March Time Traveler ตอนที่ 3 มาร เทพและไอสไตน์

March Time Traveler

-A A +A

March Time Traveler ตอนที่ 3 มาร เทพและไอสไตน์

มาร เทพ และไอสไตน์

 

    'ตุบ'เสียงบางอย่างดังขึ้นตรงหน้าของมาร์ช

 

    ‘ตายแล้วสินะฉัน ไม่แปลกหรอกที่จะตายก็ดูเล็บทั้งใหญ่ทั้งยาวซะขนาดนั้น ใครโดนเข้าจะไม่ตายมั่ง แต่ที่แปลกก็คือไม่ยักกะเจ็บสักนิดแหะ ไหนบอกลดความเจ็บปวดแค่ 10% ตอนเอาหัวพุ่งชนกับฝาหลอดทดลองยังเจ็บแทบตาย บางอย่างก็ยังไม่สมจริงนะเกมนี้ ต้องแก้ไขอีกเยอะเลย’มาร์ชยังคงหลับตาคิดในใจ เขายังไม่อยากลืมตาขึ้น เพราะอยากจะพักผ่อนสายตาหลังจากได้เจอเรื่องมาเยอะเหลือเกิน แต่แล้วเสียงๆหนึ่งมันก็ทำให้เขาทนหลับตาต่อไปไม่ได้ มันเป็นเสียงที่คล้ายๆกับคนกำลังซุบซิบอะไรอยู่แต่ว่าจับใจความไม่ได้

 

    “&฿$€#@฿$^%”เมื่อมาร์ชลืมตาขึ้นดูก็ต้องงงกับภาพตรงหน้าเขา เขาลุกขึ้นเอามือคลำไปทั่วตัวก็ไม่พบแม้แต่รอยขีดข่วนสักรอยเดียว เขาไม่ได้ตายอย่างที่เข้าใจ และเสียงที่ได้ยินมันก็ไม่ใช่เสียงกรงเล็บฟันผ่านร่างของเขา แต่มันเป็นเสียงเจ้าสัตว์ประหลาดฟุบตัวลงนั่งคุกเข่าก้มหน้าจนจะถึงพื้นแล้วเอามือทุบพื้นบ่นพึมพำอะไรบางอย่างไม่หยุดต่างหาก 

 

    ‘ภาษาชั้นสูง

 

    ภาษาชั้นสูงนี้เป็นภาษาประจำเผ่าพันธุ์ชั้นสูง ไม่สามารถแปลความหมายได้ หากต้องการเข้าใจความหมายต้องมีการศึกษาเฉพาะทางด้านภาษา หรือแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษา’กล่องข้อความเด้งขึ้นตรงหน้ามาร์ช

 

   “อ่อภาษาชั้นสูงนี่เอง ถึงว่าฉันถึงฟังไม่รู้เรื่อง แต่จะบ้าหรอจะให้ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ไหนครับ ในที่แบบนี้เห็นจะมีแต่ฉันกับเจ้าของภาษาละมั้งที่มีชีวิต”มาร์ชโวยวายทันทีที่อ่านข้อความจบ

 

    “แต่เดี๋ยวสิฉันเพิ่งได้ไอเทมมาชิ้นหนึ่งหนิ ลองใช้ดูหน่อยก็แล้วกันเผื่อมันจะเป็นเงื่อนไขที่จะใช้เชื่อมโยงภารกิจ”มาร์ชที่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก ก็เริ่มทำตามขั้นตอนที่ได้ฟังมาก่อนหน้านี้ เขายื่นมือข้างขวาออกไปก่อนจะเริ่มวาดเป็นวงกลมกลางอากาศตรงหน้า เมื่อวนมือจนมาบรรจบที่จุดเริ่มต้น แหวนวงใสก็เริ่มเปล่งแสงสีขาวออกมา

 

   ‘เริ่มต้นระบบ Ring System(ระบบวงแหวน) กรุณารอสักครู่ระบบจะทำการวิเคราะห์ DNA เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ความเป็นเจ้าของปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงนี้ เพื่อป้องกันการโจรกรรม ซึ่งจะไม่สามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงนี้ได้ และจะแจ้งตำแหน่งไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อทำการจับกุมผู้โจรกรรมปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงนี้ หากต้องการเป็นเจ้าของปัญญาประดิษฐ์ต้องใช้ลิดในการทำการซื้อขายแลกเปลี่ยน หรือสร้างขึ้นเองเท่านั้นค่ะ’เสียงผู้หญิงที่ฟังดูนุ่มนวลอธิบายในหัวของมาร์ช

 

   ‘อ่าวแล้วฉันจะรู้ได้ไงว่า DNA ฉันมันจะตรง เกิดมีคนชื่อเหมือนฉันเป็นเจ้าของแหวนวงนี้แล้วดันมาทำแหวนตกที่นี่ ฉันก็ซวยทำผิดกฎเกมเลยอ่ะดิ’มาร์ชคิดตามก็หน้าซีด ที่อยู่ดีดีจะทำผิดกฎเกมโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ

 

   ‘ผลการวิเคราะห์เสร็จสมบูรณ์ การวิเคราะห์ DNA มีความถูกต้อง 100% ท่านคือเจ้าของปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงนี้อย่างถูกต้อง สามารถเปิดใช้ระบบวงแหวนได้ค่ะ’เสียงในหัวของมาร์ชดังขึ้น ในขณะที่เขากำลังกังวลอยู่ เมื่อฟังจบมาร์ชก็ถอนหายใจโล่งอก และเผลอปล่อยตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง โดยลืมนึกถึงเรื่องของเจ้าสัตว์ประหลาดที่นั่งฟุบบ่นพึมพำไม่หยุดตรงหน้าไปเลย 

 

    ‘ระบบได้ตรวจพบภาษาใหม่ จะเริ่มวิเคราะห์และทำการเทียบเคียงข้อมูลภาษาโดยใช้ฐานข้อมูลภาษาจากระบบปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง กรุณารอสักครู่’

 

    “นั่นไงคิดแล้วว่าต้องเป็นภารกิจต่อเนื่องแบบมีเงื่อนไข ฉันนี่ฉลาดสุดๆ”มาร์ชกระหยิ่มยิ้มย่อง และเสียงในหัวก็ดังขึ้น

 

    ‘ระบบทำการเทียบเคียงข้อมูลภาษาเสร็จสมบูรณ์ จะเริ่มทำการแปลและลิงค์ข้อมูลเข้าสู่สมองของท่านโดยตรง ท่านจะยินยอมหรือไม่คะ’

 

    “ยินยอม”มาร์ชตอบทันทีที่เสียงนั้นถามเขาจบ

 

    ‘ทำการลิงค์ข้อมูลภาษาใหม่เข้าสู่สมองเสร็จสิ้น ท่านจะสามารถพูดคุยสื่อสารภาษาใหม่นี้เข้าใจโดยอัตโนมัตติค่ะ’เสียงในหัวจบลง มาร์ชก็เห็นกล่องข้อความเด้งขึ้นและได้ยินเสียงบ่นผ่านทางหูต่อเลย

 

     ‘ผลจากการกระทำ สร้างทักษะสื่อสารเผ่ามาร(ขั้นสูงสุด)  

 

     ทักษะสื่อสารเผ่ามารเป็นทักษะติดตัว ทักษะนี้จะทำให้สื่อสารกับเผ่ามารเข้าใจ’

 

    ‘อ่อ เผ่าชั้นสูงเผ่ามารสินะ’มาร์ชคิดในใจตัวเองก่อนจะมองไปยังร่างของสัตว์ประหลาดเผ่ามารตรงหน้า

 

    “ทำไมนายน้อยถึงเตะน้ำเข้าตาข้าน้อยด้วยล่ะ ทำไมนายน้อยถึงวิ่งหนีข้าน้อยยังกับเห็นผีด้วยล่ะ ทำไมนายน้อยทำท่าทีห่างเหินไม่พูดกับข้าน้อยล่ะ ทำไม...”ใช่แล้วมันคือเสียงของเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นแหละที่บ่นออกมาไม่หยุด ซึ่งมันล้วนแต่สร้างความงุนงงให้กับมาร์ชมากขึ้นไปอีกหลังจากเข้าใจที่มันพูด เพราะที่เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นบ่นอยู่มันคือสิ่งที่เขาทำกับมันก่อนหน้านี้ทั้งหมดเลย เพื่อที่จะคลายความงุนงงนี้มาร์ชจึงรวบรวมความกล้า ค่อยๆเอื้อมมือไปสะกิดตรงไหล่ของเจ้าสัตว์ประหลาดเบาๆ เมื่อมันโดนสะกิดมันก็เงยหน้าขึ้นมองเขา ตาแดงก่ำจ้องมองมาร์ชจนขนลุกขึ้นมาทันที

 

    “นายน้อยที่นายกำลังพูดถึง หมายถึงฉันรึเปล่า”มาร์ชถามออกไป และใช้นิ้วชี้มาที่หน้าตัวเอง มันยังคงเงียบเอาแต่จ้องหน้ามาร์ช ก่อนจะค่อยๆพยักหน้าช้าๆแทนคำตอบ

 

    “แล้วทำไมนายถึงเรียกฉันว่านายน้อยล่ะ”มาร์ชถามต่อทันที

 

    “ก็นายน้อยคือนายน้อย ถ้าไม่ให้เรียกว่านายน้อยแล้วจะให้เรียกอะไร เนี่ยนายน้อยเปลี่ยนจริงๆด้วย ฮือๆ”พูดจบมันก็ฟุบหน้าลงส่งเสียงร้องไห้ฟูมฟาย

 

    ‘อะไรวะ เมื่อกี้ยังน่ากลัวแบบสุดๆอยู่เลย อยู่ดีๆร้องไห้เฉย แล้วที่เรียกเราแบบนี้แสดงว่ามันเป็นข้ารับใช้เรารึเปล่านะ หรือว่านี่จะเป็นระบบสัตว์เลี้ยงของเกมนี้ แต่ว่าให้ไอ่ตัวน่ากลัวแบบนี้กับฉันเนี่ยนะโคตรจะไม่คูลเลย ถ้าสาวๆมาเห็นคงได้เผ่นแนบหมดแน่นอน’มาร์ชเริ่มวิเคราะห์ข้อมูลตามความเคยชินที่เคยเล่นเกมมามาก

 

    “หรือว่านายน้อยไม่สบายอยู่แน่ๆเลย ถึงทำตัวปัญญาอ่อนแบบนี้ นายน้อยรอเดี๋ยวนะข้าน้อยขอวัดไข้หน่อย”มาร์ชถึงกับหางคิ้วกระตุกที่อยู่ๆก็โดนหลอกด่า แต่ทำไรไม่ได้นอกจากยิ้มแห้งๆ แค่ได้รู้ว่ามันเป็นมิตรไม่ได้โจมตีเขาก็ดีแค่ไหนแล้ว แต่เพียงไม่กี่วินาทีรอยยิ้มก็ต้องหุบลง เขารีบผละตัวถอยหลังออกจากตรงที่เขานั่งทันที

 

    ‘แกร็ก แกร็ก’เสียงบางอย่างดังขึ้นพร้อมๆกับรอยแตกที่เกิดตรงแผ่นหลังของเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น ส่วนปลายด้านล่างค่อยๆแตกลามยาวลงไปจนถึงหางของมัน ส่วนปลายด้านบนก็แตกลามขึ้นจนถึงหัว มีแสงสีแดงส่องรอดออกมาจากรอยแตก มีบางอย่างขยับอยู่ใต้รอยแตกนั่น ก่อนที่จะค่อยๆโผล่ออกมา มาร์ชอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้เขาจ้องตาไม่กระพริบ

 

     “นายน้อยขอรับ ใจคอจะนั่งดูอย่างเดียวไม่มาช่วยข้าน้อยหน่อยหรอขอรับ”เมื่อส่วนหัวมันโผล่ออกมาได้ก็บ่นใส่มาร์ชทันที มาร์ชเลยจำใจต้องลุกขึ้นเดินไปจับหัวมันออกแรงดึงจนมันหลุดออกมาทั้งตัว เมื่อออกมายืนด้านนอกมาร์ชจึงได้เห็นตัวมันชัดๆครั้งแรก มันเหมือนเด็กตัวเล็กแต่ว่าสูงแค่ 30 เซนติเมตร ตัวมันดำสนิทตังแต่หัวจรดเท้า ตาสีแดงโต มีเขาเล็กๆ 2 อันงอกตรงหน้าผาก ตรงปลายเขามีสีออกม่วงๆ หางของมันเรียวยาวเหมือนแส้ตรงปลายเหมือนหัวลูกศร มีปีกคล้ายๆปีกค้างคาวอันเล็ก 2 ข้างที่หลังของมัน ซึ่งตอนนี้มันกำลังพยายามสะบัดเพื่อให้เหมือกเหนียวๆที่ติดอยู่หลุดออก พลางปากก็บ่นไม่หยุด

 

    “โอ้ย นายน้อยดึงซะคอแทบหลุด อยู่ในนั้นร้อนก็ร้อน เหนียวก็เหนียว ไม่ได้ใช้งานตั้งนมนานบังคับไม่ถนัดเลยให้ตายเถอะ”มาร์ชได้ฟังมันบ่นก็หัวเราะแห้งๆ มันเหมือนจะสะบัดเหมือกหลุดแล้วจึงบินมายืนที่ไหล่ข้างซ้ายของมาร์ช ก่อนจะเอื้อมมือมาแตะหน้าผากของมาร์ชเบาๆ สลับกับจับหน้าผากตัวเอง

 

    “นายน้อยก็ไม่ได้ป่วยนิขอรับ แต่ทำไมทำตัวปัญญาอ่อนแบบนั้นล่ะขอรับ”มันถามมาร์ชขึ้นหลังจากพยายามทำท่าทางเหมือนวัดอุณหภูมิอยู่สักพัก 

 

    ‘ดูจากท่าทางที่มันทำ เหมือนผู้พัฒนาจะใส่ระบบ AI ให้มันรู้เรื่องราวของฉันมากเป็นพิเศษสินะ ดังนั้นฉันก็ควรเก็บเกี่ยวข้อมูลจากมันโดยตรงดีกว่า แล้วรีบไปหาไอเทมในเกมออกไปขาย เกมนี้สมจริงมากๆของต้องมีมูลค่าเยอะแน่นอน รวยแล้วตู’มาร์ชคิดในใจอย่างมีความสุขจนเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว

 

   “นี่ไงเงียบไปเลยกำลังคิดอะไรอยู่แน่ๆเลยใช่ไหมขอรับ”มันถามมาร์ชทันทีที่เห็นมาร์ชยิ้มแปลกๆ

 

    “ฉันจะไม่อ้อมค้อมนะ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยตอนนี้ แม้แต่นายเองฉันก็ไม่รู้จักด้วย ฉันอยากให้นายช่วยอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฉันเข้าใจหน่อย”มาร์ชตัดสินใจพูดออกมาตามตรงเพราะเขาคิดว่า ถ้าถามแบบนี้อาจจะเป็นเงื่อนไขการเล่าเนื้อเรื่องของเกมให้เขาเข้าใจ

 

    ‘ท่าทางของนายน้อยแปลกไป จะว่าเป็นตัวปลอมก็ไม่ใช่ เอ๊ะ เดี๋ยวสิหรือว่านี่จะเป็นกรณีเลวร้ายที่นายน้อยเคยบอกเอาไว้ ฮ่าๆเสร็จฉันล่ะ’มันเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก มันรีบบินไปด้านหลังมาร์ชแล้วออกแรงดันให้มาร์ชเดิน 

 

    “นายน้อยขอรับ เรื่องมันยาวมากๆ นายน้อยรีบออกจากที่นี่ก่อนดีกว่าเดี๋ยวข้าน้อยจะเล่าให้ฟังทุกอย่างแบบละเอียดยิบเลย ในนี้อากาศไม่ค่อยจะดี อยู่ไปนานๆเดี๋ยวนายน้อยจะเสียสุขภาพเอาขอรับ อึบบบ”มันพูดพร้อมออกแรงดันให้มาร์ชเดินไปตรงทางออก

 

   “โอเคๆแต่ขอถามหน่อยปกติฉันเรียกนายว่าอะไร จะได้เรียกให้ถูก”

 

   “มารน้อยขอรับมารน้อย ไม่ต้องถามอะไรแล้วนะขอรับรีบไปกัน เดี๋ยวห้องจะถล่มทับเราซะก่อออ...”ยังไม่ทันที่มารน้อยจะพูดจบประโยค

 

    ‘ครืนนนนน’จู่ๆก็เกิดเสียงดังขึ้นอย่างรุนแรง ทั้งห้องสั่นสะเทือนไปทั่ว มีเศษฝุ่นจากด้านบนร่วงลงมานิดหน่อยแต่ก็ไม่มีอะไรพังลงมาจากด้านบนหรือด้านข้าง ตรงกันข้ามที่พื้นใกล้กับที่มาร์ชยืนอยู่กลับเคลื่อนไหวรุนแรง จนมาร์ชต้องเซถอยหลัง 3-4 ก้าว มาร์ชมองพื้นที่ตอนนี้มันพยายามก่อตัวขึ้นจนมันกลายเป็นโกเลมตัวใหญ่ ถึงจะมีแค่ครึ่งตัวแต่มันก็สูงจนท่วมห้อง ในตอนนี้มาร์ชยืนอ้าปากค้าง ขาแข็งก้าวไปไหนไม่ได้เรียบร้อย ผิดกลับมารน้อยที่มันดูหัวเสียที่เห็นโกเลมโผล่มา มันไม่มีท่าทีกลัวหรือตกใจเหมือนมาร์ช

 

    “&฿$€#@“%^&@$€#@” จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาเป็นภาษาแปลกๆ แต่ไม่เห็นต้นตอเสียง

 

    “ก็แล้วจะทำไม ยัยอ่อน”มารน้อยตะโกนเถียงเสียงนั้นพร้อมๆกับที่ในหัวของมาร์ชมีเสียงดังขึ้น

 

   ‘ระบบได้ตรวจพบภาษาใหม่ จะเริ่มวิเคราะห์และทำการเทียบเคียงภาษาโดยใช้ฐานข้อมูลภาษาจากระบบปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง กรุณารอสักครู่’ชั่วอึดใจต่อมา

 

    ‘ระบบทำการเทียบเคียงข้อมูลภาษาเสร็จสมบูรณ์ จะเริ่มทำการแปลและลิงค์ข้อมูลเข้าสู่สมองของท่านโดยตรง ท่านจะยินยอมหรือไม่คะ’

 

    “ยิ ยินยอม”มาร์ชตอบเบาๆอย่างตะกุกตะกัก 

 

    ‘ทำการลิงค์ข้อมูลภาษาใหม่เข้าสู่สมองเสร็จสิ้น ท่านจะสามารถพูดคุยสื่อสารภาษาใหม่นี้เข้าใจโดยอัตโนมัติค่ะ’สิ้นเสียงในหัวก็ปรากฏกล่องข้อความตรงหน้า

 

     ‘ผลจากการกระทำ สร้างทักษะสื่อสารเผ่าเทพ(ขั้นสูงสุด)

 

    ทักษะสื่อสารเผ่าเทพเป็นทักษะติดตัว ทักษะนี้จะทำให้สื่อสารกับเผ่าเทพเข้าใจ’

 

     ‘ห้ะ อะไรกันเนี่ยมีทั้งมารทั้งเทพเลยหรอ แล้วอยู่ตรงไหนล่ะ’มาร์ชอ่านข้อความจบก็เริ่มมองหาไปทั่วแต่ก็ไม่มีวี่แววเทพสักองค์ในบริเวณนี้

 

    “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ความคิดเน่าๆของแกนะไอ่มารเน่า”นั่นคือประโยคแรกที่มาร์ชได้ยินหลังจากเข้าใจภาษาเทพ มันเป็นเสียงเด็กผู้หญิงฟังดูน่ารักพูดขึ้น

 

    “รู้แล้วยังไง ก็นายน้อยเหมาะที่จะเป็นจอมมารมากกว่าไปเป็นจอมเทพติ๊งต๊องอยู่แล้ว”มารน้อยสวนกลับทันที

 

    “แกกล้าดูถูกว่าจอมเทพติ๊งต๊อง ตายซะเถอะแก”สิ้นเสียง โกเลมก็เอื้อมมือข้างซ้ายมาคว้ามาร์ชอย่างรวดเร็ว โดยที่มาร์ชไม่มีโอกาสหนี มันชูมาร์ชขึ้นสูง ก่อนจะใช้มือขวาไล่ทุบมารน้อยเป็นพัลวัน จนฝุ่นเริ่มฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง

 

    “แบร่ๆจ้างให้ก็ทุบไม่โดนฉันหรอก”มารน้อยแลบลิ้นปลิ้นตา ร้องท้าทายฝ่ายตรงข้ามไม่หยุด ในขณะที่ยังบินหลบมือโกเลมไปมา และดูเหมือนมันจะได้ผลเป็นอย่างดี โกเลมเพิ่มความรุนแรงที่ทุบขึ้น มาร์ชเห็นว่าถ้าปล่อยไว้เขาอาจจะตายเพราะโดนห้องถล่มทับจึงตะโกนออกไป

 

    “หยุดกวนประสาทได้แล้วมารน้อย”เหมือนคำพิพากษา สิ้นเสียงมาร์ชมารน้อยลอยนิ่งอยู่กับที่ทันที มือโกเลมก็หยุดค้างไม่ได้ไล่ทุบต่อ 

 

    “ดุมันเลยเจ้าค่ะนายท่าน มันกวนประสาทเทพน้อย”เสียงเด็กผู้หญิงพูดขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวครั้งแรกของเจ้าของเสียง เทพน้อยเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆตัวมันสูงเท่ามารน้อย ผิวขาว มีผมสีทองยาวจนถึงกลางหลังสวมใส่มงกุฎดอกไม้ มีตาสีฟ้ากลมโต ใส่ชุดราตรีสีขาวผืนเล็กๆ มีปีกคล้ายปีกนก 2 ข้างที่หลัง มันลอยตัวอยู่ไม่ไกลจากมาร์ช

 

    “เธอชื่อเทพน้อยสินะ ทำไมเรียฉันว่านายท่านล่ะ”มาร์ชหันไปถาม เทพน้อยมองมาที่มาร์ช ก่อนจะเริ่มน้ำตาคลอเบ้า

 

    “ทำไมนายท่านถามแบบนี้ล่ะเจ้าคะ ก็นายท่าน...”เทพน้อยที่เหมือนจะคิดอะไรออกจึงหยุดพูดไปซะดื้อๆ ก่อนจะหันไปทางมารน้อย

 

    “อ๋อยังงี้นี่เอง ฉันคิดแล้วทำไมนายท่านถึงไม่เรียกหาฉันตอนจะออกไป ไอ่มารเน่ามันคือกรณีเลวร้ายที่นายท่านบอกไว้ใช่ไหม แกมันขี้โกงจะพานายท่านออกไปคนเดียว ตายซะเถอะ”พูดจบเทพน้อยก็พุ่งตัวลงไปหามารน้อยอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่เข้าตะลุมบอนกันทันที ทิ้งให้มาร์ชยืนงงในกำมือโกเลมเพียงลำพัง จู่ๆโกเลมก็เคลื่อนมือลงต่ำแล้วปล่อยมาร์ชลงยืนที่พื้น ตอนนี้ทั้งมารน้อยและเทพน้อยนอนแผ่กับพื้น หายใจหอบทั้งคู่

 

    “ไอ่มารเน่า แกคิดจะพานายท่านออกไปอย่างเดียวไม่ดูสภาพนายท่านเลยรึไง”เทพน้อยพูดพลางชี้นิ้วมาที่มาร์ช ก่อนจะเอามือไปปิดตาและใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเอง

 

    “นายน้อยคือคนที่จะเป็นจอมมารคนต่อไป จะเป็นอะไรแค่โชว์เรือนร่างที่สมชายชาตรีให้คนอื่นเห็น”มารน้อยแหวใส่เทพน้อย ก่อนจะทำท่ายืดอกอย่างภูมิใจ ส่วนคนที่ถูกพูดถึงเหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ก็รีบเอาลดมือลงต่ำไปกุมอย่างไว อายแทบมุดดินหนีไปจากตรงนี้ 

 

    “ใครพอจะมีผ้าอะไรให้ฉันใส่หน่อยไหม”มาร์ชเอ่ยปากถาม

 

    “ไม่มีเลย เจ้าค่ะ/ขอรับ”ทั้งคู่ตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่แล้วในหัวของมาร์ชก็มีเสียงสวรรค์มาโปรด

 

    ‘ระบบตรวจพบความต้องการของท่านในเรื่องเครื่องนุ่งห่ม ท่านสามารถเปิดใช้เมนูตู้เสื้อผ้าเพื่อสวมใส่เสื้อผ้าได้ หากต้องการความหลากหลายของเมนูเสื้อผ้าสามารถซื้อดีไซน์เสื้อผ้าเพิ่มในเมนูได้ที่ร้านตามเมืองต่างๆ แต่ตอนนี้ท่านมีเมนูเพียงเมนูเดียวในรายการต้องการสวมใส่หรือไม่คะ’

 

    “ต้องการ”มาร์ชรีบตอบ แหวนก็เริ่มขั้นตอน มีเส้นแสงสีขาวเส้นตรงวิ่งออกมาแล้วไหลไปตามตัวของมาร์ช มันค่อยๆแยกเส้นออกด้านข้างจนตัดกันเป็นตารางแสงสีขาวจนทั่วตัวมาร์ช จากนั้นมันก็ค่อยๆจางหายไป ปรากฏเป็นเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีขาวขึ้นมาแทน มาร์ชอดทึ่งไม่ได้ถึงในใจจะคิดว่านี่เป็นเกมก็ตาม ไม่ต่างกับมารน้อยและเทพน้อยพวกมันรีบบินมาวนจับเสื้อกล้ามที่มาร์ชใส่อยู่อย่างสนใจ

 

    “จะว่าไปเผ่าเทพกับเผ่ามารเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันไม่ใช่หรอ แล้วทำไมทั้งคู่ถึงติดตามฉันคนเดียวล่ะ”มาร์ชถามขึ้นอย่างสงสัย เมื่อเห็นทั้งคู่เหมือนจะลืมตัวพูดปรึกษากนเรื่องเสื้ออย่างสนิทสนม พอมาร์ชพูดออกมาก็เหมือนมันจะรู้ตัวเลยบินออกจากก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปคนละทาง

 

    ‘ในขั้นตอนตรวจสอบสิทธิ์การถือครองปัญญาประดิษฐ์ พบว่าเลือดของท่านมีเลือดของเผ่าเทพและเผ่ามารไหลเวียนในตัวอย่างละครึ่งค่ะ”เสียงในหัวอธิบาย มาร์ชพยักหน้ารับรู้ แต่ก็แค่นั้นเพราะเขาไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ได้แต่คิดตามแล้วก็มีข้อสงสัยเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น

 

    “โอ่ ขอบคุณมากที่บอกเรื่องสำคัญนี้ให้กับฉันนะ ว่าแต่ระบบวงแหวนเนี่ย ฉันสามารถเปิดปิดโดยวิธีอื่นได้ไหมโดยไม่ต้องวาดวงกลมในอากาศ ฉันกลัววาดแล้วมันไม่กลม ฮ่าๆ”มาร์ถามติดตลก

 

    ‘สามารถทำได้ด้วยการตั้งชื่อให้ระบบ เนื่องจากระบบนี้เป็นปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง เมื่อต้องการใช้เพียงแค่เรียกชื่อที่ทำการตั้งให้จะเป็นการเปิดระบบทันที ท่านต้องการตั้งชื่อเลยหรือไม่คะ’ 

 

    ‘ถ้าอัจฉริยะขนาดนี้ไม่มีชื่อไหนจะเหมาะไปกว่านี้แล้ว’มาร์ชคิดในใจ ก่อนจะพูดออกไป

 

    “ไอสไตน์”

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ เพียงเรียงรัก

ทำไมเห็นถึงความกาว

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.