แผ่นดินนี้ข้าจอง ตอนที่ 17 คดีแรก ผีดูดเลือด 3

แผ่นดินนี้ข้าจอง (这是我的土地)

-A A +A

แผ่นดินนี้ข้าจอง ตอนที่ 17 คดีแรก ผีดูดเลือด 3

แม้ยังไม่ถึงเวลาที่กำหนดให้เข้าบ้านแต่ชาวเมืองซิวซันรู้ข่าวเรื่องผีดูดเลือดเร็วมาก อาจจะเป็นเพราะชุมชนของเมืองซิวซันแม้จะจะขยายทุกวันแต่ก็ยังไม่ได้ขนาดใหญ่มาก และอันเนื่องด้วยข่าวผีดูดเลือดนี้เองทำให้ชาวเมืองเกิดความหวาดกลัวกลับเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่ยังไม่ฟ้ามืด ชาวบ้านบางคนที่ไม่มีครอบครัวหรือยากจะทำตัวให้มีประโยชน์ก็ออกมาช่วยเหลือเหล่าทหารและมือปราบในการเฝ้าระวัง แม้รู้ว่าทุกคนจะไม่สามารถเอาชนะผีดูดเลือดได้แต่อาศัยคนเยอะไว้ก่อนก็ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาบ้าง ส่วนตัวชูยงเมื่อฟ้าเริ่มมืดเขาก็คิดขึ้นในใจแล้วว่านี้จะเป็นศึกแรกจริงๆที่ไม่ใช่โลกแห่งความฝัน พอเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ชูยงพร้อมกับลู่หลี่ 2 คน พร้อมด้วยเหล่าทหารกับชาวบ้านที่อาสามาช่วยลาดตระเวนก็เริ่มทำหน้าที่โดยที่ตำแหน่งของพวกชูยงคือประจำการอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองและการลาดตระเวนนี้เองชูยง ก็ได้พบกับเสี่ยวอี้หยง เด็กอ้วนที่อายุมากกว่าเขา 5 ปี และเป็นคนที่ชูยงคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะทั้งสองเคยร่วมงานกันในฝันมาแล้วแต่ในโลกแห่งความจริงคือทั้งสองรู้จักกันมาก่อน โดยที่พ่อของชูยงสนิทสนมกับพ่อของเสี่ยวอี้หลงมาก่อนสมัยที่สองครอบครัวยังอยู่ที่เมืองฉางอันและที่สำคัญกว่านั้นคือพ่อของเสี่ยวอี้หลงเป็นคนมอบตำราการฝึกมนต์ตราพื้นฐานฉบับที่คัดลอกแล้วให้กับพ่อของชูยง และเป็นตำราที่ชูยงใช้ฝึกเวทย์มนต์มาด้วย แต่ตำรานี้มันบึกทึกแค่สายยันต์เบื้องต้นเท่านั้นทำให้ชูยงกับเสี่ยวอี้หลงพอฝึกได้แค่พื้นฐานเท่านั้น แต่ถึงแม้จะมีตำราหรือเคล็ดวิชาที่ร้ายกาจกว่านี้แต่ขาดคนชี้นำก็ไม่สามารถใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ และถือเป็นโชคร้ายเพราะแต่ก่อนที่แคว้นถังจะโดนปิดกั้นถือเป็นอันดับหนึ่งขึ้นเรื่องวิชายุทย์ แต่พอเหตุการณ์ถังเกาจิ้งทำให้เกิดศึกครั้งใหญ่ที่เท่าให้เหล่าผู้มีฝีมือของแคว้นกับเหล่าผู้อาวุโสต่างก็ตกตายในเหตุการณ์ไปจำนวนมากทำให้เหล่าคนรุ่นใหม่ขาดการชี้แนะ และการที่ชูยงเห็นเสี่ยวอี้หลงในโลกแห่งความจริงที่เขากับเสี่ยวอี้หลงนั้นรู้จักกันทำให้ชูยงเกิดความสงสัยว่า วิชาของหม่าต้ากูถือว่าร้ายกาจในระดับหนึ่งแม้เขาจะบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฝันเขาจะเป็นคนกำหนดแต่ตัวละครที่จะเล่นในเหตุการณ์นั้นเป็นคนที่ชูยงกำหนดด้วยตัวเองแต่เขาก็ยังงงอยู่ว่าทำให้ เขาจะต้องไม่รู้จักหม่าต้ากู่ และทำให้หลินอวิ้นถึงจะต้องเป็นปีศาจแมงมุมเรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้ชูยงจนถึงปัจจุบัน

ยามดึกทั่วทั้งเมืองซิววันต่างเต็มไปด้วยแสงไฟจากคบเพลิงของเหล่าหน่วยลาดตระเวนเหล่าหน่วยลาดตระเวนต่างก็ตั้งใจไม่พูดคุยกันหรือแม้กระทั่งเสียงเดินก็ค่อนข้างเบามากอันเนื่องมาจากถ้าหากได้ยินเสียงตะโกนหรือเสียงกรี้ดของเหล่าชาวบ้านจะได้ยินชัดเจน ผ่านไป 2 ชั่วยามก็ยังไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหล่าหน่วยลาดตระเวนเองต่างก็เดินไปเดินมาในพื้นที่ตนเองรับผิดชอบ

 

ณ จวนจวิ้นอ๋อง

 

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นจวิ้นอ๋องที่นั่งอยู่ที่โต๊ะผู้พิพากษาก็เฝ้่ของให้เหตุการณ์ผ่าไปตัวจวิ้นอ๋องเองก็ไม่ได้เข้านอนแต่อย่างใดแต่กลับอยู่เฝ้าที่รอรายงาน ในขณะนั้นเองก็มีชายรูปร่างอวบสวมชุดเกราะเต็มยศคนนั้นคือคนที่จวิ้นอ๋องคุ้นเองเป็นอย่างดีคนนั้นคือ ตันก๋งคนที่เสี่ยงตายไปช่วยเหล่าชาวบ้านสิบกว่าคน ตอนที่พึ่งอพยพมาที่เมืองซิวซันใหม่ๆ ด้วยความดีความชอบนี้เองทำให้จวิ้นอ๋องเลื่อนขั้นให้เขาเป็นหัวหน้าผู้คุมประตูเมือง เขาได้เข้ามาประสานมือรายงาน

 

"เรียนท่านอ๋องขณะนี้ทุกพื้นที่ไม่มีอะไรผิดปกติขอรับ" เนื่องจากว่าเขานั้นในคืนนี้มีหน้าที่รับผิดที่จะราบงานต่อจวิ้นอ๋องซึ่งหน้าที่ของเขาคือรับรายงานจากทุกพื้นที่ในเมืองแล้วสรุปรายต่อจวิ้นอ๋อง

 

"อ่อ งั้นหรอ งั้นก็ดีแล้ว" จวิ้นอ๋องพูดด้วยน้ำเสียงดูโล่งอก จากนั้นตันกงก็มองไปรอบๆจวนด้วยความสงสัยด้วยท่าทางของตันก๋งทำให้จวิ้นอ๋องสงสัยเลยถามขึ้น

 

"เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า"

 

"เรียนท่านอ๋องข้าแค่สงสัยนิดหน่อย"

 

"เรียนใต้เท้าในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าเมืองแต่เหตุฉะไหนถึงมีคนอยู่ที่จวนคอยคุ้มกันท่านน้อยเหลือเกิน" เนื่องจากเขาต้องรับรายงานจากหน้าประตูเมืองดังนั้นคืนนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เขามาที่จวนจวิ้นอ๋อง

 

"ก็คนส่วนใหญ่ไปลาดตระเวนในเมืองเพราะขาดคนส่วนคุ้มกันข้าเท่าที่เจ้าเห็นแหละ" ซึ่งมีแค่ยาม 2 คนหน้าประตูใหญ่อีก 2 คนหน้าประตูทางเข้าห้องพิพากษาที่จวิ้นอ๋องอยู่และอีก 2 คนที่ยืนประกบซ้ายขวา

 

"มันก็จริงๆนั่นแหละเดี๋ยวข้าจะไปขอคนมาเพิ่มเพื่อช่วยคุ้มกันท่าน"

 

"ไม่ต้องๆ ข้าน่ะดูแลตนเองได้"

 

"ท่านอ๋องท่านแน่ใจแล้วใช่ไหมแน่ใจแล้วใช่ไหม"

 

"แน่สิที่จวนข้า ณ ตอนนี้ก็มีคนไม่กี่คนส่วนเหล่ามือปราบที่พักอยู่ที่นี่พวกเขาก็ไปลาดตระเวนกันหมดส่วนข้าก็ดูแลตัวเองได้เจ้าไม่ต้องห่วงหรอกที่ที่นี่ที่เหลือคนอยู่ก็มีแค่เรือนคนเท่าน่า......" คำพูดของจวิ้นอ๋องเงียบไปก่อนเปลี่ยนสีหน้าเป็นสีหน้าที่ตื่นตะหนกต่อตันก๋งที่กำลังฟังจวิ้นอ๋องอยู่

 

"เรือนคนใช้มีอะไรหรือท่าน"

 

"ที่นั่นมีคนคุ้มกันแค่ 2คน" จวิ้นอ๋องพูดจบก็เรียบลุกจากเก้าอี้มุ่งตรงไปยังเรือนคนใช้ในทันทีพร้อมด้วยคนคุ้มกันด้านข้าง ตันก๋งที่เห็นดังนั้นจีงได้ตามจวิ้นอ๋องไปด้วย เรือนคนใช้อยู่ตรงด้านหลังสวนตรงริมสุดของจวน พุดง่ายๆคือค่อนข้างเป็นมุมอับเลยที่เดียวใช้เวลาสมควรก่อนจะเดินมาถึง แต่พูดเดินมาจวิ้นอ๋องก็สังเกตว่าเรือนนั้นมืดสนิทผิดปกติและเมื่อไปถึงหน้าเรือนก็พบว่าทหารสองคนนอนสลบอยู่ด้านหน้า จวิ้นอ๋องและพวกเมื่อเห็นเหตุการณ์ก็รู้ทันทีว่าผิดปกติแน่นอนและเมื่อเปิดประตูเข้าไปพวกเขาก็ได้พบกับคนที่ใช่ชุดคลุมสีดำสนิทพอเขาหันมาเขามีหน้าตาเป็นชายหนุ่มผมยาวรูปงามหน้าขาวแต่ดวงตามีสีแดงและปากเป็นสีแดงเข้มปาก และสิ่งที่จวิ้นอ๋องกับตันก๋งถึงกับตกใจเพราะในมือขวาของชายคนนั้นอุ้มของหญิงสาวใช้ไว้ในมือ คนนั้นคือหลินอวิ้นสาวใช้ของชูยง แต่แทนที่จวิ้นอ๋องจะตกใจจนสติแตกเพราะนี้เป็นนิสัยของจวิ้นอ๋องแม้ภายนอกจะดูแข็งแกร่งแต่ในใจกับค่อนข้างปลอดแหกอยู่บ้าง

 

"ว่างนางลงซ่ะเจ้าผีดูดเลือด" คำพูดของจวิ้นอ๋องช่วยเรียกสติของตันก๋งกับทหารคุ้มกันกลับมาได้ได้ พอพวกเขามีสติต่างชักดาบออกมาเตรียมสู้

ผีดูดเลือดยิ้มดูมานิดๆเผยให้เห็นฟันเขี้ยวอยู่นิดหน่อย ก่อนที่จะแปลงร่างเป็นนกสีดำหลายตัวบินตรงไปทางพวกจวิ้นอ๋องที่อยู่หน้าประตู แต่มันไม่ได้ทำอะไรพวกเขาเพียงแต่ลอยออกไปด้านนอกพร้อมกับร่างของหลินอวิ้นที่นอนสยบไสยอยู่บนล่างของนกเหล่านั้นจวิ้นอ๋องที่ดังนั้นจึงรีบสั่งให้ตันก๋งไล่ตามไปอย่าให้คาดสายตาพร้อมแจ้งให้เหล่าหน่วยลาดตระเวนไล่ตามไปในทันที

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.