บทที่ 7 ที่อยู่ใหม่

มนตราสะท้านโลกา

-A A +A

บทที่ 7 ที่อยู่ใหม่

หลังจากที่เด็กหนุ่มรับประทานอาหารมื้อกลางวันเสร็จสิ้น เขาก็ต้องวิ่งตามพี่สาวของตนเองอีกครั้ง จนเวลาได้ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง ไบรท์ที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงตะโกนขึ้นอย่างหมดความอดทน 

“พอสักที ฝึกแบบนี้มันจะมีประโยชน์อะไรกัน ต่อให้จะฝึกร่างกายแทบตายแต่มันก็ไม่ได้ใช้สู้จริงสักหน่อย ถึงแล้วถ้าเปลี่ยนจากการฝึกร่างกายเป็นฝึกพลังเวทย์ หรือไม่ก็หาวิธีทำให้ผมสามารถค้นพบพลังธาตุอีกธาตุที่อยู่ในร่างกายได้มันไม่ดีกว่าหรือไง จริงอยู่ที่วิธีการออกกำลังกายมันเป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะทำให้เจอพลังธาตุ แต่ว่าพี่ก็ลองดูสภาพร่างกายของผมสิ”

ไอหยุดม้าก่อนทีจะหันกลับมามองน้องชาย “ฉันบอกแล้วว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่จะทำให้ได้พลังเร็วที่สุด ถ้าจะให้แกมัวแต่ไปฝึกรวบรวมพลังเวทย์ที่อยู่ในอากาศ มันก็ต้องใช้เวลาเกือบเดือน ดังนั้นวิธีที่จะดึงพลังเวทย์และพลังธาตุออกมาจากร่างกายมันจึงเป็นวิธีที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในตอนนี้”

ไบรท์เม้มปาก เขาอยากจะหาวิธีที่จะมาเถียงกับพี่สาวของตนเอง แต่ว่าต่อให้เขาคิดจนหัวแทบระเบิด เด็กน้อยก็ไม่พบวิธีที่จะสามารถเอาชนะพี่สาวของตนเองได้ ทฤษฎีเวทมนตร์ตอนนี้สำหรับเด็กหนุ่มมันยังมีไม่เพียงพอที่จะสามารถเอาไปเถียงกับศาสตราจารย์เวทมนต์ ที่เข้าสู่ระดับนักรบเวท

“ถ้าจะเอาเวลาไปคิดไร้สาระ สู้ตั้งใจอดทนฝึกไปไม่ดีกว่าหรือไง แล้วอีกอย่างหนึ่งฉันไม่ได้ปล่อยให้แกเดินทางเพียงลำพังสักหน่อย อันที่จริงแล้วสัตว์อสูรที่ฉันเรียกมาถ้าจะให้มันวิ่งทิ้งห่างแกจนไม่เห็นฝุ่นก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่ทำ”

ไบรท์ส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่รู้ อันที่จริงผมไม่รู้เลยว่าสัตว์ที่พี่ใช้ขี่ตรงหน้าเขาเรียกว่าสัตว์อสูร”

ไอมองหน้าของน้องชาย ก่อนที่จะชี้แจง “นั่นก็เป็นเพราะว่า ถ้าปล่อยให้แกเดินทางเพียงลำพังก็อาจจะต้องเจอพวกโจรป่าที่ดักซุ่มโจมตีหรือไม่ก็อาจจะหลงทางกลางทาง อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญไปกว่าเรื่องพวกนั้นนั่นก็คือ ฉันจะใช้ระยะเวลาทั้งหมดดูพัฒนาการทางร่างกายของแกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันสอบเราจำเป็นต้องฝึกร่างกายให้ชิน ความจริงฉันคิดว่าจะร่ายเวทถ่วงน้ำหนักที่แขนของแกด้วยซ้ำ แต่รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่ทำ นั่นก็เพราะว่าฉันรู้ดีว่าร่างกายของแกตอนนี้ไม่สามารถรับการฝึกที่หนักขนาดนี้ได้ ฉันจะเล่าอะไรให้ฟังฉันมีลูกศิษย์คนหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์โปรดของฉัน นามของเธอก็คืออาสึนะ”

“อาสึนะเป็นเด็กสาวที่มีความเพียรพยายาม อายุอานามใกล้เคียงกับแก แต่ว่ามีความอัจฉริยะอยู่ในตัว เธออายุ 13 ปี อาสึนะก็สามารถเรียนถึงระดับเกด 10 ได้แล้ว ที่ฉันบอกแกไม่ใช่จะกดดันแต่ว่าฉันก็อยากให้น้องชายของฉันสามารถไปถึงระดับนั้นได้”

ไอยิ้มก่อนที่จะมองสภาพของน้องชายของเธอ “เอาล่ะหยุดคิดฟุ้งซ่านแล้วก็ก้มหน้าก้มตาฝึกไปได้แล้ว”

ในเวลาเดียวกัน 

อาสึนะละสายตาออกจากหน้าจอที่เพื่อนๆกำลังพิมพ์เม้าท์มอยกันอย่างมีความสุข เด็กสาวมองดูนาฬิกาบนเพดานห้องของตนเอง ก่อนที่จะพบว่าตอนนี้เวลาของนาฬิกานั้นคือ 18.00 น 

แสงอาทิตย์ยามเย็นส่องปะทะใบหน้า อาสึนะสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะหันไปมองยังดอกไม้ต้นโปรด ดอกบลูบอนเนตที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ข้าง ๆ ทำให้หญิงสาวอดรำลึกถึงความหลังไม่ได้ 

ตั้งแต่ที่เธอได้เกิดมาอยู่บนโลกใบนี้ แม่ของเธอก็ตายด้วยโรคประหลาด ส่วนพ่อก็หายสาบสูญไป เด็กสาวต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังมาตั้งแต่เล็ก ๆ 

ถึงแม้ข้างๆจะมีปู่ที่คอยดูแลเอาใจใส่ แต่หากเทียบกับความรักของพ่อและแม่ที่ไม่เคยได้สัมผัส บางครั้งเธอก็อยากจะสัมผัสความอบอุ่นของคำว่าครอบครัวดูบ้าง แต่ต่อให้คุ้นคิดจนหัวสมองแทบแตกสักแค่ไหนมันก็คงไม่มีความเป็นไปได้ 

เสียงไก่ที่ขันปลุกเธอให้หลุดจากภวังค์ของตนเอง อาสึนะมองไปยังท้องฟ้าที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา หมู่นกกาบ้างก็บินกลับรัง ภาพเบื้องหน้าทำให้เธออดยิ้มอย่างพึงพอใจไม่ได้ 

อาสึนะหยิบแก้วชาที่ตั้งอยู่มุมโต๊ะขึ้นมาจิบเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปมองเปียโนที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายที่ริมห้อง เมื่อก่อนเด็กสาวก็เคยสนใจที่จะเล่นเปียโน แต่เมื่อวันเวลาได้ผ่านเลยไป ความสนใจของอาสึนะก็เปลี่ยนแปลงไป

 จากที่เคยสนใจเกี่ยวกับทางด้านดนตรีเวทย์มนต์ แต่ปัจจุบันนี้เธอกับสนใจมนต์ที่เป็นนามธรรมมากกว่าเดิม อย่างเช่นพลังธาตุที่อยู่ในร่างกาย 

ตอนนี้อาสึนะสามารถใช้เวทได้สองธาตุ ธาตุหลักของเธอก็คิอเวทลมส่วนธาตุเสริมก็คือธาตุสายฟ้า แถมยังสามารถใช้เวทเสริมพลังให้กับร่างกายได้อีกด้วย สำหรับเด็กที่อายุ 13 ก็คงมีไม่กี่คนที่สามารถร่ำเรียนข้ามชั้นไปถึงเกด 10 ได้ เรื่องนี้จะเป็นไปไม่ได้หากเธอไม่ได้พี่ไอมาเป็นครูสอนพิเศษ 

สำหรับอาสึนะ ไอยราเป็นครูที่สมบูรณ์แบบ สาวคนนี้เก่งกาจทั้งเรื่องเวทมนตร์และเรื่องการต่อสู้ประชิดตัว เวทมนตร์ที่พี่สาวสามารถใช้ได้นั้นมีหลากหลายเกินคำบรรยาย ไอยรานั้นคือหญิงสาวที่มีความอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ ว่ากันว่าอัจฉริยะแบบไอยรานั้นหลายร้อยปีถึงจะมีสักคน 

ประมาณ 2 วันก่อนที่ไอยรามาบอกกับอาสึนะว่าตนเองนั้นมีน้องชายและน้องสาวทำให้เธออดฉงนสนเท่ห์ 

 อาสึนะมองหน้าไออย่างสงสัย ตลอดที่ผ่านมาพี่สาวคนนี้ไม่เคยบอกเธอเลยว่าตนเองมีน้องชายและน้องสาว แต่วันนี้จู่ๆกลับบอกเรื่องนี้ให้อาสึนะได้รับรู้ ปกติแล้วคนที่มีน้องสาวกับน้องชายก็น่าจะเล่าเรื่องต่างๆให้คนรอบๆข้างได้ฝังบ้าง 

ไอนำมือมาเกาหัว ก่อนที่จะอธิบายให้อาสึนะ “ถึงจะบอกว่าเป็นน้องชายกับน้องสาวของพี่ก็เถอะ แต่ว่าตั้งแต่ที่พี่โตมา พี่ก็ยังไม่เคยกลับไปเยี่ยมบ้านของตนเองสักที ดังนั้นถ้าหากจะพูดให้ถูก พี่แทบไม่รู้เรื่องอะไรของน้องสาวและน้องชายของพี่เลย”

“แสดงว่าพี่ก็จะให้น้องชายกับน้องสาวของพี่มาเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ใช่ไหม พี่ถึงไปรับมา”

สิ้นคำของอาสึนะ ไอพยักหน้ารับ “ใช่แล้วล่ะ ความจริงแล้วพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะสนิทกับน้องทั้งสองคนที่พี่ไม่ได้เจอกันมานานได้หรือปเปล่า แต่ถ้าจะให้เทียบความสนิทสนมพี่คงสนิทกับอาสึนะมากกว่า นั่นก็เป็นเพราะว่าพี่เห็นเธอตั้งแต่เด็ก ๆ ตั้งแต่เธออายุ 10 ขวบแล้วมั้ง” 

สิ้นคำของไอ ทำให้อาสึนะรู้สึกดีใจอย่างประหลาด

เด็กสาวหลุดออกจากห้วงภวังค์ของตนเองอีกครั้ง อาสึนะตัดสินใจปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง คอมพิวเตอร์ในสมัยก่อนอาจจะใช้พลังงานไฟฟ้า แต่ในยุคนี้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆนั้นใช้พลังเวทย์เป็นตัวขับเคลื่อน

 ต่อให้จะเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืนมันก็ไม่ได้เปลืองพลังงานแต่อย่างใด แต่สำหรับเด็กสาวการปิดคอมพิวเตอร์นั้นก็คือการรักษาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่ง ถึงเธอจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้มากนัก แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเด็กสาวเพราะว่าพลังเวทย์ที่อยู่ในแคปซูลเวทมนตร์งั้นหาได้ง่ายดายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก 

แคปซูลเวทมนตร์คือหินชนิดหนึ่ง ที่มีรูปทรงหลากหลาย ผู้ใช้เวทย์จะนำพลังเวทย์ของตนเองผนึกเข้าไว้ในนั้น หลังจากนั้นก็จะนำมาเป็นพลังงานสำรอง พลังงานสำรองสามารถใช้ได้ตั้งแต่การใช้กับหม้อหุงข้าวยันเครื่องปรับอากาศ 

ถึงแม้จะมีคนบางกลุ่มไม่ชอบวิทยาการที่ล้ำหน้า แต่สำหรับอาสึนะ การมีวิทยาการเวทมนตร์อันล้ำสมัยนั้นช่วยให้ชีวิตของเธอสะดวกสบาย 

ถึงแม้แนวคิดของเธอจะขัดแย้งกับไอ แต่พี่สาวกับไม่เคยตำหนิว่าแนวคิดของอาสึนะนั้นดีหรือไม่ดี

เด็กสาวคิดพลางเดินตรงไปยังห้องของพี่สาวของเธอ ถึงแม้พวกเธอจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ แต่ความสนิทสนมนั้นเทียบได้กับพี่น้องจริงๆ หรือไม่อาจจะมากกว่าพี่น้องจริงๆเลยด้วยซ้ำ อาสึนะเปิดประตูห้องของไอก่อนที่จะมองหาโทรศัพท์ เพียงไม่นานเด็กสาวก็พบว่าพี่สาวของเธอได้ลืมโทรศัพท์ไว้จริงๆด้วย 

‘ไม่น่าล่ะเราโทรติดต่อพี่เขาตั้งนาน ทำไมพี่ถึงไม่ได้รับสาย ปริศนาได้ถูกไขกระจ่างแล้ว นั่นคือคือที่ไอลืมเอาโทรศัพท์ไปด้วยนี่เอง ว่าแต่นี่มันเปิดเทอมแล้วนะพี่จะกลับมายังไงนะ จะเดินทางด้วยรถยนต์ธรรมดาหรือว่าจะมาด้วยยานพาหนะประเภทอื่นๆ อย่างเช่นสัตว์เวทย์ที่พี่สาวทำพันธะสัญญาไว้’

อาสึนะเดินไปหยิบโทรศัพท์ของไอ ก่อนที่จะพบว่าตอนนี้แบตโทรศัพท์นั้นใกล้จะหมด เด็กสาวจึงนำโทรศัพท์ไปชาร์จไว้ที่หัวเตียงของพี่สาว เธอไม่รู้หรอกว่าตั้งแต่วันนี้พี่ไอ ที่มีน้องสาวมาเพิ่มจะคิดกับเธอที่เป็นน้องไม่แท้อย่างไร แต่สำหรับเธอพี่คนนี้ก็ยังเป็นพี่ที่แสนดีอยู่เหมือนเดิม 

อาสึนะปิดประตูห้องของพี่ตนเองอย่างช้า ๆ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินลงมาเตียงชั้นล่าง เดิมทีเด็กสาวคิดว่าจะอาบน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย แต่เธอกลับอยากจะไปเดินเล่นเสียก่อน 

หลังจากเด็กสาวเดินเล่นจนพอใจ อาสึนะจึงกลับมายังบ้านขของตนเองอีกครั้ง ท้องฟ้าที่เริ่มมืดทำให้เด็กสาวตัดสินใจเริ่มออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถเพิ่มพลังทางร่างกายและเพิ่มพลังเวทย์ได้อย่างดี

 อาสึนะออกกำลังกายโดยการวิดพื้น 100 ครั้ง ซิทอัพ 100 ครั้งอันหลัง 100 ครั้ง สก๊อตจั้มอีก 100 ครั้ง แล้ววิ่งอีก 4 กิโล เมื่อร่างกายได้เหงื่อทำให้เด็กสาวเริ่มหอยากอาบน้ำ 

หลังจากการออกกำลังเสร็จสิ้นเด็กสาวก็รอเวลาจนผ่านไป 1 ชั่วโมงอาสึนะตัดสินใจเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวของตนเอง ก่อนที่เธอจะเดินลงไปอาบน้ำที่ห้องน้ำชั้นล่าง

ในขณะที่อาสินะกำลังแช่น้ำอยู่ในห้องน้ำของตนเองอย่างมีความสุข พวกของไบรท์ก็เดินทางมาถึงบ้านของอาสึนะ บ้านตรงหน้าของพวกไบรท์ มีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กมากนัก รอบๆบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด บ้านที่ตั้งตระหง่านอยู่เพียงลำพัง ตัวบ้านมีขนาด 2 ชั้น จากที่ดูบ้านนี้จะสามารถจุคนได้ 10 คน 

ไบรท์ตัดสินใจเปิดประตู ก่อนที่จะมองสำรวจไปรอบ ๆ ชั้นล่างของบ้านแห่งนี้ถูกจัดสรรเป็น 4 ห้องใหญ่ ๆ นั่นก็คือห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นและห้องครัว ส่วนอีกห้องหนึ่งถ้าเขาคาดไม่ผิดน่าจะเป็นห้องเก็บของ ในอนาคตอาจจะถูกใช้เป็นห้องนอนสำหรับเขา 

เมื่อเขามองสำรวจชั้นล่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาจึงตัดสินใจเดินสำรวจฉันบ่น ชั้นบนมีห้องนอนอยู่ 4 ห้อง 2 ห้องถูกใช้งานแล้วส่วนอีก 2 ห้องนั้นจากที่เด็กหนุ่มสังเกตพบว่าน่าจะยังไม่ถูกใช้งาน เขาหันกลับไปมองพี่สาวของตนเองที่เดินตามมาไม่ห่างก่อนที่จะตัดสินใจถาม 

“พี่ผมสามารถนอนห้องไหนได้บ้าง”

“ฉันยังตอบไม่ได้ตอนนี้ ต้องรอให้เจ้าของบ้านกลับมาเสียก่อน หลังจาก่อนกนั้นพวกเราค่อยมาคุยกันว่าจะให้นายนอนห้องไหน ส่วนมายให้นอนกับฉันก็แล้วกัน”

“แต่ว่ามันก็ไม่ได้เหมือนกัน”

ไบรท์มองพี่สาวของตนเป็นเชิงถาม ก่อนที่ไอจะกล่าวอย่างทีเล่นทีจริง “ไม่แน่นายจะได้นอนที่ห้องเก็บของชั้นล่าง ว่าแต่ไปเอาสัมภาระของพวกเรามาหรือยัง”

ไบรท์สั่นหน้า “ยังไม่ได้ไปเอาเลยว่าแต่ผมขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะ”

ไอพยักหน้ารับ “ได้เลย”

ในขณะที่อาสึนะกำลังอาบน้ำอย่างสบายใจ จู่ๆเธอก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังเปิดประตูเข้ามา เด็กสาวมีท่าทางตกใจก่อนที่เธอจะได้ทำอะไรประตูก็ถูกเปิดออก พร้อมกับสายตาของใครบางคนที่กำลังจ้องมองเข้ามาด้านใน 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.