STARCIN ภาคที่ 2 GAMES START ตอนที่ 36 พอหรือยัง ?

STARCIN อุบัติมหาสงครามสตาร์คิน

-A A +A

STARCIN ภาคที่ 2 GAMES START ตอนที่ 36 พอหรือยัง ?

12 ตุลาคม พ.ศ.2575

เสียงฝีเท้าเคลื่อนผ่านใบไม้ใบหญ้าอย่างรวดเร็วอยู่ภายในป่าที่มีฝนตกปรอย ๆ พวกเขาใช้หนังสัตว์ทำเป็นเสื้อคลุมช่วยให้ความอบอุ่นและยังกันฝนได้อีกด้วย

" นายแน่ใจนะกิว่าเป็นทางนี้ " 

" ตั้งแต่เดินทางเข้ามาในเมืองโรโซฉันก็ซื้อแผนที่มาดูทิศทางไว้แล้ว ถ้าเราตรงไปทางเดิมเลยมันก็คงถึงไปแล้วแต่เราต้องอ้อมไปแทนไม่งั้นอาจจะโดนจับได้ก็ได้ ยังดีที่เซนไม่ได้อยู่ในตัวเมืองหลักไม่งั้นการป้องกันจะแน่นหนากว่ามาก " พวกเขาฝ่าป่าดงเหยียบพื้นแฉะ ๆ ด้วยรองเท้าหนังที่ใช้มาตั้งแต่อยู่ในค่าย

" ทำไมพวกนายเข้าไปในเมืองโดยไม่มีใครสงสัยหรือจำได้เลยเหรอ ? " คานะเอ่ยถาม

" ฉันก็ไม่รู้อาจจะเพราะชาวบ้านชาวเมืองทั่วไปเขาไม่ได้สนใจใบประกาศจับนัก ไม่เหมือนกับพวกนักผจญภัยกับทหาร " ซึฮากิเหวี่ยงมีดตัดหัวของงูตัวหนึ่งที่กำลังจะฉกใส่คานะหัวกระเด็นหายไปเลย

" ขอบใจ " พวกเขาวิ่งต่อไปอย่างยากลำบากกับเส้นทางที่เป็นป่ามีทั้งกิ่งไม้ ดงหนามมากมายวางขวางเกะกะเต็มไปหมด

" เราต้องรีบหนีออกไปให้ไวเพราะก่อนหน้านี้ฉันกับเซนทำการแสดงบนเวทีมีคนดูเยอะมากยังไงก็มีพวกที่รู้จักเราแน่ ๆ พวกเขาอาจจะกำลังตามจับอยู่ก็ได้ "  

" ในที่สุดก็มาถึงสักที " ทันทีที่พ้นออกมาจากป่าก็ได้เห็นบ้านเมืองตั้งอยู่ไม่ไกลนักมีไร่น่าอยู่รอบนอกของตัวเมืองโรโซมีชาวบ้านและพ่อค้ามากมายสัญจรไปมาไม่มีหยุด

" แล้วเราจะเข้าไปข้างในได้ยังไงที่นั่นมีพวกทหารเดินตรวจอยู่เพียบเลยนะ " สเตล่าเพ่งสายตามองตรงไปข้างหน้า

" พวกเธอรออยู่ที่นี่ก่อน " ซึฮากิใช้ปลอมแปลงเปลี่ยนใบหน้าของตัวเองกลับไปเป็นหนุ่มหน้าดุผมสีเงินอีกครั้ง

" นายน่ะ " ซึฮากิเดินไปบนถนนรุกรังเส้นหลักและขวางทางรถม้าคันหนึ่งไว้

" มีปัญหาอะไรวะ ! คนทำมาหากินอย่ามาขวางทางสิ " ชายหนุ่มที่กำลังคุมบังเหียนอยู่เดินลงมาหายใจฝืดฟัดด้วยความไม่พอใจพร้อมออกหมัดได้ทุกเมื่อ

" ผมอยากจะซื้อรถม้าและของพวกนั้นด้วย " ซึฮากิหยิบค้นของในกระเป๋าผ้า

" หา ? รวยมาจากไหนวะจะซื้อรถม้าของข้าน่ะเหรอ ต่อให้เอาเหรียญทองมาหนึ่งกำมือข้าก็ไม่สนใจ- " ทันทีที่เขาได้เห็นเพชรที่ซึฮากิยื่นให้ก็ทำเอาเผลอร้องเสียงหลงออกมาเบา ๆ 

" เชิญเลยครับท่าน " ท่าทางอ่อนน้อมพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือในทันที เขาเดินออกห่างรถม้าผายมือให้กับซึฮากิ

" เอาไปแล้วห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด " 

" ครับท่าน " สุดยอดไปเลยนี่มันเพชรมรกตแน่ ๆ ถ้าเอาไปขายคงได้เกือบหนึ่งร้อยเหรียญทองเชียวนะ ก้อนเหลี่ยม ๆ สีเขียวส่องแสงสะท้อนอย่างสวยงามขนาดพอ ๆ กับสบู่ก้อนหนึ่ง เขายิ้มไม่หุบบ่นพึมพำขณะที่เดินกลับเข้าเมือง

ทันทีที่ทางโล่งซึฮากิก็โบกมือขึ้นส่งสัญญาณให้กับคานะและสเตล่า 

" พวกเธอเข้าไปแอบข้างในก่อน " ซึฮากิเปิดผ้าที่คลุมปิดท้ายรถเผยให้เห็นกองผ้าวางเรียงกันหลายชั้นแต่ผ้าที่เห็นก็หยาบสีดูจืดชืดไม่น่าใส่เท่าไหร่นัก

" ซ่อนกันให้ดีล่ะ " หลังจากนั้นซึฮากิก็พยายามคุมม้าให้เข้าไปในเมืองด้วยความทุลักทุเลไม่เหมือนกับคานะที่ทำได้ดีกว่า

" ขอดูบัตรแสดงตัวด้วยครับ " ซึฮากิยื่นบัตรนักผจญภัยให้กับทหารยาม เขาตรวจดูชื่อและใบหน้าของซึฮากิก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่ก็มีทหารยามอีกคนที่กำลังเดินไปที่ด้านหลังของรถม้า 

ซวยแล้วไงถ้าถูกจับได้ก่อนอื่นก็ต้องจัดการคนที่อยู่ใกล้สุด คานะกับสเตล่าน่าจะจัดการคนนั้นได้เส้นทางการหนีถ้าขึ้นเหนือก็จะไปทางเมืองหลวง ลงใต้กลับไปยังเมืองท่าที่พวกคิโนริอยู่การหนีเข้าป่าก็ดีตรงที่มันกว้างใหญ่และหาตัวได้ยาก

" เฮ้ย ! ทำอะไรอยู่ในเมืองมีคนกำลังตีกันต้องรีบไปจัดการก่อนแล้ว " ชายหนุ่มที่กำลังจะเปิดผ้าวิ่งตามทหารยามหลายนายเข้าไปในเมืองที่ที่มีคนมุงดูกันอยู่มากมาย

รอดไปที ซึฮากิถอนหายใจนำรถม้าเดินทางไปยังบ้านหลังใหญ่ของอามอง

ต้องใช้หน้าจริงไปหาอามองแล้วรีบพาเซนออกไปให้ไวที่สุด 

" อ้าว ๆ ว่าไงกิ " เสียงของชายชาตรีที่คุ้นเคยเอ่ยออกมาพร้อมกับแสงจ้าอันน่าประหลาดใจ เซนกับกางเกงในตัวเดียวยืนโพสต์ท่าเบ่งกล้ามกับชายฉกรรจ์หลายคน ลวดลายของกล้ามเนื้อที่ผ่านทุกข์สุขมามากมายแขนที่มีกล้ามแน่น ๆ เพราะถูกฝึกกับดาบขนาดใหญ่เป็นเวลานานแต่โดยปกติแล้วพวกเขาไม่ได้สังเกตกันจนมาถึงตอนนี้ ร่างกายของเซนรวมทั้งใบหน้าเปล่งประกายเสน่ห์อันหาที่เปรียบมิได้ออกมา เขาเดินมาที่ถนนตรงมาหาซึฮากิกอดอกยิ้มด้วยความพึงพอใจ

" นั่นมันเซนจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย ? " คานะกับสเตล่าแอบมองออกมาจากรถม้าถึงสเตล่าจะดูเฉย ๆ แต่คานะกลับจ้องตาไม่กะพริบด้วยความสงสัย

" เราต้องไปกันแล้ว " ซึฮากิกระซิบบอกเซนขณะที่มีชายฉกรรจ์ยืนมองอยู่ไม่ไกล

" ทำไมถึงรีบร้อนนักล่ะกิ " เซนพูดด้วยท่าทางสุขุมสุภาพขึ้นมากกว่าแต่ก่อน

" นายกลับมาแล้วสินะเจ้ากิหายไปหลายวันนึกว่าหนีไปแล้วซะอีก " อามองเดินออกมาจากบ้านเข้าประชิดตัวซึฮากิมองดูรอยแผลและสภาพโทรม ๆ ของเขา

" พวกผมต้องขอตัวลากันนะตรงนี้นะครับส่วนนี่คือของแทนคำขอโทษและขอบคุณ " ซึฮากิยื่นอัญมณีสีฟ้าให้กับอามองเขามองดูด้วยความสงสัย

" ราคาก็ใช่ย่อยเลยนะเนี่ย...ดูท่าพวกนายคงรีบร้อนจริง ๆ สินะ " อามองเหลือบไปเห็นกลุ่มทหารยามแอบมองอยู่ไม่ไกล

" เด็ก ๆ ส่งแขกหน่อยสิ " ซึฮากิพาเซนขึ้นรถม้าเตรียมตัวออกเดินทางแต่จู่ ๆ ก็มีพวกทหารยามเดินกรูกันเข้า

" จับพวกมันเร็ว " ทันทีที่พวกเขาสะบัดเชือกให้ม้าวิ่งออกไปพวกทหารก็รีบพากันวิ่งตามแต่ทันใดนั้นพวกชายฉกรรจ์และอามองก็มาขวางทางไว้

" หนุ่ม ๆ กินข้าวหรือยังเดี๋ยวฉันเลี้ยง " อามองและชายฉกรรจ์ยืนขวางถามสารทุกข์สุกดิบเพื่อให้ไม่เหมือนเป็นการให้ความช่วยเหลือคนร้ายแต่เป็นเพียงการถามไถ่เฉย ๆ

ขอให้โชคดีล่ะ แค่เพียงไม่กี่นาทีพวกซึฮากิก็หายไปจากสายตาเสียแล้ว เหล่าทหารยามโกรธเป็นฟืนเป็นไฟผลักอามองและชายฉกรรจ์ออกแต่มันก็ทำได้แค่สะกิดเท่านั้นแรงอันน้อยนิดเทียบกับผู้ที่ฝึกฝนร่างกายตลอดไม่ได้เลย

" เซนนายแต่งตัวบ้าอะไรเนี่ย ? " คานะกับสเตล่านั่งกอดกันกลมหันหลังให้กับเซนในสภาพกางเกงในตัวเดียว

" ก็คนมันฝึกตลอดทั้งวันเหงื่อออกเยอะมากเลยไม่ใส่เสื้อผ้ามันซะเลย ฮ่าฮ่า " เซนนั่งขัดสมาธิสบายใจไม่สนใจสายตาของใคร

" เรายังอยู่ในเขตเมืองพวกทหารยามมีทุกหย่อมหญ้าอย่าประมาทกันเชียวล่ะ " ซึฮากิตรงไปที่ใจกลางเมืองเพื่อจุดประสงค์บางอย่างเป็นเวลากว่าชั่วโมงจนมาถึง

" ต้องทิ้งรถม้าแล้ว " พวกเขาใช้ผ้าในรถคลุมใบหน้าและให้เซนใช้ผ้าพวกนั้นแต่งตัวมั่ว ๆ พอให้ปกปิดร่างเปลือยได้

" เดินปะปนไปกับผู้คนเนี่ยแหละพวกทหารไม่ทันได้สังเกตแน่นอน " 

" แล้วเราจะหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ในเมืองใหญ่แบบนี้ต่อไปเหรอกิ " คานะถาม

" อีกไม่นานหรอกฉันจะไปทำธุระก่อนพวกเธอเอาเงินนี้ไปซื้อของที่จำเป็นให้เรียบร้อย " เขายื่นเหรียญทองจำนวนหนึ่งให้กับคานะก่อนจะวิ่งหายไปในฝูงชน

" ไปหาอะไรกินกันดีกว่า " เซนเอ่ยออกมาขณะที่กำลังเดินตามกลิ่นหอม ๆ ที่ลอยมาเตะจมูก

" เดี๋ยวก่อนเลย " คานะดึงหูของเซนจนแดงหยุดเขาไว้ก่อน

" โอย ๆ เจ็บนะคานะ " 

" ก่อนอื่นต้องไปซื้อชุดให้นายใส่ก่อนจะเอาผ้าพันตัวไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ " พวกเขาเดินไปยังร้านเล็ก ๆ ที่มีเสื้อผ้าขายเนื้อผ้านุ่มและเรียบเนียนต่างกับผ้าภายในรถม้านั่น

" มีชุดที่ทน ๆ ไหมคะ ? " คานะถาม

" ท่านต้องการชุดสำหรับนักผจญภัยสินะครับเชิญทางนี้เลย " ชายวัยกลางคนพูดด้วยท่าทางนอบน้อมอ่อนโยน

ชุดหลากสีมีทั้งสำหรับชายและหญิงดูภายนอกแล้วมันก็ไม่ต่างอะไรกับเสื้อผ้าธรรมดาเลยด้วยซ้ำแต่เมื่อชายคนนั้นเอาไฟมาจุดเผามันก็ไม่ติดถูกมีดกรีดเบา ๆ ก็ไม่ขาดหรือเป็นรอยเลย

" เอาชุดสี- "

" สีแดงแรงสามเท่าเอาอันนี้ครับ " คานะไม่ทันพูดจบเซนก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

" ตามใจละกัน " คานะถอนหายใจก่อนจะจ่ายเงินให้กับชายคนนั้นไปเซนนำชุดนั่นไปในห้องแต่งตัวเปลี่ยนให้เรียบร้อย

" แล้วฉันมาทำอะไรที่นี่... " สเตล่าบ่นพึมพำกับตัวเองขณะที่ยืนดูอยู่ไกล ๆ 

" ต่อไปก็อาวุธ อาหารแล้วก็อุปกรณ์จิปาถะ " พวกเขาใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการเดินซื้อของมากมาย

บ้านหลังโตของเจ้าเมืองโรโซเหล่าคนชนชั้นสูงมากมายเดินทางมาร่วมสังสรรค์กับการกลับมาของดีน่าหลังจากสำรวจดันเจี้ยนใหม่สำเร็จ

" ยินดีด้วยนะครับที่พบเจอดันเจี้ยนใหม่ " 

" ใช่ ๆ แหล่งเงินที่ดีอย่างดันเจี้ยนกว่าจะพบได้ช่างยากลำบากยิ่งนัก " เสียงของผู้คนที่ยืนคุยกันสนุกสนานในงานเลี้ยงแบบยืนและเดินตักอาหารกินเอง

เสวยสุขกันดีนี่ ซึฮากิแอบปีนป่ายไปบนหลังคาและกำแพงหลบซ่อนจากสายตาของยามที่คอยเฝ้าได้ไม่ยาก

" ป๋าแล้วคนที่เสียชีวิตไปครอบครัวของเขาล่ะคะ ที่นั่น " ดีน่าในชุดเดรสหรูหราขณะที่คนอื่น ๆ กำลังยิ้มสนุกแต่เธอกลับอมทุกข์อยู่คนเดียว

" ป๋าชดเชยให้พวกเขาทุกคนแล้วคนที่มีลูกพ่อก็พร้อมส่งเสียให้ได้เรียนหนังสือจนจบ " พ่อของเธอลูบหัวพยายามปลอบ

" ...หนูขอตัวไปพักสักหน่อยนะคะ " เธอแยกตัวออกมาจากงานเลี้ยงกลับขึ้นไปบนห้องที่อยู่ชั้นสองทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ๆ 

" เฮ้อ...ใครกัน ? " เสียงอะไรบางอย่างกระทบกับกระจกหน้าต่างจนเธอสะดุ้งตื่นตัวเมื่อมองออกไปก็เห็นฝนกำลังตกเบา ๆ อยู่พอดี

" ฉันเอง " ซึฮากิส่งเสียงเรียกทำให้ดีน่ารีบไปเปิดหน้าต่างทันที

" นั่นนายจริง ๆ ใช่ไหม " ซึฮากิกระโดดพรวดพราดเข้ามาในห้องจนเธอตกใจ

" ฉันต้องการข้อมูลเส้นทางไปยังอาณาจักรอาฟ " ซึฮากิเปิดผ้าคลุมออกเผยให้เห็นใบหน้าที่นิ่งเฉยชาของเขา

" ฉันเองก็ไม่รู้อะไรมากนักหรอก...แต่เดี๋ยวก่อนนะ " ดีน่าวิ่งตรงไปยังประตู ขณะที่เธอกำลังจะเปิดออกไปก็ถูกซึฮากิจับแขนไว้ก่อน

" เธอจะไปไหน ? " 

" ฉันจะไปถามป๋าสักหน่อยเขาน่าจะรู้ " 

" พ่อเธอจะไม่สงสัยเหรอว่าอยากรู้ไปทำไม " ซึฮากิยังไม่ยอมปล่อยมือ

" ไม่หรอกน่าคิดมาก " สุดท้ายซึฮากิก็ปล่อยเธอออกไปข้างนอก ดีน่าตรงไปยังห้องโถงที่จัดงานเลี้ยงเพื่อไปหาพ่อของเธอ

" ป๋ารู้ทางไปอาณาจักรอาฟไหมคะ ? " เสียงออดอ้อนของเธอทำให้ผู้เป็นพ่อคล้อยตามพูดตอบกลับอย่างไม่สงสัย

" รู้สิจ๊ะเดี๋ยวป๋าเล่าให้ฟัง " พวกเขาเดินไปนั่งที่โซฟาขนาดใหญ่หรูหราแถมยังนิ่มมากเสียด้วย

" เส้นทางที่จะไปมีเฉพาะทางตอนเหนือของอาณาจักรเซียเท่านั้นที่นั่นอยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลซีเลีย ถ้าลูกอยากไปป๋าสามารถส่งเรื่องให้กับหัวหน้าตระกูลเพื่อพาลูกไปเที่ยวได้สบาย ๆ เลยนะพอดีว่าพวกเรารู้จักกัน แต่อาณาจักรอาฟกับที่นี่มีธรรมเนียมวัฒนธรรมที่ต่างกันมากจนน่าแปลกใจเหล่ามนุษย์สัตว์รวมถึงเผ่าอมนุษย์ก็อยู่กันได้ปกติแต่กลับกันที่นี่เผ่าพันธุ์เหล่านั้นเป็นได้เพียงแค่ทาสเท่านั้นทำให้มีการลักลอบ กบฏ ก่อการร้ายมากมายเพื่อหลบหนีไปยังอาณาจักรอาฟ...แล้วก็ยังมีอีกเส้นทางหนึ่งก็คือข้ามทะเลไปด้วยเรือเดินสมุทรสามารถไปถึงอาณาจักรอาฟได้เร็วกว่ามาก ๆ แม่น้ำสายหลักที่อยู่ข้าง ๆ เมืองมันพาดผ่านตั้งแต่เหนือลงใต้เคยเป็นเส้นทางการเดินเรือสินค้ามาก่อน แต่ติดปัญหาก็คือเมื่อสิบกว่าปีก่อนจู่ ๆ ก็มีพวกอมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทะเลออกมาขวางทางการเดินเรือโดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของเจ็ดจ้าวทะเลผู้ปกครองมหาสมุทร นับแต่นั้นก็ไม่มีใครสามารถเดินทางไปทางทะเลได้อีกเลยทั้งจำนวนและความสามารถของพวกมันเมื่ออยู่ในน้ำเหนือกว่ามาก ๆ "

" เขาว่ามางั้นอะ " ดีน่าพยายามเล่าเรื่องทั้งหมดที่ได้ฟังมาจากผู้เป็นพ่อ

" เป็นแบบนั้นสินะงั้นฉันไม่รบกวนเธอละ "

" เดี๋ยว ! " ขณะที่ซึฮากิกำลังจะปีนหน้าต่างออกไปดีน่าก็คว้าตัวไว้ก่อนแล้วจูบไปที่แก้มของเขา

" ถือว่าเป็นคำขอบคุณแล้วเจอกันนะ " เธอยิ้มฉีกกว้างพร้อมทั้งโบกมือลาแต่ก็เขินจนหน้าแดงไปด้วยเช่นกัน

" ไว้เจอกัน " ซึฮากิปีนออกไปรู้ตัวอีกทีฝนก็เริ่มตกหนักเสียแล้ว " มั้งนะ " เสียงพูดเบา ๆ ต่อทันทีแต่ดีน่าก็ได้ยินเพียงแค่ประโยคแรกเท่านั้น เขาปีนไต่ไปตามกำแพงและหลังคาก่อนจะลงไปบนพื้นถนนจุดที่ไม่มีคนเห็น

ถ้าเทียบกับแผนที่ที่ซื้อมาแล้วระยะเวลาในการเดินทางคงกินเวลามากกว่าหนึ่งเดือนแน่ ๆ แถมยิ่งมีการตรวจเข้มเพราะมีการจลาจลบ่อยครั้งก็ยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ ซึฮากิคิดไปเรื่อยขณะที่กำลังเดินกลับไปยังตลาดที่พวกเซนน่าจะยังอยู่

" ได้ข่าวว่าที่เมืองยานจะมีการประหารนักโทษว่ะ " ถ้าเราจะเดินทางไปด้วยเรือก็มีความเสี่ยงที่จะถูกพวกนั้นตามที่ได้ยินทำร้ายได้แต่ก็ไม่มีการเดินเรือมานานแล้วพวกมันก็อาจจะไม่มาเฝ้าก็ได้ใครจะรู้ เสียงชาวบ้านคุยกันดังจนคนข้าง ๆ ได้ยิน

" ฉันต้องไปดูสักหน่อยแล้วมีทหารที่ก่อกบฏด้วยนี่หน่าชื่ออะไรนะ นาธงนาธาอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ " ซึฮากิหยุดเดินและยืนฟังต่อทันทีขณะที่พวกเขาอยู่ใต้ร่มแต่ซึฮากิยังยืนตากฝนเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น

" นาธาไงแฟนของท่านลักซ์พลโทแห่งกองทหารผู้ที่มีความสามารถและพรสวรรค์มากล้น ทีนี่เธอก็ต้องโสดแล้วสินะถ้าฉันได้เธอเป็นเมียคงสบายไปทั้งชาติเลย ฮ่าฮ่าฮ่า " เสียงหัวเราะคิกคักกันสนุกปากไม่สนคนรอบข้าง

" เมืองนั่นอยู่ที่ไหน ? " ซึฮากิเอ่ยออกมาสั้น ๆ ทำเอาพวกเขาเงียบไปครู่หนึ่ง

" โฮ่โฮ่นายก็อยากไปดูสินะ ฉันจะบอกให้ละกันเมืองยานสามารถเดินทางเลาะไปตามถนนริมแม่น้ำสายหลักได้เลยขึ้นเหนือเรื่อย ๆ ก็จะเจอเมืองยานแล้ว " ทันทีที่พูดเสร็จซึฮากิก็หายไปจากสายตาของเขาแล้วแต่พวกเขาก็ดูไม่ใส่ใจอะไรมากนัก

" เซนนายกำลังทำบ้าอะไรอยู่ ? " คานะเหลือบไปมองเห็นเซนกำลังก้มหน้าห้มตาทำอะไรอยู่คนเดียวในที่ลับตาคนท่ามกลางสายฝน

" เจ้าปุยมันกลับมาหาเราแล้ว " เซนอุ้มมันขึ้นบนอ้อมอกอย่างอ่อนโยน

" จริงด้วย " ทั้งสเตล่าและคานะต่างก็ดีใจยิ้มใหญ่วิ่งเข้าไปดูทันที

" พวกเธอทำอะไรกันอยู่ " ไม่นานซึฮากิก็ตามหาพวกคานะได้ ด้วยสภาพอากาศที่ฝนตกหนักทำให้ชาวบ้านชาวเมืองหลบฝนกันไปหมดแล้วเหลือเพียงพวกเขาเท่านั้นกับกระเป๋าใบเบ้อเร่อ

" ปุยกลับมาแล้วดูสิ " พวกเขายิ้มไม่หุบที่ได้เห็นการรวมตัวกันอีกครั้ง

" เราจะไปเมืองยานกันออกเดินทางเดี๋ยวนี้เลยก่อนที่จะมีทหารมาตรวจตรา " พวกเขาวิ่งฝ่าสายฝนเข้าไปในป่าเพื่อหลบสายตาจากทหารยามแอบออกจากเมืองด้วยทางเละ ๆ ทางนั้น

" เมืองยานเหรอฉันก็เคยอยู่ก่อนจะไปยังเมืองท่านะ ที่นั่นมีเรือนจำขนาดใหญ่อยู่ด้วยทุกครั้งที่มีการประหารก็มักจะมีผู้คนหลั่งไหลมากันเหมือนเป็นงานเทศกาลไปซะแล้ว " ซึฮากิหยุดชะงักจ้องหน้าสเตล่าจนเธอตกใจ

" ช่วยเล่าทุกอย่างที่รู้มาที " 

" ก็อย่างที่บอกเมืองนั้นขึ้นชื่อในเรื่องการประหารที่หลากหลายไม่ว่าจะให้พวกเขาสู้กับสัตว์พันธสัญญา สัตว์อสูรหรือแม้แต่จะให้สู้กันเองก็มี อัฒจันทร์ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายมาเพื่อรับชมความสนุกสนานรวมทั้งแทงเดิมพัน เรื่องพวกนี้เป็นรายได้หลักของเมืองนั้นเลยก็ว่าได้อีกทั้งยังมีการค้าทาสจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นพวกนักโทษ อมนุษย์ สัตว์เลี้ยง สัตว์อสูร สัตว์พันธสัญญามีการค้าขายกันเป็นธุรกิจใหญ่โตเลยทีเดียว " 

" ค้าทาสเหรอฟังแล้วรู้สึกไม่ชอบเลยจริง ๆ " คานะเงี่ยหูฟังท่าทางสนใจเป็นพิเศษ

" ทาสมีหลายราคาหลายเกรดมากเลยตอนที่ฉันเข้าไปเดินดูมีแม้กระทั่งสิบเหรียญเงินไปยันหลายร้อยหลายพันเหรียญทองเลยนะ " 

" ไม่ใช่ว่าอมนุษย์จะถูกกำจัดเหรอแต่กลับเอามาค้าขายกันได้แบบนี้คงมีลับลมคมในกับพวกทหารแน่ ๆ " ซึฮากิถามแต่เหมือนจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

" ก็ถูกของนายภาษีคงเข้าคลังเยอะน่าดูแต่ทำไมเราถึงต้องไปที่เมืองยานล่ะ ที่นั่นค่อนข้างอันตรายเลยนะมีทหารป้วนเปี้ยนเต็มไปหมด " 

" คานะ...เซน " ซึฮากินิ่งเงียบสักพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยชื่อของพวกเธอทั้งสองที่กำลังเดินตีคู่กันเหมือนจะจับมือไปด้วยโดยไม่รู้ตัว ปุยเจ้ากระต่ายน่ารักน่าชังอยู่ในอ้อมอกของเซนให้ความรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังเลี้ยงลูกกันอยู่

" ว-ว่าไงกิ " เซนตกใจสะดุ้ง

" พวกนายคงจำนาธาได้ทหารที่คอยช่วยเหลือและดูแลพวกเรา " 

" จำได้สิเขาช่วยพาเราหนีออกมาจากค่ายด้วย " คานะยิ้มอ่อนภายใต้แววตาที่ดูเศร้าหมอง

" นายถามแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ ๆ " เซนพูดตอบกลับ

" เขากำลังจะถูกประหารที่เมืองยาน " ทั้งเซนและคานะต่างก็ตกตะลึงตาเบิกกว้างจ้องหน้ากิ

" เมื่อไหร่ ? " คานะถาม

" ไม่แน่ใจแต่น่าจะเร็ว ๆ นี้ " 

" งั้นก็รีบไปกันเถอะ " พวกเขาเร่งฝีเท้าวิ่งตลอดทางโดยไม่มีหยุดทำเอาสเตล่าเหนื่อยหอบ ขาสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่

ตั้งแต่ที่กิพูดเรื่องนาธาบรรยากาศของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเลย เขาคนนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่ เธอยังคงฝืนร่างกายเพื่อไม่ให้ถูกทิ้งห่างแม้มันจะทำให้เธอรู้สึกทรมานแค่ไหนก็ตาม

15 ตุลาคม พ.ศ.2575

" พลโทครับ ! เมื่อวันก่อนมีรายงานพบเห็นสัตว์อสูรจำนวนหนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองแอสต้าคาดว่าอีกไม่ถึงสัปดาห์คงถึงที่นั่นแล้ว " นายทหารยืนตัวตรงแข็งเป็นหินพูดจาฉะฉานฟังชัด

" นำม้าเร็วไปแจ้งให้กับทหารยามของเมือง เดี๋ยวฉันจะจัดการเท่าที่ทำได้ " สิ้นคำสั่งเหล่าทหารก็เดินออกไปจากสายตาของลักซ์ทันที

มีงานมาไม่หยุดจริง ๆ เลยแค่จะพักสักวันสองวันก็ไม่ได้ เธอกับม้าคู่ใจร่วมกันเดินทางออกจากเมืองไปยังเส้นทางแม่น้ำสายหลักที่ถอดผ่านตั้งแต่เหนือลงใต้ หลังจากใช้เวลาอยู่หลายชั่วยามในที่สุดเธอก็พบกับฝูงสัตว์อสูรที่ทั้งน่าเกลียดน่ากลัวและแข็งแกร่งมากมาย

สามสี่...พวกมันมีทั้งหมดประมาณหนึ่งร้อยตัว ทำไมสัตว์อสูรถึงมารวมตัวกันมากมายขนาดนี้เห็นได้ชัดเลยว่าพวกมันต้องมีจ่าฝูงที่มีสติปัญญาแต่ตัวไหนล่ะ 

" ชิ ! " ขณะที่เธอกำลังตามดูอยู่จู่ ๆ ก็มีสัตว์อสูรตัวหนึ่งรู้ตัวมันยิงกระสุนลมพุ่งตรงใส่เธออย่างรวดเร็วก่อนจะยกพวกมากันเป็นสิบเพื่อจัดการกับลักซ์

" [ เสริมกำลังระดับห้า ] " เธอหยิบแส้ออกมาเหวี่ยงสะบัดฟาดคลื่นมานาออกไปเป็นเหมือนคมดาบทำให้พวกมันหลายตัวเสียหลักล้มลงไปแต่ก็ไม่อาจจะฆ่ามันได้ทันที

แข็งแกร่งจริง ๆ เลเวลอย่างน้อยก็คงเป็นห้า แต่ก็นะแบบนี้ถือว่าได้ยืดเส้นยืดสายสักหน่อยไม่ได้สู้แบบจริง ๆ จัง ๆ มานานแล้ว แววตาของนักรบเปล่งประกายพร้อมแส้ที่ฟาดใส่ตัวสัตว์อสูรตัดแขนของมันขาดได้ในครั้งเดียวเหมือนใช้ดาบไม่มีผิด

" ดาหน้ากันเข้ามาเลย " กรงเล็บที่เต็มไปด้วยมานาและความโกรธเกรี้ยวตะปบใส่แต่แส้ของเธอก็สะบัดเข้าปะทะแรงนั้นทำให้มันกระเด็นออกไปได้ในทันทีแต่ไม่ทันได้ตั้งหลักพวกมันก็ยิงห่าเวทมนตร์โจมตีเข้ามาในระยะประชิดดูแล้วไม่น่าจะหลบได้ทัน

" ใช้จำนวนเข้าสู้แต่อย่านึกว่าจะชนะล่ะ " ลักซ์กระโดดขึ้นเหนือหัวพวกมันขณะที่กรงเล็บและเวทโจมตีกำลังจะถึงตัว เธอใช้แส้ที่แข็งและคมดังเหล็กหมุนควงเป็นวงกลมมานาจำนวนมากก่อรวมกันที่แส้ก่อนจะสะบัดปะทะเข้ากับเวทมนตร์จำนวนมากของพวกสัตว์อสูรแรงของการปะทะทำให้เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วป่าบริเวณนั้น 

" พวกแกคงจะกำลังเลือดขึ้นหน้าสิน่ะ " เมื่อเธอลงมาที่พื้นก็มีพวกสัตว์อสูรมากมายล้อมตัวเธอไว้

พวกมันรวบรวมมานากันอย่างพร้อมเพรียงจนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลที่ทำให้พื้นร้าวได้ ลักซ์ไม่หนีไปไหนแต่เธอกลับค่อย ๆ เหวี่ยงแส้เพียงชั่วกะพริบตาเปลวเพลิงสีส้มครอบคลุมแส้สีดำนั่นต่อมาเพียงอึดใจเดียวเพลิงก็ลุกไหม้เหมือนกับเสายักษ์วงกลมสูงเป็นสิบเมตรขณะที่ตัวเธอเองก็มีโล่มานาคอยปกป้องตัวอยู่

" ล่อพวกมันมารวมกันเป็นความคิดที่ดีจริง ๆ " เธอยิ้มอ่อนออกมาอย่างภาคภูมิใจท่ามกลางซากศพที่ไหม้เกรียมจำนวนมากรัศมีหลายสิบเมตรผู้คนเห็นควันได้แต่ไกลจนนึกว่าเป็นไฟไหม้ป่า

 

 

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ พิทักษ์ภัยภูมิ

แวะเข้ามาเจออัปเดตพอดี 555

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.