บทที่ 259 แอนเชียนท์เซนทิพีดควีน
บทที่ 259 แอนเชียนท์เซนทิพีดควีน
มองจากภายนอกเข้าไปยังด้านในตัวถ้ำดูไม่ใหญ่มากนัก โดยทางเข้ามีความกว้างประมาณ 3 เมตรและมีความสูงขึ้นไปเพียงแค่ประมาณ 2 เมตรเท่านั้น แต่ภายในถ้ำไม่มีช่องส่องแสงสว่างจนทำให้ตัวถ้ำมีความมืดสนิท
ลู่หยางเปิดหน้าต่างร้านค้าของเกมเพื่อทำการซื้อลูกแก้วคริสตัล เนื่องมาจากก่อนหน้านี้มีผู้เล่นเป็นจำนวนมากออกมาบ่นเรื่องที่พวกเขาถูกมอนสเตอร์โจมตีกะทันหันจากความมืด ทางผู้พัฒนาจึงได้เพิ่มลูกแก้วคริสตัลเข้ามาในร้านค้า โดยมันเป็นไอเท็มที่สามารถส่องแสงสว่างรอบตัวผู้เล่นได้ในรัศมี 50 เมตร
ชายหนุ่มถือลูกแก้วด้วยมือซ้ายและเดินเข้าไปภายในถ้ำ หลังจากเดินผ่านเส้นทางอันคับแคบและคดเคี้ยว ในที่สุดเขาก็มาถึงพื้นที่อันโล่งกว้าง โดยพื้นที่บริเวณนี้มีเพดานถ้ำสูงขึ้นไปกว่า 10 เมตรและมันก็มีหินงอกหินย้อยให้เห็นอยู่ทั่วทุกที่
บนพื้นถ้ำเต็มไปด้วยแมลงสีดำตัวเรียวยาว โดยพวกมันมี 6 ขาและมีขากรรไกรคู่หนึ่งที่อยู่ทางด้านหน้า
แบล็คพินเซอร์
เลเวล 35
พลังชีวิต 10,200/10,200
นี่คือมอนสเตอร์โดยทั่วไปที่สามารถหาได้ทั่วทั้งถ้ำแห่งความตาย ซึ่งแบล็คพินเซอร์ถือว่าเป็นมอนสเตอร์ที่มีพลังโจมตีในระดับปานกลาง แต่มันมีการโจมตีธาตุพิษติดมาด้วยทำให้เป้าหมายจะสูญเสียพลังชีวิต 150 หน่วยต่อวินาที
ในชาติก่อนแม้แต่ผู้เล่นเลเวล 30 ก็แทบจะไม่มีใครเลือกมาเก็บเลเวลที่นี่ เพราะพิษของแบล็คพินเซอร์ทำให้พวกเขาสิ้นเปลืองน้ำยามาก
หากเป็นลู่หยางเมื่อก่อนเขาก็จำเป็นจะต้องทนรับพิษและใช้ไฟร์วอลล์ค่อย ๆ แผดเผามอนสเตอร์พวกนี้จนตาย แต่ในตอนนี้เขาไม่จำเป็นจะต้องใช้วิธีการนั้นอีกต่อไปแล้ว เพราะในปัจจุบันเขาได้ครอบครองนกฟีนิกซ์
เมื่อมองไปยังพื้นที่ที่เต็มไปด้วยแมลงตัวสีดำ ลู่หยางก็เริ่มท่องคาถาและยกคทาภายในมือขึ้นไปในอากาศ
พริบตาต่อมานกฟีนิกซ์ก็ถูกอัญเชิญพร้อมกับเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่เหนือศีรษะของลู่หยาง และด้วยความร้อนอันรุนแรงที่มันปลดปล่อยออกมาก็ทำให้แม้แต่ลู่หยางก็ยังรู้สึกร้อนระอุ
ชายหนุ่มชี้นิ้วสั่งการให้นกฟีนิกซ์โจมตีไปยังฝูงแมลงด้านหน้า นกฟีนิกซ์จึงพ่นลูกไฟขนาดใหญ่ออกมาติดต่อกัน ก่อนที่ลูกไฟเหล่านั้นจะกระจายไปโดนแบล็คพินเซอร์ที่อยู่กับพื้น
-8,426
-8,718
…
หลังจากตัวเลขความเสียหายปรากฏขึ้นมาเพียงแค่ 2 ครั้ง แบล็คพินเซอร์กว่า 10 ตัวก็เสียชีวิตโดยที่พวกมันไม่มีโอกาสในการตอบโต้เลยแม้แต่น้อย
หากได้มีใครมาเห็นพลังโจมตีของนกฟีนิกซ์ในตอนนี้ พวกเขาก็คงจะรู้สึกว่าลู่หยางสามารถสังหารมอนสเตอร์เลเวล 30 ได้ง่าย ๆ ราวกับพวกมันเป็นมอนสเตอร์ในหมู่บ้านเริ่มต้น
ลู่หยางนำนกฟีนิกซ์เดินลึกเข้าไปภายในถ้ำ และทำการสังหารมอนสเตอร์ไปตลอดทั้งทาง ในที่สุดพวกเขาก็ไปถึงพื้นที่ชั้นที่ 3 ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ถูกเรียกว่าสะพานมรณะ
สะพานมรณะเป็นแผนที่พิเศษที่มีชื่อเสียงมาก เพราะตัวแผนที่มีเพียงแค่ทางเดินแคบ ๆ ที่ทั้งสองข้างทางเป็นหน้าผาลึกจนมองไม่เห็นก้นเหว
เมื่อลู่หยางเดินทางมาถึงที่นี่เขาก็จำเป็นจะต้องชะลอฝีเท้าลง เพราะบนเส้นทางมีเซนทิพีดและอีวิลพินเซอร์ที่ปะปนอยู่กับแบล็คพินเซอร์
เซนทิพีดก็เป็นมอนสเตอร์ธรรมดารูปร่างตะขาบไม่มีอะไรพิเศษคล้ายกับแบล็คพินเซอร์ สิ่งที่ทำให้ลู่หยางสนใจจริง ๆ คืออีวิลพินเซอร์ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ระดับอีลิทและมีโอกาสที่จะดรอปคัมภีร์เอนชานท์ออกมาหลายรูปแบบ
กรึ๊บ ๆ ๆ
เสียงร้องอันน่าเกลียดดังขึ้นมาจากพื้นที่บริเวณด้านหน้า ลู่หยางจึงรีบนำนกฟีนิกซ์มุ่งหน้าไปทางนั้นด้วยแววตาอันเป็นประกาย
หลังจากพื้นที่ด้านหน้าได้ปรากฏฝูงแบล็คพินเซอร์ เขาก็สังเกตเห็นแมลงตัวหนึ่งที่มีขนาดร่างกายใหญ่โตกว่าแบล็คพินเซอร์ตามปกติ ตัวของมันถูกหุ้มด้วยเปลือกสีดำเป็นมันวาวและมอนสเตอร์ตัวนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นใดเลยนอกเสียจากอีวิลพินเซอร์นั่นเอง
อีวิลพินเซอร์ (อีลิท)
เลเวล 35
พลังชีวิต 212,660/212,660
ลู่หยางหลบไปทางด้านหลังก่อนที่เขาจะสั่งให้นกฟีนิกซ์บินขึ้นไปยังด้านบนและโจมตีด้วยลูกไฟจากอากาศ
แบล็คพินเซอร์และเซนทิพีดเสียชีวิตในทันทีหลังจากถูกโจมตีไปเพียงแค่ 2 ครั้ง แต่อีวิลพินเซอร์มีพลังชีวิตค่อนข้างสูง มันจึงรอดพ้นจากการโจมตีในรอบแรกมาได้ แต่เนื่องมาจากมันไม่สามารถที่จะโจมตีเข้าใส่นกฟีนิกซ์ที่บินอยู่บนฟ้า มันจึงทำได้เพียงแค่วิ่งไปวิ่งมาอยู่บนพื้น
นกฟีนิกซ์ยังคงโจมตีจากด้านบนต่อไป ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไป 2 นาที อีวิลพินเซอร์ก็เสียชีวิตในที่สุดพร้อมกับดรอปไอเท็มลงมาเป็นกองใหญ่
ลู่หยางรีบเทเลพอร์ตมาที่ร่างของอีวิลพินเซอร์อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะหยิบคัมภีร์ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง
“ไม่น่าเชื่อว่ามันจะดรอปลงมาจริง ๆ ด้วย”
เอนชานท์
รายละเอียด มีโอกาสเกิดเอฟเฟกต์ภาพติดตาและปลดปล่อยการโจมตีเพิ่มเติม 1 ครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นพาลาดิน, นักรบ, โจรหรือนักธนูต่างก็ต้องการคัมภีร์ชนิดนี้ด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะพาลาดินและนักรบที่ใช้อาวุธหนัก เพราะโดยปกติพวกเขาจะมีพลังการโจมตีที่รุนแรงที่สุดและมีความเร็วในการโจมตีที่เชื่องช้าที่สุด แต่ถ้าหากพวกเขาใช้คัมภีร์เอนชานท์เสริมพลังให้กับอาวุธและเอฟเฟกต์ถูกกระตุ้นขึ้นมา มันก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาสามารถจู่โจมได้ 2 ครั้งเลยทีเดียว
ลู่หยางพอใจกับไอเท็มที่ดรอปลงมามาก หลังจากที่เขาทำการเก็บไอเท็มทั้งหมดแล้วเขาจึงเริ่มเดินหน้าออกหาฝูงมอนสเตอร์ต่อไป แต่น่าเสียดายที่หลังจากทำการสังหารอีวิลพินเซอร์ไปอีก 3 ตัว มันก็ไม่มีคัมภีร์เอนชานท์ดรอปลงมาเพิ่มเติมอีกเลย
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกผิดหวังมากนัก เพราะอีวิลพินเซอร์เป็นเพียงมอนสเตอร์ระดับอีลิท อัตราการดรอปของพิเศษจึงไม่ค่อยสูงมาก และในที่สุดเขาก็เดินไปยังพื้นที่ชั้นสุดท้ายซึ่งมีชื่อว่าโลงศพแห่งความตาย
เมื่อมาถึงพื้นที่นี้ชายหนุ่มก็จำเป็นจะต้องเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง เพราะมันคือที่อยู่ของตะขาบยักษ์
ตามปกติตะขาบยักษ์จะซ่อนตัวอยู่ใต้ดินไม่ปรากฏออกมาให้เห็นกันได้ง่าย ๆ ที่สำคัญคือมันจะปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อผู้เล่นเข้าไปในระยะใกล้เท่านั้น และมันก็จะทำการจู่โจมอย่างกะทันหันไม่ให้ผู้เล่นได้ทันตั้งตัว
เนื่องมาจากพื้นที่นี้คือพื้นที่ชั้นสุดท้าย มันจึงทำให้ตัวพื้นที่มีขนาดที่กว้างมาก อย่างไรก็ตามลู่หยางก็ไม่กล้าที่จะเดินหน้าอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เขาจึงทำการควบคุมแบล็คพินเซอร์ 5 ตัวให้เดินนำหน้าเพื่อสำรวจเส้นทาง
หลังจากสังหารมอนสเตอร์ตามเส้นทางไปเรื่อย ๆ แบล็คพินเซอร์ทั้ง 5 ตัวก็มีเลเวลเพิ่มขึ้นมาเป็นเลเวล 7 ในที่สุด
ขณะที่ลู่หยางกำลังสำรวจอยู่นั้น มันก็เริ่มมีเสียงดังขึ้นมาจากด้านข้าง ชายหนุ่มจึงสั่งให้แบล็คพินเซอร์เข้าไปสำรวจ และท้ายที่สุดเขาก็ได้พบว่าที่นั่นมีฝูงของเซนทิพีดและมีอีวิลพินเซอร์อยู่ 1 ตัว
ลู่หยางสั่งให้แบล็คพินเซอร์ทั้ง 5 ตัวล้อมรอบตัวเองไว้แล้วสั่งการให้นกฟีนิกซ์บินออกไปโจมตี หลังจากการจู่โจมไป 2 ครั้งเซนทิพีดที่อยู่รอบ ๆ ก็เสียชีวิตจนเกือบหมด ขณะที่อีวิลพินเซอร์พยายามเคลื่อนที่มาใต้นกฟีนิกซ์เพื่อทำการโจมตี และเมื่อมันพบว่าตัวเองไม่สามารถจู่โจมศัตรูที่บินอยู่บนอากาศได้ มันก็ค่อย ๆ วิ่งหนีไปในถ้ำลึก
อย่างไรก็ตามในขณะที่นกฟีนิกซ์กำลังจะไล่ตามเหยื่อของมันไปอยู่นั่นเอง จู่ ๆ มันก็มีสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมากระโจนออกมาจากพื้นดิน
40,646 (คริติคอล)
นกฟีนิกซ์มีพลังชีวิตเพียงแค่ 8,000 หน่วยเท่านั้น เมื่อมันได้รับความเสียหายไปมากกว่า 40,000 หน่วย ร่างของมันก็สูญสลายไปอย่างฉับพลัน ในเวลานั้นลู่หยางก็ได้เห็นมอนสเตอร์ที่ปรากฏตรงหน้าอย่างชัดเจน
แอนเชียนท์เซนทิพีดควีน (บอส)
เลเวล 40
พลังชีวิต 1,400,000/1,400,000
แอนเชียนท์เซนทิพีดควีนยักษ์ที่มีความสูงกว่า 20 เมตรโผล่หัวขึ้นมาเหนือพื้นดินเพียงแค่ครึ่งตัวเท่านั้น ขณะที่ดวงตาทั้ง 6 คู่ของมันได้จับจ้องมายังลู่หยางด้วยความดุร้าย
ลู่หยางอดที่จะกลืนน้ำลายลงไปเสียงดังขึ้นมาไม่ได้ ซึ่งในชาติก่อนทุกครั้งที่แอนเชียนท์เซนทิพีดควีนเกิดใหม่ขึ้นมา กิลด์ขนาดใหญ่จะส่งทีมมาแย่งกันล่าทำให้กิลด์เล็ก ๆ ของลู่หยางไม่มีโอกาสได้แตะต้องบอสตัวนี้เลย
ด้วยเหตุนี้เองสิ่งที่ลู่หยางเคยเห็นจึงมีเพียงแค่ภาพและวีดีโอภายในคู่มือเท่านั้น วันนี้จึงเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นมันตัวเป็น ๆ
ขณะเดียวกันในชาติก่อนก็มีผู้เล่นเล่าเรื่องราวของแอนเชียนท์เซนทิพีดควีนเอาไว้อย่างมากมาย โดยบางคนบอกว่าพิษของมันสามารถสร้างความเสียหายได้ถึง 3,000 หน่วยต่อวินาที บางคนก็บอกว่าแอนเชียนท์เซนทิพีดควีนมีพลังป้องกันเวทมนตร์สูงถึง 2,000 หน่วย ทำให้แม้แต่นักเวทเลเวล 30 ก็ยังไม่สามารถเจาะทะลุการป้องกันของมันได้ การต่อสู้กับมอนสเตอร์ชนิดนี้จึงจำเป็นจะต้องใช้การโจมตีจากผู้เล่นสายกายภาพเท่านั้น
อย่างไรก็ตามข่าวลือพวกนี้ก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เพราะในวันหนึ่งได้มีกิลด์ออกมาเปิดเผยข้อมูลของแอนเชียนท์เซนทิพีดควีนอย่างละเอียด โดยพิษของมันสามารถสร้างความเสียหายได้สูงถึง 3,900 หน่วยต่อวินาที และการโจมตีนี้เป็นการโจมตีระยะไกลที่มีระยะการโจมตีสูงถึง 50 เมตร
พลังป้องกันทางเวทมนตร์ของแอนเชียนท์เซนทิพีดควีนอยู่ที่ 2,800 หน่วย พลังป้องกันทางกายภาพอยู่ที่ 1,120 หน่วย พลังโจมตีในระยะประชิดอยู่ที่ 4,000 หน่วย และเมื่อการจู่โจมนั้นเป็นการจู่โจมจากใต้ดิน มันก็จะสามารถสร้างความเสียหายได้สูงถึง 8 เท่า
นอกเหนือจากการโจมตีด้วยพิษที่จะทำให้เป้าหมายสูญเสียพลังชีวิตไปเรื่อย ๆ แล้ว บอสยังมีพิษอื่น ๆ อีกหลายชนิด ทั้งพิษที่สามารถนำมาลดพลังป้องกันทั้งสองด้านของศัตรู แต่พิษที่อันตรายที่สุดของแอนเชียนท์เซนทิพีดควีนคือพิษที่ทำให้เป้าหมายกลายเป็นหิน
ท้ายที่สุดพิษชนิดนี้จะทำให้การรักษาทุกชนิดไม่ได้ผล หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าหากผู้เล่นคนไหนถูกพิษชนิดนี้เข้าไป มันก็แทบจะการันตีได้เลยว่าเขาคนนั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน
ชื่ออย่างยาว!! ใครจะไปจำได้เน๊าะ


แสดงความคิดเห็น