บทที่ 128: เปลี่ยนเป็นดาบที่คมกริบ
เมื่อไททันมรณะคิดถึงสถานการณ์เสี่ยงอันตราย ในที่สุดมันก็ยอมพูดขึ้นว่า “เมืองจี้มู่เป็นเพียงแค่จุดผ่านสำหรับการขนศพเท่านั้น ศพไททันทั้งหมดที่ถูกส่งมาที่นี่จะต้องขนไปฝังที่สุสานอีกแห่งหนึ่ง และไททันที่มีคุณสมบัติมากพอที่จะถูกนำไปฝังไว้ที่นั่นจะต้องเป็นไททันภัยพิบัติขึ้นไป”
สำหรับหลินหยวน คำพูดของไททันตัวนี้ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ เพราะประโยคสุดท้ายเขารู้สึกว่ามันเป็นความจริง
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าภายในเผ่าไททันนั้นมีการกำหนดลำดับชั้นวรรณะเอาไว้อย่างชัดเจน แม้แต่ไททันที่ระดับต่ำกว่า 5 ก็ยังมีสติปัญญาที่จำกัดมาก
แม้กระทั่งในสายตาของพวกเดียวกันพวกมันยังเป็นเพียงแค่ทาส เสบียงอาหาร หรือไม่ก็อาวุธสงครามในสนามรบ
ดังนั้นมีเพียงไททันตั้งแต่ระดับภัยพิบัติขึ้นไปเท่านั้นจึงจะถูกมองว่าเป็นนักรบที่แท้จริง และมีสิทธิ์ถูกฝังในเมืองจี้มู่
จากนั้นหลินหยวนก็ถามไททันมรณะอีกครั้งว่า “งั้นแกก็รีบบอกมาสิว่าสุสานไททันตั้งอยู่ตรงไหนกันแน่ ที่นั่นมีคนคอยเฝ้าประตูหรือเปล่า?”
ไททันมรณะตอบเสียงต่ำว่า “มันตั้งอยู่ห่างจากเมืองไปประมาณ 50-60 กิโลเมตร จริง ๆ แล้วที่นั่นมีไททันระดับสูงเฝ้าอยู่ แต่ว่า… พื้นที่นั้นเป็นสุสานทั้งหมดจึงมีไททันมหันตภัยเฝ้าอยู่ตัวเดียวเท่านั้น”
“ข้าเคยเจอไอ้หมอนั่นตอนที่ขนศพ มันเป็นไททันซอมบี้ ผิวของมันเป็นสีทองแดงเหมือนโลหะชนิดหนึ่ง ซึ่งมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าอาวุธของเจ้าเสียอีก ส่วนพลังของไททันซอมบี้นั้น… มันแข็งแกร่งกว่าข้า”
ไททันมหันตภัยอย่างนั้นเหรอ?
หลังจากเด็กหนุ่มได้ยินคำตอบของอีกฝ่าย เขาก็เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย ถ้ามีไททันมหันตภัยเฝ้าสุสานตัวหนึ่ง นี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาก็ได้
ต่อให้ไททันซอมบี้ตัวนั้นจะแข็งแกร่งกว่าไททันมรณะ แล้วอย่างไรล่ะ?
หลินหยวนเชื่อว่าถ้าหากเขาร่วมมือกับไททันมังกรเพลิง เขาจะสามารถกำจัดไททันมหันตภัยตัวนั้นได้อย่างแน่นอน
แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ไททันมรณะจะโกหกเขาเหมือนกัน
ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สามารถตรวจสอบได้อยู่ดีว่าคำพูดของอีกฝ่ายเป็นความจริงหรือไม่ เขาจึงทำได้เพียงฟังหูไว้หู
จากนั้นหลินหยวนก็พูดต่อไปว่า “สุสานไททันตั้งอยู่ทางทิศไหนของเมือง?”
แต่ก่อนที่ไททันมรณะจะทันได้ตอบกลับ เสียงของฉู่อวี้ที่ฟังดูกระวนกระวายก็ดังขึ้น
“หลินหยวน ระวังด้วย ฉันสัมผัสได้ว่ามีไททันที่ทรงพลังหลายตัวกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่!” พอเด็กหนุ่มได้ยินแบบนี้ ดวงตาของเขาก็วาวโรจน์ทันที
เขาถลึงตามองไททันมรณะแล้วยกดาบปราบมังกรขึ้น “แกกล้าเรอะ?!”
คราวนี้ไททันมหันตภัยเป็นฝ่ายที่ต้องตกใจ “ไม่ใช่นะ! ข้าสั่งให้พวกมันถอยทัพไปแล้ว นี่ไม่ใช่ฝีมือข้าจริง ๆ เชื่อข้าเถอะ!”
หลินหยวนขมวดคิ้วก่อนจะตะคอกใส่อีกฝ่าย “ในเมื่อแกออกคำสั่งให้พวกมันถอยทัพ แล้วทำไมไททันพวกนั้นถึงตรงเข้ามาที่นี่ แกคิดว่าฉันโง่เรอะ?!”
“ไม่ใช่นะ!” ไททันมรณะรีบพูดขึ้นอย่างร้อนใจ “บางที… พวกไททันข้างนอกอาจจะสังเกตเห็นความผิดปกติก็เลยคิดจะเข้ามาดู”
เด็กหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก ๆ ในขณะที่สมองของเขากำลังแล่นอย่างรวดเร็ว
เขาไม่รู้ว่านี่เป็นกลอุบายของไททันมรณะหรือเปล่า เพราะเขาไม่เข้าใจว่าไททันพวกนี้สื่อสารกันอย่างไร
บางทีสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอาจจะเป็นความจริง พวกไททันที่อยู่ข้างนอกอาจสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติจึงอยากจะเข้ามาตรวจสอบให้แน่ใจ
แต่นั่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เด็กหนุ่มอยากรู้เพียงตำแหน่งที่ตั้งที่แน่นอนของสุสานไททัน
ดังนั้นหลินหยวนจึงไม่ลังเลที่จะยกดาบปราบมังกรขึ้นมาชี้ไปที่ปลายจมูกของฝ่ายตรงข้าม
“รีบบอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าสุสานไททันอยู่ที่ไหน!”
ไททันมรณะรีบตอบอย่างลนลาน “มันตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือห่างออกไป 50 กิโลเมตร อย่าฆ่าข้าเลยนะ ข้ามีเรื่องจะต่อรอง ข้าสามารถนำทางเจ้าไปที่สุสาน แล้วข้ายังช่วยเจรจากับไททันซอมบี้ที่เฝ้าอยู่ที่นั่นให้เจ้าได้ด้วย—”
ฉับ!
ก่อนที่ไททันมรณะจะทันได้พูดจบ สายฟ้าก็พุ่งออกมาจากดาบปราบมังกรตัดหัวมันในทันใด มันตายทั้งที่ดวงตายังคงเบิกกว้าง
บอกตามตรงว่ามันไม่คาดคิดเลยว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะลงมือได้โหดเหี้ยมถึงเพียงนี้
หลังจากไททันมรณะถูกปลิดชีพ หลินหยวนก็ยกมือเก็บร่างของมันเข้าไปในช่องเก็บอันเดด
“ตอนนี้ไททันทั้งหมดที่อยู่ข้างนอกกำลังบุกเข้ามาแล้ว!” เสียงของฉู่อวี้ดังขึ้นอีกครั้ง
เด็กหนุ่มหันไปมองข้างนอกและเห็นไททันจำนวนมากกำลังหลั่งไหลเข้ามาในตำหนัก
ซึ่งไททันเหล่านี้ก็เห็นเขาฆ่าไททันมรณะด้วยตาตัวเอง
“จับมนุษย์คนนั้นเอาไว้! มันเป็นคนฆ่าท่านเจ้าเมือง!”
“ฆ่ามัน เราจะแก้แค้นแทนท่านเจ้าเมืองเอง!”
“ให้ตายเถอะ… ทำไมถึงมีมนุษย์มาโผล่ที่นี่กัน? รีบส่งสัญญาณเร็วเข้า บอกว่ามีมนุษย์ที่ทรงพลังปรากฏตัวในเมืองจี้มู่และท่านเจ้าเมืองก็ถูกสังหารไปแล้ว”
“ทุกคนล้อมตำหนักนี้ไว้ อย่าปล่อยให้มนุษย์หนีออกไปได้!” เสียงตะโกนของกลุ่มไททันดังสะท้อนไปทั่วห้องโถง
หลินหยวนที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าที่อยู่ของตนถูกเปิดเผยแล้ว อีกทั้งเขาก็ไม่สามารถฆ่าไททันจำนวนมากขนาดนี้ด้วยกำลังของตัวเองเพียงคนเดียว
ดังนั้นจะต้องมีไททันตัวใดตัวหนึ่งส่งข่าวไปให้พรรคพวกสำเร็จแน่นอน
ขณะนี้กลุ่มไททันขนาดมหึมากำลังพุ่งเข้ามาภายในห้องโถงราวกับคลื่นสาดซัด
หลินหยวนหันไปกระซิบพูดกับฉู่อวี้ว่า “ฉันไม่คิดว่าเมืองร้างอย่างเมืองสุสานไททันจะมีไททันอยู่เยอะขนาดนี้”
ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่มีไททันมหันตภัยอยู่เลยสักตัว แต่พวกมันก็มีเยอะเกินกว่าที่เขาจะรับมือไหว
และต่อให้เขากวาดล้างกองทัพไททันไปได้ทั้งหมด แต่ตอนนั้นมันมีจำนวนเพียงหลักร้อยตัวเท่านั้น
แต่ตอนนี้ไททันทุกตัวในเมืองจี้มู่ได้มารวมตัวกันที่นี่แล้ว ไม่แน่ว่าพวกมันอาจจะมีจำนวนถึงหลักหมื่นหรือหลักแสนเลยด้วยซ้ำ!!
อย่างที่สุภาษิตโบราณเคยบอกว่า ฝูงมดก็ล้มช้างได้
ต่อให้หลินหยวนแข็งแกร่งมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วพลังของเขาก็มีจำกัด ถ้าถึงเวลาที่พลังของเขาหมดลง เขาก็จะถูกกองทัพไททันรุมเหยียบและกลืนหายไปจนสิ้น
เมื่อฉู่อวี้มองไปยังภาพเบื้องหน้า เธอก็อดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังหนีไป 2-3 ก้าวจนแผ่นหลังของเธอไปชนเข้ากับหลินหยวน แล้วเธอก็กระซิบถามเขาว่า “เราจะเอายังไงต่อดี?”
“เราจะทำอะไรได้อีกล่ะ” เด็กหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้เด็กสาวแล้วกล่าวว่า “แน่นอนว่าต้องสู้เปิดทางหลบหนีไปให้ได้!”
ถ้าพวกเขาอยากจะรอดไปจากที่นี่ พวกเขาต้องฝ่ากองทัพไททันตรงหน้าไปให้ได้ก่อน
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถฆ่าไททันทุกตัวในเมืองจี้มู่ได้ แต่การฝ่าวงล้อมออกไปก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
วินาทีต่อมา หลินหยวนถามขึ้นว่า “เธอพร้อมหรือยัง?”
ฝ่ายเด็กสาวพยักหน้าตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจนัก “พร้อมแล้ว”
จากนั้นฉู่อวี้ก็กอดคอหลินหยวนเอาไว้แน่นในขณะที่เขาแบกเธอไว้บนหลัง
เธอรู้ดีว่าเบื้องหน้านั้นมีไททันนับหมื่นรออยู่ ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าหลินหยวนคิดจะฝ่าวงล้อมออกไป เขาก็ต้องเปลี่ยนเป็นดาบที่คมกริบเพื่อเจาะวงล้อมไททันพวกนี้
และการที่เธอไปยืนอยู่ข้างเด็กหนุ่มคงไม่ได้ช่วยอะไรเขามากนัก ดังนั้นการที่ให้เขาคอยปกป้องเธอไว้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แบบนี้เขาก็จะสามารถจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ได้โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
หลังจากหลินหยวนแบกฉู่อวี้ขึ้นหลังแล้ว เขาก็ยิ้มมุมปากน้อย ๆ
จากนั้นเขาก็กระชับดาบในมือแน่น ก่อนที่ดวงตาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ในขณะเดียวกัน ร่างของเขาก็ระเบิดจิตสังหารออกมาอีกครั้ง
ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!
จิตสังหารที่รุนแรงระเบิดออกมาจากร่างอาชูร่า มันแผ่รังสีฆ่าฟันที่น่ากลัวไปรอบ ๆ ตัวหลินหยวน
ในขณะนั้นความคิดเดียวที่อยู่ในหัวเขาก็คือการฆ่าฝูงไททันทั้งหมดที่ขวางหน้า
ฟึ่บ!
วินาทีต่อมา ร่างของหลินหยวนเปลี่ยนกลายเป็นเงาสีดำ
เขากระชับดาบปราบมังกรในมือพุ่งทะยานเข้าไปตรงกลางกองทัพไททัน
ในเมื่อไม่มีทางออก งั้นก็จงมาเป็นพลังให้ฉันซะ!
หลินหยวนยกดาบปราบมังกรขึ้นฟาดฟันในขณะที่เปล่งเสียงคำรามราวกับสัตว์ป่า
วินาทีถัดมา เขาได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาแล้วโจมตีศัตรูพร้อมกับพุ่งออกไปข้างหน้าเต็มแรง
“กร๊าซซซซ!!” พร้อมกันนั้นเสียงคำรามของมังกรแหลมสูงก็ดังขึ้น
ทันใดนั้นมังกรสายฟ้าดุดันก็ทะยานออกมาจากดาบของหลินหยวน
ตูม!
มังกรสายฟ้าปลดปล่อยพลังทำลายล้างพุ่งทะลวงร่างของไททันระดับ 5 กว่า 10 ตัว ก่อนที่มันจะค่อย ๆ สลายไปช้า ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เด็กหนุ่มฆ่าไททันเสร็จแล้ว โลหิตสีแดงเข้มที่ไหลออกมาจากศพก็ค่อย ๆ ลอยมาประสานเข้ากับร่างของเขา ส่งผลให้รัศมีรอบกายเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับร่างอาชูร่า การสังหารและหยดโลหิตเป็นอาหารที่ดีที่สุดในการเพิ่มพลัง
บัดนี้อาชูร่าเบ่งบานอยู่ท่ามกลางทุ่งสังหารดุจดั่งดอกไม้ที่ได้รับแสงอรุณ!
“เราจะปล่อยให้ไอ้มนุษย์นั่นหนีไปไม่ได้เด็ดขาด! ล้อมมันเอาไว้ อย่าให้มันหนีไปได้!”
“ในเมื่อเราสู้มันไม่ได้ เราก็ต้องช่วยกันลดกำลังของมันให้เหลือน้อยที่สุด ถึงยังไงพวกมันก็มีพลังจำกัด!” เหล่าไททันหลายตัวที่อยู่รอบ ๆ ส่งเสียงคำรามก้องในขณะที่พุ่งเข้าใส่หลินหยวนอย่างไม่เกรงกลัว
จากคำสั่งของไททันที่เป็นหัวหน้า กลุ่มไททันที่อยู่รอบตัวตั้งใจจะฆ่าเด็กหนุ่มให้ได้
แต่พวกมันประเมินความบ้าคลั่งของมนุษย์คนนี้ต่ำเกินไป
“พวกแกใจร้อนอยากตายนักหรือไง?” หลินหยวนเหยียดยิ้มร้าย “เอาเถอะ ฉันจะช่วยพวกแกเอง!”
สิ้นเสียงพูด เขาก็ตวัดดาบในมือออกไปปลดปล่อยพลังสวนกลับฝ่ายศัตรูที่อยู่รายล้อม
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
สายฟ้าหลายสายพุ่งเข้าใส่เป้าหมาย ทำให้หัวของไททันร่วงลงกับพื้นทีละหัว
โครม!
ไม่นานร่างไร้ศีรษะก็ทรุดตัวกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 91
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น