บทที่ 373 คทามาจิสเตอร์ 

“สำเร็จแล้ว!” ฮั่นเฟยตะโกนอย่างตื่นเต้น ขณะมองดูซากสิ่งมีชีวิตโบราณที่กองอยู่กับพื้น

“ในที่สุดเราก็ฆ่ามันได้สักที พวกเราไปดูกันเถอะว่าบอสเลเวล 80 จะดรอปของอะไรดี ๆ ลงมาบ้าง” ลู่หยางกล่าวหลังจากถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังสงสัยว่าบอสจะดรอปอะไรลงมาบ้าง ลู่หยางก็เดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ ซากของสิ่งมีชีวิตโบราณ ก่อนที่เขาจะหยิบไม้ด้ามยาวสีดำสนิทขึ้นมาถือภายในมือ

“มันเป็นอาวุธระยะประชิดเหรอ?” ฮั่นเฟยอุทานอย่างสงสัย

“ขอฉันตรวจสอบมันก่อน” ลู่หยางกล่าวขณะกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่

คทามาจิสเตอร์ (ระดับกึ่งตำนาน)

เลเวล 80

พลังโจมตีกายภาพ 92-116

สติปัญญา +97

พลังกาย +80

พลังโจมตีเวท +569

เจาะเกราะเวท +380 

รายละเอียด พระเจ้ารักมนุษย์ พระองค์มักให้ความช่วยเหลือสูงสุดแก่ผู้คนอยู่เสมอ หากท่านเคารพบูชาพระองค์และถวายศรัทธาอันแรงกล้า ท่านจะได้รับความเมตตาจากพระเจ้า

คำอธิบายของอาวุธชิ้นนี้เหมือนกับดีวายไฟร์สตาฟเลเวล 30 ทุกประการ ยิ่งไปกว่านั้นรูปร่างภายนอกและชื่อของมันก็ยังเหมือนกับคทาขั้นเทพที่เขาเคยได้เห็นเมื่อชาติก่อน เมื่อลู่หยางยืนยันทุกอย่างได้เรียบร้อยแล้วมันก็ทำให้เขาแทบจะตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น

นี่คือหนึ่งในคทาระดับกึ่งตำนานที่มีชื่อเสียงที่สุดในชาติก่อน และถึงแม้ตัวอาวุธจะถูกระบุว่ามันเป็นอาวุธเลเวล 80 แต่จริง ๆ แล้วหากผู้เล่นมีค่าสติปัญญาถึง 800 หน่วย พวกเขาก็จะสามารถสวมใส่มันเข้าไปได้ไม่ว่าจะมีเลเวลเท่าไหร่ก็ตาม

ลู่หยางพยายามข่มความตื่นเต้นภายในใจแล้วทำการแชร์ค่าสถานะของคทาไปให้ทุกคนได้ดู

“มันคือคทา”

“โอ้โห! คทาเลเวล 80 ของโคตรดีเลย” ฮั่นเฟยกล่าว

“เอาแบบนี้ไหม? เดี๋ยวฉันจะแสดงมายากลให้พวกนายดู” ลู่หยางกล่าว

“มายากลอะไรครับ?” ฮั่นอวี่ถามอย่างสงสัย

“ดูนี่นะ” ลู่หยางหยิบคทาขึ้นมาสะพายไว้ด้านหลังและทันใดนั้นคทามาจิสเตอร์ก็ติดอยู่กับตัวชายหนุ่มซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าเขาได้ทำการสวมใส่ไอเท็มชิ้นนี้แล้ว

“เฮ้ย! พี่ทำได้ยังไงน่ะ?!” ทุกคนต่างก็อุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง

“เห็นคำอธิบายของมันไหม? นี่คืออุปกรณ์พิเศษเหมือนกับดีวายไฟร์สตาฟที่สามารถสวมใส่ได้โดยไม่จำกัดเลเวล” ลู่หยางกล่าวอย่างตื่นเต้น

“ตอนนี้พลังโจมตีเวทของพี่เพิ่มขึ้นไปเป็นเท่าไหร่แล้วครับ?” ฮั่นอวี่ถาม

“3,200 กว่า ๆ แล้ว” ลู่หยางตอบหลังจากเรียกหน้าต่างสถานะของตัวเองขึ้นมาดู

“โอ้โห! พลังชีวิตของผมมีแค่ 3,200 กว่า ๆ เอง แบบนี้ผมโดนพี่โจมตีทีเดียวก็ตายแล้ว” ฮั่นอวี่กล่าว

“พวกนายโฟกัสผิดจุดหรือเปล่า? สิ่งที่สำคัญที่สุดของคทานี่ไม่ได้อยู่ที่พลังโจมตีเวทหรอกนะ แต่มันอยู่ที่เอฟเฟกต์พิเศษของมันต่างหาก” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

ตามกฎของเกมยิ่งอุปกรณ์ของผู้เล่นมีเลเวลสูงเท่าไหร่ พวกมันก็จะยิ่งได้รับค่าต้านทานเวทมนตร์ที่สูงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งค่าการเจาะเกราะเวท 15 หน่วย มันก็จะสามารถเจาะทะลุพลังป้องกันเวทของผู้เล่นเลเวล 30 ได้ประมาณ 1%

ขณะเดียวกันค่าเจาะเกราะเวท 15 หน่วยก็สามารถเจาะทะลุพลังป้องกันเวทของผู้เล่นเลเวล 80 ได้ไม่ถึง 0.01% ด้วยซ้ำ หรือมันก็หมายความว่ายิ่งผู้เล่นมีเลเวลสูงมากขึ้นเท่าไหร่ ค่าสถานะการเจาะเกราะเวทมนตร์มันก็จะยิ่งมีผลน้อยลง

ด้วยเหตุนี้ค่าสถานะเจาะเกราะเวท 380 หน่วยของคทามาจิสเตอร์แทบจะไม่มีผลกับผู้เล่นเลเวล 80 เลย เพราะอย่างมากที่สุดมันก็สามารถเจาะทะลุพลังป้องกันเวทมนตร์ได้ต่างจากค่าเจาะเกราะเวท 15 หน่วยเพียงแค่ไม่ถึง 1% แต่ในทางกลับกันหากนำค่าเจาะเกราะเวท 380 หน่วยมาใช้งานกับผู้เล่นเลเวล 30 มันก็จะทำให้ค่าเจาะเกราะนี้สามารถเจาะทะลุพลังป้องกันของผู้เล่นในปัจจุบันได้ประมาณ 25% เลยทีเดียว

หัวใจแห่งเทพอสูรของลู่หยางสามารถเจาะทะลุพลังป้องกันเวทมนตร์ของเป้าหมายได้ 45% อยู่แล้ว หากเขาได้ใช้คทามาจิสเตอร์ไปด้วย มันก็จะทำให้เขาสามารถเจาะทะลุพลังป้องกันเวทมนตร์ของเป้าหมายได้ถึง 70% แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้ใช้น้ำยาเอคโคออฟเมจิกปาเข้าใส่เป้าหมายจนทำให้พลังป้องกันทางเวทมนตร์ของเป้าหมายลดลงไปอีก 30% ในเวลานั้นเขาก็จะสามารถโจมตีทะลุการป้องกันทางด้านเวทมนตร์ของเป้าหมายได้ 100% เต็ม

คทาชิ้นนี้ยังมีประโยชน์กับการเก็บเลเวลในสปิริตอะคาเดมี่เป็นอย่างมากอีกด้วย เพราะด้วยพลังโจมตีเวทมนตร์ที่เพิ่มขึ้น เขาก็จะสามารถจัดการกับพวกแมงมุมโบราณได้ภายในเวลาไม่ถึง 4 วินาที

“ทุกคนช่วยกันดูของชิ้นอื่น ๆ ก่อนเถอะ ดูซิว่ามันยังมีของอะไรดี ๆ อยู่อีกบ้าง?” ลู่หยางกล่าว

หลังจากทำการค้นหาไอเท็มต่อไป ลู่หยางก็ได้สะดุดตาเข้ากับคทาสั้นสีน้ำเงินเข้มที่ถูกทับถมด้วยกองขวดน้ำยา

คทาวาร์ป

รายละเอียด สามารถส่งเป้าหมาย 25 คนไปยังพื้นที่ ๆ กำหนดไว้ได้ คูลดาวน์ 1 ชั่วโมง

“คราวนี้พวกเราโชคดีจริง ๆ” ลู่หยางกล่าวขณะสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ

“พี่เจอของดีเพิ่มเหรอครับ?” ฮั่นเฟยถาม

ลู่หยางพยักหน้า ก่อนจะทำการแชร์คุณสมบัติของคทาวาร์ปให้ทุกคนดู

“เมื่อมีของชิ้นนี้ต่อไปไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหน ฉันก็สามารถเรียกพวกนายให้ไปหาได้ตลอดเวลา”

คำพูดของลู่หยางยังคงทำให้ทุกคนรู้สึกสับสน เพราะพวกเขายังนึกถึงประโยชน์ของมันได้ไม่มากนัก ในทางกลับกันชายหนุ่มก็รู้ดีว่าของชิ้นนี้ถือได้ว่าเป็นของที่มีประโยชน์มากในระหว่างการทำสงคราม

ลู่หยางเก็บคทาวาร์ปเอาไว้ในกระเป๋าพร้อมกับมองสำรวจดูไอเท็มชิ้นอื่น ๆ ซึ่งหลังจากที่เขาเก็บของทั้งหมดแล้วของที่ดูโดดเด่นก็ยังมีหมวกเกราะระดับทองเลเวล 60 และกล่องแพนโดร่าอีก 1 กล่อง

“พวกเรากลับเข้าไปในสปิริตอะคาเดมี่กันเถอะ คราวนี้ทุกคนน่าจะเก็บเลเวลขึ้นไวกว่าเดิมแน่” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อพวกฮั่นอิ่งเห็นลู่หยางมีความสุข มันก็ทำให้พวกเธอพลอยมีความสุขไปด้วย จากนั้นทุกคนก็เดินตามลู่หยางกลับเข้าไปในสปิริตอะคาเดมี่

หลังจากทำการส่งทุกคนขึ้นไปบนเพดานของสนามประลองแล้ว ลู่หยางก็พูดขึ้นมาว่า

“รอแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวฉันไปล่อมอนสเตอร์ก่อน”

ทุกคนพยักหน้ารับ

ชายหนุ่มเดินทางผ่านเส้นทางอันมืดครึ้มไปจนถึงห้องวิจัยหมายเลข 3 ซึ่งในพื้นที่บริเวณนั้นมันก็มีตั๊กแตนกลายพันธุ์รวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนนับหมื่นตัว

คราวนี้ลู่หยางตัดสินใจจะล่อศัตรูออกไปฝูงใหญ่ เขาจึงหยิบเอมเมอรัลฮาร์ทขึ้นมาแล้วทำการเข้าสู่สถานะไร้ตัวตน ซึ่งในระหว่างนั้นเขาก็ได้โยนมีดเอสเคพเดจเจอร์และเทเลพอร์ตเข้าไปภายในฝูงมอนสเตอร์

ตั๊กแตนกลายพันธุ์หันมามองลู่หยางอย่างฉับพลัน ขณะเดียวกันพวกมอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้ ๆ ก็พยายามใช้เคียวโจมตีเข้าใส่ชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง

อย่างไรก็ตามในสถานะไร้ตัวตน พลังโจมตีทางกายภาพก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายร่างกายลู่หยางได้ เคียวพวกนั้นจึงฟันผ่านเขาไปโดยไม่สร้างอันตรายเลยแม้แต่น้อย

ชายหนุ่มยังคงเดินหน้าเพื่อหลอกล่อมอนสเตอร์ต่อไป ซึ่งหลังจากที่เขาได้ทำการอัปเกรดเอมเมอรัลฮาร์ทเป็นระดับ 10 มันก็ทำให้สภาวะไร้ตัวตนสามารถคงอยู่ได้นานถึง 30 วินาที ระหว่างนั้นเขาจึงได้เปิดใช้งานสกิลสคอร์ชิ่งสปีดพร้อมกับร่ายคาถาปล่อยสกิลเมเทโออิมแพคออกไปด้วย อุกกาบาตขนาดใหญ่จึงกลิ้งออกไปทางด้านหน้าและดึงดูดความสนใจเข้ามาได้เป็นจำนวนมาก

ลู่หยางสังเกตเวลาและได้พบว่าสถานะไร้ตัวตนใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว เขาจึงรีบวิ่งออกไปทางด้านข้างและในวินาทีสุดท้ายก่อนที่สภาวะไร้ตัวตนจะหายไป เขาก็ใช้สกิลแฟลชกระโดดออกมาจากฝูงมอนสเตอร์

ต่อมาชายหนุ่มก็วิ่งอย่างรวดเร็วไปยังช่องโหว่บนเพดาน ซึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่นานฮั่นอิ่งก็ได้เห็นร่างของลู่หยางที่กำลังวิ่งเข้ามา

“พี่ชายกลับมาแล้ว” มู่หยูกล่าว

พวกฮั่นเฟยหันไปมองทางลู่หยางด้วยเช่นกัน ก่อนที่พวกเขาจะได้เห็นตั๊กแตนกลายพันธุ์วิ่งตามพี่ชายของพวกเขามาเป็นจำนวนมาก

“พี่เขาไปแหย่รังพวกมันหรือยังไง ทำไมรอบนี้ตั๊กแตนกลายพันธุ์ถึงตามมาเยอะขนาดนี้?” ฮั่นอวี่กล่าว

ฮั่นเฟยก็ยักไหล่ด้วยความสงสัยด้วยเช่นกัน ซึ่งในระหว่างนั้นลู่หยางก็ได้ขว้างมีดเอสเคพเดจเจอร์ขึ้นมา ก่อนจะเทเลพอร์ตขึ้นมายังจุดบัคอย่างแม่นยำ