บทที่ 424 วางแผนขั้นต่อไป

-A A +A

บทที่ 424 วางแผนขั้นต่อไป

บทที่ 424 วางแผนขั้นต่อไป

ห้องประชุมป้อมปราการคริมสัน

ลู่หยางกำลังดูแผนที่ 3 มิติหลังจากที่เขาได้เห็นข้อความของเฉียนเฉียน เขาจึงทำได้เพียงแต่เผยรอยยิ้มพร้อมกับส่ายหัวไปมาและติดต่อไปหาเฉียนเฉียน

“พวกเขาตกต่ำถึงขนาดนี้แล้วสินะ ขอบคุณมากที่แจ้งข่าวให้ทราบ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันควรจะต้องทำยังไง”

“ไม่ทราบว่าประธานลู่หยางพอจะให้ข้อแนะนำฉันหน่อยได้ไหมว่าตอนนี้กิลด์ของฉันควรจะต้องทำยังไงดี?” เฉียนเฉียนถาม

ลู่หยางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเฉียนเฉียนจะให้ค่าเขาถึงขนาดนี้ ถึงขั้นที่เธอพร้อมจะถอนตัวออกจากพันธมิตรเพื่อมาอยู่เคียงข้างกับฝั่งเขา

“จากสถานการณ์ในปัจจุบัน กิลด์ของคุณคงจะไม่มีปัญหาอะไรให้น่ากังวล ช่วงนี้เชิญคุณใช้ชีวิตอย่างอิสระไปได้เลยแล้วหลังจากนี้อีกครึ่งเดือนพวกเราค่อยมาคุยกัน”

จากสิ่งที่เฉียนเฉียนเคยทำในชาติก่อน มันจึงทำให้ลู่หยางยังคงระแวงผู้หญิงคนนี้อยู่มาก เพราะเขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองไม่สามารถคาดเดาแผนการที่อีกฝ่ายกำลังคิดอยู่ได้เลย

เฉียนเฉียนถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง ก่อนจะตอบกลับไปว่า

“ฉันรู้ว่าคุณยังระแวงฉันอยู่ ก็ได้ เดี๋ยวพวกเราค่อยมาคุยกันอีกทีหลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ในตอนนั้นถ้าหากว่าฉันถอนตัวออกจากพันธมิตร หวังว่าคุณจะคิดหาทางออกให้กับฉันล่วงหน้า”

“เอาเป็นว่าตอนนั้นค่อยว่ากัน” ลู่หยางตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“มีอะไรงั้นเหรอ?” เจียงเจ๋อถามหลังจากที่ลู่หยางปิดระบบสื่อสารลง

ลู่หยางเล่าเรื่องที่พูดคุยกับเฉียนเฉียนให้เจียงเจ๋อฟัง

“อย่าบอกนะว่าเธอแอบชอบนาย?!” เจียงเจ๋อพูดแซว

“เพ้อเจ้อ! ช่วยบอกทุกคนให้มาที่นี่หน่อย ถึงเวลาให้ของรางวัลที่ฉันสัญญาเอาไว้แล้ว” ลู่หยางกล่าว

เจียงเจ๋อพยักหน้ารับ ก่อนที่จะส่งข้อความเรียกแกนหลักทุกคนให้มายังห้องประชุม

หลังจากเวลาผ่านพ้นไปเพียงแค่ไม่นาน ฉิงชาง, เซี่ยหยู่เว่ย, สามพี่น้องตระกูลไป๋, ซุนหยู, โจวเทียนหมิงและคนอื่น ๆ ก็เข้ามารวมตัวกันในห้องประชุมอย่างรวดเร็ว

“หัวหน้า ตอนนี้มีข่าวอะไรจากทางฝั่งฉงป้ากับหวังเถิงบ้างครับ?”

“พวกเรายังจะต้องสู้ต่อไปไหม?”

ลู่หยางมองดูสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของทุกคนด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะพูดว่า

“ตอนนี้สงครามจบลงแล้ว ฉงป้ากับฉือมู่ตัดสินใจที่จะหยุดทำสงครามกับโซลออฟอีเทอนิตี้”

“ทำไมพวกเขาถึงยอมแพ้แล้วล่ะครับ?” ไป๋หูถาม

“บลัดไทแรนท์ยกป้อมปราการแบล็คร็อคให้โซลออฟอีเทอนิตี้ ทำให้โซลออฟอีเทอนิตี้เรียกกองกำลังเสริม 120,000 คนให้เทเลพอร์ตไปยังป้อมปราการได้ เมื่อจู่ ๆ มันได้มีกำลังเสริมปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน มันจึงทำให้กองกำลังของฉงป้าไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไปแล้ว” ลู่หยางกล่าว

“โซลออฟอีเทอนิตี้คิดจะย้ายรกรากไปที่เมืองเซนต์กอลล์หรอกเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมจู่ ๆ สมาชิกของดีวายโซลในเมืองซีเอ็มเพอเรอร์ถึงหายไปอย่างกะทันหัน” โจวเทียนหยานพูดขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“หัวหน้าพอจะมีข่าวเรื่องแผนการของฉงป้ากับโซลออฟอีเทอนิตี้ไหมครับ? ผมกำลังสงสัยว่าพวกเขาอาจจะร่วมมือกันมาหาเรื่องพวกเรา” ฉิงชางถาม

“นายคาดเดาได้แม่นมาก ฉันเพิ่งได้รับข่าวมาว่าอีกครึ่งเดือนฉือมู่กับฉงป้าจะร่วมมือกับหวังเถิงเพื่อมาโจมตีป้อมปราการคริมสันและป้อมปราการวินด์ธันเดอร์ของพวกเรา” ลู่หยางกล่าว

เมื่อได้ยินว่าทั้งสองฝ่ายตั้งใจจะร่วมมือกัน มันก็ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดในทันที

“ถ้าพวกเขาร่วมมือกัน กองกำลังที่จะมาโจมตีพวกเราก็จะมีอย่างน้อย 300,000 คน ในเวลานั้นการพยายามต้านทานการโจมตีคงจะเป็นไปได้ยากมาก” บิทเทอร์เลิฟกล่าว

“ไม่ต้องห่วง ถึงพวกเขาจะร่วมมือกันแต่พวกเขาก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก” ลู่หยางกล่าว

“หัวหน้า คุณมีแผนรับมือแล้วเหรอคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถามอย่างประหลาดใจ

“พรุ่งนี้ทุกคนพาลูกน้องคนสนิทมาเก็บเลเวลที่ปากปล่องภูเขาไฟ จำเอาไว้ว่าทุกคนต้องคัดเลือกลูกน้องที่ไว้ใจได้มาเพียงแค่ 500 คนเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นทุกคนยังไม่จำเป็นจะต้องสนใจในตอนนี้” ลู่หยางกล่าว

“500 คน? ผมว่าเฟลชมาเธอร์เวิร์ม 25 ตัวน่าจะยังไม่พอให้พวกเขาเก็บเลเวลอย่างรวดเร็วได้หรอกนะครับ” บิทเทอร์เลิฟกล่าวอย่างกังวล

“เรื่องนั้นนายไม่ต้องเป็นห่วง ในเมื่อฉันกล้าให้พวกนายพาลูกน้อง 500 คนมา ฉันย่อมมีวิธีให้พวกเขาเก็บเลเวลอยู่แล้ว” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทุกคนพยักหน้ารับ

“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเรายึดป้อมปราการได้เรียบร้อยแล้ว มันถึงเวลามอบของรางวัลให้กับพวกนายสักที ทุกคนโหวตกันเองเลยว่าป้อมปราการทั้ง 3 แห่งนี้ควรจะเป็นของใคร” ลู่หยางพูดต่อ

ทันใดนั้นทุกคนต่างก็หันมาสบตากันโดยไม่รู้จะตัดสินใจยังไงดี

“ฉันขอถอนตัว เพราะคราวที่แล้วทุกคนยกป้อมปราการวินด์ธันเดอร์ให้ฉันแล้ว” เซี่ยหยู่เว่ยพูดเป็นคนแรก

“ฉันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกิลด์เป็นอันดับ 2 ดังนั้นฉันขอถอนตัวด้วยเหมือนกัน” เจียงเจ๋อกล่าว0

เมื่อแม่ทัพถอนตัวออกไป 2 คน มันก็เหลือคนที่มีสิทธิ์ครอบครองป้อมปราการอีกเพียงแค่ 4 คนเท่านั้นได้แก่ ฉิงชาง, ซุนหยู, 3 พี่น้องตระกูลไป๋และบิทเทอร์เลิฟ

ไป๋ฉือและฉิงชางกำลังจะยกมือเพื่อขอถอนตัว แต่ซุนหยูชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน

“ผมขอถอนตัวครับ ตอนนี้ผมยังอายุน้อยเกินไป ในสถานการณ์ตึงเครียดที่พวกเรากำลังจะต้องพบเจอ ผมยังไม่สามารถรับประกันว่าผมจะรักษาป้อมปราการเอาไว้ได้”

“นายไม่อยากได้จริง ๆ เหรอ?” ลู่หยางถาม

ซุนหยูพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

“ผมขอเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ กับหัวหน้าอีกสักพัก อีกอย่างกองทัพของผมก็ถนัดเรื่องการต่อสู้ในสนามมากกว่าป้องกันป้อมปราการ ไม่อย่างนั้นผมจะไม่สามารถใช้ความสามารถของเจ้าแห่งลมได้อย่างเต็มที่”

“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้โควต้าเปลี่ยนอาชีพนักธนูสายฟ้าให้กับนายอีก 500 คน” ลู่หยางกล่าว

“จริงเหรอครับ?!” ซุนหยูถามด้วยแววตาอันเป็นประกาย

“จริงสิ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ไป๋ฉือ, ฉิงชางและบิทเทอร์เลิฟต่างก็เดินมาพร้อมกับตบไหล่น้องชายคนเล็ก ท้ายที่สุดเมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสิ่งล่อตาล่อใจอย่างป้อมปราการ พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด แต่ซุนหยูกลับสามารถตัดสินใจได้อย่างสบาย ๆ

“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้ฉิงชางจะคอยดูแลป้อมปราการอีสท์ซี บิทเทอร์เลิฟคอยดูแลป้อมปราการนอร์ทซี สามพี่น้องตระกูลไป๋คอยดูแลป้อมปราการซีดราก้อน ในวันพรุ่งนี้ฉันจะให้ถูเฟิงทำสัญญาโอนป้อมปราการไปให้กับพวกนายทุกคน หลังจากเซ็นสัญญาแล้วพวกนายทุกคนจะกลายเป็นเจ้าของป้อมปราการโดยสมบูรณ์” ลู่หยางกล่าว

“ครับ” ทั้งห้าต่างก็ตอบรับอย่างตื่นเต้น

“งานเลี้ยงฉลองชัยชนะในครั้งนี้คงต้องเลื่อนไปก่อน รอเราเอาชนะกองทัพพันธมิตรของทั้งสองฝ่ายได้แล้วค่อยฉลองชัยชนะทีเดียว วันนี้ทุกคนกลับไปพักผ่อนได้ พรุ่งนี้ซุนหยูจะเป็นคนแรกที่ได้นำทีม 500 คนมาเก็บเลเวล” ลู่หยางกล่าว

“ครับ/ค่ะ” ทุกคนตอบรับก่อนที่จะแยกย้ายกลับไปจัดการเรื่องป้อมปราการของตัวเอง

“พวกเราควบคุมเฟลชมาเธอร์เวิร์มกันครบคนละ 5 ตัวแล้วครับ” ฮั่นชากล่าวขณะปรากฏตัวข้าง ๆ ลู่หยาง

หลังจากการต่อสู้จบลงลู่หยางก็ให้พวกฮั่นชาใช้คถาวาร์ปเดินทางไปยังถ้ำอสูรโลหิตเพื่อทำการควบคุมเฟลชมาเธอร์เวิร์มกันคนละ 5 ตัว

“โอเค ถ้าอย่างนั้นให้ทุกคนเตรียมพร้อมไปเก็บเลเวลได้เลย” ลู่หยางกล่าวก่อนจะพาพวกฮั่นชานำเฟลชมาเธอร์เวิร์มไปเก็บเลเวลในถ้ำของเมืองไจแอนท์ทาวน์

“ข่าวที่พี่รู้มาตรงกับสิ่งที่พวกเราสืบมาครับ” ฮั่นชากล่าวหลังจากที่เขาพูดคุยกับลู่หยางในระหว่างการเก็บเลเวล

นับตั้งแต่ที่พวกฮั่นชาเปลี่ยนอาชีพเป็นอินวิสซิเบิลทีฟ ลู่หยางก็ให้เด็ก ๆ ทั้ง 12 คนคอยสืบข่าวอยู่ใกล้ ๆ หัวหน้ากิลด์ขนาดใหญ่คนอื่น ๆ มาโดยตลอด และเนื่องจากเด็ก ๆ ต่างก็มีเลเวล 50 กันเรียบร้อยแล้ว พวกฉือมู่จึงไม่ได้รู้ตัวเลยว่าพวกเขาแอบถูกสะกดรอยตามเพื่อสืบข่าวอย่างใกล้ชิด

“ดูเหมือนเฉียนเฉียนจะไม่ได้หลอกฉันจริง ๆ สินะ” ลู่หยางพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหันไปสั่งฮั่นชาด้วยสีหน้าอันจริงจัง

“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปขอให้พวกนายฆ่าผู้เล่นระดับสูงของฉือมู่ให้มากที่สุด การฆ่าจะดำเนินไปจนกว่าผู้เล่นระดับสูงพวกนั้นจะไม่กล้าโผล่หัวออกมา แต่ยังไม่ต้องไปยุ่งกับคนของฉงป้าและโซลออฟอีเทอนิตี้”

“ได้ครับ” พวกฮั่นชาพยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น

ด้วยความสามารถประจำอาชีพประกอบกับเลเวลที่พวกเขาได้ครอบครองอยู่ในปัจจุบัน พวกฮั่นชาต่างก็มั่นใจว่าพวกเขาสามารถจัดการกับผู้เล่นระดับสูงของฉือมู่ได้ภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียว

 

 


พันธมิตรตอนเริ่มเกมแตกหักโดยสมบูรณ์

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.