บทที่ 1 ปณิธานที่ไม่ลืม

ใต้เงาแห่งปีกสีดำ

-A A +A

บทที่ 1 ปณิธานที่ไม่ลืม

บทที่ 1 ปณิธานที่ไม่ลืม

 

             “จงหยุดอยู่แค่นั้น! อย่าก้าวเข้ามาใกล้กว่านี้นะ”

             เด็กหญิงวัยสิบขวบตวาดลั่นใส่ผู้บุกรุกที่กำลังเยื้องย่างเข้าหา มีดสั้นในมือน้อยสั่นระริกด้วยความกลัว เธอยกขึ้นอย่างหมายจะใช้มันเพื่อป้องกันตัวเองและผู้ที่ตนเคารพรัก

             “หากคิดจะพาเจ้าหญิงไป ก็ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะ!”

             ทันทีที่สิ้นเสียง อาวุธในมือเด็กน้อยถูกปัดอย่างแรงด้วยดาบจากมือที่ใหญ่กว่าจนกระเด็นไปอีกด้าน  โลหิตสีแดงเข้มไหลปรี่จากมือเด็กหญิงทันทีเพราะแผลฉีกขาดจากแรงปะทะ ทว่านัยน์ตาสีอำพันของบุรุษในชุดเกราะสีดำตรงหน้าก็ยังคงมองเธอด้วยความเฉยชาปราศจากความปรานีใด ๆ

             แสงไฟลุกโชนเผาไหม้ตามตัวปราสาท สะท้อนประกายคมดาบแวววาวเข้าสู่นัยน์ตาของเด็กหญิง เด็กน้อยคิดว่าคงไม่รอดแน่ แต่แล้วเจ้าปีศาจตนนั้นกลับเบี่ยงเท้าเดินผ่านเธอไป มันไปหาหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง

             เจ้าหญิงเลอา!

             เมื่อเด็กหญิงตั้งสติได้ เธอรีบมองหามีดสั้นที่ถูกปัดทิ้งไปเมื่อครู่ พยายามกระเสือกกระสนไปเก็บมันมา ก่อนจะหันปลายแหลมคมพุ่งเข้าใส่เจ้าอมนุษย์ร้ายอีกครั้ง

เจ้าปีศาจเพียงแค่ปรายสายตามอง มือสะบัดวูบ ปรากฏเป็นคลื่นพลังสีดำขนาดย่อมซัดเข้าใส่เด็กน้อยจนตัวลอยก่อนร่วงลงกระแทกพื้น

             โลหิตทะลักจากปากเด็กน้อย เธอหายใจอย่างยากลำบาก สติสัมปชัญญะพร่าเลือน แต่ก็ยังพยายามเงยหน้าขึ้นจ้องบุรุษในชุดเกราะสีดำอย่างโกรธแค้น มันกำลังโอบอุ้มเจ้าหญิงของเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วหมุนตัวเดินจากไปทางระเบียง

             “เจ้าปีศาจร้าย” เด็กหญิงเอ่ยเสียงแผ่ว ทว่าเปี่ยมไปด้วยความอาฆาต

“ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ข้าจะตามเจ้าไปทุกหนแห่งและช่วยเจ้าหญิงเลอาคืนมาให้ได้ แล้ววันนั้นจะเป็นวันที่ข้าสังหารเจ้า!”

             เจ้าปีศาจ ผู้นำแห่งเผ่าเหยี่ยวดำหันกลับมา

             “ซาการ์ท คือนามข้า ถ้าเจ้าอยากจะจำไว้”

             สติของเด็กหญิงเลือนรางเกินกว่าจะรับรู้ว่าดวงเนตรสีอำพันคู่นั้นกำลังหันมามองเธอด้วยแววตาเช่นไร มีเพียงเงาจากปีกสีดำโบกสะบัดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะบินหายไปในท้องฟ้ายามราตรีที่ฉายเข้าสู่ดวงตาของเด็กหญิง ไม่นานนักภาพทุกอย่างก็ดับวูบลง พร้อมกับปณิธานที่จะตามล่าปีศาจตนนั้นไปทุกแห่งหนฝังแน่นอยู่ในใจ

             จวบจนเวลาล่วงผ่านเลยไปนานนับกว่าแปดปี

 

             “กรี๊ด!! ช่วยด้วย คนวิ่งราว”

             เสียงหวีดร้องของหญิงคนหนึ่งดังขึ้นกลางตลาดในเมืองเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่าซาคอน เมื่อกระเป๋าเงินถูกมือดีวิ่งมาฉกมันไปต่อหน้า นางวิ่งตามทันทีพร้อมกับส่งเสียงไปด้วย

             “หยุดนะ! ไอ้โจรบ้า เอากระเป๋าเงินข้าคืนมา”

             “หยุดให้โง่เหรอยายแก่!”

             เจ้าโจรร้ายไม่วายหันกลับไปเยาะหยัน จึงไม่ทันเห็นผลไม้ลูกเขื่องถูกเขวี้ยงมาทางตน เมื่อมันหันกลับมา ก็โดนเข้าที่หน้าอย่างจังจนหงายหลัง

             “ข้าว่าเจ้าโง่ตั้งแต่ริเป็นโจรแล้วล่ะ” สาวผมแดงผู้เขวี้ยงผลไม้ว่า พลางคว้ากระเป๋าเงินจากมือเจ้านักวิ่งราว มันยังนอนกุมดั้งตัวเองอยู่บนพื้น

             “แก! คืนเงินนั่นมานะ” 

             เมื่อคนร้ายตั้งหลักลุกขึ้นได้ มันรีบชักมีดพกออกมากวัดแกว่งหมายขู่คนตรงหน้า ทว่าสาวผมแดงก็หาได้แสดงความหวาดกลัวไม่ เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ยิ้มเยาะมุมปาก ตอบกลับไปด้วยท่าทียียวน

             “เงินนี่ก็ไม่ใช่ของเจ้าสักหน่อย เหตุใดข้าต้องคืนให้เจ้าด้วย”

             “หนอยแน่ะแก! ยอกย้อนนักหรือ คิดว่าสวยแล้วจะมีแต่คนเอ็นดูหรือไง ต้องสั่งสอนเสียหน่อยแล้ว” เจ้านักวิ่งราวแทงมีดใส่อีกฝ่ายอย่างโมโห

             สาวผมแดงเหยียดยิ้มพลิกตัวหลบ ก่อนฟันสันมือใส่ข้อมือที่ถือมีดของโจรร้าย มันอุทาน และปล่อยมีดหลุดจากมือร่วงตกลงสู่พื้น หญิงสาวจับแขนมันบิดแล้วพลิกตัวไปด้านหลัง เตะข้อพับเข่าจนร่างสูงใหญ่กำยำนั้นทรุดลง เธอยิ้มแล้วกระซิบข้างหูเจ้านักฉก

             “ข้าคือนักล่าค่าหัว นาม โรส ฟลอร่า อย่าให้ข้าได้เห็นว่าเจ้าทำชั่วแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นคราวหน้าข้าจะหักแขนเจ้า”

             เจ้าหน้าที่สันติบาลประจำเมืองสองนายวิ่งเข้ามาควบคุมตัวคนร้าย ก่อนที่มันจะโดนสหบาทาจากชาวบ้านร้านตลาด หญิงเจ้าของกระเป๋าเงินรีบมาขอบคุณโรส

             “ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดี เงินจำนวนนี้สำคัญต่อข้ามาก โชคดีจริง ๆ ที่ได้เจ้าช่วยไว้”

             “ไม่จำเป็นหรอก”  โรสยิ้ม ก่อนหลุบตามองสิ่งที่กลิ้งอยู่บนพื้น “แต่ถ้าอยากจะตอบแทน ช่วยจ่ายค่าผลไม้ลูกนั้นให้ข้าหน่อยก็แล้วกัน เสียดาย... เพิ่งกินไปคำเดียว”

             */*/*/*/*

 

             “ขอบคุณท่านป้าจริง ๆ อาหารที่นี่อร่อยมาก”

             โรสกล่าวต่อเจ้าของโรงแรม ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เธอได้ช่วยไว้ นางตอบแทนโรสด้วยการขอเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่ที่ห้องอาหารในโรงแรมของนางเอง เมื่อคิดสะระตะว่ามันประหยัดค่าอาหาร เธอเองก็หิวมากพอดี จึงตอบรับอย่างไม่ลังเล พอโรสเริ่มลงมือรับประทาน เจ้าของโรงแรมจึงขอตัวไปทำงานแล้วแยกย้ายไปพร้อมบริกร

             ในห้องนั้นมีโรสอยู่ลำพัง เนื่องจากเลยเวลามื้อเที่ยงไปนานมากแล้ว หากครู่หนึ่งเสียงกระดิ่งจากประตูทางเข้าก็ดังขึ้น หญิงสาวไม่ได้สนใจจะหันไปมอง กระทั่งชายคนหนึ่งถือวิสาสะมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

             “อาร์ก มาที่นี่ได้ไง!” โรสมุ่นคิ้ว เมื่อมองคนตรงหน้าชัดถนัดตา

             “ได้ยินคนลือกันในตลาดเมื่อครู่ ว่ามีสาวสวยผมแดงจับโจรวิ่งราวได้ นึกว่าบางทีอาจเป็นเจ้า เลยตามเบาะแสมาที่นี่ อ้อ! ไม่ได้มาคนเดียวหรอกนะ”

             อาร์กฉีกยิ้ม พยักพเยิดไปทางด้านหลังของโรส เธอเบะปากเมื่อเห็นกลุ่มคนที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ด้านหลังอีกสามคน

เกร็ก  โทเนฟ และคาเมน ทั้งสามถือวิสาสะมานั่งตามอาร์กโดยไม่รอให้โรสเชิญ

             “แล้วไง เจ้าตามข้ามาทำไม” โรสถามพลางรวบช้อนวางลง หลังจัดการอาหารบนโต๊ะทั้งหมดแล้วโดยไม่เอ่ยชวนใครร่วมทานมื้อนั้นสักคน

             “นี่ถ้าไม่ติดว่าสวยกับฝีมือดี ข้าว่าคงไม่มีใครคบเจ้าแหง ๆ โอ๊ย!”

             เกร็ก เจ้าเด็กปากเสียประจำกลุ่มร้องลั่นเมื่อถูกบาทาของโรสประทับเข้าที่สีข้างจนแทบตกเก้าอี้ เธอแยกเขี้ยวให้เขาก่อนจะหันมาฟังคำตอบจากอาร์ก

             “ข้าคิดว่าการที่เจ้ามาอยู่แถวนี้อาจเพราะมีเป้าหมายเดียวกับพวกเรา เจ้าตัวที่อยู่บนยอดเขาในป่าต้องห้ามนั่น” อาร์กเอ่ยพลางปรายสายตาไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่าง “ไม่คิดว่าอยากร่วมงานกันอีกสักครั้งหรือ”

             “เจ้าคิดว่าปีศาจเหยี่ยวดำจะยังอยู่ที่นั่นกันอีกหรือ ทั้งที่ไม่มีใครได้เห็นพวกนั้นมานานมากแล้วน่ะ ทำไมถึงมาสนใจตอนนี้อีกล่ะ” โรสสงสัย เพราะอาร์กเคยพูดว่าไม่สนใจค่าหัวของเผ่าปีศาจเหยี่ยวดำ เนื่องจากการตามล่าค่าหัวของพวกที่หาตัวยากมันเสียเวลาเปล่า

             “พวกมันอาจลอบกลับมาโดยไม่มีใครรู้ก็ได้ นี่เจ้าไม่รู้อย่างนั้นหรือ ข่าวที่มีคนเห็นนกยักษ์แถวชายป่าต้องห้าม ต่างสันนิฐานว่าอาจเป็นพวกปีศาจเหยี่ยวดำกลับมาสำรวจถิ่นฐานเดิมของมัน ราชาแห่งมิเนอร์เวียนเลยขึ้นค่าหัวเจ้าปีศาจพวกนั้นเป็นสิบล้านกินีแล้ว โดยเฉพาะเจ้าตัวหัวหน้าเหยี่ยวนั่นขึ้นค่าหัวตั้งห้าสิบล้านกินีเชียวนะ ความแค้นของคนรวยที่มีอำนาจมันน่ากลัวชะมัด!”  

             อาร์กหัวเราะอารมณ์ดี หากข่าวนั่นเป็นความจริง แล้วพวกเขาสามารถสังหารปีศาจเผ่านี้ได้สักตัวคงขึ้นเงินได้มากโข โรสมองแล้วได้แต่ส่ายหน้า

             “ก็น่าสนใจนะ แต่ครั้งนี้ข้าไม่ร่วมด้วยดีกว่า พอดีว่ามีธุระอื่นต้องทำน่ะ” โรสปฏิเสธ อาร์กจึงยักไหล่พลางถอนหายใจ

             “น่าเสียดายที่เจ้าไม่ไปกับเรานะ งั้นก็ไม่มีธุระแล้ว ข้าลาล่ะ”

             “ขอให้โชคดี ข้าไม่ส่งนะ”

             หญิงสาวมองตามพวกอาร์กเดินออกไปจากห้องอาหาร เธอพ่นลมหายใจก่อนลุกไปกล่าวลาเจ้าของโรงแรม จากนั้นจึงเดินเรื่อยเปื่อยไปบนถนนพลางกระหวัดถึงเรื่องที่คุยเมื่อครู่

             ใครว่าเธอไม่สนพวกปีศาจเหยี่ยวดำกันล่ะ! ที่มาถึงเมืองนี้ก็เพราะพวกมันนี่แหละ

             โรสกำมือตัวเองแน่น เธอไม่เคยลืมความแค้นต่อปีศาจที่พรากคนสำคัญไป

             ซาการ์ท ฮาวิก

             นามที่ปีศาจตนนั้นเคยประกาศ เธอจดจำมันฝังแน่นในความทรงจำ พร้อมปณิธานที่จะต้องสังหารมันให้ได้ในสักวัน ตอบแทนความโหดร้ายที่พวกมันเคยสร้างไว้แก่มวลมนุษย์

             แต่ความเป็นจริงมันไม่ง่ายอย่างที่หวัง

เธอไม่เคยบอกพวกอาร์ก ว่ามีโอกาสพบปีศาจเหยี่ยวตนนี้หลายครั้ง แล้วก็ได้รับความพ่ายแพ้จากการปะทะกันทุกครั้ง

             โรสหยุดฝีเท้าเมื่อบอลลูกหนึ่งกลิ้งมากระทบขา เธอเก็บมันขึ้นมาแล้วส่งคืนแก่เจ้าของตัวน้อย เด็กหญิงยิ้มแป้นพลางรับบอลคืนแล้วกล่าวขอบคุณ จากนั้นจึงหมุนตัววิ่งกลับไปหาชายหญิงคู่หนึ่ง น่าจะเป็นบิดาและมารดา

             “ครอบครัวอย่างนั้นหรือ…”

             โรสเป็นเด็กกำพร้า เธอไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร ตัวเธอเองมาจากไหน พอจำได้ก็อยู่ในปราสาทแห่งมิเนอร์เวียนกับเจ้าหญิงแล้ว

             จากที่เคยฟังใครต่อใครเล่ามา เมื่อตอนเธออายุเก้าขวบนั้นได้รับอุบัติเหตุที่ศีรษะ สมองกระทบกระเทือนรุนแรง จึงทำให้สูญเสียความทรงจำ พอเอ่ยปากถามก็ไม่มีใครยอมบอกว่าเด็กกำพร้าอย่างเธอเข้าไปอยู่ถึงในปราสาทของอาณาจักรมิเนอร์เวียนได้อย่างไร แท้จริงเธอเป็นใครมาจากไหน

ครั้นถามเจ้าหญิงเลอาซึ่งเปรียบเสมือนพี่สาวบุญธรรม นางก็ไม่บอกอะไรมากนัก ได้แต่เอ่ยว่าโตกว่านี้เมื่อไหร่แล้วจะเล่าเรื่องราวอย่างละเอียด สุดท้ายก็เลยไม่อาจได้รับฟังอะไรจากนางอีก เพราะหลังจากนั้นหนึ่งปี เผ่าปีศาจเหยี่ยวดำก็บุกอาณาจักรและลักพาตัวเจ้าหญิงไป

             เมื่อไม่มีเจ้าหญิงผู้อุปถัมภ์เธอแล้ว โรสจึงถูกส่งไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ด้วยความตั้งใจที่อยากจะตามไปช่วยเจ้าหญิงเลอาให้ได้ เด็กหญิงจึงพยายามหาทางฝึกวิชาการต่อสู้อย่างเต็มที่ เพื่อจะได้ไปตามล่าหาเบาะแสต่าง ๆ จากพวกปีศาจ

             หลายปีผ่านไป โรสกลายเป็นนักล่าค่าหัวที่มีฝีมือฉกาจ เธอออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หางานทำเพื่อเก็บเงินไว้เป็นปัจจัยในการเดินทางและค่าหาข่าว

             แต่ละวันที่ผ่านไป หญิงสาวคิดแต่เรื่องการตามหาเจ้าหญิงเลอาและความเกลียดชังที่มีต่อปีศาจร้าย จนแทบไม่คำนึงถึงอดีตที่หายไปของตน

             โรสอยากมีครอบครัวของตัวเอง และเจ้าหญิงเลอาก็เป็นครอบครัวคนเดียวที่เธอคิดว่ามี เพราะเหตุนี้ แม้เวลาจะผ่านไปถึงแปดปีแล้วก็ยังละทิ้งเรื่องของนางไปไม่ได้ ต่อให้นางไม่อยู่ในโลกนี้อีกต่อไป ก็จะขอล้างแค้นเหล่าปีศาจร้ายให้สาสมใจเสียก่อนเถอะ

             หญิงสาวก้าวเดินไปตามถนนที่ไม่คุ้นเคย เมื่อเงยหน้าอีกครั้งก็พบว่าตนยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ดวงตาสีเขียวกวาดมองสำรวจไปทั่วบ้านขนาดสองชั้นซึ่งสร้างจากอิฐและไม้ มันไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก น่าจะเหมาะสำหรับครอบครัวเล็ก ๆ พอดี

แม้สภาพบ้านจะยังสวยงามสมบูรณ์ แต่คราบฝุ่นจับหนาตามหน้าต่าง คงไม่มีใครอาศัยอยู่มานานมากแล้ว

             โรสคิดว่าตนเพิ่งเคยมาเมืองนี้ แล้วไยจึงรู้สึกคุ้นเคยนัก

             “เข้ามาสิ”

             ชั่วครู่...ที่ราวกับได้ยินเสียงเพรียกหา เห็นเงาหลังของใครคนหนึ่งอยู่หน้าบ้าน

             แผ่นหลังกว้างอบอุ่นกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่มักเห็นในฝันเสมอ ใบหน้าของคนผู้นั้นที่เธออยากเห็นเสียเหลือเกิน แต่กลับไม่เคยนึกออก ทำไมจึงมาเห็นซ้อนทับกับบ้านหลังนี้นะ

             เหมือนตกอยู่ในภวังค์ โรสเดินเข้าไปยืนหน้าประตู ไม่คิดว่าจะพบใครอยู่ข้างใน แต่มือก็ยังยื่นออกไปจับประตูบ้าน

             ตอนที่โรสถามเจ้าหญิงถึงพ่อแม่ ถามว่ายังมีใครในครอบครัวอยู่อีกไหม นางบอกว่าเธอมีแค่บิดาและมารดา พวกเขาไปยังสวรรค์แล้ว เธอจะตามพวกเขาไปไม่ได้ ผู้ชายคนหนึ่งจึงพาโรสมาฝากไว้กับเจ้าหญิง หวังให้เธอได้รับการศึกษาและมีชีวิตที่ดี ซึ่งเขาคิดว่าไม่สามารถให้เองได้ ผู้ชายคนนั้นรักเธอดุจน้องสาว แม้จะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน

             “เขาเป็นใครกันนะ อยากรู้เหลือเกิน”

             แต่เธออาจจะไม่มีวันได้รู้ ถ้าไม่ได้พบเจ้าหญิงเลอาอีกครั้ง

             โรสลองเปิดประตูบ้าน พบว่ามันไม่ได้ใส่กุญแจไว้ เมื่อเดินเข้าไปก็รู้สึกแปลก ภายในบ้านสะอาดสะอ้านผิดจากที่เห็นภายนอก

             บ้านหลังนี้ยังมีคนอาศัยอยู่ เรากำลังบุกรุกบ้านคนอื่นหรือเปล่านี่

             หญิงสาวขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้คิดจะรีบออกไปเลยสักนิด ยังคงเดินเข้าไปสำรวจตรวจตราที่อาศัยของคนอื่นอย่างไม่กังวล จนกระทั่งมาหยุดชะงักหน้าห้องหนึ่ง เมื่อเห็นเงาร่างที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง

             “ข้าจำไม่ได้ว่าเคยเชื้อเชิญใครมา” ดวงตาสีอำพันคมปลาบจ้องหญิงสาวอย่างเย็นชา “หรือว่าเปลี่ยนอาชีพจากนักล่าค่าหัวไปเป็นโจรเสียแล้ว”

             หัวใจของโรสเต้นแรง

             ไม่ใช่เพราะเขาคือคนในฝันที่เธอถวิลหา หากเป็นคนที่เธอตามล่ามาช้านาน เจ้าตัวหัวหน้าเผ่าปีศาจเหยี่ยวดำ ซาการ์ท!

             “ไง! ไม่ได้พบกันเสียนานนะ นี่เป็นบ้านเจ้าอย่างนั้นหรือ“ โรสเหยียดยิ้ม คิ้วกระตุกจากคำพูดของปีศาจเมื่อครู่ “ถ้าข้ารู้ก่อนหน้านี้ล่ะก็ คงมาดักรอฆ่าเจ้าไปนานแล้ว”

             หญิงมนุษย์ตวัดดาบพร้อมพุ่งตัวเข้าประชิดปีศาจร้าย หมายฟันลำคอมันให้ขาดสะบั้น ทว่าซาการ์ทกลับเบี่ยงหลบและถอยห่างโดยไม่ตอบโต้

             “ท่าทางบาดแผลจากคราวก่อนจะหายเร็วดีนะ” ปีศาจหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ กระนั้นก็ยังยั่วโทสะหญิงสาวได้เป็นอย่างดี

             “ใช่! ข้าก็เลยรีบมาหาเจ้า เพื่อตอบแทนหนี้ครั้งที่แล้ว และก่อนหน้านั้นแบบรวบยอดไปเลยยังไงล่ะ”

             หญิงสาวจู่โจมเข้าใส่ปีศาจเหยี่ยวอีกหลายครั้ง เขาก็เพียงแค่หลบหลีกไปมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่ต่างจากทุกครั้ง จนกระทั่งข้าวของภายในห้องเริ่มพังเสียหายมากขึ้น  นั่นล่ะ คิ้วเข้มจึงเริ่มขมวดเข้าหากัน

             จังหวะที่โรสโจมตีพลาด ซาการ์ทจับแขนเธอได้แล้วจึงบิดอย่างแรง หญิงสาวอุทานก่อนปล่อยอาวุธในมือร่วงตกลงสู่พื้น

             “หยุดได้แล้ว เจ้ากำลังทำให้บ้านพักของข้าเสียหาย”

             “หึ! อย่างเจ้ารู้จักเสียดายข้าวของด้วยรึ” นัยน์ตาสีเขียวของโรสจ้องสบกับนัยน์ตาสีอำพันของปีศาจหนุ่มด้วยความชิงชัง “แล้วที่เจ้าไปทำลายอาณาจักรอื่น เข่นฆ่าคนเป็นว่าเล่น ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรืออย่างไร ช่างชั่วร้ายสมเป็นปีศาจโดยแท้!”

             สีหน้าซาการ์ทยังคงเรียบเฉย แต่กดแรงที่มือเพิ่มขึ้น ดวงตาคมสีอำพันเป็นประกายวาวโรจน์

             โรสกัดฟันข่มความเจ็บปวด ตวัดเท้าใส่ใบหน้าของซาการ์ท ปีศาจหนุ่มเอี้ยวศีรษะหลบเพียงเล็กน้อย เขาคลายมือที่บิดแขนแล้วจับเธอเหวี่ยงใส่ผนังห้อง ศีรษะโรสกระทบผนังเสียงดังก่อนจะฟุบลงพื้นแน่นิ่งไป

 

             นัยน์ตาสีเขียวเปิดขึ้นอีกครั้ง มองเห็นภาพเลือนรางของเพดานที่ไม่คุ้นเคย เธอไม่อาจเคยคุ้นที่ไหน เพราะไม่เคยอยู่ที่ใดได้นานนัก

บ้าน สถานที่จะมีใครสักคนที่รักมารออยู่คือความฝันอันห่างไกล ยังไม่อาจทำให้เป็นจริง

             โรสกะพริบตาครู่หนึ่งก่อนค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้น เธอนั่งอยู่บนพื้นไม้ เจ็บที่หลังศีรษะจนร้องโอย ยกมือขึ้นลูบเบา ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความปูดโปน

หญิงสาวกวาดมองไปรอบห้องซึ่งถูกเก็บกวาดทำความสะอาดจนเรียบร้อย เหลือไว้เพียงร่องรอยความเสียหายบางส่วนที่ไม่อาจซ่อมแซมหรือเคลื่อนย้ายไปไหนได้ในระยะเวลาอันสั้น รวมถึงตัวเธอซึ่งถูกปล่อยทิ้งไว้ให้นอนอยู่ที่เดิม

             “ทำไมไม่สังหารข้าเสียล่ะ” หญิงสาวเอ่ยกับบุรุษที่นอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาอีกฟากของห้อง

             “เจ้าไม่ได้มีค่าให้ต้องลงมือขนาดนั้น” ปีศาจหนุ่มตอบโดยไม่ลืมตาหรือแม้จะขยับตัวสักนิด “ที่สำคัญ ข้าไม่อยากให้บ้านเปรอะเปื้อนไปมากกว่านี้”

             “ทั้งที่รู้ว่าข้าจะไม่มีวันรามือ ตราบใดที่ยังสังหารเจ้าไม่ได้อย่างนั้นหรือ”

             “เจ้าอาจจะน่ารำคาญ แต่ยังไม่ได้เป็นหนามทิ่มตำข้านักหรอก”

             “สำหรับเจ้า...ข้าทำได้แค่สร้างความรำคาญให้สินะ” โรสเอ่ยลอดไรฟัน กำมือแน่น นึกอยากจะลุกไปท้าดวลต่อให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่ก็ติดที่ยังมึนศีรษะจนลุกไม่ไหว

              เป้าหมายของเธอไม่ใช่การมาเล่นไล่จับกับเจ้าปีศาจแบบนี้ เธออยากจะคาดคั้นบีบคอมันให้ยอมคืนคนมาเสีย แล้วค่อยฆ่ามันให้ตาย แต่กลับทำได้แค่สร้างความรำคาญเท่านั้นเองหรือ

             “ถ้าลุกไหวก็รีบไสหัวออกไปก่อนที่ข้าจะตื่นอีกครั้ง” ซาการ์ทเอ่ยทิ้งท้าย “เจ้าทำร้ายข้าตอนหลับไม่ได้หรอก อย่าหาเรื่องเจ็บตัวอีกเลย”

             โรสยังฮึดฮัด นั่งจ้องซาการ์ทไปอีกพักใหญ่ เพราะไม่สามารถทำอะไรฝ่ายตรงข้ามได้ตามที่เขาพูด เธอยังปวดศีรษะ ลุกขึ้นเดินไม่ไหวจริง ๆ จะหยิบมีดไปเสียบอกปีศาจตรงหน้าตอนหลับได้อย่างไร จะออกไปจากที่นี่ยิ่งทำไม่ได้ สุดท้ายเมื่อแสงจากเชิงเทียนริบหรี่ลงจนมอดดับ หญิงสาวก็ค่อย ๆ เอนตัวนอนลงโดยไม่ละสายตาไปจากร่างนั้น เธอแค้นมัน อยากสังหารมัน แม้เจ้าปีศาจตนนั้นจะไม่เห็นเธออยู่ในสายตา

             ขณะที่ดวงจิตยังขุ่นแค้น ส่วนหนึ่งในใจกลับนึกถึงอีกบุคคลในห้วงฝัน ภาพของเขาที่เห็นซ้อนทับกับบ้านหลังนี้อย่างเลือนราง...หรือเขาจะมีความเกี่ยวพันใดกับเจ้าปีศาจนี่กันแน่นะ

             ‘อยากจะรู้เรื่องของเขาคนนั้น แต่จะถามออกไปได้อย่างไร’

             ‘ถ้าติดตามเจ้านั่นไป จะมีโอกาสได้รู้ทั้งเรื่องของเขาและท่านเลอาหรือเปล่านะ’

             ‘แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สิ่งที่ข้าตั้งปณิธานต่อเจ้าเอาไว้มันไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแน่’

             โรสคิดอย่างสับสนและพยายามสลัดเรื่องทั้งหมดนั้นทิ้งไป เมื่อหัวใจกระหวัดถึงสิ่งที่ปีศาจร้ายเคยกระทำ

เธอจ้องเงาดำผ่านความมืดสลัวแล้วเม้มปาก ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกร้าว ทว่าแผ่วเบาราวกระซิบตอกย้ำแก่ตัวเอง

             “ข้าเคยลั่นวาจาไว้แล้ว ว่าจะต้องทำให้เจ้าเสียใจที่ไว้ชีวิตข้า และข้าไม่มีทางลืมคำนั้นแน่ ซาการ์ท”

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.