บทที่ 295 ดีม่อนเฟลม

-A A +A

บทที่ 295 ดีม่อนเฟลม

บทที่ 295 ดีม่อนเฟลม

ลาวาลอร์ด  (ระดับลอร์ด)

เลเวล 40

พลังชีวิต 1,600,000/1,600,000 (20,000,000/20,000,000)

นี่คือบอสตัวสุดท้ายของป้อมปราการคริมสันซึ่งมีความโหดเป็นอันดับ 2 จากบอสทั้งหมดในระดับเดียวกัน และจากข้อมูลที่ผู้เล่นได้รวบรวมเอาไว้ในชาติที่แล้ว ลาวาลอร์ดก็มีสกิลใช้งานอยู่ทั้งหมด 4 สกิล

เบิร์นนิ่งเลเซอร์: ปล่อยลำแสงเลเซอร์ใส่เป้าหมาย สร้างความเสียหาย 8,000 หน่วยต่อวินาที เป็นเวลา 10 วินาที

ลาวาเวธ: ทุก 30 วินาทีลาวาลอร์ดจะได้รับพลังจากลาวาโดยเพิ่มพลังโจมตีเวทขึ้น 50% สามารถซ้อนทับได้ไม่จำกัด

ดูมเดย์เมเทโอ: เรียกอุกกาบาตจากท้องฟ้าเพื่อสร้างความเสียหายในพื้นที่รัศมี 50 เมตร 10,000 หน่วย

โวลคานิคอีรัพชั่น: ลาวาลอร์ดจะทำการเรียกลาวาพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ทำให้เป้าหมายทั้งหมดที่อยู่ในระยะได้รับความเสียหาย 3,000 หน่วยต่อวินาที

ถึงแม้ลาวาลอร์ดจะมีพลังชีวิตไม่สูงมาก แต่ทุกสกิลของมันกลับสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาล จนทำให้ในชาติที่แล้วบลัดเติสตี้จำเป็นจะต้องระดมกองกำลังผู้เล่นเลเวล 40 ที่ติดตั้งอุปกรณ์ระดับแพลตตินั่มกว่า 60 คนกว่าจะเอาชนะบอสตัวนี้ลงไปได้

สาเหตุที่การจัดการกับบอสเป็นไปอย่างยากลำบาก นั่นก็เพราะสกิลลาวาเวธที่สามารถเพิ่มพลังให้กับบอสได้เรื่อย ๆ และถึงแม้ผู้เล่นจะสามารถขโมยบัฟของสกิลนี้มาใช้งานได้ แต่การขโมยแต่ละครั้งสามารถขโมยพลังมาได้เพียงแค่ 2% เท่านั้น มันจึงจำเป็นจะต้องทำการขโมย 25 ครั้งจึงจะทำให้ผลของสกิลหมดลง

ขณะเดียวกันหากผู้เล่นไม่ทำการขโมยบัฟต่อ บัฟที่ผู้เล่นขโมยมาก็จะส่งผลเพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้น ทำให้นักเวทที่คอยขโมยบัฟไม่มีเวลาโจมตี แต่ถ้าหากพวกเขาไม่ขโมยบัฟมาและลาวาลอร์ดทำการซ้อนทับสกิลลาวาเวธเป็นครั้งที่ 2 ในเวลานั้นมันก็จะมีพลังมากพอที่จะสังหารผู้เล่นยกทีม

อย่างไรก็ตามนั่นก็เป็นปัญหาสำหรับคนอื่นแต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับลู่หยางเลย เพราะเมื่อสักครู่มีคนแคระแบล็คสโตนวิ่งเข้าไปในพื้นที่ของลาวาลอร์ด 200 ตัวจนทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นตามจำนวนของศัตรูโดยอัตโนมัติ

ลู่หยางมองไปยังตัวเลขในวงเล็บที่ค่อย ๆ หายไปก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นเขาก็ยืดเส้นยืดสายและเปิดใช้งานสคอร์ชิ่งสปีดแล้วเขาก็วิ่งเข้าหาลาวาลอร์ดด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า

ปัจจุบันร่างของลาวาลอร์ดจมลงไปในลาวาได้ประมาณครึ่งหนึ่งแล้ว แต่เมื่อมันได้เห็นลู่หยางมันก็รีบเหยียดตัวขึ้นมาอีกครั้ง

“ไอ้พวกทาสสารเลว! พวกแกกล้าดียังไงถึงปล่อยให้มนุษย์บุกรุกมาถึงที่นี่ ข้าจะแผดเผาเจ้าให้เป็นจุณ โทษฐานที่เข้ามาในพื้นที่ของข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ลาวาลอร์ดส่งเสียงร้องคำราม ก่อนที่มันจะปล่อยลำแสงอันร้อนระอุพุ่งเข้าหาลู่หยางด้วยความรวดเร็ว

ลำแสงเลเซอร์เคลื่อนที่ได้รวดเร็วเป็นอย่างมาก ลู่หยางจึงจำเป็นจะต้องกระโดดม้วนตัวไปด้านหน้าพร้อมกับอัญเชิญนกฟีนิกซ์ออกมาทำการต่อสู้

นกฟีนิกซ์บินขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับพ่นลูกไฟออกมาติดต่อกัน อย่างไรก็ตามค่าความโกรธของลาวาลอร์ดก็ติดอยู่กับลู่หยาง มันจึงใช้เบิร์นนิ่งเลเซอร์จู่โจมเข้าใส่ชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง

ระหว่างนั้นลู่หยางก็ต้องกระโดดหลบสกิลพร้อมกับใช้เวทมนตร์ขโมยบัฟมาในเวลาเดียวกัน ซึ่งเขาก็สามารถขโมยบัฟมาได้ 2% ในทุก ๆ 1 วินาที

หลังจากที่เขาขโมยบัฟมาได้ 25 ขั้น เขาก็รออีก 3 วินาทีก่อนที่จะเริ่มขโมยบัฟขั้นต่อไป ซึ่งในระหว่างนั้นบัฟของลาวาลอร์ดก็เด้งขึ้นมาพอดี ทำให้มันได้รับความเสียหายเวทมนตร์เพิ่มขึ้นอีก 50% อีกครั้งหนึ่ง

ชายหนุ่มฉวยโอกาสในระหว่างที่บอสกำลังเพิ่มพลังในการดื่มน้ำยามานา จากนั้นเขาก็ทำการใช้เวทมนตร์ขโมยบัฟมาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากลู่หยางได้วนกระบวนการเหล่านี้ซ้ำ ๆ 11 ครั้งติดต่อกัน มันก็ทำให้เขามีบัฟพลังโจมตีเวทมนตร์มากกว่า 500% ซึ่งในตอนนี้ชายหนุ่มก็เริ่มปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยทุก ๆ ครั้งที่เขาขโมยบัฟมาเขาจะทำการยิงไฟร์บอลออกไป 1 ลูกก่อนที่จะวนกลับมาขโมยบัฟอีกครั้ง

-12,864 (คริติคอล)

ความเสียหายที่ลู่หยางสร้างได้ใน 1 วินาทีเทียบเท่ากับทีมขนาดเล็กประมาณ 20 คน ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 5 นาทีพลังชีวิตของลาวาลอร์ดก็ลดลงมาเหลือเพียงแค่ 50%

“มนุษย์ เจ้าจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เจ้าทำลงไปในวันนี้!” ลาวาลอร์ดร้องคำรามด้วยความโกรธทำให้ท้องฟ้าที่เคยสว่างเจิดจ้าเริ่มถูกบดบังด้วยเงามืด

ทันใดนั้นมันก็มีอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งลงมาจากฟ้า ลู่หยางจึงรีบโยนมีดเอสเคพเดจเจอร์ขึ้นไปในอากาศทำให้ตัวมีดทะลุผ่านอุกกาบาตไปได้อย่างง่ายดาย

ความจริงลู่หยางก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีดเอสเคพเดจเจอร์จะสามารถพุ่งทะลุผ่านอุกกาบาตไปได้ไหม เพราะถ้าหากตัวมีดไม่สามารถพุ่งทะลุอุกกาบาตได้ ในเวลานั้นเขาก็ไม่สามารถที่จะหลบหนีได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาก็ไม่มีเวลาให้คิดมากแล้ว เพราะเมื่ออุกกาบาตเข้ามาใกล้ในระยะเพียงแค่ไม่กี่เมตร ร่างของชายหนุ่มก็เทเลพอร์ตขึ้นไปบนฟ้าและหลบหนีอุกกาบาตได้สำเร็จ

ตูม!

อุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งเข้าปะทะยังจุดที่เขาเคยยืนอยู่อย่างจังและมันก็ทำให้ฝุ่นควันกระจายฟุ้งไปทั่วทุกพื้นที่

เมื่อลาวาลอร์ดเห็นลู่หยางหลบหนีได้สำเร็จ มันก็ร้องคำรามด้วยความโกรธ ก่อนที่มันจะชี้นิ้วออกไปเพื่อทำการปล่อยเบิร์นนิ่งเลเซอร์อีกครั้ง

ระหว่างลอยตัวอยู่ในอากาศ ลู่หยางก็ไม่สามารถที่จะกระโดดหลบหนีได้ เขาจึงใช้สกิลแฟลชเทเลพอร์ตกลับมายืนอยู่บนพื้นพร้อมกับใช้สกิลขโมยบัฟเข้าใส่บอสต่อไป

ผลของสกิลที่ขโมยมาเหลือเวลาเพียงแค่ 1 วินาที แต่มันก็ถูกเพิ่มเวลาขึ้นไปเป็น 5 วินาทีอีกครั้ง และในตอนนี้ผลของสกิลก็ทับซ้อนกันจนทำให้เขามีบัฟเพิ่มพลังโจมตีเวทมนตร์สูงถึง 1,200% แล้ว

-30,000 (คริติคอล)

ลู่หยางยิงไฟร์บอลออกไปปะทะกับศีรษะของลาวาลอร์ดจนก่อให้เกิดตัวเลขความเสียหายมหาศาล

ปกติแล้วผู้เล่นเลเวล 30 ทั่ว ๆ ไปจะสามารถสร้างความเสียหายได้ไม่ถึง 700 หน่วยเท่านั้น แต่ในตอนนี้ความเสียหายที่ลู่หยางทำได้เป็นสิ่งที่มากกว่าผู้เล่นทั่ว ๆ ไปหลายสิบเท่า

ด้วยผลของบัฟเสริมพลังที่ชายหนุ่มได้ขโมยมาอย่างต่อเนื่องนี่เอง มันจึงทำให้พลังชีวิตของลาวาลอร์ดลดลงไปอย่างรวดเร็ว

40%

35%

...

20%

“มนุษย์เจ้าทำให้ข้าโกรธสุดขีดแล้ว จงลิ้มรสลาวานี้ไปซะ!” ลาวาลอร์ดร้องคำรามก่อนที่มันจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นไปเหนือศีรษะ

นี่คือจังหวะที่บอสจะทำการปล่อยสกิลท่าไม้ตายที่มีชื่อว่าโวลคานิคอีรัพชั่น ซึ่งมันจำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาร่ายเวทนานถึง 10 วินาที

แปลงร่าง!

ลู่หยางอาศัยจังหวะนี้แปลงร่างกลายเป็นอสูรเพลิงร่างยักษ์อย่างฉับพลัน จากนั้นเขาก็ใช้สกิลเมเทโออิมแพคเรียกอุกกาบาตพุ่งเข้าชนลาวาลอร์ดอย่างต่อเนื่อง แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่ผลของสกิลลาวาเวธจะหมดลง เขาก็จะใช้สกิลขโมยบัฟเพื่อต่อเวลากลับมาให้ครบ 5 วินาทีเหมือนเดิม

-33,280 (คริติคอล)

-35,686 (คริติคอล)

-37,988 (คริติคอล)

ภายในช่วงเวลา 10 วินาทีที่บอสกำลังร่ายเวทอยู่นี้ ลู่หยางสร้างความเสียหายไปได้เกือบ 400,000 หน่วย ลาวาลอร์ดที่เหลือพลังชีวิตเพียงแค่ 3 แสนกว่าหน่วยจึงเสียชีวิตลงในทันที ก่อนที่มันจะทันได้ปล่อยสกิลสุดท้ายของตัวเองออกมา

ระบบ: คุณได้สังหารลาวาลอร์ดเรียบร้อยแล้ว ได้รับค่าประสบการณ์ 42,653 หน่วย

แสงสีแดงเพลิงเป็นประกายออกมาจากร่างของลาวาลอร์ด ก่อนที่ร่างขนาดมหึมาจะระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่หลุมขนาดมหึมาเท่านั้น

ลู่หยางรีบเดินไปตรวจสอบยังจุดที่เคยเป็นซากศพของลาวาลอร์ดในทันที ก่อนที่เขาจะได้พบคทาสีแดงเพลิงอันสวยงามที่ดรอปอยู่บนพื้น

เมจิกวอร์ด - ดีม่อนเฟลม (ระดับตำนาน)

เลเวล 30

พลังโจมตี 36-68

พลังกาย +50

สติปัญญา +60

พลังโจมตีเวท +226 คะแนน

อัตราคริติคอลทางเวทมนตร์ +50 

อัตราความแม่นยำทางเวทมนตร์ +50 

เอฟเฟกต์พิเศษ: เมื่อเวทมนตร์โจมตีโดนเป้าหมาย จะมีโอกาสเรียกใช้เอฟเฟกต์ดีม่อนเฟลมสร้างความเสียหายเพิ่ม 30 หน่วยต่อวินาที ซ้อนทับได้สูงสุด 10 ชั้น เป็นเวลา 10 วินาที

ลู่หยางถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนที่จะหยิบคทาบนพื้นขึ้นมา ซึ่งอาวุธชิ้นนี้ถือได้ว่าเป็นอาวุธระดับสูงสุดสำหรับนักเวทไฟก่อนเลเวล 30 อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้มีความคิดที่จะใช้งานมันเลย เขาจึงทำการเก็บไม้เท้าเข้ากระเป๋าและมองสำรวจไปยังกองไอเท็มอีกครั้ง

 

 


 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ติดตามเราได้ที่

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบนิยาย เรื่องสั้น บทความ หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018- keangun. All Rights Reserved.