บทที่ 426 ถ้ำนาคา
บทที่ 426 ถ้ำนาคา
“อาจารย์ครับ ตอนนี้ทางฝั่งหลู่จ้าวหยูมีคนกี่คนแล้วครับ?” ลู่หยางถาม
ย้อนกลับไปเขาได้แยกหลู่จ้าวหยูกับเฉินเฟิงออกมาตั้งเป็นทีมเล็ก ๆ โดยให้พวกเขารับผิดชอบในการหาหนังสือสกิลภายในวิหารราชาซอมบี้
“ตอนนี้ทีมของพวกเขาเป็นวอลอคเพียงแค่ 6 คน พวกเขาแบ่งทีมออกเป็น 3 กะเพื่อฟาร์มในวิหารราชาซอมบี้อย่างต่อเนื่อง” ฮั่นจงตอบ
“อาจารย์ช่วยบอกให้เฉินเฟิงพาคน 2 คนมาที่เมืองซีเอ็มเพอเรอร์ได้ไหมครับ?” ลู่หยางกล่าว
“ถ้าทำแบบนั้นคนที่ฟาร์มในวิหารราชาซอมบี้ก็มีไม่พอน่ะสิ” ฮั่นจงกล่าว
“พรุ่งนี้พวกเราค่อยรับสมัครคนมาใหม่ 100 คน โดยให้เงินเดือนกับพวกเขาเดือนละ 5,000 เครดิต พวกเขาจะทำหน้าที่รับผิดชอบการทำสงครามโดยเฉพาะและให้พวกเขาทำสัญญาจ้างงานอย่างเป็นทางการกับพวกเราด้วย” ลู่หยางกล่าว
“ด้วยสภาพคล่องของพวกเราในตอนนี้ การรับพวกเขามาไม่น่าจะเป็นปัญหา” ฮั่นจงกล่าว
“โอเคครับ เดี๋ยวผมจะรับผิดชอบเรื่องรับสมัครคน ส่วนอาจารย์ช่วยฝึกอบรมให้พวกเขาหน่อยนะครับ” ลู่หยางกล่าว
ฮั่นจงเป็นครูฝึกที่มีฝีมือสูงมาก ดังนั้นลู่หยางก็เชื่อว่าถึงแม้คนที่เขารับสมัครมาจะเป็นเพียงแค่หมูที่อ่อนแอ แต่ฮั่นจงก็สามารถฝึกหมูเหล่านั้นให้ฆ่าสิงโตได้
“ไม่มีปัญหา ยิ่งมีคนมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งดีกับเรามากเท่านั้น” ฮั่นจงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
—
หลังจากเวลาผ่านพ้นไปไม่นาน เฉินเฟิงก็นำคนอีก 2 คนมาปรากฏตัวตรงบริเวณจัตุรัสกลางเมืองตามพิกัดที่ลู่หยางได้ให้ไว้
“หัวหน้า พวกเรามาถึงแล้วครับ” เฉินเฟิงกล่าว
หลังจากเก็บเลเวลในวิหารราชาซอมบี้มาเป็นเวลานาน ในตอนนี้เฉินเฟิงก็มีเลเวลถึง 31 แล้ว ขณะที่อีก 2 คนที่อยู่ข้าง ๆ ก็มีเลเวลถึง 30 แล้วด้วยเหมือนกัน
“ไม่เลวเลยนี่ เดี๋ยววันนี้ฉันจะพาพวกนายไปที่ใหม่ มอนสเตอร์พวกนั้นมันก็คล้าย ๆ กับราชาซอมบี้นั่นแหละ” ลู่หยางกล่าว
“ไม่มีปัญหาครับ ตอนนี้ผมมีรายได้มากกว่า 20,000 เครดิตต่อเดือนแล้ว อย่าว่าแต่หัวหน้าจะให้ผมไปตีกับราชาซอมบี้เลย ไม่ว่าหัวหน้าจะให้ผมไปตีกับตัวอะไรผมก็ยินดีทั้งนั้น” เฉินเฟิงกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“อดทนไปก่อนนะ อีกสักพักฉันจะให้ลูกน้องนายไปดูแล 50 คนแล้วจะขึ้นเงินเดือนให้กับนายอีกหมื่นหนึ่ง” ลู่หยางกล่าว
แววตาของเฉินเฟิงเป็นประกายขึ้นมาอย่างฉับพลัน แต่เขาก็รีบส่ายหน้าพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ไม่ต้องหรอกครับหัวหน้า แค่ตอนนี้เงินเดือนที่ผมได้มาก็มากกว่าเงินเดือนที่พ่อกับแม่ผมหาได้ 3 เท่าแล้ว ผมยังไม่รู้เลยว่าจะเอาเงินมากมายขนาดนั้นไปทำไม”
ลู่หยางยื่นมือออกไปจับไหล่เฉินเฟิงเบา ๆ พร้อมกับพูดว่า
“ถ้านายนับถือฉันเป็นพี่ชาย ไม่ว่าฉันจะให้เงินเดือนนายเท่าไหร่นายก็ต้องรับเอาไว้ก่อน สิ่งหนึ่งที่นายมั่นใจได้คือฉันไม่ทำอะไรที่ขาดทุนแน่นอน ดังนั้นนายสามารถรับเงินพวกนั้นไปโดยไม่จำเป็นจะต้องกังวลอะไรทั้งนั้น”
“ขอบคุณครับหัวหน้า” เฉินเฟิงกล่าวอย่างอบอุ่นหัวใจ
อย่างไรก็ตามภายในใจของลู่หยางก็กำลังคิดว่าในชาติก่อนพี่น้องเหล่านี้ต่างก็เคยช่วยทำงานเพื่อช่วยเขาชดใช้หนี้ ในชาตินี้เขาจึงตั้งใจจะตอบแทนทุกคนกลับไปไม่น้อยกว่า 2 เท่า
หลังจากลู่หยางพาทั้ง 3 มาจนถึงท่าเรือของเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ เขาก็พาทุกคนว่ายน้ำไปยังเกาะที่ 3
“ดื่มน้ำยาพวกนี้ไปแล้วดำน้ำตามฉันลงไปใต้ทะเล” ลู่หยางกล่าวขณะยื่นน้ำยาหายใจใต้น้ำให้กับทั้ง 3 คน
ใต้เกาะขนาดเล็กแห่งนี้ 50 เมตรจะมีซากโบราณสถานใต้น้ำ ซึ่งในบริเวณนั้นมันจะเต็มไปด้วยนาคาเลเวล 20
อย่างไรก็ตามมอนสเตอร์ที่อาศัยอยู่ใต้น้ำก็เป็นมอนสเตอร์ที่จัดการได้ยากมาก โดยเฉพาะนักเวทไฟและนักธนูที่แทบจะไม่สามารถสร้างความเสียหายใต้น้ำได้เลย แม้แต่นักรบกับโจรก็สร้างความเสียหายได้ลดลงถึง 50% มีเพียงนักเวทมิติ, นักเวทเงาและนักเวทน้ำแข็งเท่านั้นที่สามารถเก็บเลเวลใต้น้ำได้
ขณะเดียวกันการเก็บเลเวลกับมอนสเตอร์ใต้น้ำ ผู้เล่นก็ต้องเผชิญกับการโจมตีของมอนสเตอร์มาจากทั่วทุกทิศทาง ที่สำคัญคือพวกเขาสามารถเคลื่อนไหวใต้น้ำได้ด้วยความเร็วเพียงแค่ 50% เท่านั้น มันจึงแทบไม่มีใครคิดจะมาเก็บเลเวลที่ใต้น้ำเลย
เมื่อลู่หยางพาทั้งสามคนมาถึงใต้ทะเล พวกเขาก็เห็นผู้เล่นบางกลุ่มกำลังเก็บเลเวลอยู่ตรงบริเวณขอบนอกของซากโบราณสถาน แต่ผู้เล่นเหล่านั้นก็ไม่ได้สนใจลู่หยางเลย เพราะพื้นที่ในการเก็บเลเวลกว้างใหญ่มากและมันก็แทบจะไม่มีทางที่จะเกิดความขัดแย้งระหว่างกันได้
ลู่หยางทำการตรวจสอบสัญลักษณ์กิลด์ของผู้เล่นเหล่านี้และพบว่าทุกคนไม่ใช่สมาชิกของดีวายโซล เขาจึงพาพวกเฉินเฟิงดำลงไปจนถึงพื้นทะเล
ชายหนุ่มยังคงพาพวกเฉินเฟิงดำน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไปครึ่งชั่วโมงในที่สุดพวกเขาก็เข้าไปในปากปล่องภูเขาไฟใต้น้ำ
ลู่หยางนำทีมดำลงไปในน้ำอีกประมาณ 10 นาที ก่อนที่เขาจะพบช่องว่างด้านข้างของผนังหิน
“ทางนี้แหละ ตามฉันมา” ลู่หยางส่งข้อความขณะชี้นิ้วไปยังช่องว่างขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร
พวกเฉินเฟิงพยักหน้ารับ ก่อนจะมุดเข้ารูบนผนังตามลู่หยางไป
5 นาทีต่อมารูอันคับแคบก็ขยายขนาดขึ้นและทางบริเวณด้านบนก็มีแสงสว่างเริ่มส่องลงมาด้วยเช่นกัน
ลู่หยางชี้นิ้วขึ้นไปทางด้านบนพร้อมกับพาทั้ง 3 คนว่ายขึ้นไปบนผิวน้ำ หลังจากที่ทุกคนศีรษะพ้นน้ำขึ้นมาได้เรียบร้อยแล้วพวกเขาก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่ตัวเพดานถ้ำสูงขึ้นไปหลายสิบเมตร
ระบบ: คุณค้นพบถ้ำนาคา
“หัวหน้าที่นี่มันคือที่ไหนเหรอครับ?” เฉินเฟิงถาม
ลู่หยางเรียกหุ่นก็อบลินออกมาเพื่อให้มันสร้างหอคอย ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
“ที่นี่คือที่อยู่ของพวกนาคามอนสเตอร์ระดับอีลิทเลเวล 30 พวกนายสามารถใช้เฮลไฟร์ลอร์ดฆ่าพวกมันได้อย่างสบาย ๆ แถมพวกมันยังดรอปหนังสือสกิลมาให้เราอีกด้วย”
“เข้าใจแล้วครับ หัวหน้าวางใจได้เลยเดี๋ยวพวกเราจะอยู่ที่นี่เพื่อฟาร์มหนังสือสกิลให้ครับ” เฉินเฟิงกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ถ้ามีปัญหาอะไรให้รีบแจ้งฉันทันที ส่วนหนังสือสกิลที่ได้มาให้ส่งให้อาจารย์ฮั่นจงทั้งหมด” ลู่หยางกล่าว
หลังจากมอบหมายหน้าที่ให้ทั้ง 3 คนแล้วลู่หยางก็เทเลพอร์ตกลับไปยังป้อมปราการคริมสัน
—
ติ๊ด ๆ ๆ ๆ
เสียงเครื่องสื่อสารดังขึ้นมาก่อนที่ลู่หยางจะได้พบว่าเซี่ยหยู่เว่ยเป็นคนติดต่อเข้ามา
“ว่าไง?”
เซี่ยหยู่เว่ยมีอาการหน้าแดงเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาอย่างตะกุกตะกัก
“หัวหน้า คือว่า... พ่อของฉัน... กับพ่อของเหยาเหยาและพ่อของจื่อโป๋อยากเชิญคุณไปทานอาหารพรุ่งนี้ค่ะ”
“ได้สิ พรุ่งนี้กี่โมงล่ะ? เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอที่บ้านเอง” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มที่มุมปาก
เมื่อเซี่ยหยู่เว่ยได้ยินคำตอบของลู่หยาง มันก็ทำให้เธอถอนหายใจขึ้นมาด้วยความโล่งอก
เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าอายที่สุดในชีวิตของเธอ เพราะก่อนหน้านี้ลู่หยางเคยเสนอเงื่อนไขให้พวกเธอซื้อหุ้นของป้อมปราการในราคาต้นทุน แต่พ่อของพวกเธอทั้ง 3 คนคิดว่าลู่หยางจะสู้กับลิ่วเจียและฉงป้าไม่ได้ พวกเขาเลยตัดสินใจจะไม่ยอมลงทุน
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ลู่หยางก็ได้พากิลด์ครอบครองป้อมปราการถึง 6 แห่งและกลายเป็นกิลด์อันดับ 1 ของเผ่ามนุษย์โดยสมบูรณ์ พ่อของพวกเซี่ยหยู่เว่ยทั้ง 3 คนจึงต้องการจะลงทุนอีกครั้งและการกระทำของพวกเขาก็ทำให้แม้แต่พวกเซี่ยหยู่เว่ยก็ยังรับไม่ได้
“ขอบคุณมากค่ะหัวหน้า” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
“ไม่ต้องมาเกรงใจฉันหรอก ฉันเคยบอกเอาไว้แล้วไงว่าเงื่อนไขที่ฉันให้จะยังคงมีผลเหมือนเดิมตลอด” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นทางฝั่งฉันก็จะไม่เกรงใจแล้วนะคะ พรุ่งนี้ 10 โมงครึ่งเหยาเหยาจะไปรับคุณมาที่บ้านฉันเอง” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวอย่างอบอุ่นใจ
“เดี๋ยวฉันไปเองดีกว่า อย่างน้อยในฐานะลูกเขยอย่างไม่เป็นทางการ การไปพบกับพ่อตาก็ควรจะต้องแสดงความสุภาพหน่อย” ลู่หยางกล่าว
เซี่ยหยู่เว่ยหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาว่า
“โชคดีจริง ๆ ที่ฉันมีเหยาเหยาอยู่ด้วย ไม่งั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันจะมาคุยกับคุณยังไง”
“ตอนนี้พวกเธอไม่มีอำนาจตัดสินใจ ถึงแม้มันจะมีเรื่องแบบนี้มาบ้างแต่ฉันก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ” ลู่หยางกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
“ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ เดี๋ยวฉันจะบอกเหยาเหยาให้” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 154
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น