บทที่ 315 ต่อยอดจากเงินลงทุน
บทที่ 315 ต่อยอดจากเงินลงทุน
มู่ยี่มองไปยังผู้เล่นที่สวมใส่อุปกรณ์ต่างมิติอย่างเห็นใจ ก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับฮั่นเฟยและฮั่นอวี่ที่อยู่ข้าง ๆ
“ผมไปแล้วนะครับ”
“ไปเถอะ เดี๋ยวพวกเราค่อยตามไป” ฮั่นเฟยกล่าว
มู่ยี่เดินไปหน้าทหารยามอย่างช้า ๆ ก่อนที่เขาจะยกมีด 2 เล่มขึ้นมาถือภายในมือ
NPC ภายในเกมเซคคัลเวิลด์มีสติปัญญาที่สูงมาก เมื่อทหารยามได้เห็นท่าทางของมู่ยี่ พวกเขาก็สามารถคาดเดาได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร
“นายก็อยากตายด้วยงั้นเหรอ?”
มู่ยี่พยักหน้าอย่างจนใจพร้อมกับพูดออกไปว่า
“คุณช่วยลงมือหนัก ๆ หน่อยได้ไหมครับ ทำยังไงก็ได้ให้อุปกรณ์ของผมดรอปลงไปหลาย ๆ ชิ้น ผมจะได้ไม่ต้องกลับมาหาคุณอีก”
หลังพูดจบมู่ยี่ก็ทำการจ้วงแทงออกไป 1 ทีจนถูกทหารยามตวัดดาบตอบโต้กลับมาและทำให้อุปกรณ์ดรอปลงไปจากร่างของเขาทั้งหมด 6 ชิ้น
“มีอุปกรณ์ดรอปลงมาอีกแล้ว รีบไปเก็บเร็วเข้า!” ผู้เล่นที่พึ่งสวมใส่อุปกรณ์ต่างมิติตะโกนขึ้นมาขณะที่เขาค่อย ๆ ก้าวถอยหลังไป
“มันเป็นของฉัน”
“อย่ามาขวางฉันนะเว้ย”
…
ฮั่นเฟยและฮั่นอวี่หันมามองหน้ากัน จากนั้นทั้งสองต่างก็เลือกทหารยามคนอื่นและเดินเข้าไปโจมตีพร้อม ๆ กัน
“มีอุปกรณ์ดรอปมาอีกแล้ว”
“ตรงนี้ก็มี”
…
ไม่นานอุปกรณ์ต่างมิติที่ดรอปลงมาบนพื้นก็ถูกแย่งชิงไปทั้งหมด อย่างไรก็ตามเมื่อผู้เล่นที่เก็บอุปกรณ์ได้สวมใส่อุปกรณ์เข้าไป พวกเขาก็ได้พบว่าอุปกรณ์พวกนี้เป็นอุปกรณ์ระดับต่ำมากแถมยังไม่สามารถถอดออกจากช่องอุปกรณ์ได้อีกด้วย
“ชิบหาย! อย่าบอกนะว่าพวกเราก็ต้องไปโจมตีทหารยามด้วย”
การเสียชีวิตแต่ละครั้งจะทำให้ถูกหักค่าประสบการณ์ 10% ซึ่งถ้าหากว่าพวกเขามีค่าประสบการณ์ไม่เพียงพอ มันก็จะทำให้เลเวลของพวกเขาถูกลดลงไปด้วย
“ฉันอุตส่าห์เลเวล 30 แล้วฉันไม่มีทางยอมตายง่าย ๆ เด็ดขาด ฉันจะออกไปนอกเมืองให้มอนสเตอร์โจมตีรอจนกว่าค่าความทนทานของอุปกรณ์พวกนี้มันจะหมดลง” ผู้เล่นคนหนึ่งร้องตะโกนด้วยความโกรธก่อนที่เขาจะรีบวิ่งออกไปจากเมือง
“จริงด้วย มันมีวิธีแบบนั้นด้วยนี่นา”
…
ร้านตีเหล็กทางตอนเหนือของเมือง
พวกเสี่ยวเหลียงทั้ง 4 คนวิ่งกลับเข้ามาภายในร้านพร้อมกับเสียงหัวเราะ จากนั้นพวกเขาก็รายงานสถานการณ์เมื่อสักครู่ให้ลู่หยางทราบ
“พวกนายลองดูซิว่าตอนนี้เหลือค่าประสบการณ์อยู่เท่าไหร่? ถ้าใครตกไปเลเวล 29 แล้วก็ให้ตามฉันมาเก็บเลเวลเพิ่ม”
“ผมยังตายได้อีก 1 ครั้ง”
“ผมก็เหมือนกัน”
…
ทั้ง 4 คนต่างก็รายงานแถบค่าประสบการณ์ของตัวเอง ลู่หยางจึงให้พวกเขาทดลองสวมอุปกรณ์ต่างมิติต่อไป
ตอนกลางคืน
หลังจากกินข้าวจนเสร็จฮั่นจงก็ได้รู้เรื่องที่ลู่หยางกำลังทำอยู่ เขาจึงถามขึ้นมาว่า
“หลู่จ้าวหยู่กับเฉินเฟิงมีเลเวลถึง 30 แล้วและพวกเขาก็มีวอลอคเลเวล 28 อยู่ในทีมอีก 6 คน นายอยากจะให้พวกเขามาช่วยนายทดลองด้วยไหม?”
ลู่หยางคิดอยู่สักครู่ ก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า
“ให้เฉินเฟิงพาวอลอค 4 คนออกมา ส่วนหลู่จ้าวหยู่กับวอลอคอีก 2 คนให้อยู่ในวิหารราชาซอมบี้ต่อไปก่อนครับ ที่นั่นคือแหล่งทำเงินที่สำคัญที่สุดของพวกเรา ดังนั้นเราจะปล่อยให้มันตกไปอยู่ในมือของคนอื่นไม่ได้เป็นอันขาด”
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในวิหารราชาซอมบี้อยู่บ่อยครั้ง มันก็คงมีผู้เล่นไม่น้อยหาทางเข้าสถานที่ลับแห่งนี้จนเจอแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากวิหารราชาซอมบี้สามารถรองรับผู้เล่นได้เพียงแค่ทีมเดียว ผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่พยายามตามพวกหลู่จ้าวหยู่เข้าไปจึงถูกส่งกลับออกมา
ขณะเดียวกันหนังสือสกิลเลเวล 10 แต่ละเล่มก็สามารถขายได้ในราคาประมาณ 1 เหรียญทอง ดังนั้นหากนับรายได้จากการขายหนังสือสกิลเพียงอย่างเดียว วัน ๆ หนึ่งสถานที่แห่งนี้ก็สามารถผลิตเงินออกมาได้มากกว่า 100 เหรียญทองแล้ว
หลังพูดคุยกันจนจบลู่หยางก็เริ่มทำการทดลองต่อ ซึ่งพอมีพวกเฉินเฟิงเข้ามาช่วยมันก็ทำให้การตรวจสอบรวดเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก
ในวันที่ 2 มู่หยูก็ได้ให้ฮั่นอิ่งส่งอุปกรณ์มาเพิ่มอีก 5,000 ชิ้น ขณะที่ในเช้าวันที่ 4 เธอได้นำอุปกรณ์ 4,000 ชิ้นมาส่งด้วยตัวเอง
ระวังการฟาร์มของ 2 เด็กสาวมันได้ทำให้พวกเขาได้รับอุปกรณ์ต่างมิติมาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้มันยังมีอุปกรณ์ระดับตำนานอีก 12 ชิ้น, ใบเปลี่ยนอาชีพอีก 20 ใบและบลูปริ้นอุปกรณ์ระดับทองของแต่ละอาชีพอีกกว่า 60 แผ่น
เมื่อได้เห็นหน้าตาอันงัวเงียของมู่หยู ลู่หยางก็ได้บอกให้เธอออฟไลน์ออกไปพักผ่อนก่อน
“น่าเสียดายจริง ๆ ที่พวกเรามีวัตถุดิบไม่พอ” ฮั่นจงกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้รับบลูปริ้นมาอย่างมากมาย แต่วัตถุดิบกลับไม่เพียงพอต่อการผลิตอุปกรณ์ระดับทองออกมาได้เป็นจำนวนมาก
ยิ่งไปกว่านั้นวัตถุดิบสำหรับการสร้างอุปกรณ์เหล่านี้ยังมีราคาต่ำสุดอยู่ที่ชุดละ 2 เหรียญทอง เงินที่ลู่หยางมีอยู่ในตอนนี้จึงไม่มากพอที่จะซื้อวัตถุดิบเข้ามาเพิ่มเติมได้
“ไม่ต้องห่วงครับ อีกไม่นานพวกเราก็จะมีเงินแล้ว” ลู่หยางกล่าว
—
บ่ายวันพุธ
ลู่หยางให้พวกเสี่ยวเหลียงทำการทดลองสวมใส่อุปกรณ์ต่างมิติต่อไป ขณะที่ตัวเขาออกมายังโลกภายนอกเพื่อเดินทางไปรับเงินจากเจียงถงเหนียนด้วยตัวเอง
“เสี่ยวหยางต่อจากนี้ก็ฝากเธอใช้จ่ายเงินก้อนนี้ให้ดี ๆ ด้วยล่ะ” เจียงถงเหนียนกล่าว
“คุณลุงไว้ใจผมได้เลยครับ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
บทสนทนาในมื้ออาหารกลางวันของพวกเขาไม่ค่อยมีอะไรมากนัก ก่อนที่ลู่หยางจะขอตัวลาและนั่งรถแท็กซี่ไปยังบริษัทแลกเปลี่ยนเงินแห่งหนึ่ง
ถึงแม้โดยปกติลู่หยางจะเล่นเกมอยู่กับบ้าน แต่เขาก็พอติดตามข่าวสารในโลกภายนอกอยู่บ้าง ซึ่งหนึ่งในข่าวที่เขาให้ความสนใจมากที่สุดนั่นก็คือข่าวเรื่องคริปโทเคอร์เรนซี
หลังจากบิทคอยน์ถูกหลาย ๆ ประเทศปิดกั้นในช่วงทศวรรษที่ 20 ช่วงทศวรรษที่ 21 มันก็มีคริปโทเคอร์เรนซีเหรียญอื่น ๆ เกิดใหม่ขึ้นมาอย่างมากมาย
ในบรรดาเหรียญเหล่านั้น กาเก่คอยน์คือเหรียญที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเลย แต่ในเวลาเพียงแค่ 3 เดือนราคาของมันกลับเคยพุ่งจากเหรียญละ 500 ดอลลาร์ไปสูงถึง 180 ล้าน ๆ ดอลลาร์เลยทีเดียว
ลู่หยางตัดสินใจนำเงิน 400 ล้านเครดิตที่ได้รับมาไปลงทุนซื้อเหรียญกาเก่คอยน์ 133,300 เหรียญ ส่วนเงินที่เหลืออีก 600 ล้านเครดิต ลู่หยางก็ได้ทำการแลกเปลี่ยนพวกมันกลายเป็นเงิน 2 ล้านเหรียญทองก่อนจะติดต่อไปยังสตูดิโอหลาย ๆ แห่งที่เขาเคยเล็งเอาไว้ในก่อนหน้านี้
สตูดิโอชื่อดังภายในเกมต่างก็มีช่องทางติดต่อทิ้งเอาไว้ภายในแพลตฟอร์มต่าง ๆ อยู่แล้ว ซึ่งในบรรดาสตูดิโอเหล่านั้นมันก็มีสตูดิโอหลายแห่งที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการรวบรวมวัตถุดิบ
จุดประสงค์ของลู่หยางคือการติดต่อสตูดิโอเหล่านี้เพื่อเซ็นสัญญาให้พวกเขาทำการจัดส่งวัตถุดิบมาเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งมันก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนวัตถุดิบของพวกเขาได้
ขณะเดียวกันลู่จงเทียน ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของสตูดิโอเรดซันก็กำลังนั่งยิ้มมองดูวัตถุดิบหายากภายในคลังของตัวเองพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
“โชคดีจริง ๆ ที่ฉันหาจุดเกิดของวัตถุดิบพวกนี้ได้ คราวนี้คงถึงเวลาที่ฉันจะรวยแล้วแน่ ๆ”
ระบบ: ผู้เล่นออเรนจ์ลองซอร์ดขอเพิ่มคุณเป็นเพื่อน
“ใครวะ?” ลู่จงเทียนพยายามนึกถึงผู้เล่นคนนี้แต่เขาก็นึกไม่ออก อย่างไรก็ตามในฐานะของนักธุรกิจเขาจึงกดตอบรับอย่างรวดเร็ว
“คุณคือใคร?” ลู่จงเทียนถาม
ความจริงแล้วลู่หยางได้ใช้บัญชีของมู่ยี่ในการติดต่อมา เขาจึงตอบกลับไปว่า
“สวัสดีครับคุณลู่ พอดีว่าผมสนใจจะซื้อวัตถุดิบกับคุณ”
“ไม่ทราบว่าคุณสนใจอยากจะซื้ออะไรงั้นเหรอครับ?”
“แร่ทองคงทน, แร่เหล็กเวท, ผ้าเวทมนตร์, วัสดุต้นกำเนิด,…” ลู่หยางกลับด้วยรอยยิ้ม
ลู่จงเทียนหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับกล่าวขึ้นมาว่า
“ขอโทษด้วยครับ แต่ผมไม่มีของพวกนั้น ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้วผมขอวางสายแค่นี้นะครับ”
“ใจเย็น ๆ คุณควรฟังข้อเสนอของผมก่อนแล้วตอนนั้นค่อยปฏิเสธก็ยังไม่สาย” ลู่หยางกล่าว
“ข้อเสนออะไร?”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 164
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น