March Time Traveler ตอนที่ 1 ซากห้องวิจัย

March Time Traveler

-A A +A

March Time Traveler ตอนที่ 1 ซากห้องวิจัย

ซากห้องวิจัยใต้ดิน

 

    ‘ ตึก ตึก ตึก ตึก’ เสียงรองเท้าทหารจำนวนมากกำลังวิ่ง 

 

    'แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก' สลับกับเสียงหอบ อย่างเป็นจังหวะ

 

    "บัดซบ ไหนผู้กองบอกเป็นงานรับจ้างคุ้มกันง่ายๆไงวะ"เสียงตะโกนจากทหารหนุ่มที่กำลังเอาหลังพิงหลบหลังซากเสาต้นหนึ่ง

 

    "เอ็งจะมาโทษข้าไม่ได้นะเว้ย ก็ข้าให้เอ็งกับไอ่หมวดไนซ์ไปหาข้อมูลแล้วนิ" เสียงห้าวๆจากทหารที่ค่อนข้างมีอายุตะโกนสวนกลับมา 

 

    "ก ก ก็"ทหารหนุ่มเหมือนพยายามอยากอธิบายบางอย่างแต่มันก็เถียงไม่ออก

 

    "ก็ข้อมูลมันให้มาจำกัดนิผู้กอง แล้วเงินรางวัลมันก็ล่อตาล่อใจเหลือเกิน แต่ผมก็มาปรึกษาผู้กองอีกรอบก่อนแล้วนิ"คนที่เหมือนจะถูกเรียกว่าหมวดไนซ์ตะโกนมาจากซากเสาที่อยู่ไม่ไกลกัน

 

    "พอๆไม่ต้องเถียงกันเรื่องนี้แล้ว มาคิดก่อนว่าจะเอายังไงกับสถานการณ์ตอนนี้"ผู้กองพูดเสียงห้าวๆตัดบท

 

    'ปัง ปัง ปัง ปัง'พอพูดจบเสียงสาดห่ากระสุนก็ดังขึ้น แสงจากปากกระบอกปืนสว่างไปทั่วบริเวณ

 

    "รายงานสถานการณ์ปัจจุบันด้วย" เสียงผู้กองตะโกนถามทันทีเมื่อเสียงสาดกระสุนหยุดลง 

 

    "ยังไม่แน่ใจครับผู้กอง"เสียงจากทหารนายหนึ่งตะโกนตอบกลับมา 

 

    "บ้าเอ้ย อุปกรณ์สื่อสารก็ใช้ไม่ได้ ตั้งแต่ไอ่....อ้ากกก" 1ในทหารจำนวน 13 คน ที่กำลังพูด อยู่ๆก็ร้องออกมา และภาพที่ทุกคนเห็นก็คือ สัตว์ประหลาดสีดำตัวสูงประมาณ 2.5เมตรใช้มือที่มีกรงเล็บยาวแทงจากด้านหลังทหารคนนั้นจนทะลุออกมาที่ด้านหน้า เลือดสดๆทะลักออกมาจากบาดแผลและปากของเขา

 

    "ทิ้งคนตาย ระดมยิงสกัดกั้นและถอยร่น อย่างมีระบบ"เสียงสั่งการอย่างเชี่ยวชาญของผู้กอง ดึงสติให้ทหารที่เหลือได้สติและปฏิบัติตาม

 

    'ปังๆๆๆๆๆ'เสียงห่ากระสุนถูกสาดไปยังร่างสัตว์ประหลาดอีกครั้ง แต่แทนที่กระสุนจะพุ่งใส่เป้าหมายที่ใหญ่โตนั่น มันกลับโดนเพียงร่างของทหารที่ถูกมันแทงทะลุก่อนหน้านี้เท่านั้น มีเพียงเงาวูบวาบพุ่งไปมาผ่านความมืด ก่อนที่หนึ่งในทหารที่เหลือคนหนึ่งจะเลือกหยุดเดินถอยหลัง ยืนนิ่งอ้าแขนและชูปืนขึ้นพร้อมทั้งตะโกนออกไปเสียงดัง

 

    "ไอ่สัตว์ประหลาดขี้ขลาดแน่จริงออกมาสู้กันซึ่งๆหน้าดิวะ"

 

    "เห้ย นั่นเอ็งทำบ้าอะไรบอกให้ถอยไง"ผู้กองรีบถามทันทีที่เห็นทหารของตัวเองปฏิบัตินอกเหนือคำสั่ง แต่ทหารหนุ่มเลือกที่จะส่งสัญญาณมือบางอย่างแทนที่จะตะโกนตอบกลับไป ทันทีที่ผู้กองได้เห็นสัญญาณมือก็เบิ่งตาโต

 

     "ม..ม..ไม่"ยังไม่ทันที่ผู้กองจะได้พูดอะไรต่อ หมวดไนซ์ และทหารอีก 3 นายก็พุ่งมาประชิดตัวผู้กอง ก่อนจะรวบตัวผู้กองแล้วออกแรงลาก แน่นอนผู้กองเองก็พยายามดิ้นขัดขืน แต่เมื่อหันไปมองเห็นใบหน้าหมวดไนซ์ ที่ตอนนี้มันสะท้อนกับแสงสว่างจากกระบอกปืน เป็นจังหวะเพียงเสี้ยววินาที ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตานั่น ทำให้ผู้กองหยุดดิ้นและหันหลังออกตัววิ่งไปพร้อมกับพวกเขาแต่โดยดี

 

    เมื่อผู้กอง หมวดไนซ์ และทหารอีก3นายวิ่งไปได้สักพัก เหล่าทหารที่เหลือ 6 นายก็พากันเดินออกมาจากซากเสา เดินไปหาทหารที่ยืนส่งสัญญาณมือให้ผู้กองก่อนหน้านี้ 

 

    "บ้าดีเดือดจังนะแก แต่ว่ามันก็จริงแบบที่แกพูดนั่นแหละ"ทหารที่ถอดเสื้อคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึง

 

    "ฮ่าๆแกคิดว่ายศข้าจะสามารถสั่งยศผู้กองได้สักกี่ครั้งวะ"ทหารที่ส่งสัญญาณมือพูดติดตลก

 

    "ตลกเข้าไป ไม่รู้สถานการณ์ตัวเองเลยรึไง"ทหารที่กำลังเคี้ยวหมากฝรั่งอีกคนพูดแทรกทันทีที่เห็นเพื่อนติดตลกไม่ดูเวลา

 

    "ฉันน่ะรู้ดีเลยแหละ ถึงตัดสินใจทำเว้ย ว่าแต่พวกแกเหอะรู้สถานการณ์ตัวเองรึป่าว ถึงตัดสินใจอยู่กันตั้งเยอะขนาดนี้"นายทหารที่กำลังขำอยู่ได้หยุดขำ พูดน้ำเสียงจริงจังแทน 

 

    "รู้"เสียงใหญ่ๆของทหารอีกคนที่ตัวใหญ่กว่าทุกคนตอบสั้นๆ

 

    "อเมซิ่ง พี่ยักษ์พูดแล้วว่ะทุกคน "เสียงเล็กแหลมจากนายทหารตัวเล็กรีบพูดดีใจราวกับถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1

 

    "เลิกเล่นรีบทำตามแผนกันสักทีเถอะ ไอ่ที่บอกจะแบ่งออก 2 กลุ่มถ่วงเวลาให้กลุ่มผู้กองหนี แม้จะยอมตายเนี่ย ถ้ามัวแต่เล่น จะตายกันเปล่าๆ ไม่ได้ถ่วงเวลาให้ผู้กองสักวิเอานะ"นายทหารสวมแว่นคนหนึ่งพูดจริงจัง

 

    "ว่าแต่ไอ่ตัวบ้านี่มันตัวอะไรกันแน่ ตัวก็ใหญ่ พละกำลังมหาศาล แถมยังไวเป็นลิงเลย"ทหารที่ใช้ผ้าสีแดงโพกหัวตั้งคำถามขึ้น แน่นอนในที่นี้คงอยากรู้คำตอบเหมือนกันแต่ใครล่ะจะเป็นคนเฉลย ในเมื่อไม่มีใครรู้คำตอบที่ถูกต้องแม้แต่คนเดียว 

 

    "เรื่องมันคือตัวอะไรเอาไว้ก่อนไหม ไอ่ตัวต้นคิดสั่งมาเลยว่ามีแผนอะไร"ทหารสวมแว่นพูดเป็นการเป็นงานดึงสติทุกคนที่กำลังสับสน พยายามหาคำตอบของสิ่งมีชีวิตประหลาดนี่ 

 

     "ถ้ามันไวยิงยังไงก็ไม่โดน เปลี่ยนมาใช้อาวุธระยะประชิดแทน"นายทหารที่ส่งสัญญาณมือพูดจบทุกคนก็โยนปืนในมือทิ้ง ต่างหยิบอาวุธที่ตัวเองถนัดออกมาถือในมือแทนทันใดนั้นเอง

 

    'แกร็งส์' เสียงปะทะของเล็บมือที่มีความแข็งและคมกับมีดสั้นดังขึ้น

 

    "แกไวเป็นลิง แต่ข้าไวกว่าลิงเว้ย"เสียงทหารตัวเล็กพูดขึ้นในขณะที่ตัวเองลอยอยู่กลางอากาศ ในมือถือมีดสั้นปะทะกับกรงเล็บสีดำยาวของสัตว์ประหลาดอยู่ แต่หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาที ร่างของเขาก็ถูกตบปลิวด้วยแรงมหาศาล จนร่างของเขาปลิวไป10เมตรและกลิ้งไปกับพื้นราวๆ1เมตร

 

    "บ้าเอ้ย ดันลืมมือข้างซ้ายมันได้ ดีนะที่ฉันยังไวพอจะยกขาขึ้นมากันทัน นี่พวกแกจะยืนบื้อกันอีกนานไหม"ชายร่างเล็กพูดหลังจากพยุงร่างลุกขึ้นยืน ก่อนถุยเลือดออกจากปาก1ที เหมือนทหารทุกนายจะผ่านศึกมามากมาย ทันทีที่เพื่อนของเขาโดนโจมตี พวกเขาได้กระจายกำลังกันโอบล้อมเจ้าสัตว์ประหลาดเอาไว้แล้ว 

 

    "ย้ากกกส์"เสียงนายทหารที่ถอดเสื้อคำรามก้องพร้อมกับฟันมีดสปาต้าร์ลงไปตรงข้อเท้าของสัตว์ประหลาดตรงหน้า เจ้าสัตว์ประหลาดเหมือนจะรู้เป้าหมายของศัตรูมัน มันจึงรีบดีดตัวให้ลอยจากพื้น มีดสปาต้าร์จึงฟันได้เพียงแต่ลมเท่านั้น แต่ทั้งหมดมันคือขั้นตอนการล้มศัตรูในแบบฉบับที่พวกเขาคุ้นเคย พี่ยักษ์ร่างใหญ่ของกลุ่ม ง้างขวานรออยู่แล้ว ก่อนจะหวดตรงๆไปยังร่างของสัตว์ประหลาดที่ลอยอยู่กลางอากาศ 

 

    'แกร็งส์ พลั่ก เพล้ง ฉัวะ' "อ้ากกส์"ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าสัตว์ประหลาดที่ลอยอยู่กลางอากาศไม่สามารถหลบหนีได้จึงขวางกรงเล็บออกมาปะทะไว้ ขวานปะทะกับกรงเล็บเสียงดัง ก่อนที่เล็บข้างซ้ายของสัตว์ประหลาดจะขาด พร้อมๆกับเสียงแตกของขวาน และเสียงเล็บที่ข่วนลำตัวของทหารร่างใหญ่ เลือดไหลออกมาจำนวนมากจนเขาต้องกรีดร้องออกมา ร่างของเจ้าสัตว์ประหลาดก็กระเด็นไปตามทิศทางที่โดนขวานปะทะ

 

     "มันเสียมือซ้ายแล้ว แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจ โจมตีตามรูปแบบต่อไป"ทหารที่ส่งสัญญาณมือพูดขึ้น ในมือของเขาถือดาบซามูไรอยู่

 

    "โอเค"ทุกคนขานรับพร้อมกันจบ นายทหารที่เคี้ยวหมากฝรั่ง รีบเคลื่อนร่างนำหน้า พุ่งใส่เจ้าสัตว์ประหลาด เมื่อไปถึงก็กระหน่ำฟันดาบ 2 มือใส่เจ้าสัตว์ประหลาดแบบไม่ยั้ง เจ้าสัตว์ประหลาดยกมือข้างซ้ายขาดๆที่มีเลือดสีดำไหลออกมาขึ้น เพื่อป้องกันการโจมตี

 

    "ฮ่าๆๆๆๆๆเป็นยังไงมั่ง โดนฟันมั่งรู้สึกยังไง ทำไมไม่พูดล่ะวะ บอกมาว่าแกมาจากดาวไหน โจมตีพวกฉันทำไม"นายทหารเคี้ยวหมากฝรั่ง เอ่ยปากถามในขณะที่มือยังกระหน่ำฟันดาบคู่แบบอย่างต่อเนื่อง  

 

    'ฉึกกก'  เสียงอะไรบางอย่างถูกแทงอย่างแรง ก่อนที่เลือดสีแดงจะค่อยๆซึมออกมาที่เสื้อของนายทหารที่ถือดาบคู่ เขาค่อยๆทรุดตัวลง แต่เข่ายังไม่ทันจะได้แตะถึงพื้น ร่างของเขาก็ถูกสะบัดจนปลิวไปกระแทกกับผนังด้วยแรงสะบัดของหางเจ้าสัตว์ประหลาด

 

     "ม่ายยยย"เสียงตะโกนของนายทหารโพกผ้าแดงดังลั่นก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปหาเจ้าสัตว์ประหลาดพร้อมมีดสปาต้าร์ในมือ เขาฟันมีดออกไปอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับไม่โดนเป้าหมายแม้แต่ครั้งเดียว เพราะมันได้เคลื่อนไหวเข้าสู่เงามืดอย่างรวดเร็วราวกับภูติผี

 

    "บ้าจริงมันเร็วกว่าเมื่อกี้อีก ฉันก็ย้ำแล้วย้ำอีก ว่าอย่าชะล่าใจ"ในตอนนี้เขาได้ถือดาบซามูไรด้วยสองมือ อยู่ในท่าทางเตรียมพร้อม ถ้าหากศัตรูเร็วแค่เพียงกระสุนไม่น่ารอดจากการโจมตีของเขาแน่ๆ เพราะเขาเคยใช้ดาบซามูไรฟันลูกกระสุนมาแล้วในการฝึกของเขา

 

    “ว่าแต่ยังต้องดำเนินการเมนูเด็ดอยู่ไหม”นายทหารใส่แว่นหันมาถาม ตอนนี้ในมือของเขากำลังถืออะไรบางอย่างอยู่

 

    “จัดการต่อไป ฉันคิดว่าโอกาสจะได้จัดเมนูเด็ดคราวนี้มีสูงมาก”นายทหารที่ถอดเสื้อตอบกลับมาในขณะที่ยังวิ่งวนไปรอบบริเวณพร้อมมีดสปาต้าร์คู่กาย

 

ทางด้าน ผู้กอง หมวดไนซ์ และนายทหาร 3 คน

 

    "บ้า บ้า บ้าที่สุด"ผู้กองบ่นพึมพำในขณะที่ยังสาวเท้าวิ่งอย่างต่อเนื่อง 

 

    "ทำไงได้ล่ะครับผู้กอง ถ้าเรายังขืนอยู่ ได้ตายกันหมดแน่ นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว แฮ่ก แฮ่ก "หมวดไนซ์พูดพร้อมกับหอบหายใจ 

 

    "ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่ได้รับภารกิจแล้ว เงินรางวัลกับระดับความยากมันไม่เหมาะสมกัน ถ้าฉันไม่เชื่อไอ่ข้อมูลบ้าๆนั่น ฉันคงไม่ตัดสินใจเลือกใช้อาวุธระดับต่ำมาทำภารกิจแบบนี้หรอก"ผู้กองยังคงตัดพ้อต่อว่าตัวเองไม่หยุด

 

    "มันไม่ใช่ความผิดของผู้กองคนเดียวนะครับ พวกผมเองก็ลงความเห็นกันว่าจะใช้แค่อาวุธพวกนี้เอง เพราะตั้งใจจะเอาเงินรางวัลไปฉลองหลังเสร็จภารกิจ จะได้จัดงานให้มันเต็มที่ แต่..."1ใน3 นายทหารพูดขึ้นบ้าง แต่ก็หยุดพูดแค่เพียงเท่านั้น

 

    "ก็ได้ๆ เรื่องนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้เรารีบไปหาไอ่พวกนักวิทยาศาสตร์พวกนั้น แล้วเค้นเอาความจริงจากมัน ว่าทำไมถึงให้ข้อมูลรายละเอียดไม่ครบกับพวกเรามา"ผู้กองพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน แฝงไปด้วยความโกรธ หลังจากวิ่งขึ้นบันไดสลับกับวิ่งผ่านซากปรักหักมาเรื่อยๆราวๆ5นาที ทั้ง5คนก็มาถึงบริเวณที่มีแสงไฟสว่างไสว มีสายไฟต่อพ่วงกับเครื่องมือต่างๆนานา และยังมีนักวิทยาศาสตร์ 5 คน ที่กำลังร้อนรนเก็บข้าวของและเอกสารมือเป็นระวิง

 

   "นี่พวกทหาร แกต้องคุ้มกันฉันออกไปให้ได้นะ" 1ใน5ของนักวิทยาศาสตร์พูดขึ้น เมื่อเห็นทั้ง5คนวิ่งเข้ามาใกล้ 

 

    "ด ด..เดี๋ยวสิ นั่นแกจะทำอะไรฉัน"นักวิทยาศาสตร์คนเดิมยกมือขึ้น อย่างตกใจเมื่อจู่ๆผู้กองก็พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อชุดกราวสีขาวที่เขาใส่อยู่ 

 

    "พวกแกยังมีหน้ามาบอกให้ฉันคุ้มกันแกอยู่อีกหรอ ทั้งๆที่พวกแกให้รายละเอียดภารกิจมาผิดๆ จนคนของฉันต้องตายขนาดนี้ แกจะรับผิดชอบยังไง แล้วเป้าหมายจริงๆของภารกิจนี้คืออะไร"ผู้กองกระชากคอเสื้อของนักวิทยาศาสตร์ เข้ามาใกล้หน้าตัวเอง ตะโกนถามด้วยความโมโห

 

    "ต่อให้นายฆ่าหมอนั่น มันก็ตอบคำถามอะไรนายไม่ได้หรอก"นักวิทยาศาสตร์ที่ดูจะอายุเยอะที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น แต่มือของเขาก็ยังหยิบเอกสารใส่กระเป๋าไม่หยุด

 

    "ช ช ใช่แล้ว ฉันไม่รู้อะไรหรอก ป ป ปล่อยฉันไปเถอะนะ"นักวิทยาศาสตร์ที่ถูกกระชากคอเสื้อรีบพูดเพื่อขอให้ผู้กองปล่อยตัวเอง 

 

    "งั้นใครรู้เรื่องนี้ รีบอธิบายมาให้หมดก่อนที่ฉันจะสั่งลูกน้องฆ่าพวกแกที่นี่เพื่อเป็นการระบายความโกรธแค้น"ผู้กองปล่อยคอเสื้อนักวิทยาศาสตร์ ก่อนหันไปทางนักวิทยาศาสตร์ที่อายุเยอะ 

 

    "พวกฉันทั้ง5คนไม่มีใครรู้เรื่องอะไรทั้งนั้นแหละ ถ้าจะเอาความจริงเลย ก็คงต้องถามรัฐบาลโดยตรงเอง พวกฉันก็ได้ข้อมูลมา แค่ให้มาสำรวจซากห้องวิจัยนี้เผื่อว่า จะมีงานวิจัยอะไรตกหล่น เพราะที่นี่มันเป็นห้องวิจัยเมื่อ500ปีที่แล้ว ถ้าได้ข้อมูลสำคัญ แล้วเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ทางรัฐบาลก็จะเอาไปสานต่อ โดยให้พวกฉันคุมโครงการต่อ เรื่องที่รู้ก็มีแค่นี้แหละ"นักวิทยาศาสตร์อายุเยอะตอบและรูดซิปปิดกระเป๋าถือในมือ ผู้กองค่อยๆหันไปมองนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ซึ่งแต่ละคนก็พยักหน้าตอบ เป็นเชิงบอกว่า จริงตามนั้นทุกประการ

 

    "รัฐบาลเฮงซวย!! นายและนาย คุ้มกันพวกเขาออกจากห้องวิจัย ส่วนนายช่วยหมวดไนซ์หาทางซ่อมอุปกรณ์สื่อสาร ฝากด้วยหมวดไนซ์ ฉันจะช่วยเหลือทีมของฉันจนสุดความสามารถ"ผู้กองหันไปออกคำสั่งกับลูกน้องของตน

 

    "ครับ"ทุกคนขานรับอย่างพร้อมเพรียง 

 

   "เอ้ารีบตามมาสิ"นายทหารคนหนึ่งเดินนำหน้าหันมาพูดกับนักวิทยาศาสตร์ ก่อนที่ทั้ง5จะรีบเดินตามเขาไปและประกบด้วยนนายทหารอีกคน ส่วนอีกคนที่ได้รับมอบหมายให้ช่วยซ่อมอุปกรณ์สื่อสาร ก็ตรงดิ่งไปที่เครื่องมือของพวกนักวิทยาศาสตร์ก่อนจะลงมืองัดแงะชิ้นส่วนต่างๆออกมา 

 

    เวลาผ่านไป 10 นาที 

 

    ผู้กองเดินวนไปมายังกับหนูติดจั่น 

 

     "ได้แล้วครับผู้กอง"หมวดไนซ์รีบแจ้งต่อผู้กองหลังจากพยายามซ่อมอุปกรณ์สื่อสารมาสักพัก

 

    "วาฬเรียกโลมา ได้ยินแล้วตอบด้วย วาฬเรียกโลมา ได้ยินแล้วตอบด้วย"ผู้กองพยายามพูดติดต่อผ่านเครื่องสื่อสารที่เพิ่งซ่อมเสร็จ 

 

     "เปลี่ยน ติดต่อกลับมาได้แบบนี้แสดงว่าผู้กองปลอดภัยแล้วสินะครับ อัก อัก"ปลายสายตอบกลับมา

 

    "เฮ้ สถานการณ์ทางนั้นเป็นยังไงมั่ง ปลอดภัยกันไหม ให้ฉันกลับไปช่วยพวกนายไหม"ผู้กองเมื่อรู้ว่าลูกน้องยังไม่ตายก็รีบระดมคำถามใส่ไม่ยั้ง

 

    "ก็ไม่ได้ดีมากครับผู้กอง แต่ผมได้ยินเสียงผู้กองแบบนี้ก็แสดงว่าเป้าหมายของพวกผมสำเร็จแล้ว แต่เดี๋ยวจะเพิ่มเติมเมนูเด็ดให้ผู้กองอีกหนึ่งเมนู แค่ก แค่ก"ปลายสายนายทหารตอบกลับมา เขามองไปรอบๆตัวที่ตอนนี้เหลือเพียงเขาที่ยังมีลมหายใจอยู่

 

    "เมนูเด็ดบ้าอะไร เดี๋ยวฉันกับหมวดไนซ์ รีบลงไปช่วย แข็งใจเอาไว้"ผู้กองพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองหน้าหมวดไนซ์

 

    "อย่ากลับลงมาเด็ดขาดนะผู้กอง พวกเราดีใจมากที่ได้ร่วมทีมกับผู้กองนะครับ ถ้าชาติหน้ามีจริงไว้เจอกันใหม่ครับ สุดท้ายนี้ผมมีเรื่องจะบอกผู้กอง ผมตั้งเวลาเมนูพิเศษไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ผู้กองมีเวลาแค่ 30 วินะครับ ด้วยรักและความเคารพ"เสียงปลายสายพูดจบ ผู้กอง หมวดไนซ์ และทหารอีกนายก็ไม่รอช้ารีบวิ่งตรงไปยังทางออกทันที 

 

    'บึมมมม'  เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรง แรงระเบิดอัดใส่แผ่นหลังของผู้กอง หมวดไนซ์ และนายทหารจนกระเด็นไปไกลหลายเมตร เศษซากปูน เศษฝุ่น กระเด็น กระจายปกคลุมทั่วบริเวณ 

 

    "ม่ายยยยย"ผู้กองร้องตะโกนออกมาทันทีที่ยันตัวลุกขึ้นยืนได้ น้ำตาของชายที่ค่อนข้างมีอายุไหลออกมาจากตาข้างเดียว เข่าของเขาทรุดลงกระแทกพื้น มองเปลวเพลิงรูปทรงเห็ดที่อยู่ตรงหน้า 

 

    "ผมต้องการให้ทางรัฐบาลชดใช้ค่าเสียทั้งหมดนี่ โดยการโอนลิด(ลิด คือ หน่วยกลางที่ใช้จ่าย แลกเปลี่ยน หรือเงินนั่นแหละครับ)ให้กับครอบครัวของพวกเขาตามแอคเคาท์ทั้งหมดนี่ คงไม่ต้องสาธยายอะไรมาก พวกคงรู้ตัวดีว่าปฏิเสธการชดใช้ครั้งนี้ไม่ได้"หมวดไนซ์ปล่อยให้ผู้กองของเขานั่งคุกเข่าตตอไป แต่ตัวเองได้หันไปคุยกับทางนักวิทยาศาสตร์พร้อมทั้งส่งข้อมูลผ่านทางหน้าต่างสีแดง ที่ลอยอยู่ในอากาศ

 

    ลึกลงไปใต้ดินของซากวิจัยที่เกิดการระเบิดมากกว่า 500 เมตร แรงระเบิดได้ปลุกบางอย่างที่อยู่ที่นั่นให้ตื่นขึ้น

 

   'บุ๋ง บุ๋ง บุ๋ง

สารบัญ / นำทาง

ความคิดเห็น

รูปภาพของ tor

การบรรยายดีมากเลยครับ

ติดอยู่ก็ตรงบทสนทนา ที่ชอบใช้ 'นี่' เป็น 'นิ'

'ไอ้' เป็น 'ไอ่' อะครับ

แต่เนื้อเรื่องน่าติดตามมากครับ

รูปภาพของ Princeofmist88

โห ดีใจมากเลยครับ เพิ่งเคยเจอลงตอนแรกก็มีคนมาเม้นแล้ว ขอบคุณครับ เดี๋ยวตอนรีไรท์ ผมจะปรับปรุงครับ ตอนนี้พยายามขยายฐานนักอ่านอยู่ครับ

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.