ตอนที่9 ตามง้อ

ลวงให้ใจรัก

-A A +A

ตอนที่9 ตามง้อ

หมวดหนังสือ: 

 

                   ธิวากรปรือตาปริบๆตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย​ แขนยาวๆควานหา​คนเมื่อคืนที่นอนในอ้อมกอดของเขา  แต่เมื่อคนที่นอนอยู่ข้างๆกลับไม่อยู่แล้ว ธิวากรได้แต่เอามือหนานวดขมับของตัวเอง เธอทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเวลาอยู่ใกล้ ซึ่ง​มันต่างจากผู้หญิง​คนอื่นที่จ้องแต่จะจับเขา

 

           “ชลไปไหนหรอครับป้า”    เขาถามเมื่อเดินลงมาชั้นล่างของบ้านแต่กลับไม่เจอใครเลย มีแต่ป้าสำรวย​ที่ขลุกอยู่ในห้องครัว

           “เห็นออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”       ป้าสำรวย​ตอบเขาแล้วเดินเข้าไปขลุกในครัวต่อ

               วันนี้ธิวากรเลือกที่จะไปหาลูกค้าข้างนอกก่อนจะเข้าบริษัทในตอนบ่าย

แม้จะนั่งขลุกอยู่ในห้องทำงาน​ตลอดแต่วันนี้เขาเองก็ไม่มีกะจิตกะ​ใจ​จะทำงาน มันมีแต่ภาพของหญิงสาว​ที่เขารังแกมาเมื่อคืนติดอยู่ในหัว แม้ว่าจะผ่านผู้หญิง​มาหลายคนแต่เขาก็ไม่เคยมีอาการแบบนี้ 

        

                 “เอ็งเป็นไรไปว่ะ ไอ้กร”   วิษณุซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขาถามขึ้นเมื่อนัดกันมาดื่ม แต่สีหน้าของเพื่อนกลับดูเคร่งเครียด​กว่าทุกครั้ง ไม่ว่าเขาจะมีปัญหา​หนักหนามาแค่ไหนวิษณุ​คือคนที่เขาไว้ใจและให้คำปรึกษา​แก่เขามาโดยตลอด

                 “คือ...มีเรื่องเครียดนิดหน่อย​ว่ะ ไม่รู้จะพูดยังไง”    ธิวากรตอบเพื่อนด้วยความกังวล      “เออ…เล่ามาเถอะน่าเผื่อมีอะไรช่วยได้”

                ในที่สุดธิวากรก็เล่าทุกอย่างให้กับวิษณุฟังจนจบ

                “ห๊ะ!!!  นี่แกไปขืนใจ​เขาเลยหรอ  นั่นเมียพ่อแกนะเว้ย”  วิษณุ​ได้ฟังเพื่อนเล่าแล้วยังรู้สึกตกใจ

                “ก็ตอนนั้นควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆว่ะ  แต่ฉันว่าพ่อแค่เอ็นดูเขาเฉยๆ ฉันรู้สึกได้ว่าฉันเป็นผู้ชายคนแรกของเขาว่ะ”

                “ไอ้กรเอ้ย...แล้วแกจะทำไงต่อว่ะ”  วิษณุ​ได้แต่ถอดใจกับสิ่งที่เพื่อนเขาทำ

                “ฉันจะรับผิดชอบเขาเอง”   ธิวากรบอกกับเพื่อน

                 “แกชอบเขาใช่ไหม ห้ามโกหกนะเว้ย ถ้าแกไม่แคร์แกคงไม่เป็นแบบนี้แน่”           

                 “เออ…ฉันชอบเขาว่ะ”   วิษณุ​รู้ทันเพื่อนเพราะเขาผ่านผู้หญิง​มาเยอะก็ไม่เคยเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้

                 “แกไปขอโทษ​เขาสะ  แล้วก็รับผิดชอบ​กับสิ่งที่แกทำ ถ้าแกรักเขาก็ทำให้เขายอมรับในตัว​แก”    วิษณุ​ให้คำแนะนำเพื่อนก่อนทั้งคู่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน        

                  “ก๊อก​ ก๊อก​ ก๊อก​”    

                 “ใครคะ”     “ฉันเอง”    เสียงเคาะประตูจากด้านนอกทำให้ชโลธร​สดุ้งตื่น เสียงของคนที่เคาะประตูดังมาจากข้างนอกไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเสียงของใคร เหตุการณ์​ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันยังฝังอยู่ในใจ เธอจะไม่ยอมให้เขารังแกอีกเป็นอันขาด     

                  “มีอะไรเอาไว้คุยกันตอนเช้าเถอะค่ะ ฉันว่าคุณเมาแล้วก็ควรจะไปนอนนะคะ”       เธอไม่ยอมเปิดประตูให้เขาเพราะรู้ดีว่าถ้าเขาทำอะไรเธอเองคงจะสู้แรงเขาไม่ไหวแน่นอน

                  “ถ้าไม่เปิด ฉันจะนอนที่หน้าห้องเธอนี่แหละ ได้ยินไหมชล เปิดประตูสิชล”         

                 เขายิ่งตะโกนเรียกเสียงดัง​ขึ้นแต่เธอไม่สนใจ ถ้าเขาจะนอนหน้าห้องจริงๆเธอก็คงจะห้ามเขาไม่ได้                                                                                                                   

            “เปิดประตู ฉันบอกให้เปิดประตูไง”    ธิวากรงัวเงีย​ตื่นขึ้น​มาพร้อมกับอาการมึนๆ แต่ก็ไม่วายจะทุบประตูห้องของเธออีกครั้ง

                 “คุณกรคะ คุณชลไปทำงานแต่เช้าแล้วค่ะ ไม่ทราบว่าคุณกรมีอะไรหรือเปล่า​คะ”    

                ป้าสำรวยที่กำลังจะขึ้นมาทำความสะอาด​เห็นเขาเข้าพอดี ธิวากรไม่ตอบคำถามแต่กลับเดินหนีเข้าห้องตัวเอง 

                  “เป็นอะไรของเขา”    ป้าสำรวย​ได้แต่บ่นอุบอิบอยู่คนเดียวก่อนจะไปทำความสะอาดบ้านต่อ

                   ผ่านไปหลายวันเธอเอาแต่หลบหน้าเขา ตรงไหนที่เขาไปเธอจะหลีกเลี่ยงให้ห่าง ส่วนมากเธอจะไปกับกลุ่มเพื่อนๆที่ทำงาน ซึ่งมันจะทำให้เขาไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เธอ เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างไม่อย่างนั้นเขาคงทนไม่ไหวเป็นแน่

                   สุดสัปดาห์​ของการทำงาน ธิวากรรีบกลับบ้านเร็วกว่าปกติแต่ทางฟากชโลธร​ถูกเอกลักษณ์​ดึงตัวไปทานข้าวเย็นเป็นเพื่อน ทั้งสองสนิทสนม​กันมากขึ้น เอกลักษณ์​เองก็เดินหน้าทำคะแนนจีบชโลธร​อย่างไม่หยุดหย่อน​

                     “อุ้ย!!! คุณเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง”   หลังจากที่เอกลักษณ์​มาส่งเธอที่หน้าบ้านแต่ก็ต้องตกใจ เมื่อให้ใครบางคนถือวิสาสะ​เข้ามานั่งในห้องของเธอ        “นี่มันก็บ้านผมนิ ผมจะเข้าห้องไหนก็ได้”       คนที่รออยู่ในห้องเอ่ยออกมา    

               “ได้ค่ะ  ถ้าคุณไม่ไปเดี๋ยวฉันไปเอง”     หญิงสาว​ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง​กับเขาจึงตัดบท แล้วกำลังจะเดินออกจากห้องไปแต่กลับถูกเขาจับแขนเล็กนั้นไว้เสียก่อน

                “เดี๋ยวสิ...ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”

                “คุณมีเรื่องอะไรก็ว่ามาเถอะค่ะ พูดเสร็จ​ก็ออกไปมันดึกแล้วคะ”   หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับแกะมือหนาเขาออกจากแขนของเธอ  แล้วเดินห่างออกไปจากเขา

                 “คือ...เรื่องของเราคืนนั้น ผมอยากจะรับผิดชอบคุณ”     เขาเอ่ยเพื่ออยากแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำ หญิงสาวน้ำตาคลอเบ้าและสั่นเทิ้มไปทั้งตัว เธอกำมือแน่นตอนนี้หน้าเธอชาไปหมด

                 “คุณไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมารับผิดชอบ​อะไรฉัน ฉันถือว่าฉันให้ทานกับคนที่ขาด​ความอบอุ่น​อย่างคุณ”     

                  เขาไม่โต้ตอบอะไร เพียงแต่เดินมายืนตรงหน้าของเธอก่อนมือหนาสองข้างจะประคองใบหน้าเล็กให้เงยขึ้นมาหาเขาก่อนที่เขาจะประทับจูบลงบนเรียวปากบางของเธออย่างนุ่มนวลและถนุถนอม​ต่างจากทุกครั้ง เธอเองก็เช่นกันไม่ตอบโต้เขาแต่ปล่อยให้น้ำใสๆไหลอาบใบหน้า​เนียนทั้งสองข้าง 

                  ทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้ ใจเธอเองก็เต้นไม่เป็นจังหวะตอนนี้ก็เช่นกันเขากำลังจะทำให้เธอหลอมละลาย​ไปทั้งร่าง มือหนาของเขาเลื่อนลงมาโอบเอวคอดกิ่วให้เข้ามาแนบชิดกับลำตัวเขา  เธอยอมปล่อยให้เขาทำตามใจจนเธอเองก็คล้อยตามเขาแขนเรียวเล็กค่อยๆ ยกขึ้นโอบรอบคอเขา ลิ้นเรียวเขาตวัดควานหาความหวานภายในปากอวบอิ่มของเธออย่างหิวกระหาย แต่่เธอต้องกระตุกเมื่อมืออีกข้างของเขากำลังล้วงเข้าไปใต้ชายเสื้อจนถึงปทุมอวบอิ่ม จู่ๆมือเล็กของเธอก็ผลักอกเขาออกห่าง แววตาของเขาบ่งบอกถึงความเสียดาย

 

                “คุณออกไปเถอะค่ะ มันดึกแล้วเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า คุณไม่ต้องรับผิดชอบ​อะไรทั้งนั้น”

                “ทำไม?? คุณถึงไม่ให้ผมรับผิดชอบ” 

                  เขาตัดพ้อ นี่เธอลืมเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ  เขาไม่เคยแคร์​ใครได้มากเท่านี้ นี่เขารักเธอตั้งแต่ตอนไหน  และเขาก็มั่นใจว่าตอนนี้หมดใจของเขามีเพียงแค่เธอ ซึ่งความรู้สึก​นี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามานานมากแล้ว  

 

                      

               “ผมอยากรับผิดชอบคุณ  ผมต้องการคุณ”     ในที่สุดเขาก็เอ่ยความต้องการ​ของตัวเองออกมา

                “แต่ฉันไม่ต้องการ!!  คุณออกไปได้แล้วค่ะ”  คำพูดทิ่มแทง​ใจทำให้

ธิวากรยินยอมเดินออกจากห้องอย่างเงียบๆโดยไม่ได้เอ่ยอะไรอีก แต่ดวงตาแดงก่ำ​คู่นั้นมีน้ำใสๆเออไหลออกมาแบบห้ามไม่อยู่ 

                เสียงกลอนประตูห้องตรงข้ามปิดลง  น้ำตาที่คลอเบ้าเอ่อไหลออกมาเป็นสายอาบแก้มเนียนใสทั้งสองข้าง มือเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเองก่อนที่เธอจะหลับไปพร้อมกับความเหนื่อยล้า​ทั้งร่างกาย​และจิตใจที่ผ่านมาตลอดทั้งวัน

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.