ตอนที่ 3 เซ็นสัญญา

ร้อยเล่ห์เกมรัก

-A A +A

ตอนที่ 3 เซ็นสัญญา

จบบริบูรณ์
เปิดขาย

เฟิร์นกลับมาที่บ้านในชนบทเพื่อลาพ่อแม่และน้องๆก่อนจะไปทำงานต่างประเทศ
บนโต๊ะไม้เงาวับเต็มไปด้วยอาหารพื้นบ้านของโปรดเธอ น้ำพริกอ่อง ผักต้ม ผักสด ปลาทู น้ำพริกปลาทู แกงขนุน ไส้อั่ว ต้มซุปไก่ บัวลอยไข่หวาน ฝีมือแม่กับน้องสะใภ้
เมื่อทุกคนมานั่งกันพร้อมหน้าพร้อมตากันก็เริ่มทานข้าว
เมื่อทานข้าวเสร็จจนอิ่มก็แกะผลไม้ ทานผลไม้ย่อยอาหารกันเฟิร์นจึงเริ่มพูดขึ้น
" พ่อคะแม่คะหนูได้งานแล้วนะคะเงินดีมากเลยแต่ต้องไปทำที่ประเทศจีนสัญญาจ้างหนึ่งปีเท่านั้นค่ะ "
ครอบครัวของพวกเธอไม่เคยห่างกันขนาดนี้อีกอย่างเธอไม่เคยไปต่างประเทศเธอกลัวทุกคนจะเป็นห่วงจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขและพูดให้ทุกคนรู้สึกว่าหนึ่งปีนั้นแค่แป๊บเดียวทุกคนจะได้ไม่ห่วงไม่กังวล
ผู้เป็นพ่อเมื่อเห็นท่าทางที่มีความสุขแบบนั้นก็อยากรู้ว่าลูกสาวจะไปทำงานอะไรจึงเอ่ยถามออกไป
" ว่าแต่มันงานอะไรเหรอลูก? "
" นั่นสิงานอะไรถึงทำให้ลูกสาวแม่ตื่นเต้นดีใจขนาดนั้น " 
เมื่อพ่อกับแม่ถามมาแบบนี้เธอก็ไม่รู้จะตอบยังไงได้แต่ยิ้มแสร้งทำเนียนๆให้พวกเขาลุ้นแต่ความจริงคือเธอไม่รู้จะบอกพวกเขายังไงต่างหาก
[ จะบอกว่าเป็นงานที่ทำให้คู่รักเลิกกันก็ดูจะโหดร้ายไร้คุณธรรมเกินไป ไม่ได้ๆ บาปกรรมพวกเขาไม่เห็นด้วยแน่นอน หรือจะบอกว่าเป็นงานใช้แรงงานดี อืม ไม่ได้ๆพวกเขาไม่ให้ไปแถมยังต้องคอยห่วงเราอีก ไม่ได้ๆ โอ้ยไอ่เฟิร์นเอ้ยทำไมถึงคิดอะไรไม่ออกเอาตอนนี้ โธ่เอ้ย ]
ขณะที่เธอบ่นพึมพำอยู่ในใจน้องสาวที่นั่งลุ้นอยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาว่า
" พี่เก่งภาษาแบบนั้นพี่ไปเป็นล่ามหรือเปล่าหรือว่าเป็นนักแปลภาษา "
ติ้ง! คำพูดของน้องสาวลอยเข้าหูเธอ เธอรู้สึกว่าหัวสมองเธอโล่งมีแสงสว่างนำทางทันทีจึงหันไปกอดน้องสาวผู้ที่มีหน้าตาสวยน่ารักพร้อมกับจู๊บไปหน้าผากหนึ่งทีแล้วพูดขึ้นว่า
" ม๊วบ น้องสาวพี่นี่เก่งที่สุดฉลาดเหมือนพี่เลยเดาได้ถูกต้องที่สุด "
จากนั้นเธอก็หันหน้าไปบอกกับทุกคน
" ใช่ค่ะทุกคนเฟิร์นไปเป็นล่ามให้กับบริษัทในจีน ทุกคนไม่ต้องห่วง ขอแค่เงินดีงานแค่นี้สบายมาก "
" เอ่อ ดีๆ ขอแค่เป็นงานที่ลูกรักลูกถนัดพ่อกับแม่ก็สนับสนุนและยินดีด้วยเสมอ แต่ลูกจำไว้นะไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองระวังตัวด้วยล่ะ "
พ่อของเธอเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง
" พี่แล้วพี่วินเขารู้มั้ยว่าพี่จะไปทำงานที่จีนน่ะ "
น้องชายของเธอเอ่ยถามขึ้น เพราะพี่สาวกับพี่วินนั้นคบกันมานานทั้งสองรักกันมากครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับรู้ครอบครัวพี่วินรวยแต่ไม่เคยดูถูกหรือรังเกียจพวกเขาเลยดังนั้นเขาจึงชอบพี่เขยในอนาคตคนนี้มาก
เฟิร์นกลัวว่าแม่จะพูดขึ้นเธอจึงชิงตอบไปก่อนอย่างรวดเร็ว
" แน่นอนว่าต้องรู้สิ พี่วินเขาเห็นด้วย ไม่ว่าอะไรเลยแถมพี่วินยังพูดอีกนะว่าถ้าว่างจะไปเที่ยวหาดังนั้นทุกคนสบายใจได้โอเค "
" เช่นนั้นก็ดีแล้ว " แม่ของเธอเอ่ยขึ้น
พอค่ำเธอนั่งเก็บเสื้อผ้าจัดกระเป๋ามีน้องสาวคอยช่วยอยู่ข้างๆ จากนั้นเธอก็ไปอาบน้ำแล้วกลับมาล้มตัวนอนบนเตียง
วันนี้เธอรู้สึกไม่ดี50%ที่ต้องโกหกทุกคนอีก50%เธอมีเงินให้ทุกคนได้ใช้อย่างไม่ขัดสนเธอเริ่มมีลังสังหรณ์ว่างานมันอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้ว
" ช่างเหอะเงินตั้งสิบล้านถ้าหากทำงานอื่นชาตินี้ทั้งชาติคงไม่มีแม้โอกาสได้เห็นแน่ อดทนไว้ ไร้ศิลธรรมหน่อยแต่ได้เงินสิบล้านถือว่าคุ้ม พรุ่งนี้ให้เขาโอนเงินมาให้ก่อนเลยดีกว่า ดูแล้วเขาต้องการจะสลัดแฟนของไอ่หมอนั่นเอามากหวังว่าขอแค่นี้คงไม่แล้งน้ำใจกลัวเบี้ยวหรอกนะ "
คิดได้ดังนั้นเธอก็นอนหลับไหลไปอย่างสงบท่ามกลางผืนฟ้าที่มืดสลัวแสงจันทร์ส่องสว่างอ่อนๆในยามค่ำคืน
เมื่อถึงวันนัดเซ็นสัญญาพวกเขานัดเจอเธอที่โรงแรมเดิม เธอมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สะพายกระเป๋าเป้เล็กๆข้างหลัง
เธอก็เหมือนเด็กสาวทั่วๆไปที่ชอบแต่งตัวสบายๆสะดวกทุกการเคลื่อนไหวเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์
สวมเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์สีขาวร้องเท้าผ้าใบสีขาวเสื้อคลุมสีชมพูแม้จะเป็นการแต่งตัวสบายๆแต่ดูแล้วเข้ากับสีผิวที่ขาวออร่ามีชีวิตชีวาบวกกับสีผมที่ย้อมมาน้ำตาลประกายทองแม้เธอจะรวบผมขึ้นแต่มันก็ส่งให้หน้าเธอดูสว่างใสเป็นประกาย เธอสูงแค่ 165 รูปร่างผอมเพรียวขายาวสวย ทำให้ดูเด็กและดูน่ารักน่ามองดูสะอาดสะอ้านราวกับเป็นลูกผู้ดีมีชาติตระกูล
คุณท่านหลี่และผู้ช่วยลู่ถึงกับตะลึงในความสวยน่ารักของเธอ เธอเดินมาทางพวกเขาอย่างสง่าผ่าเผยพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง
" สวัสดีค่ะท่านประธานใหญ่ สวัสดีค่ะคุณผู้ช่วยลู่ "
" สวัสดีๆ เชิญนั่งๆ " คุณท่านหลี่เอ่ย
" ขอบคุณค่ะ " 
เธอกล่าวขอบคุณอย่างมีมารยาทท่าทางดูสงบนิ่งมากทำให้คุณท่านหลี่แอบชื่นชมในใจ
" เด็กสาวคนนี้ช่างเป็นเด็กที่เอาตัวรอดเก่งปรับตัวได้รวดเร็วทุกสถานการณ์จริงๆ "
คุณท่านหลี่พึมพำในใจส่งสัญญาณมือให้ผู้ช่วยนำเอกสารสัญญาที่นัดเซ็นกันในวันนี้ออกมา ผู้ช่วยลู่จึงนำเอกสารข้อตกมาวางตรงหน้าเธอ เธอหยิบขึ้นมาอ่านจนถึงข้อสุดท้ายบอกว่า
[ หากไม่สำเร็จภายใน1ปีสัญญาจะถูกต่อทันทีผู้รับงานจะต้องยอมทำทุกอย่างให้งานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จบรรลุตามเป้าหมายที่ผู้ว่างจ้างกำหนดถึงจะมีอิสรภาพคืนดังเดิมสัญญาฉบับนี้เป็นอันสิ้นสุดลง ]
ข้อนี้ทำให้เธอหนักใจไม่น้อยคิ้วขมวดเข้าหากันทันทีจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นถามอย่างตรงไปตรงมา
" เอ่อ ไม่ทราบว่าท่านพอจะบอกได้มั้ยคะว่างานนี้มันยากขนาดนั้นเลยเหรอคะถึงกับต้องเผื่อเวลาไปถึงปีที่สองเลยอ่ะค่ะ "
ผู้ช่วยลู่อยากจะบอกความจริงกับเธอมากแต่ทำไม่ได้มองดูเธออย่างเอ็นดูในความไร้เดียงสาของเธอ ถ้างานมันง่ายคุณท่านหลี่คงทำสำเร็จไปนานแล้วแต่เพราะมันไม่ง่ายคุณท่านหลี่ถึงยอมจ่ายสิบล้าน
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวถามอย่างกล้าหาญตรงไปตรงมาคุณท่านหลี่จึงตอบไปว่า
" ไม่มีงานไหนยากเกินความพยายามของคนหรอก เพียงแค่คุณตั้งใจทำหน้าที่ฉันคิดว่าสำเร็จภายในหนึ่งปีหรืออาจจะก่อนหนึ่งปีเสียอีก "
เฟิร์นเธอเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกันแต่เธอก็รู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่ความคิดของชายชราตรงหน้านั้นตรงกับความคิดเธอราวกับเขาอ่านใจเธอออกเธอไม่ค่อยจะโอเคเลยจึงตอบเพียง 
" ค่ะ (หวังว่า) คงจะเป็นเช่นนั้น " 
เพียงแต่คำในวงเล็บเธอไม่ได้เอ่ยออกมา คุณท่านหลี่จึงเอ่ยต่อว่า
" ตามที่เคยบอกไว้ถ้าภายในเวลา1ปีคุณทำสำเร็จผมจะโอนเงินสิบล้านบาทถ้วนเข้าบัญชีคุณทันที "
พอเธอได้ฟังก็ยิ้มขึ้นอย่างมีเสน่ห์พร้อมกับเอ่ยข้อเสนอของเธออย่างเจ้าเล่ห์ เธอทำท่าคิดสักครู่ก่อนจะพูดออกมาว่า
" อืม...งานที่คุณให้ฉันทำมันเป็นงานที่ค่อนข้างลำบากใจที่จะทำ อีกอย่างเป็นงานที่ก่อให้เกิดบาปกรรมหนักหนาที่ไม่อาจลบล้างได้ ทำร้ายจิตใจคนซ้ำยังเป็นการพรากความรักของคนสองคนอีก
ช่างเป็นงานที่ไร้ศิลธรรมผิดหลักมโนธรรมเอามากๆยากที่มนุษย์ทั่วไปจะทำได้ 
ฉันต้องกลายเป็นคนไม่ดีจิตใจโหดร้ายทำให้ความรักของคนอื่นสั่นคลอขาดสะบั้นนั่นไม่เท่ากับการไปฆ่าคนทางอ้อมถึงสองคนหรอกหรือคะ
แถมยังต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับเขาที่เป็นคนแปลกหน้าและเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตเลยนะคะ
หากหลานชายคุณไม่พอใจฉันขึ้นมาเกิดบ้าคลั่งฆ่าฉันตายขึ้นมาคุณจะรับประกันได้ยังไงคะว่าฉันจะไม่ตายฟรีและไม่กลายเป็นว่าทำงานให้คุณฟรีๆ "
เธอพูดไปทำท่าทางน่าสงสารไปทำให้คนฟังเข้าใจเจตนาของเธออย่างชัดเจนคุณท่านหลี่จึงเอ่ยขึ้นว่า
" ไหนคุณลองเสนอมาซิว่าคุณต้องการอะไรเป็นหลักประกันพิเศษ "
สำหรับเฟิร์นแล้วเมื่อเขาพูดแบบนี้ก็เข้าทางเธอสิเป็นไปตามคาดไม่รอช้ารีบเอ่ยขึ้น
" เอ่อ เมื่อคุณพูดเช่นนี้แล้วงั้นดิฉันจะขอพูดตรงๆเลยแล้วกันนะคะ "
คุณท่านหลี่เอ่ยเพียงสั้นๆว่า " เชิญว่ามาเถอะ "
" เพื่อให้งานคุณสำเร็จขณะเดียวกันก็เสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตดังนั้นฉันคิดว่า ฉันควรจะได้รับเงินสิบสองล้านค่ะ ถ้าคุณตกลงฉันรับทำงานนี้ถ้าไม่ตกลงฉันไม่รับงานนี้ค่ะ "
ผู้ลู่ช่วยที่อยู่ข้างๆถึงกับไม่ชอบใจเอ่ยขึ้น
" นี่! คุณหนูเฟิร์น มันจะมากเกินไปแล้วนะ "
" มากยังไงล่ะพวกคุณรวยขนาดนั้น ถ้างานมันง่ายท่านประธานใหญ่ของคุณคงไม่ลงทุนจ่ายถึงสิบล้านหรอก ที่ดิฉันพูดถูกต้องมั้ยคะท่านประธานใหญ่ "
คุณท่านหลี่ได้แต่ยิ้มอ่อนๆสายตาจ้องเด็กสาวอย่างไม่กะพริบ ตั้งแต่เขาเกิดมาจนอายุปูนนี้ไม่เคยมีใครกล้ามาพูดแบบนี้กับเขามาก่อน แต่เด็กสาวตรงหน้าคนนี้ทั้งฉลาดมองคนออกและยังกล้าพูดกับเขาแบบนี้อย่างตรงไปตรงมาอย่างไม่เกรงกลัว คุณท่านหลี่หัวเราะขึ้นอย่างชอบใจพร้อมกับเอ่ย
" ฮ่าๆๆช่างน่าสนใจจริงๆ ตกลง ผมให้คุณสิบสองล้าน "
เมื่อได้ยินแบบนั้นเฟิร์นเองก็รู้สึกโล่งใจแต่เมื่อนึกถึงข้อตกลงข้อสุดท้ายมันก็ไม่แฟร์เลยสำหรับเธอจึงเอ่ยขึ้นว่า
" เงินสิบสองล้านฉันต้องการให้คุณโอนเข้าบัญชีฉันตอนนี้ค่ะเพราะระหว่างทำงานฉันจะได้ไม่ต้องมาห่วงครอบครัวข้างหลัง จะได้ทุ่มเททำงานให้คุณเต็มที่และหากฉันตายไปขณะที่ทำงานอย่างน้อยครอบครัวดิฉันก็มีเงินใช้ไม่ขัดสนฉันถึงจะหายห่วงได้ค่ะ ถ้าท่านประธานใหญ่ตกลงดิฉันพร้อมจะทุ่มเททำงานให้สำเร็จให้ได้ค่ะ "
ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆกำมือแน่นความเอ็นดูที่เคยมีหายไปหมดเกลี้ยง ผู้ช่วยคิดในใจ 
[ เด็กสาวคนนี้ไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างหน้าตาเลยเธอมันเสือซ่อนเล็บชัดๆ ]
เขาไม่รู้ว่าคุณท่านหลี่ของเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ 
คุณท่านหลี่ยิ้มด้วยท่าทางสบายๆแล้วเอ่ยว่า
" ตกลง "
ผู้ช่วยลู่ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะอย่างคิดไม่ถึง แต่เฟิร์นแค่แปลกใจเล็กน้อยสำหรับเธอมันเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เท่านั้นเขายอมก็แสดงว่าเขายังไม่เสียเปรียบแม้เธอเพิ่งจะเคยเจอชายชราตรงหน้าแต่เธอก็พอจะดูออกนิดหน่อยว่าเป็นคนยังไง
เธอยื่นคิวอาร์โค้ดในโทรศัพท์ออกมา คุณท่านหลี่ก็ให้ผู้ช่วยลู่จัดการโอนเงินเข้าบัญชีเธอทันทีจากนั้นก็มีข้อความแจ้งเตือนเธอตื่นเต้นดีใจมากที่มีเงินถึงสิบสองล้านบาทในบัญชีเรียบร้อย เป็นอะไรที่เธอไม่คิดไม่ฝันมาก่อนแต่เธอก็เก็บอาการดีใจได้แนบเนียนมากเพราะข้อสเนอเธอยังไม่หมด
" ยังมีอีกข้อค่ะข้อสุดท้ายมันไม่แฟร์กับดิฉันเท่าไหร่ถ้าในหนึ่งปีไม่สำเร็จสัญญาจะต่อเป็นสองปีทันทีแต่เงินที่จ้างกลับไม่ระบุเพิ่มแบบนี้ดิฉันจะไม่เสียเปรียบไปหน่อยเหรอคะ
ดิฉันว่าข้อนี้ควรแก้ไขเป็นเพิ่มเงินอีกสิบล้านเพราะการทำงานที่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปีนั้นเท่ากับว่าอายุฉันสั้นลงถึงหนึ่งปีเต็มแต่ถ้าไม่สำเร็จฉันไม่เอาเงินแม้แต่บาทเดียวทำให้ฟรีหนึ่งปีเต็มแต่ถ้าสำเร็จคุณจ่ายเต็มหลังจากงานสำเร็จแบบนี้คุณโอเคมั้ยคะฉันว่าแฟร์ๆกันทั้งสองฝ่ายนะคะ "
เมื่อได้ฟังเช่นนั้นคุณท่านหลี่จึงเอ่ยขึ้น 
" ตกลง คุณหนูเฟิร์นช่างเป็นเด็กที่ละเอียดรอบคอบเจรจายอดเยี่ยมกล้าหาญจริงๆ เห็นจะมีแต่คุณหนูเฟิร์นนี้แหละที่กล้ามาพูดแบบนี้ผมชื่นชมคุณจริงๆ "
" ท่านประธานใหญ่ชมเกินไปแล้วค่ะ แต่ก็ขอบคุณมากค่ะที่รับฟังข้อเสนอของดิฉัน จากนี้ไปดิฉันก็จะได้ทำงานให้อย่างไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง "
เมื่อตกลงกันเรียบร้อยผู้ช่วยก็ช่วยเตือนเธอให้เซ็นชื่อลงในสัญญาทันทีเธอเซ็นชื่อลงไปอย่างว่านอนสอนง่ายจากนั้นเธอก็ยกปากกาอัดเสียงเปิดขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า
" ต้องขออภัยด้วยนะคะท่านประธานใหญ่ที่ล่วงเกินท่านแล้ว แอบบันทึกเสียงไว้โดยไม่ขออนุญาต "
คุณท่านหลี่และผู้ช่วยต่างก็อึ้งนิดหน่อยกับการกระทำของเธอพวกเขาคาดไม่ถึงว่าเธอจะถึงกับบันทึกทุกการสนทนาขนาดนี้ คุณท่านหลี่ยิ่งถูกใจเธอมากขึ้นความคิดที่อยากได้เธอเป็นหลานสะใภ้ก็ผุดขึ้นมาในหัวแล้วเผยรอยยิ้มที่อบอุ่นออกมาเอ่ยว่า
" ไม่เป็นไรคุณหนูเฟิร์นรอบคอบนับเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว "
เฟิร์นเองก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากและโล่งใจสุดๆคุณท่านหลี่เห็นสีหน้าเธอดูไม่จริงจังเหมือนตอนเจรจาแล้วคิดว่าเธอคงสบายใจแล้วล่ะ เธอก็กลับมาเป็นเด็กสาวผู้น่ารักน่าทะนุถนอมในทันทีทำให้คุณท่านหลี่เกิดรักและเอ็นดูขึ้นมามากขึ้น
ผู้ช่วยลู่สั่งให้คนไปขนของขึ้นรถเพื่อไปสนามบินเฟิร์นเองก็นั่งจิ้มๆกดๆโทรศัพท์ใกล้ๆกับคุณท่านหลี่ในห้องจนสิ่งที่เธอทำเสร็จหมดเธอก็ยืดตัวขึ้นยืดเส้นยืดสายอย่างลืมตัวราวกับอยู่คนเดียวคุณท่านหลี่อดที่จะอยากรู้ไม่ได้จึงเอ่ยถาม
" คุณหนูเฟิร์นทำอะไรอยู่เหรอเห็นก้มหน้าก้มตาจิ้มโทรศัพท์ "
เมื่อได้ยินคุณท่านหลี่เอ่ยถามเธอก็ยิ้มขึ้นมาอย่างสดใสและตอบไปตามความจริงว่า
" โอนเงินให้คนในครอบครัวค่ะให้พ่อแม่ค่าเล่าเรียนในส่วนของน้องสาว น้องชาย น้องสะใภ้และหลานๆค่ะ อ้อหนูลืมบอกไปครอบครัวของหนูเราอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ค่ะ "
คุณท่านหลี่ยิ่งรักเธอมากขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น
[ เธอช่างเป็กกตัญญูคิดเผื่อคนอื่นจริงๆแต่เดี๋ยวนะเธอแทนตัวเองว่าหนูด้วยฉลาดจริงๆเด็กคนนี้รู้จักใช้คำให้เหมาะกับสถานการณ์ ]
คุณท่านหลี่คิดในใจไปยิ้มไปสายตาจ้องไปบนตัวของหญิงสาวตรงหน้าจนผู้ช่วยเข้ามา
" ท่านประธานใหญ่ครับรถพร้อมแล้วครับ "
ทั้งสามคนก็เดินออกไปพร้อมกันแล้วออกเดินทางก่อนถึงสนามบินเฟิร์นส่งข้อความไปหาแฟนหนุ่ม
" พี่วินเฟิร์นได้งานแล้วนะเป็นล่าม "
จากนั้นก็มีข้อความส่งกลับมาพร้อมกับอีโมจิจุ๊บๆ
" จริงเหรอ ดีใจด้วยตั้งใจทำงานนะคับเด็กดีของพี่ "
" โอเคค่ะแค่นี้ก่อนนะคะดูแลสุขภาพด้วย บ้ายบาย "
" ครับ บ้ายบาย "
จบด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ เธอกอดโทรศัพท์ไว้ด้วยใบหน้าที่มีความสุข

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.