจะชอบนาฬิกาเรือนนี้นะคะ ฝนรักคุณพ่อค่ะ”

หลังจากอ่านการ์ดที่ติดอยู่จบ ชายกลางคนถึงกลับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เขาค่อย ๆ เปิดกล่องแล้วหยิบนาฬิกาขึ้นมามองด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก หรือเพราะเขากำลังจะเสียปลายฝนไปแล้วจริง ๆ

ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดมิดอับแสงไปทีละน้อย รถคันหรูของ ธไนยจอดรอกองทัพอยู่ที่เดิม ตามเวลานัดหมาย ทว่าไร้วี่แววของกองทัพอย่างสิ้นเชิง ชายหนุ่มในชุดสูทราคาแพงเอนกายพิงเบาะในท่าถนัด พร้อมกับทอดสายตามองออกไป อย่างมีความหมาย

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.