บทที่ 173 หลานอวี่ขอความช่วยเหลือ
บทที่ 173 หลานอวี่ขอความช่วยเหลือ
ลู่หยางกลับมาที่เมืองเซนต์กอลล์ก่อนจะออกเดินทางไปสังหารพิกก์ค้อนทองอีกครั้ง โดยในตอนนี้เขาเก็บสะสมภูติไฟได้ 3 ชิ้นแล้ว ก่อนที่เขาจะกลับไปยังพระราชวังนีลเพื่อนำทีมเก็บเลเวลต่อไป
ชายหนุ่มใช้เวลา 5 วันติดต่อกันในการนำทีมเก็บเลเวล ซึ่งในช่วง 5 วันนี้ผลกระทบจากการเปิดระบบแลกเปลี่ยนเงินตราก็ยังคงกระจายออกไปในวงกว้าง
เริ่มแรกบลัดไทแรนท์, ฉงป้ารวมถึงกิลด์และสตูดิโอมากกว่า 20 แห่งในประเทศประกาศลงทุนภายในเกมถึง 100,000 เหรียญทอง ต่อมาฉือมู่ก็ประกาศลงทุนภายในเกม 200,000 เหรียญทอง ฉงป้าไม่อยากที่จะน้อยหน้าเขาจึงประกาศลงทุนภายในเกมเพิ่มอีก 100,000 เหรียญทอง
ภายในช่วงไม่กี่วันเซิร์ฟเวอร์จีนมีเหรียญทองไหลเข้าสู่ระบบเกินกว่า 100 ล้านเหรียญแล้ว หรือมันก็หมายความว่าผู้เล่นชาวจีนใช้เงินเติมเกมไปมากกว่า 30,000 ล้านเครดิต
อย่างไรก็ตามข่าวที่น่าสนใจกว่าคือกองกำลังชั้นยอดของบลัดไทแรนท์ถูกลู่หยางใช้เวทมนตร์ต้องห้ามทำการสังหาร ทำให้พวกเขาสูญเสียอุปกรณ์เป็นจำนวนมาก และทำให้ไม่มีกำลังมากพอที่จะปราบปรามกลุ่มผู้เล่นอิสระที่กำลังฮึกเหิม
“ใครมันเป็นคนปล่อยข่าวออกไป?!” บลัดไทแรนท์ร้องคำรามด้วยแววตาอันเย็นชา
“เขาเป็นนักรบในกองกำลังชั้นยอดของเราครับ ตอนที่เราชดเชยอุปกรณ์เขาได้รับอุปกรณ์ที่แย่ที่สุด ตอนที่เขาเมาเรื่องนี้เลยหลุดออกไปเนื่องมาจากเขาไม่พอใจการตัดสินใจของเรา” เย่กู่ซิงพูดอย่างหวาดกลัว
“ฆ่ามันให้เหลือเลเวล 0 แล้วไล่ออกไปจากกิลด์ซะ” บลัดไทแรนท์ตบโต๊ะอย่างเกรี้ยวโกรธ
“ได้ครับ” เย่กู่ซิงกล่าวก่อนจะรีบออกจากห้องเพื่อไปจัดการกับผู้เล่นคนนั้น
“มันยังไม่มีข่าวของลู่หยางอีกงั้นเหรอ?” บลัดไทแรนท์ถาม
“เราค้นหาในแผนที่เลเวลต่ำทั่วทุกแผนที่แล้วครับ แม้แต่สายลับของเราในกิลด์ใหญ่ ๆ ก็ยังไม่เห็นว่ามันไปเก็บเลเวลอยู่ที่ไหน” ดีม่อนบลัด ผู้ซึ่งเป็นผู้อาวุโสภายในกิลด์กล่าว
“ประกาศออกไปว่าหากใครสามารถบอกตำแหน่งของลู่หยางได้ ฉันจะให้เงินรางวัล 100 เหรียญทอง” บลัดไทแรนท์ออกคำสั่ง
“ถ้ามีรางวัลล่อตาล่อใจแบบนี้พวกเราจะต้องจับลู่หยางได้แน่ ๆ ผมจะรีบไปประกาศทั่วทั้งเซิร์ฟเวอร์เดี๋ยวนี้เลย” ดีม่อนบลัดกล่าว
เงินจำนวน 100 เหรียญทองมีมูลค่าเท่ากับเงินจำนวน 30,000 เครดิต ซึ่งเงินจำนวนนี้มากพอที่จะให้ครอบครัวธรรมดาใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ ไปได้ถึงหนึ่งปี พวกเขาจึงไม่เชื่อว่าจะมีใครสามารถต้านทานเงินก้อนนี้ได้
การประกาศทั่วทั้งเซิร์ฟเวอร์เป็นการประกาศของระบบที่การประกาศแต่ละครั้งจะคิดค่าบริการ 10 เหรียญทอง แต่มันก็แลกมากับการที่ผู้เล่นทั่วทั้งเซิร์ฟเวอร์จะได้รับข่าวสารอย่างพร้อมเพรียงกัน
ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์: ลู่หยางเป็นศัตรูตัวฉกาจของกิลด์บลัดเทิสตี้ หากใครสามารถยืนยันตำแหน่งของลู่หยางได้ ทางเรายินดีที่จะให้เงินรางวัล 100 เหรียญทอง
—
หุบเขาเคลียร์ครีค
หุบเขาเคลียร์ครีคเป็นสถานที่ท่องเที่ยวภายในเกมที่มีน้ำตกไหลลงมาจากภูเขาน้ำแข็ง และทางด้านล่างมีทะเลสาบอันใสสะอาดที่สามารถมองทะลุลงไปได้จนถึงก้นบ่อ นอกจากนี้มันยังเป็นแหล่งของมอนสเตอร์เลเวล 10 และเป็นแหล่งในการหากุ้งภายในเกมอีกด้วย
หลังจากได้รับสูตรอาหารกุ้งผัดเผ็ด ลู่หยางก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับธุระในเรื่องต่าง ๆ เขาจึงพึ่งมีโอกาสมาจับกุ้งในวันนี้นี่เอง เขาจึงพาพวกฉิงชางมาจับกุ้งให้พอปรุงอาหารไปใช้อีก 30 วันเพื่อที่พวกเขาจะไม่ต้องเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้อีก
อย่างไรก็ตามท้องฟ้าอันสดใสประกอบกับทะเลสาบอันใสสะอาด มันก็มอบบรรยากาศอันสบาย ๆ จนทำให้ลู่หยางอดที่จะนอนพักผ่อนบนพื้นอย่างขี้เกียจขึ้นมาไม่ได้
“ทุกคนพยายามเข้านะ ฉันขอนอนพักสักหน่อย” ลู่หยางกล่าว
นี่คือการพักผ่อนหลังจากพยายามอย่างหนักมาเป็นเวลานาน เพราะตอนนี้ลูกน้องของเขาทุกคนใกล้จะมีเลเวลถึง 20 กันหมดแล้ว ทางด้านร้านขายยาก็ทำเงินได้มากถึง 3,000 เหรียญทองและพรุ่งนี้หากเขาสังหารพิกก์สำเร็จ เขาก็จะได้รับชิ้นส่วนภูติไฟชิ้นสุดท้าย หรือมันก็หมายความว่าหัวใจแห่งเทพอสูรของเขาจะอัปเกรดเป็นเลเวล 2 ได้สักที
เงื่อนไขในการสร้างกิลด์ที่เขาคิดเอาไว้ใกล้จะครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว หลังจากนี้มันจะถึงเวลาสร้างกิลด์อย่างเป็นทางการและเข้าร่วมสงครามการแย่งชิงอำนาจ
“หัวหน้า คุณจะขี้เกียจเกินไปแล้ว” โคลด์วิลโลว์บ่น ซึ่งหลังจากที่เธอติดตามลู่หยางมาสักพัก ในช่วงนี้พวกเธอก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น
ทันใดนั่นเองประกาศของกิลด์บลัดเทิสตี้ก็ดังแจ้งเตือนในหูของทุกคน
“หัวหน้า ฉันเอาคุณไปขายได้ไหม?” โคลด์วิลโลว์กล่าวพร้อมกับแสดงรอยยิ้มออกมาอย่างซุกซน
“พวกเราเอาด้วย” ทุกคนกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
ลู่หยางทำได้เพียงแต่ส่ายหัวอย่างจนปัญญา เพราะเมื่อทุกคนสนิทสนมกับเขาแล้ว ในบางครั้งคนกลุ่มนี้ก็ไม่ค่อยได้มองว่าเขาคือหัวหน้ากิลด์
“มาฝึก PK กัน เปิดความเจ็บปวดเอาไว้ที่ 30%” ลู่หยางกล่าว
“หัวหน้าพวกเราผิดไปแล้ว!” ทุกคนรีบขอโทษ เพราะจนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่สามารถต้านทานลู่หยางได้เกิน 10 วินาทีด้วยซ้ำ
นักเวทหนุ่มฮัมเพลงอย่างพอใจ ก่อนที่จะหันกลับไปนอนพักผ่อนต่อ ทันใดนั้นซุนหยูที่คอยเฝ้ายามอยู่บนที่สูงก็ส่งข้อความเข้ามาภายในแชทกลุ่ม
ซุนหยู: มีกิลด์ 2 กิลด์กำลังปะทะกันใกล้ ๆ พวกเราจะไปดูกันไหม?
ฉิงชาง: ใครสู้กับใคร?
เหมาชิว: ไม่รู้ แต่หัวหน้ากิลด์ฝ่ายหนึ่งเป็นสาวสวย ขณะที่อีกฝ่ายดูค่อนข้างเจ้าเล่ห์
“หัวหน้า ผมขอไปช่วยสาวสวยหน่อยได้ไหม?” เครซี่เบลดถาม
ลู่หยางกรอกตาอย่างเอือมระอา ก่อนที่เขาจะพูดว่า
“พวกเราไปดูหน่อยก็แล้วกัน”
—
นอกหุบเขาเคลียร์ครีคเต็มไปด้วยหินสีเทาที่มีความสูงมากกว่า 60 เมตร ลู่หยางจึงนำทีมกระโดดไปตามก้อนหินก่อนที่พวกเขาจะมาสมทบกับซุนหยูและเหมาชิวที่ทำหน้าที่เฝ้ายาม
“ที่แท้ก็เป็นพวกแบล็คบลัดกับเซี่ยหยู่เว่ยนี่เอง” ลู่หยางพึมพำหลังจากสามารถจดจำทั้งสองฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว
“คนรู้จักเหรอครับ?” ซุนหยูถาม
ลู่หยางพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“แบล็คบลัดเป็นหัวหน้ากิลด์เอเวอร์ลาสติงที่เคยมีเรื่องกับฉันมาก่อน ส่วนทางฝั่งผู้หญิงชื่อว่าเซี่ยหยู่เว่ยเป็นหัวหน้าสตูดิโอหนานปิง นิสัยเธอค่อนข้างจะเย่อหยิ่งเกินไปหน่อย ส่วนผู้หญิงที่อยู่ใกล้ ๆ กับเธอก็เป็นน้องสาวของฉัน”
ในชาติก่อนแบล็คบลัดคือหนึ่งในคนที่เขารู้สึกเกลียดชังมากที่สุด เพราะถ้าหากไม่ใช่การกดขี่ของอีกฝ่าย ช่วงแรกกิลด์ของเขาก็คงจะไม่ได้พัฒนาไปอย่างเชื่องช้าขนาดนั้น พูดง่าย ๆ ว่าแบล็คบลัดคือตัวหมากสำคัญที่ทำให้เขามีชีวิตจบลงอย่างในชาติก่อน
“พวกเราควรช่วยสตูดิโอหนานปิงไหมครับ?” ฉิงชางถาม
“ดูสถานการณ์ไปก่อน” ลู่หยางกล่าวเพราะด้วยสถานการณ์ในก่อนหน้านี้ มันจึงทำให้เขาไม่ค่อยชอบเจิ้งหยวนกับเซี่ยหยู่เว่ยสักเท่าไหร่
ขณะเดียวกันทางฝ่ายสตูดิโอหนานปิงที่มีคนน้อยกว่าก็กำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างชัดเจน เพราะท้ายที่สุดทางฝ่ายเอเวอร์ลาสติงก็มีคนเยอะกว่าเป็น 10 เท่า
หลานอวี่มองเซี่ยหยู่เว่ยอย่างกังวล ก่อนที่เธอจะพูดว่า
“เธอหนีไปก่อนเถอะ ถ้าเธอยังอยู่พวกเราก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ถ้าเธอตายกิลด์ของเราคงจะจบเห่แน่”
จางจื่อโป๋พยักหน้าอย่างเห็นด้วยพร้อมกับพูดว่า “ใช่ เธอคือศูนย์รวมใจของกิลด์ ถ้าเธอไม่ถูกฆ่าพวกเราก็ยังคงขวัญกำลังใจเอาไว้ได้อยู่ แต่ถ้าแบล็คบลัดไปพูดกับคนอื่นว่าเคยฆ่าเธอมาแล้ว ในเวลานั้นเราจะหาคนเข้ากิลด์ได้ยากกว่าเดิม”
“ฉันไม่ไป อย่างมากก็แค่ตายแต่ฉันจะไม่ทิ้งทุกคนไปอย่างเด็ดขาด” เซี่ยหยู่เว่ยกัดฟันพูดอย่างเย็นชา
“แบล็คบลัด! แกกล้าใช้กลโกงกับพวกเราเหรอ คอยก่อนเถอะฉันจะให้พวกแกได้ชดใช้” เจิ้งหยวนร้องคำรามด้วยความโกรธ
“ฉันโกงพวกแก? ที่นี่มันเป็นของพวกแกหรือยังไง กลับไปฟ้องพ่อที่บ้านแกเถอะ” แบล็คบลัดกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
สมาชิกของเอฟเวอร์ลาสติงต่างก็ส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาด้วยเช่นกัน
“หุบปาก! อย่าพึ่งไปทำให้อีกฝ่ายโกรธ ถ้าพวกมันบุกมาตอนนี้พวกเราต้านพวกมันไม่ไหวหรอกนะ” จางจื่อโป๋ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ
สาเหตุที่สถานการณ์เป็นแบบนี้ครึ่งหนึ่งเป็นเพราะแบล็คบลัดโจมตีโดยที่พวกเขาไม่ทันได้ตั้งตัว อีกครึ่งหนึ่งเป็นเพราะความหยิ่งผยองของเจิ้งหยวนที่คิดว่ากิลด์ของตัวเองแข็งแกร่ง ผลลัพธ์ก็คือเจิ้งหยวนนำทีมไปแย่งพื้นที่เก็บเลเวลของแบล็คบลัดจนทำให้พวกเขาถูกอีกฝ่ายไล่ต้อนมาแบบนี้
“ถ้าลู่หยางอยู่ด้วยก็ดีสิ อย่างน้อยพวกเราก็ไม่ต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน” จางจื่อโป๋กล่าว เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาเพิ่งจะรู้ข่าวว่าอีกฝ่ายใช้เวทมนตร์ต้องห้ามสังหารสมาชิกของบลัดเติสตี้
“พูดแบบนั้นแล้วมันจะไปมีประโยชน์อะไร” เซี่ยหยู่เว่ยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“เดี๋ยวฉันส่งข้อความไปเอง เขาต้องมาช่วยพวกเราแน่ ๆ” หลานอวี่กล่าว
“เขามาไม่ทันหรอก” จางจื่อโป๋กล่าว
“ถ้าพวกเราถ่วงเวลาเอาไว้เขาจะต้องมาทันแน่ ๆ ถึงยังไงฉันก็จะรีบติดต่อไปหาเขาก่อน” หลานอวี่กล่าวก่อนที่เธอจะรีบโทรหาลู่หยางทันที
“มีอะไรงั้นเหรอสาวน้อย?” ลู่หยางถามด้วยรอยยิ้มทั้ง ๆ ที่เขายังคงมองดูสถานการณ์จากด้านบนก้อนหิน
“อาจารย์ พวกเราถูกคนของแบล็คบลัดซุ่มโจมตีอยู่ในหุบเขาเคลียร์ครีค คุณมาช่วยพวกเราหน่อยได้ไหมคะ?”
“ได้สิ” ลู่หยางตอบเบา ๆ
“คุณจะมาจริง ๆ เหรอ? เดี๋ยวฉันจะส่งพิกัดไปให้เดี๋ยวนี้เลยว่าแต่คุณจำเป็นจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน?” หลานอวี่กล่าวอย่างดีใจ
“ไม่ต้องส่งพิกัดมาหรอก ฉันอยู่บนก้อนหินเหนือหัวพวกเธอนั่นแหละ” ลู่หยางกล่าว
“หา?!” หลานอวี่รีบเงยหน้าขึ้นไปมองบนก้อนหินใหญ่ ก่อนจะได้พบลู่หยางกำลังโบกมือมาให้เธอ
“ยัยเด็กโง่ รีบก้มหน้าลงไปก่อน” ลู่หยางกล่าว
“อ๋อค่ะ” หลานอวี่รีบก้มหน้าลงและถึงแม้เธอจะถูกดุแต่ภายในใจกลับกำลังดีใจมาก
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?” หลานอวี่ถาม
“เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยคุยกันทีหลัง ว่าแต่เธออยากจะให้พวกแบล็คบลัดมันตายยังไง?” ลู่หยางถาม
“คนพวกนี้แย่มาก พวกมันซุ่มโจมตีพวกเราระหว่างทางจนทำให้คนของเราตายไปเกินครึ่งหนึ่งแล้ว ถ้าเป็นไปได้อาจารย์ช่วยกำจัดพวกมันไปให้หมดเลย” หลานอวี่กล่าว
“ไม่มีปัญหา ช่วยถ่วงเวลาพวกนั้นเอาไว้สัก 10 วินาทีก็แล้วกัน” ลู่หยางกล่าวก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับพวกฉิงชางว่า
“ทุกคนเตรียมพร้อม พวกเรากำลังจะลงมือแล้ว”
ลู่หยางตัดสินใจแล้วว่าถ้าหากเขาต้องการเข้าร่วมสงครามการแย่งชิงอำนาจของกิลด์ เขาก็ตั้งใจจะใช้แบล็คบลัดเป็นบันไดก้าวแรกในเส้นทางของตัวเอง
“หัวหน้าจะใช้เมเทโอฟอลล์หรือเปล่า?” บิทเทอร์เลิฟถาม
“ใช่” ลู่หยางกล่าวก่อนที่เขาจะเริ่มท่องคาถาทำให้ในเวลาเพียงแค่ไม่นานท้องฟ้าในหุบเขาก็เต็มไปด้วยเมฆสีดำ
“ลู่หยางว่ายังไงบ้าง เขามาช่วยพวกเราได้ไหม?” จางจื่อโป๋ถามอย่างร้อนใจ
หลานอวี่เผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดี จากนั้นเธอก็ชี้นิ้วไปที่แบล็คบลัด
“แบล็คบลัด! แกกล้าสู้ตัวต่อตัวกับฉันไหม? ถ้าแกชนะพวกเราก็จะยอมแพ้พร้อมกับยุบกิลด์ของตัวเอง”
“นี่เธอพูดอะไรลงไป?!” เจิ้งหยวนตะโกนด้วยความโกรธ
เหตุการณ์นี้ทำให้จางจื่อโป๋กับเซี่ยหยู่เว่ยมองไปทางหลานอวี่อย่างสับสนด้วยเช่นกัน
แบล็คบลัดกำลังจะสั่งให้กองทัพบุกโจมตี แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหลานอวี่มันก็ก่อให้เกิดอาการลังเลขึ้นมา ท้ายที่สุดเขาก็มีอาชีพเป็นโจร ขณะที่อีกฝ่ายเป็นนักบวช หากมีการต่อสู้กันตัวต่อตัวไม่ว่าจะมองยังไงทางฝั่งของเขาก็เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ
“แบล็คบลัด แกเป็นถึงหัวหน้ากิลด์ใหญ่แต่ไม่กล้ารับคำท้าสู้ตัวต่อตัวกับฉันเนี่ยนะ” หลานอวี่กล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาเท้าสะเอวอย่างภาคภูมิใจ
หากเป็นผู้ชายหรือคนที่มีเลเวลสูงกว่ามาตะโกนท้าทาย แบล็คบลัดก็อาจจะปฏิเสธคำท้าได้อย่างง่ายดาย แต่อีกฝ่ายเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็ก ๆ แถมยังมีอาชีพเป็นนักบวชที่เลเวลน้อยกว่าเขาด้วย หากเขาปฏิเสธมันก็อาจจะก่อให้เกิดคำนินทาภายในกิลด์ของเขาได้
“ถ้าแกอยากตาย ฉันก็จะตอบสนองความต้องการของแกเอง!” แบล็คบลัดกล่าวพร้อมกับเดินออกมาจากกลุ่ม แต่ในระหว่างนั้นเขาก็มองไปยังท้องฟ้าอันมืดครึ้มด้วยความประหลาดใจ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 216
- 👍 ถูกใจ


แสดงความคิดเห็น