บทที่ 9 ล้างแค้น
บทที่ 9 ล้างแค้น
สายลมยามเย็นเริ่มพัดพาความยะเยือกเข้าสู่อากาศ หากแต่คนส่วนใหญ่นั้นมิได้รู้สึกถึงมัน เว้นเสียแต่ลีร่า เอเรน และศาสตราโลหิตสามวิญญาณในร่างเดียวมีความคิดเห็นสอดคล้องกันอย่างไม่ได้นัดหมาย นั่นก็คือการล่าสังหารพวกอัศวินที่กล้าใช้วิธีการต่ำช้า
ร่างกายที่ปราศจากวิญญาณของเด็กสาวไร้นามถูกลีร่าอุ้มไว้ในมือ เธอเช็ดน้ำตาพลางเดินตรงไปยังหมู่บ้านเฮเมรา จิตใจของเธอมุ่งหมายแต่การล้างแค้นพวกชาวบ้านกับอัศวินเท่านั้น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้เลยว่าการที่นำร่างของเด็กหญิงผู้นี้มาจะมีประโยชน์อันใดก็ตาม
แต่เหมือนมีบางสิ่งดลบันดาล รีล่าจึงพาร่างอันไร้วิญญาณมาด้วย รีล่ก้าวย่างอย่างไม่ลดละเพื่อที่จะไปถึงเป้าหมาย
เพียงไม่นาน แสงสว่างจากหมู่บ้านพลันสาดส่องเข้ามาในครรลองสายตา เสียงงานเลี้ยงประกอบกับกลิ่นอาหารอันหอมหวน ทำให้เธอหันไปมอง
‘ทำไมคนอื่นถึงอิ่มหนำ แล้วทำไมเด็กคนนี้ถึงไม่ได้กินอะไรเลย’
เสียงของลีร่าในห้วงสำนึกเอ่ยขึ้น น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและไม่เข้าใจ ในขณะที่ความโกรธของเธอเองยังคงคุกรุ่น
ลีร่าในร่างเอเรนก้าวเท้าเดินอย่างเด็ดเดี่ยว ใบหน้าเรียบเฉย ทว่าดวงตาเป็นประกายสีเงินที่เรืองรองขึ้นในความมืด สะท้อนภาพหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความรื่นเริงและไร้เดียงสาของเหล่าผู้คนที่กำลังสนุกสนานกับรางวัลที่ได้มาจากการหักหลัง
แม้พลังเวทมนตร์โบราณของเธอเองจะถูกยับยั้งไปเกือบหมดสิ้น แต่พลังแห่งศาสตราวิญญาณ อีเร็น ที่เพิ่งตื่นขึ้นในร่างของเอเรนกลับมอบความแข็งแกร่งและความว่องไวเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะจินตนาการได้
ลีร่าก้าวเข้าไปในหมู่บ้านอย่างไร้เสียง สองข้างทางเต็มไปด้วยแผงลอยที่ประดับประดาด้วยโคมไฟหลากสี เสียงหัวเราะครึกครื้นและเสียงดนตรีบรรเลงดังระงม
บรรยากาศแห่งความสุขยิ่งทำให้ภาพเด็กหญิงไร้ชื่อในอ้อมแขนดูหดหู่และ
‘พวกมันกำลังฉลองบนความตายของเจ้า’ เสียงอันดุดันของอีเร็นในห้วงความคิดของลีร่าคำรามก้อง
‘จัดการพวกมันให้สิ้นซาก!’
ลีร่าพยักหน้าเล็กน้อย ตอบรับคำพูดของอีเร็นโดยไม่ลังเล แรงแค้นสุมแน่นอยู่ในอก เธอ มุ่งตรงไปยังลานกว้างกลางหมู่บ้าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองอัศวินและบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน
เมื่อมาถึงลานกว้าง ภาพที่เห็นยิ่งตอกย้ำความตั้งใจของเธอ หัวหน้าอัศวินเฟรดริคกำลังนั่งจิบเหล้าองุ่นอย่างสบายอารมณ์ ล้อมรอบด้วยเหล่าอัศวินที่กำลังหัวเราะคิกคัก ส่วนหัวหน้าหมู่บ้านอัลดัสก็กำลังคุยโม้โอ้อวดถึงความดีความชอบของตนอย่างออกรส
ท่ามกลางเสียงสรรเสริญเยินยอจากชาวบ้านบางส่วนที่รายล้อม
ลีร่าหยุดยืนอยู่ขอบลาน แสงจากกองไฟกลางลานส่องกระทบใบหน้าของเธอทำให้เห็นประกายสีเงินในดวงตาที่ราวกับเปลวไฟแห่งความแค้น มือที่อุ้มร่างเด็กหญิงนั้นกระชับแน่นขึ้น
เด็กหญิงผู้ซึ่งใบหน้าซีดเซียว ร่างกายไร้การเคลื่อนไหว ดูราวกับตุ๊กตาผ้าเก่าๆ ที่ถูกทอดทิ้ง
เส้นผมกับดวงตาสีเงินเป็นประกายแห่งความอาฆาต จิตสังหารพุ่งพล่านพร้อมกับพลังที่ปะทุขึ้น
ชาวบ้านบางคนเริ่มสังเกตเห็นการปรากฏตัวของเธอ เสียงฮือฮาเบาๆ เริ่มดังขึ้น สายตาหวาดระแวงปะปนกับความตกใจจ้องมองมาที่ร่างของเอเรนและเด็กหญิงที่เธออุ้มมา
“นั่นใครน่ะ” เสียงหนึ่งดังขึ้น
“เอ๊ะ! นั่นมันเด็กหญิงที่หัวหน้าอัศวินฆ่าไปแล้วนี่” ชาวบ้านคนดังกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วอันสั่นเทิ้มมายังซากศพที่ไร้ซึ่งวิญญาณของสาวน้อย
เสียงพูดคุยเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนเฟรดริคและอัลดัสเริ่มสังเกตเห็น เฟรดริคหรี่ตาลงจ้องมองลีร่าด้วยความประหลาดใจระคนไม่พอใจ ส่วนอัลดัสถึงกับสำลักเหล้า ดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นร่างของเด็กหญิงในอ้อมแขนของลีร่า
“แก... แก... ทำไมแกยังไม่ตาย!” อัลดัสตะโกนเสียงหลง ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
หัวหน้าอัศวินมองเอาดัสก่อนที่จะสะบัดในใจ ‘เจ้าหมูนี่กลัวแม้กระทั่งศพ ‘
ลี ร่าไม่ตอบ เธอก้าวเดินช้าๆ เข้าไปในลาน ท่ามกลางความเงียบที่เข้าปกคลุมแทนที่เสียงงานเลี้ยงที่เคยครึกครื้น ดวงตาของเธอมุ่งตรงไปยังเฟรดริคและอัลดัสราวกับมองเหยื่อ
หัวหน้าอัศวินมองร่างกายขอหญิงสาวผมเงิน เขาก็หมดคิ้วเพียงคู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจสั่งการ
“นี่มันอะไรกัน!” เฟรดริคคำราม
“จัดการมัน! อย่าให้มันเข้าใกล้!”
อัศวินที่เหลืออยู่ไม่กี่นายพุ่งเข้ามาหาลีร่าพร้อมกัน ดาบและหอกพุ่งเข้าใส่จากทุกทิศทาง ทว่าลีร่ากลับไม่หลบ มือข้างหนึ่งยังคงอุ้มร่างเด็กหญิงไว้แน่น ส่วนอีกมือก็คว้าดาบจากหลังของอัศวินที่อยู่ใกล้ตนเองที่สุดออกมา
พลังเวทย์ของลีร่าปะทุขึ้นราวกับสายน้ำเชี่ยวที่ไหลทะลักออกมา ร่างกายของลีร่าในร่างเอเรนพุ่งทะยานราวกับสายฟ้า หลบหลีกคมดาบและหอกที่พุ่งเข้ามาได้อย่างเหลือเชื่อ การเคลื่อนไหวของเธอนั้นรวดเร็วและลื่นไหลจนแทบมองไม่ทัน
‘โจมตี! โจมตีพวกมันให้สาสม!’ เสียงของอีเร็นคำรามก้องในจิตใจของลีร่า กระตุ้นสัญชาตญาณนักฆ่าให้ตื่นขึ้น
ดาบในมือตวัดเป็นวงกว้าง สร้างกระแสลมเย็นยะเยือก ปลายดาบคมกริบกรีดผ่านเกราะเหล็กของอัศวินอย่างง่ายดาย เสียงโลหะปะทะกันดังครืน ใบดาบทิ้งร่องรอยบาดแผลลึกบนร่างกายของพวกอัศวิน เลือดสดๆ สาดกระเซ็น
ลีร่าไม่เพียงแต่โจมตี แต่เธอยังเคลื่อนไหวราวกับปีศาจ ดาบของเธอเปลี่ยนจากอาวุธสังหารเป็นแขนขาที่สามที่เชือดเฉือนทุกสิ่งที่ขวางหน้า อัศวินร่วงลงไปทีละคน ด้วยบาดแผลที่แม่นยำและรวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด ไม่มีเสียงใดหลุดรอดจากปากของเธอ มีเพียงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าที่ฉายชัดอยู่ในดวงตา
ในขณะที่ชาวบ้านต่างพากันวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว อัลดัสตัวสั่นงันงก พยายามหาทางหลบหนี แต่เฟรดริคกลับยืนนิ่ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงกับภาพที่เห็น พลังของเอเรนที่ลีร่ากำลังใช้อยู่นั้นแตกต่างจากที่มีคนรายงานเขาโดยสิ้นเชิง
จริงอยู่ที่ผู้ใช้ศาสตราปีศาจจะสามารถแปรเปลี่ยนร่างกายตามใจนึกได้ และมีโอกาสที่จะถูกพลังอำนาจของศาสตราควบคุม แต่นี่มันเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด หากโดนศาสตราคืนวิญญาณไปแล้วแม้แต่พลังของผู้กล้าก็จะหายไปด้วย เหมือนสัญลักษณ์แห่งผู้กล้าที่ถูกทำลายไป
แต่ตอนนี้เหมือนหญิงสาวตรงหน้าได้พลังของผู้กล้ามา แถมยังมีกลิ่นอายของศาสตราปีศาจอยู่ในร่างกาย
‘นี่มัน... พลังอะไรกัน!’ เฟรดริคคิดในใจ
ลีร่าในร่างของเอเรนคือความตายที่เดินได้ เธอกำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายเดียว นั่นคือการล้างแค้นให้แก่เด็กหญิงไร้ชื่อ และปลดปล่อยความแค้นที่สั่งสมมานับศตวรรษของตนเอง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 127
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น