9 กำเนิดนักสู้-กระบี่ใหม่

DARKSTORY เรื่องนี้มีแต่คนโฉด

-A A +A

9 กำเนิดนักสู้-กระบี่ใหม่

หมวดหนังสือ: 

 หลิวลู่ผละออกจากกระท่อมโกโกโกโสด้วยฝีเท้าว่องไว ภาพไผ่โล้รับจูบดื่มด่ำจากสหายที่ดูแลกันมาตลอดยี่สิบปีทำให้หลิวลู่ตื่นตะลึง อีกทั้งภาพของจับโปกควงที่ชักรูดเครื่องเพศยาวโง้งตรงหน้าอกของไผ่โล้อีกเล่า มันเป็นภาพติดตาที่หลิวลู่ไม่คิดว่าจะได้เห็น

มังกรหนุ่มหยุดหอบหายใจหนักตรงป่าไผ่ริมทางเดิน ตอนนั้นเองที่ถุงเล็กสีเหลืองตกลงมา

หลิวลู่หยิบถุงเล็กขึ้นมาและเปิดออก ข้างในคือกระดาษพับหลายทบจนเล็กจ้อย หลิวลู่ถอนหายใจและบอกกับตนเองทันทีว่าเขาจะไม่ได้อะไรจากกระดาษแผ่นนี้ เพราะเขาอ่านข้อความเหล่านี้ไม่ได้

แต่เมื่อคลี่กระดาษออกแล้ว หลิวลู่กลับต้องแปลกใจ เพราะในกระดาษไม่มีตัวอักษรที่อ่านไม่ได้เลยแม้สักตัว มีเพียงรูปวาดจากปลายภู่กันที่บางเฉียบและบรรจง

รูปนั้นคือรูปเต็มตัวของบุรุษคนหนึ่ง ไม่มีรายละเอียดของใบหน้า เป็นเพียงเส้นโครงที่บอกว่าเขาคือบุรุษ ลายเส้นวาดเป็นชุดของเจ้าหน้าที่ประจำลานประลอง ร่างนั้นยืนอยู่บนสะพานไม้ข้างกอไผ่และหลุมศพใต้ดวงจันทร์ครึ่งดวง

แม้จะไม่มีข้อความบ่งชัด แต่หลิวลู่รู้ว่านี่คือจดหมายที่นัดแนะจากบุรุษผู้นั้น

“เจ้าหน้าที่ลำ!”

 

หลังจากกินข้าวเย็นแล้ว หลิวลู่ก็พาไผ่โล้ออกไปอาบน้ำก่อนจะกลับมาดูแลเรื่องที่หลับที่นอนให้ มังกรหนุ่มยังคงติดใจกับภาพเหตุการณ์เมื่อช่วงบ่ายและร่างกายแข็งแกร่งของไผ่โล้อยู่จึงไม่กล้าที่จะมองมากนัก

“ท่านพี่ ข้าขอออกไปหอนางเกี้ยวสักประเดี๋ยวนะ” หลิวลู่เอ่ยขออนุญาต เมื่อไผ่โล้รับคำ มังกรหนุ่มก็ทะยานออกมายืนด้านนอก

 

ท้องฟ้าเหนือหัวเป็นสีดำสนิทแล้ว หมู่ดาวสุกสกาวบนฟากฟ้า ดวงจันทร์ครึ่งดวงกำลังจะหายไปในเมฆทะมึนก้อนใหญ่ แต่กระนั้นมันก็ยังสว่างพอจะมองออกไปไกลตัว

หลิวลู่ทะยานไปในความมืดผ่านกระท่อมหลังเล็กมากมายหลายหลังจนกระทั่งมาถึงเส้นทางที่เชื่อมไปยังสะพานไม้ริมน้ำที่หลิวลู่ตั้งเป้าไว้ มังกรหนุ่มบ่ายหน้าไปทิศทางนั้นจนเห็นแนวทิวไผ่ดำทะมึนโอนไหวอยู่ในสายลมเย็นและแสงเงินยวง

เสียงน้ำไหลเอื่อยดังเข้าหูเมื่อหลิวลู่เดินมาถึงริมฝั่ง ร่างสูงใหญ่ดำมืดของบุรุษคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่บนสะพานไม้ที่ทอดเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำ แม้จะไม่มีหลุมศพ แต่ภาพนั้นก็ดูคล้ายคลึงกับภาพในจดหมายไม่น้อย

“ตามข้ามา!”

เสียงดุห้วนนั้นเอ่ยถามเมื่อหลิวลู่เดินเข้าไปใกล้ บุรุษแซ่ลำแต่งกายด้วยชุดที่เรียบง่ายคือเสื้อคลุมยาวทรงกระบอกและทับด้วยเสื้อกั๊กแขนกุดสีเข้มอีกที ดูคล้ายชาวบ้านทั่วไปมากกว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ลานประลอง

เขาเดินข้ามสะพานไปยังอีกฝั่งและเลี้ยวขวามือถึงถนนดินที่มืดสลัว แสงจันทร์สว่างแค่พอให้จำแนกได้ว่าทางที่มุ่งไปคือพื้นที่ที่หลิวลู่เข้าใจว่าเป็นป่า

“บอกข้าซิ เหตุใดเจ้าจึงใช้กระบี่สั้น?”

จู่ๆ บุรุษแซ่ลำก็เอ่ยขึ้นมา ร่างสูงใหญ่และทะมึนไม่ได้หันใบหน้ามา แต่น้ำเสียงที่สงบและกังวาลก็ดังมาถึงหลิวลู่ฟังชัดเจนทุกถ้อยคำ ร่างของเขากำลังเดินลงเนินเตี้ยที่ปลายทางคือพื้นที่โล่งกว้างเต็มไปด้วยกองดินนับร้อยพันกระจายเต็มพื้นที่

“มันเบาและพลิกแพลงง่าย”

“เจ้าควรเลือกใช้กระบี่ยาวที่หนักขึ้น—” บุรุษแซ่ลำเอ่ย “—กระบวนท่าของเจ้าว่องไวพอแล้ว หากเจ้ายังใช้กระบี่สั้น กระบวนท่าของเจ้าจะไม่รุนแรงพอจะสังหารคู่ต่อสู้ได้ในการจู่โจมเพียงครั้งเดียว”

“ข้าก็ไม่เคยคิดจะสังหารใคร”

 

บุรุษแซ่ลำฟังแต่ไม่ได้ตอบ เขาทะยานลงไปยังลานกว้างที่มีลมโชยพริ้วพากลิ่นอับของดินและหินลอยเข้าจมูก เขาผายมือไปยังศาลาเก่าที่ตั้งอย่างโดดเดี่ยวในความมืดกลางลาน

“เดือนที่แล้วมีรายงานของเจ้าหน้าที่ว่าโจรขโมยสุสานได้เข้ามารื้อค้นสุสานนี้และพบอาวุธเก่ามากมาย แต่เนื่องจากมันเป็นของเก่า ทางการจึงไม่ได้ใส่ใจที่จะมาเก็บไป—” บุรุษแซ่ลำกล่าวในขณะเดินตรงไปที่ศาลารูปร่างหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ “—ข้ามีเพียงกระบี่ยาว แต่ในเมื่อเจ้าไม่ปรารถนามัน เจ้าก็ลองมองหากระบี่สั้นที่ศาลาหลังนั้นเถอะ”

หลิวลู่แทบไม่ได้ฟังที่บุรุษแซ่ลำกล่าว มังกรหนุ่มกำลังตะลึงกับอาวุธมากมายที่วางสุมเต็มศาลา ทั้งกระบี่ ดาบและอาวุธอื่นหลากหลายชนิด อีกทั้งกล่องฉลุและลังหลายใบที่วางอยู่กับพื้นก็น่าจะมีอาวุธอีกหลายอย่าง หลิวลู่จึงปราดเข้าไปหาบุรุษร่างใหญ่และกล่าวขอบคุณทันที

“ท่านลำช่างมีเมตตาจริงๆ ขอบคุณท่านมาก”

 

หลิวลู่เพลิดเพลินกับการหยิบฉวยกระบี่ขนาดต่างๆ ขึ้นมาวาดท่วงท่า ทุกฝีก้าวและทุกคมกระบี่ต่างตกอยู่ในสายตาคมปราบของบุรุษแซ่ลำทั้งสิ้น

ราวกึ่งชั่วยามที่หลิวลู่หยิบจับกระบี่เก่ามาลองท่วงท่า แต่มีเพียงเล่มเดียวที่หลิวลู่ดูจะพึงพอใจ มันคือกระบี่สั้นธรรมดา แต่ทุกครั้งที่วาดดาบจะเกิดเสียงหวีดหวิวแปลกหู หลิวลู่จึงเพลิดเพลินกับการร่ายรำอยู่นาน เมื่อมังกรหนุ่มเก็บกระบี่สั้นเล่มนั้นเข้าฝัก บุรุษแซ่ลำก็ทะยานเข้าไปคว้าจับสะโพกของหลิวลู่เอาไว้

“ท่วงท่าร่ายรำของเจ้าช่างพริ้วและงดงามน่ามองยิ่งนัก” บุรุษแซ่ลำเอ่ยและวาดมือโอบรอบกายก่อนจะดันให้หลิวลู่ถอยไปติดเสาต้นหนึ่ง มือหนาจ้วงลงไปช้อนตูดที่เกร็งแน่นเพราะถูกสัมผัส “คราวนี้ข้าขอชมท่วงท่ารักของเจ้าบ้างนะ”

“ทะ—ท่านลำ! ข้าไม่—!” หลิวลู่ตกใจกับการจู่โจมอย่างหื่นกระหายแต่ก็สามารถควบคุมตนเองได้ดี มังกรหนุ่มตวัดกระบี่ในมือขึ้นและวางทาบลงบนบ่าใกล้ต้นคอของบุรุษแซ่ลำอย่างรวดเร็วจนบุรุษร่างใหญ่ต้องชะงัก “—ข้าไม่อยากจะอกตัญญู แต่ข้าไม่ใช่สตรี!”

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ต้องหัดดูคนให้ถ้วนถี่นะ เจ้าหนุ่มก้าน” น้ำเสียงเย็นเยียบถูกปล่อยออกมาจากลำคอที่ถูกฝักกระบี่กดแนบ “เจ้าอ่อนโลกเกินไปจนดูไม่ออกว่าข้าก็ไม่พึงเล่นรักกับสตรี!”

 

บุรุษแซ่ลำไม่มีทีท่าเกรงกลัวหลิวลู่เลยแม้แต่น้อย เขายังคงคลึงเคล้นนิ้วมือลงบนตูดของหลิวลู่พร้อมรอยยิ้มเหยียด ครู่เดียวเขาก็ปรายตาลงมองมือของหลิวลู่และเอ่ยตัดพ้อ

“ข้าอุตส่าห์พาเจ้ามาหากระบี่ เจ้าจะไม่ตอบแทนข้ารึ?”

“ถะ—ถ้าเช่นนั้น ข้าไม่เอากระบี่นี้ก็ได้”

“เจ้าแน่ใจรึ? กระบี่ที่เจ้าถืออยู่คือกระบี่หงษ์ทะยาน ทำจากเหล็กอ่อน ยาวสิบเก้าชุ่นแต่แทบจะไร้น้ำหนัก ด้ามกระบี่ทำจากเหล็กหล่อแข็งแกร่ง อีกทั้งกระบังอีกเล่า? มันคืองานฝีมือที่ดีที่สุดของยุค หลอมมาจากศิลาและหยกเย็น ฉลุอย่างงดงาม เมื่อวาดกระบี่จะเกิดเสียงหวีดหวิวราวเสียงหงษ์ร้อง”

“อ้อ! เสียงนั้นเอง” หลิวลู่เลื่อนนิ้วโป้งไปแตะกระบังจานเรียบเงา สัมผัสลื่นให้ความรู้สึกเย็นและสงบ แต่เพียงอึดใจเดียวเท่านั้น หลิวลู่กลับรู้สึกร้อนลุ่มขึ้นมาทั่วกาย “ขะ—ข้ารู้สึกร้อน!”

“เช่นนั้นรึ?” บุรุษแซ่ลำเอ่ยถามและยกมืออีกข้างขึ้นเชยคางรกของหลิวลู่และกดริมฝีปากลงไป ลิ้นหนาสอดดุนเข้าสู่ปากของหลิวลู่ได้อย่างง่ายดาย บุรุษแซ่ลำดูดดื่มความหวานจากริมฝีปากของหลิวลู่อยู่นานสมใจอยากก่อนจะถอนปากออก “เจ้าคงอยากเล่นรักกับข้าแล้วกระมัง เจ้าหนุ่มแซ่ก้าน”

“ไม่ใช่! ขะ—ข้าเป็นบุรุษและมีเมียแล้ว ข้าจะรู้สึกแบบนั้นได้อย่างไร!? ไม่มีทาง!”

 

แม้จะปฏิเสธเป็นพัลวัน แต่หลิวลู่กลับยอมให้ร่างกายถูกโอบรัดและยกปากต้อนรับจูบดูดดื่มจากบุรุษแซ่ก้านอีกครั้ง มังกรหนุ่มวาดมือไปตามร่างกายหนาล่ำของอีกฝ่ายอย่าพึงพอใจและดึงรั้งคางหนาของบุรุษแซ่ก้านเอาไว้ไม่อยากให้เขาดึงริมฝีปากออก แต่มันก็ไม่สำเร็จ

บุรุษแซ่ลำดึงปากออกมาเหยียดยิ้ม เขามองหลิวลู่ด้วยความรู้สึกเบิกบานพลางขยับร่างออกห่างเล็กน้อยเพื่อให้หลิวลู่สัมผัสร่างกาของเขาได้เต็มฝ่ามือ เขารออย่างใจจดใจจ่อให้หลิวลู่สัมผัสเครื่องเครายาวที่ยกตัวรออยู่ใต้เสื้อคลุมยาว แต่หลิวลู่ก็ยังไม่ส่งมือลงไปเสียที ตัญหาของเจ้าหนุ่มแซ่ก้านอาจจะยังไม่มากพอที่จะทำให้เขายอมปรนนิบัติบุรุษด้วยกัน

บุรุษแซ่ลำจับร่างหลิวลู่หมุนเข้าหาเสาศาลาและส่งฝ่ามือไปกระชากกางเกงผ้าของหลิวลู่ออก ฝ่ามือใหญ่ตะปบลงที่ตูดกลมและกดนิ้วลงในร่องเบียดแน่นจนหลิวลู่ต้องซบหน้าลงกับแขนและร้องคร่ำครวญ

“อะ อะอือ อะ อา หยะ—หยุดก่อน ท่านลำ!”

ตูดกลมเนียนของบุรุษวัยยี่สิบหกแอ่นสูงและค่อยๆ แยกออกเมื่อถูกนิ้วหยาบแข็งลุกล้ำ ร่างกายแข็งแกร่งบิดเร่าจนมัดกล้ามขึ้นทั่วกาย ยิ่งบุรุษแซ่ลำทรุดกายลงนั่งและใช้ฟันขบกัดตูดของหลิวลู่อย่างแผ่วเบาแต่คลึงเคล้นเนิ่นนานด้วยแล้ว เสียงหอบหายใจกระเส่าก็ยิ่งดังหนักหน่วง ทว่าขาทั้งสองกลับระริกสั่น

 

“อืมมม อือ อะ อา ดะ—ได้โปรดหยุดเถอะท่านลำ”

เสียงครางอู้ไม่เว้นระยะจากริมฝีปากอ่อนเยาว์ถูกพ่นออกมาพร้อมไอขาว ตูดกลมเนียนของมังกรหนุ่มถูกริมฝีปากกร้านกระหายของบรุษแซ่ลำขบกัดและไล้เลียจนท่วมชื้น หว่างขาแยกอ้าก็ถูกฝ่ามือแข็งแกร่งล้วงช้อนจนพวงไข่แทบไม่ได้ทิ้งตัวอย่างอิสระ ไม่ต้องกล่าวถึงท่อนลำยาวที่ชี้ตรงนั่นเลย มันถูกรูดชักจนเป็นเงาวาวและเยิ้มวาวอยู่ในแสงสลัว

“ปะ—ปล่อยข้าเถอะ” หลิวลู่ร้องขออย่างอ่อนแรง ฝ่ามือยึดอยู่กับเสาไม้ต่างที่ยึดเหนี่ยวให้ทรงตัวอยู่

ท่วงท่าที่เจือระหว่างความกระหายอยากและความอับอายของหลิวลู่กระตุ้นให้บุรุษแซ่ลำโผเข้าประกบแนบชิดและโน้มตัวลงไปกระซิบกระซาบ

“เป็นเมียข้าเถอะเจ้าหนุ่ม”

บุรุษแซ่ลำเอ่ยและจับขาข้างหนึ่งของหลิวลู่ลอยขึ้นก่อนจะวางลงบนพื้นยก เขาเหยียดยิ้มเมื่อมองท่วงท่าของมังกรหนุ่ม มันช่างเหมาะแก่การสอดใส่เหลือเกิน

เหมือนรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย หลิวลู่พลันได้สติและพลิกกายกลับมาพร้อมกับดันร่างของบุรุษแซ่ลำออกห่าง รูปหน้าขึงขังนั้นจับจ้องกลับมาราวสงสัยและอยากจะเอ่ยถาม แต่หลิวลู่ไม่ให้เวลานั้นกับเขาอีกต่อไป มังกรหนุ่มเหวี่ยงกระบี่ในมือซ้ายตีลงไปที่บ่าทั้งสองของบุรุษแซ่ลำเพื่อให้เขาชะงัก มันสำฤทธิ์ผล หลิวลู่สามารถผละร่างออกห่างจากบุรุษแซ่ลำได้ แต่มันก็แค่เพียงชั่วขณะเท่านั้น ยังมิทันที่หลิวลู่จะทะยานลงจากศาลา ฝ่ามือแข็งราวคีมเหล็กก็พุ่งมาคว้าจับบ่าของหลิวลู่ไว้และรั้งให้ถอยกลับไปโดยหมายใจจะกกกอด

แต่ด้วยปฏิภาณที่พอยังเหลืออยู่ของหลิวลู่ มังกรหนุ่มสามารถตวัดฝักกระบี่ขึ้นแนบกับแผ่นหลังได้ทัน บุรุษแซ่ลำจึงไม่สามารถเข้าประกบได้ตามที่หมายมั่น

“ขนาดสภาพร่างกายเจ้าไม่พร้อม อีกทั้งเสื้อผ้าก็หลุดรุ่ยเช่นนี้ เจ้ายังต้านทานข้าได้อีกนะ” บุรุษแซ่ลำคำราม ใจหนึ่งก็รู้สึกเคือง แต่อีกใจก็รู้สึกเบิกบานเต็มที่ “ช่างน่ากลืนกินเสียจริง”

 

สิ้นเสียงคำราม บุรุษแซ่ลำก็ชี้กระบี่ยาวของตนไปที่ร่างของหลิวลู่หมายจะทำให้หลิวลู่เสียท่า แต่มังกรหนุ่มก็ชักกระบี่ออกตีโต้กระบี่ยาวของบุรุษแซ่ลำได้อีกหลายกระบวน

ในช่วงที่บุรุษแซ่ลำกำลังสำราญกับการวาดกระบี่รุกไล่และไล่ต้อนมังกรหนุ่มร่างเปลือย มีจังหวะหนึ่งที่หลิวลู่ฉากหลบออกห่างได้ แต่หลิวลู่กลับวาดกระบี่ไม่หยุด เสียงกระบี่สั้นของหลิวลู่กรีดอากาศดังหวีดหวิวอยู่อีกหลายอึดใจก่อนที่มันจะหลุดจากมือของหลิวลู่ตกลงมาที่พื้นศาลาโดยที่บุรุษแซ่ลำมิได้ทำอะไรเลย ร่างเปลือยกำยำของหลิวลู่ยืนส่ายโอนเอนอย่างน่าหวาดหวั่น

บุรุษแซ่ลำทะยานเข้าไปประคองร่างของหลิวลู่ทันทีที่เห็นสภาวะไม่ปกตินั้น

 

“กระบี่นี้ทำให้เจ้ารุ่มร้อนซินะ”

เสียงที่เจือความสำราญลอดริมฝีปากกร้านของบุรุษแซ่ลำออกมาเมื่อเขาพินิจใบหน้าของหลิวลู่ ดวงตาของมังกรหนุ่มที่จ้องกลับมานั้นดูเร่าร้อนผิดกับวิสัยเขินอายยามปกติ เขาปรายตาไปมองดูกระบี่ที่วางอยู่บนพื้นครู่หนึ่งก่อนจะใช้ปลายนิ้วกดไล่ลงไปบนจุดชีพจรของมังกรหนุ่มถึงหกจุด

“ทะ—ท่านลำ” หลิวลู่สะอึกเรียกเมื่อได้สติอีกครั้ง “ข้า—!”

“เจ้าหมดสติ” บุรุษแซ่ลำเอ่ยแทรกพลางลุกขึ้น “วันนี้เจ้าคงเหนื่อยเกินไปที่จะตอบแทนข้า ข้าจะปล่อยตัวเจ้าก็แล้วกัน”

“อา! ข้ารู้สึกอับอายเหลือเกินที่ตอบแทนท่านไม่ได้”

“อย่าได้เสียใจไป คืนนี้เจ้าทำให้ข้าพบเรื่องสำราญใจไม่น้อย” บุรุษแซ่ลำเอ่ยและเหยียดยิ้ม เขาส่งฝ่ามือมาคว้าหัวของหลิวลู่พลางขยับตัวเข้าหา จากนั้นก็ออกแรงดึงจนใบหน้าของหลิวลู่ซบลงบนท่อนยาวที่กระตุกอยู่ใต้ชุดยาว “เอาไว้ให้เจ้าพร้อมกว่านี้ก็แล้วกัน เมื่อเจ้าพร้อม ข้าจะใช้กระบี่ยาวของข้าจะเสียบสังหารเจ้าโดยไม่ปราณีเลย”

 

หลิวลู่รอดจากเงื้อมมือของบุรุษแซ่ลำผู้กระหายที่จะครอบครองร่างกายของตนมาได้อีกครา แม้จะไม่รู้จุดประสงค์แน่ชัด แต่ยามนี้หลิวลู่เชื่อหมดใจว่าบุรุษแซ่ลำคือผู้มีบุญคุณ แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นที่จะต้องตอบแทนบุณคุณในวันหน้าก็ตาม

sds

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.