บทที่ 427 ปราสาทแบล็คดยุก

-A A +A

บทที่ 427 ปราสาทแบล็คดยุก

บทที่ 427 ปราสาทแบล็คดยุก

“ตอนนี้สถานการณ์ของทางกิลด์เป็นยังไงบ้าง พวกฉิงชางน่าจะรับสมัครสมาชิกใหม่มาได้หลายหมื่นคนแล้วใช่ไหม?” ลู่หยางเปลี่ยนเรื่องถาม

“ตอนนี้ทุกคนกำลังช่วยรับสมัครสมาชิกใหม่อยู่ค่ะ แต่จำนวนของคนที่มาสมัครมีเลเวลถึง 30 อยู่น้อยมาก ส่วนใหญ่จะมีเลเวลประมาณ 20-25 ถึงแม้พวกเราจะได้พวกเขามา แต่พวกเขาก็ยังเป็นกำลังรบให้พวกเราไม่ได้” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว

“ไม่เป็นไร ตอนนี้พวกเราควรจะรับสมาชิกใหม่มาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“หัวหน้าวางใจได้เลยค่ะ พวกเราคอยดูแลเรื่องรับสมัครสมาชิกใหม่กันอย่างใกล้ชิด ฉันรับรองได้เลยว่ามันไม่มีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน ว่าแต่เรื่องฉงป้า คุณจะทำยังไงงั้นเหรอคะ? ในที่ประชุมเมื่อกี้คุณก็ไม่ได้พูดอะไรเลย พูดตามตรงว่าฉันก็ไม่มั่นใจว่าในอีกครึ่งเดือนเราจะต้านทานการโจมตีของพวกเขาได้ยังไง” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าว

“สบายใจได้ ถึงแม้พวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นจะรวมตัวกัน แต่มันก็ไม่มีความหมายอะไรสำหรับพวกเราหรอก อีกอย่างพวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องรอไปอีกถึงครึ่งเดือน อีกเดี๋ยวพวกมันก็จะมีเรื่องวุ่นวายให้ปวดหัวกันไปเอง” ลู่หยางกล่าว

“หัวหน้าใช้กลอุบายอะไรอีกแล้วใช่ไหมคะ? ช่วยสอนฉันด้วยได้ไหม” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย

“นี่มันเรียกว่ากลยุทธ์ไม่ใช่กลอุบาย เธอมาพูดปรักปรำฉันแบบนี้ได้ยังไง ตอนนี้รีบไปจัดการธุระของตัวเองเถอะ อีกครึ่งเดือนเดี๋ยวเธอก็รู้เอง” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับกรอกตา

“ก็ได้ค่ะท่านผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์” เซี่ยหยู่เว่ยลากเสียงยาวอย่างหยอกล้อ

ลู่หยางทำได้เพียงแต่ตัดการสื่อสารไปอย่างจนใจ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปยังสถาบันเวทมนตร์

นักเวทไฟเลเวล 40 สามารถทำภารกิจลับเพื่อเรียนรู้สกิลกึ่งต้องห้ามเมเทโอเชาเวอร์ได้ ซึ่งลู่หยางก็ได้ให้ทีมนักเวทไฟทั้ง 100 คนจัดการภารกิจนี้ทั้งหมดแล้ว ขณะเดียวกันเมื่อนักเวทไฟมีเลเวลเพิ่มถึง 50 นักเวทไฟก็สามารถที่จะทำภารกิจยูนิคเพื่อเรียนรู้เวทมนตร์ต้องห้ามได้ และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงยังคงยืนยันเป็นนักเวทไฟแม้จะได้รับใบเปลี่ยนอาชีพพิเศษอื่น ๆ มาแล้วอย่างมากมาย

เมื่อทหารยามวัยกลางคนเห็นลู่หยางเดินผ่านประตูเข้ามา ภายในแววตาของเขามันก็เต็มไปด้วยความกังวล เพราะถึงแม้เขาอยากจะเข้ามาหาลู่หยาง แต่ภายในใจกลับไม่กล้าที่จะเข้าไปขอความช่วยเหลือ

“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า?” ครับลู่หยางเดินเข้าไปถามทหารยาม

“ท่านนักเวท ผมชื่อว่าอ้ายหมี่ ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องให้คุณช่วย” อ้ายหมี่กล่าว

“เรื่องอะไรครับ?” ลู่หยางถาม

“ผมคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าท่านนักเวทจะต้องยินดีช่วยเหลือผมแน่ ๆ เรื่องมีอยู่ว่าพ่อของผมเคยเป็นขุนนาง แต่ปราสาทของเขาถูกกองทัพปีศาจบุกทำลายในเวลานั้นมีแต่ผมที่หนีรอดออกมาได้”

“แล้วทำไมคุณถึงมาเป็นทหารยามล่ะ?” ลู่หยางถาม

อ้ายหมี่ถอนหายใจพร้อมกับพูดว่า

“พ่อของผมเคยจงรักภักดีต่อกษัตริย์องค์ก่อน หลังจากที่กษัตริย์องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ตำแหน่งขุนนางของตระกูลผมก็ถูกริบคืน โชคดีที่พระราชาไม่ได้สนใจจะเอาโทษพวกเรา ผมที่รอดชีวิตมาได้จึงพยายามหางานใหม่และได้กลายเป็นทหารยามอยู่ที่นี่”

“แล้วคุณอยากจะให้ผมช่วยเรื่องอะไร?” ลู่หยางถาม

“ในปราสาทของครอบครัวผมมีพื้นที่ลับซ่อนอยู่ภายในนั้นมีหีบสมบัติ หากคุณเข้าไปเอาสมบัติภายในนั้นออกมาให้ผมได้ ผมก็ยินดีจะมอบของรางวัลชิ้นใหญ่ให้กับคุณ” อ้ายหมี่กล่าว

ระบบ: คุณยอมรับภารกิจจากอ้ายหมี่หรือไม่?

“ยินดีครับ” ลู่หยางตอบตกลงพร้อมกับกดยอมรับภารกิจ

อ้ายหมี่มอบไม้คทาให้กับลู่หยาง ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า

“นี่คือกุญแจสำหรับเปิดพื้นที่ลับ ขอแค่คุณไปจนถึงชั้นบนสุดของปราสาท คุณก็สามารถใช้กุญแจนี้เข้าพื้นที่ลับได้ในทันที แต่ระหว่างนั้นคุณต้องระวังตัวเอาไว้ให้มาก ๆ เพราะภายในนั้นมีปีศาจที่แข็งแกร่งมากอาศัยอยู่”

ลู่หยางค่อนข้างคุ้นเคยกับภารกิจนี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว หลังจากที่เขาได้รับกุญแจมาเขาก็เดินทางไปยังแผนที่เลเวล 50 ที่มีชื่อว่าปราสาทแบล็คดยุก

ปราสาทแบล็คดยุกเป็นปราสาทโบราณตามมาตรฐานที่ตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเลสาบ โดยด้านหน้ามีกำแพงสูงขึ้นไป 10 เมตรและตัวปราสาทก็มีความสูงถึง 10 ชั้น

ตามเนื้อเรื่องของเกมปราสาทแบล็คดยุกเคยเป็นแนวหน้าในการต่อต้านการรุกรานของกองทัพปีศาจ แต่จุดจบกลับกลายเป็นปราสาทถูกปีศาจเข้ายึดครอง และปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่ใช่ใครอื่นใดเลยนอกเสียจากแบล็คดยุกพ่อของอ้ายหมี่นั่นเอง

ลู่หยางใช้เวลาเดินทางมากกว่า 1 ชั่วโมงก่อนจะมาถึงเชิงหน้าผาใต้ปราสาทและเพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง เขาจึงใช้เชือกปีนขึ้นไปในปราสาทแทนที่จะเข้าผ่านทางประตูใหญ่

นี่คือช่องโหว่ของเกมที่ผู้เล่นมักจะใช้ภายในชาติก่อน แต่เงื่อนไขการใช้ช่องโหว่นี้จำเป็นจะต้องใช้นักเวทที่มีมีดเอสเคพเดจเจอร์และเชือกบ่วงจึงจะปีนเข้าไปในปราสาทโดยตรงได้ ซึ่งมันก็จะช่วยประหยัดเวลาในการสังหารปีศาจธรรมดาด้านนอกได้เป็นอย่างมาก

ลู่หยางปีนขึ้นไปตามหน้าผาอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากที่เขาปีนขึ้นไปจนถึงกำแพงปราสาท เขาก็ได้พบกับปีศาจ 6 ตัวที่กำลังลาดตระเวนอยู่

ทหารปีศาจ (ระดับอีลิท)

เลเวล 50

พลังชีวิต 500,000/500,000

ชายหนุ่มคอยสังเกตการณ์เดินลาดตระเวนอยู่สักพัก ก่อนที่เขาจะจับจังหวะในช่วงที่ทหาร 2 คนยืนอยู่ห่างกัน 15 เมตรในการขว้างมีดเอสเคพเดจเจอร์ขึ้นไปบนกำแพง

แวบ!

ทันทีที่ปรากฏตัวบนกำแพง มันก็มีปีศาจตัวหนึ่งเดินเข้ามาในระยะ 12 เมตร มันจึงส่งเสียงร้องคำรามและพยายามวิ่งเข้ามาใกล้

ลู่หยางย่อมไม่รอให้ปีศาจวิ่งเข้ามาใกล้อยู่แล้ว เขาจึงใช้สกิลแฟลชเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นแสงสีขาว ก่อนจะไปปรากฏตัวอีกครั้งบนหลังคาของหอคอยข้างกำแพง

จากนั้นชายหนุ่มก็หยิบเชือกบ่วงขึ้นมาขว้างขึ้นไปรัดพันยอดแหลมของหลังคาเอาไว้ ทำให้ร่างกายของเขาไม่ไถลร่วงลงไปตามหลังคาที่ลาดชัน

ลู่หยางค่อย ๆ จับเชือกปีนขึ้นไปจนถึงยอดหอคอยอย่างรวดเร็ว และจากตำแหน่งนี้มันก็ทำให้เขาอยู่ห่างจากหอคอยสังเกตการณ์กลางประสาทเพียงแค่ 30 เมตรเท่านั้น

นักเวทหนุ่มยืนรอจนกระทั่งคูลดาวน์ของมีดเอสเคพเดจเจอร์วนมาจนเสร็จ ก่อนที่เขาจะขว้างมีดออกไปอย่างแรงเพื่อเทเลพอร์ตไปยังหอคอยสังเกตการณ์

หลังจากลู่หยางกระโดดขึ้นไปบนหอคอยสังเกตการณ์ได้สำเร็จ เขาก็มองลงไปทางด้านล่างและได้เห็นแบล็คดยุกที่ได้กลายเป็นซอมบี้สวมชุดเกราะหนักเต็มตัวกำลังเดินไปมาภายในห้องโถงอันหรูหรา

แบล็คดยุก (บอส)

เลเวล 50

พลังชีวิต 1,000,000/1,000,000

ในบรรดาบอสเลเวลเดียวกันแบล็คดยุกถือได้ว่าเป็นบอสที่มีพลังชีวิตน้อยที่สุด เพราะค่าสถานะส่วนใหญ่ถูกนำไปไว้ที่ค่าการป้องกันทางกายภาพและเวทมนตร์

ลู่หยางยืดเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาแบล็คดยุกอย่างมั่นใจ เพราะด้วยพลังโจมตีเวทที่มากกว่า 3,500 หน่วย เขาก็มีความมั่นใจว่าตัวเองสามารถจัดการกับแบล็คดยุกได้อย่างไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตามลู่หยางก็เลือกที่จะไม่สังหารปีศาจตัวนี้ เพราะตามกฎของเกมหากเขาทำการสังหารแบล็คดยุกลง อ้ายหมี่จะไม่มอบเวทมนตร์ต้องห้ามให้กับเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องใช้วิธีการอื่น

ไฟร์สเน็คไบดิ้ง!

ชายหนุ่มเริ่มท่องคาถาปล่อยเปลวไฟสีแดงสดกลายเป็นอสรพิษ 4 ตัวพุ่งเข้าไปรัดพันร่างของแบล็คดยุกเอาไว้ ระหว่างนั้นเขาก็ได้เปิดใช้สกิลสคอร์ชิ่งสปีดเพื่อวิ่งไปตามห้องโถงและขึ้นไปยังชั้นบนสุดของปราสาทอย่างรวดเร็ว

“ศัตรูบุก! ทหารรีบไปจับมันเร็วเข้า” แบล็คดยุกตะโกนเสียงดัง

ทหารยามวิญญาณ 10 ตัวปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน ก่อนที่พวกเขาจะรีบไล่ตามลู่หยางไปในทันที

ขณะเดียวกันลู่หยางก็วิ่งมาจนถึงห้องโถงชั้นบนสุดของปราสาท และเขาก็สังเกตเห็นรูปภาพบนผนังซึ่งเป็นตำแหน่งของพื้นที่ลับที่ซ่อนสมบัติเอาไว้

 

 


สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.