บทที่ 281 ความสงสัยของเซี่ยหยู่เว่ย
บทที่ 281 ความสงสัยของเซี่ยหยู่เว่ย
“แฟนทอมเอจเป็นคนโจมตีเธอไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมเธอต้องมาจำฉันด้วย ฉันไม่ได้เป็นคนทำอะไรเธอสักหน่อย” ฮั่นเฟยมองไปทางชาร์มิ่งที่หายตัวไปยังงง ๆ
“คราวนี้นายซวยแล้วล่ะไอ้หนู หากนายโดนผู้หญิงตั้งเป้าเอาไว้แล้วล่ะก็เธอจะต้องไล่ตามฆ่านายไม่หยุดแน่” ฉงป้ากล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้กับอะไรง่าย ๆ ด้วย หลังจากนี้ก็ระวังตัวเอาไว้ให้ดี ๆ ล่ะ” แฟนทอมเอจกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะเช่นเดียวกัน
ฮั่นเฟยยกมือขึ้นมาเกาหัวพร้อมกับถามว่า
“พวกคุณหลุดมาได้ยังไงงั้นเหรอครับ?”
ฉงป้าชี้นิ้วไปด้านหน้าแล้วพูดว่า
“กองทัพของลู่หยางกับฉือมู่ทะลวงแนวรบของเดธโซลได้สำเร็จแล้ว พวกบลัดเติสตี้ก็เลยถอยทัพกลับไปพวกเราเลยมีเวลาว่างมาช่วยทางนี้ได้ด้วยเหมือนกัน”
“พวกเราชนะแล้วเหรอครับ?” ฮั่นเฟยถาม
ฉงป้าส่ายหน้าและพูดว่า
“สงครามมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น เชื่อฉันเถอะว่าในระยะสั้นพวกเราก็ต้องรอดูสถานการณ์อยู่แถว ๆ นี้แหละ”
—
บนสนามรบ
หลังจากลู่หยางและฉือมู่รวมกำลังกันขับไล่กองกำลังที่เหลือของเดธโซลเข้าไปภายในป่าโบราณ พวกเขาก็หยุดการขับไล่เอาไว้เพียงเท่านั้น
“ทำไมถึงไม่ไล่ตามต่อล่ะ?” ฉือมู่ถามขึ้นมาด้วยความโกรธ เพราะการรบในครั้งนี้ทำให้กิลด์ของเขาได้รับความสูญเสียอย่างหนัก เขาจึงอยากจะเอาคืนจากเดธโซลให้สาสม
“ด้านหน้าคือป่าโบราณที่เหมาะสำหรับการซุ่มโจมตี ถ้าหากเราผลีผลามเข้าไปความได้เปรียบที่พวกเราสร้างมาก็จะหายไปด้วยเช่นกัน และถ้าหากว่าฝ่ายตรงข้ามสามารถตั้งหลักได้ ในเวลานั้นมันก็อาจจะเป็นพวกเราที่ได้รับความพ่ายแพ้” ลู่หยางอธิบายอย่างใจเย็น
ป่าโบราณมีชื่อเสียงในเรื่องภูมิประเทศที่ซับซ้อน เฮลไฟร์ลอร์ดที่มีร่างกายอันใหญ่โตจึงเดินทางภายในป่าโบราณได้อย่างยากลำบาก และถ้าหากว่ามันไปติดเข้ากับซอกต้นไม้ใหญ่ มันก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะหลุดออกมาเป็นอิสระได้
“หัวหน้า พวกเราพอแค่นี้กันก่อนเถอะค่ะ ทุกคนต่อสู้กันมาเกือบ 2 ชั่วโมงแล้วพวกเขาต่างก็ต้องการที่จะหยุดพัก” ลั่วซืออวี่กล่าว
ฉือมู่ทำได้เพียงแต่ถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะพูดว่า
“คราวนี้ถือว่าพวกมันโชคดี พวกเรากลับไปหาฉงป้ากันเถอะ”
“ไม่ต้องมาหา ผมมาแล้ว” ฉงป้ากล่าวขณะพาฉวยอู๋อี้และแฟนทอมเอจเดินเข้ามาจากในระยะไกล
“คราวนี้ฉันต้องขอบใจนายจริง ๆ ถ้าไม่ได้นายที่ช่วยยืนหยัดเอาไว้ คราวนี้ฉันคงจะพ่ายแพ้ไปตั้งนานแล้ว” ฉือมู่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ
“พวกเราทั้ง 3 กิลด์ต่างก็เป็นพันธมิตรกัน เมื่อกิลด์ของคุณมีปัญหาฉันกับลู่หยางย่อมต้องรีบมาให้ความช่วยเหลือ” ฉงป้ากล่าวอย่างจริงใจ
“ไม่คิดเลยว่าฉันจะได้พี่น้องดี ๆ ก็ในตอนที่แก่ขนาดนี้ ฉันอยากจะดื่มเลี้ยงฉลองกับพวกนายทั้งสองคนจริง ๆ” ฉือมู่กล่าวอย่างซาบซึ้ง
“ไม่ต้องรีบร้อน โอกาสในอนาคตยังมีอยู่อีกเยอะ ตอนนี้พวกเราควรจัดการปัญหาตรงหน้าก่อน ว่าแต่คุณมีแผนจะทำอะไรต่อไป?” ฉงป้ากล่าว
“แบล็คบลัดกับบลัดไทแรนท์คงจะสู้จนถึงที่สุดแน่ พวกเราก็จะต่อสู้อย่างสุดกำลังด้วยเหมือนกัน มาดูกันสิว่าใครจะอดทนได้นานกว่ากัน” ฉือมู่กล่าว
“เดี๋ยวผมจะคอยสนับสนุนคุณเอง” ฉงป้ากล่าว
“ผมก็จะคอยสนับสนุนคุณด้วยเหมือนกัน” ลู่หยางกล่าว
—
สงครามไม่ได้จบลงอย่างเด็ดขาดด้วยการรบเพียงแค่ครั้งเดียว และเนื่องมาจากสนามรบแห่งนี้เกิดขึ้นภายในเกม มันจึงทำให้สงครามมักจะยืดเยื้อถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้กิลด์ที่เพิ่งก่อตั้งอย่างเดธโซลเกิดความขัดแย้งภายในกิลด์ของพวกเขาเลย ในทางกลับกันความพ่ายแพ้กลับทำให้พวกเขาสามัคคีกันมากยิ่งขึ้น เพราะพวกเขารู้ว่าในตอนนี้มีเพียงความสามัคคีเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาอยู่รอด
“ทุกคนอย่าเพิ่งกังวล พรุ่งนี้เราจะหานักรบกับพาลาดินมาปกป้องนักบวชพันธนาการของพวกเราให้มากขึ้น แค่นี้พวกเราก็มีโอกาสได้รับชัยชนะแล้ว” แบล็คบลัดกล่าวโดยมีหัวหน้ากิลด์อีก 8 คนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ขอโทษทุกคนด้วย วันนี้เป็นความผิดของพวกเราเองที่ไม่ได้สังเกตว่าลู่หยางยกทัพมาล่าช้า 1 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นเราคงจะยับยั้งกองกำลังของพวกมันเอาไว้ก่อนแล้ว” บลัดไทแรนท์ยกมือขึ้นมาประสานด้วยความขอโทษ
เมื่อบลัดไทแรนท์เอ่ยปากขอโทษด้วยตัวเอง เหล่าบรรดาหัวหน้ากิลด์เดธโซลต่างก็รีบลุกขึ้นเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร
“เมื่อกี้พี่แบล็คบลัดบอกพวกเราแล้วว่าการรบในวันพรุ่งนี้พวกเราจะต้องพลิกสถานการณ์กลับมาชนะได้แน่” สกายซอร์ทกล่าว
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน วันนี้พวกเรารู้จุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามแล้ว คืนนี้พวกเรามาวางแผนสู้รบใหม่ด้วยกันเถอะ” บลัดไทแรนท์กล่าว
“ได้เลย” แบล็คบลัดและคนอื่น ๆ ต่างก็ตอบรับขึ้นมาพร้อม ๆ กัน
—
ช่วงเย็นในวันต่อมาการต่อสู้ในครั้งที่ 2 ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งในคราวนี้บลัดเติสตี้ได้เข้าใจวิธีการต่อสู้ของบลัดบราเธอร์แล้ว พวกเขาจึงปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และทำให้การรบในครั้งนั้นจบลงที่ความพ่ายแพ้ของทางฝั่งลู่หยาง
เพื่อทำการยึดป้อมปราการคืนมาในคืนวันที่ 2 พวกลู่หยางจึงได้วางแผนการรบใหม่และสามารถเอาชนะบลัดเติสตี้กับเดธโซลได้ในการรบวันที่ 3
หลังจากได้เห็นศัตรูถอยร่นเข้าไปภายในป่าโบราณ เซี่ยหยู่เว่ยก็เดินเข้ามาหาลู่หยางพร้อมกับพูดว่า
“หัวหน้า ดูเหมือนพวกมันจะมาถึงขีดจำกัดแล้ว พรุ่งนี้พวกเราเรียกกำลังเสริมอีก 3,000 คนเข้ามาทำลายพวกมันในทีเดียวไปเลยดีไหม?”
“ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นล่ะ?” ลู่หยางถามด้วยรอยยิ้ม
ตอนแรกเซี่ยหยู่เว่ยคิดว่าตัวเองหาวิธีแก้ปัญหาได้ดีแล้ว เธอจึงไม่คิดว่าลู่หยางจะถามกลับมาแบบนี้เธอจึงถามออกไปว่า
“ความคิดของฉันใช้ไม่ได้เหรอคะ?”
“ถ้าดูจากสถานการณ์ในปัจจุบันมันก็เป็นแผนการที่ดีมากเลยทีเดียว” ลู่หยางกล่าว
“หมายความว่าคุณเห็นด้วยใช่ไหม?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม
ลู่หยางส่ายศีรษะพร้อมกับมองซ้ายมองขวา จากนั้นเขาก็ดึงเธอเข้ามาใกล้ ๆ พร้อมกับกระซิบขึ้นมาว่า
“เธอรู้ไหมว่าทำไมทุกครั้งที่เกิดสงครามทุกคนภายในค่ายถึงมีความสามัคคีกันมากขนาดนี้?”
“ไม่รู้ค่ะ” เซี่ยหยู่เว่ยตอบพร้อมกับส่ายหน้า
“นั่นก็เพราะว่าทุกคนมีศัตรูร่วมกันและทุกคนก็รู้ว่าหากสงครามในครั้งนี้พวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ หลังจากนี้เส้นทางการพัฒนาในเกมก็จะไม่ราบรื่นอีกต่อไป ดังนั้นถึงแม้ทั้งสองฝ่ายจะเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาก็จะสู้จนตายไม่มีทางถอยหนีไปอย่างเด็ดขาด” ลู่หยางกล่าว
“แล้วทำไมพวกเราถึงไม่รีบจบการต่อสู้ครั้งนี้ลงล่ะคะ? การเรียกกำลังเสริม 3,000 คนอาจจะพลิกผลลัพธ์ของสงครามในครั้งนี้ไปได้เลย” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวอย่างไม่เข้าใจ
“ใจเย็น ๆ ฟังฉันอธิบายให้จบก่อน ความจริงฉันมีแผนการที่จะทำลายเดธโซลได้ตั้งแต่วันที่ 2 แล้ว แต่ฉันเลือกที่จะไม่ใช้แผนการนั้นออกมา” ลู่หยางกล่าว
“ทำไมล่ะคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม
“บทเรียนจากประวัติศาสตร์ได้บอกเราว่าเมื่อพันธมิตรไม่ได้มีเป้าหมายร่วมกัน ในเวลานั้นมันก็จะเริ่มมีการแตกแยกขึ้นมาจากภายใน”
“สาเหตุที่ตอนนี้ฉงป้ากับฉือมู่ยอมเป็นพันธมิตรกับพวกเรานั่นก็เพราะหากพวกเราไม่ผนึกกำลังกัน พวกเราก็คงไม่มีทางเอาชนะบลัดเติสตี้กับเดธโซลได้ แต่ถ้าหากเดธโซลถูกทำลายบลัดเติสตี้เพียงกิลด์เดียวก็จะไม่ได้มีอันตรายพอจะคุกคามฉงป้ากับฉือมู่ได้อีกต่อไป ในเวลานั้นเธอยังจะรับประกันได้ไหมว่าพวกเขาจะไม่หันมาทำสงครามกับพวกเรา” ลู่หยางถาม
ทันใดนั้นเซี่ยหยู่เว่ยก็รู้สึกราวกับมีระฆังใบใหญ่ดังกึกก้องขึ้นมาภายในหู และภาพตรงหน้ามันก็เหมือนกับมีประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกทำให้เธอมองเห็นโลกที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
“คุณกำลังพยายามทำให้สงครามยืดเยื้องั้นเหรอคะ?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม
“ใช่ ฉันกำลังวางแผนจะทำสงครามแบบยืดเยื้อ พรุ่งนี้เมื่อมีการต่อสู้อีกครั้งให้เรียกกำลังเสริมของเรา 3,000 คนมาสับเปลี่ยนกับกองกำลังหลัก 3,000 คนของเราเพื่อให้พวกเขามีอิสระในการเร่งเก็บเลเวล ยิ่งสงครามในครั้งนี้ยืดเยื้อมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งเป็นประโยชน์กับพวกเรามากขึ้นเท่านั้น” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
เหลี่ยมทุกดอกแล้วบอกพันธมิตร 5555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 200
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น