บทที่ 2: หากในความมืดมิดไร้แสงไฟ ฉันจะเป็นแสงสว่างนั้นเอง
เข้าร่วมกองทัพเพื่อปกป้องประเทศ!
ปกป้องครอบครัวและขับไล่พวกไททันออกไป!
เมื่อหลินหยวนมองไปยังคำขวัญที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนหนุ่มสาวทั้ง 2 ข้างถนน เขาก็รู้สึกราวกับว่ามีหนามกำลังทิ่มแทงอยู่ในใจของเขา
เขาคือหลินหยวน ลูกชายของ ‘หลินเทียนเชวี่ย’ แม่ทัพมังกรของประเทศ บางทีอาจเป็นเพราะสายเลือดของเขา เขาจึงมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งตั้งแต่เริ่มเข้าเรียน อีกทั้งพอเข้ารับการทดสอบ เขาก็มีพลังพิเศษ 2 อย่าง ได้แก่ [สายฟ้า] และ [รักษา]
หลังจากทุกคนได้ทราบเรื่องนี้ พวกเขาก็ตั้งตารอให้เด็กหนุ่มได้เป็นแม่ทัพมังกรคนต่อไปและกำจัดพวกไททันไม่ให้เหลือแม้แต่ตัวเดียว!
ในตอนนั้นหลินหยวนก็คิดเช่นเดียวกัน
เขามองพ่อของตนเป็นแบบอย่าง เขาฝึกฝนความสามารถของตัวเองโดยไม่กล้าเกียจคร้านแม้แต่นาทีเดียว
อย่างไรก็ตาม เมื่อ 5 ปีที่แล้ว กองทัพพ่ายแพ้ย่อยยับในสมรภูมิแนวหน้า
ในการต่อสู้ครั้งนั้น ไททันระดับมหันตภัยได้ปรากฏตัวออกมาเป็นครั้งแรก ไททันตัวนี้มีหัวเหมือนมังกร และตามร่างกายส่องสว่างคล้ายกับมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ด้านในตลอดเวลา
กองทัพจึงตั้งชื่อไททันตัวนี้ว่า… ไททันมังกรเพลิง!
การต่อสู้ดังกล่าว แม้นหลินเทียนเชวี่ยจะหยุดยั้งไททันมังกรเพลิงไม่ให้ทำลายแนวป้องกันในด่านหน้าลงสำเร็จ แต่เขาก็ต้องจ่ายมาด้วยราคาที่สูงลิ่ว
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบเสียชีวิต สูญสิ้นพละกำลังทั้งหมด แม้กระทั่งขาข้างซ้าย
ด้วยเหตุนี้ อดีตแม่ทัพมังกรซึ่งเป็นวีรบุรุษผู้กล้าจึงได้เปลี่ยนกลายเป็นคนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง
หลายคนคาดเดาว่าหลินหยวนกลัวที่เห็นสภาพเช่นนั้นของพ่อตัวเองเลยไม่กล้าเข้าร่วมการต่อสู้ในแนวหน้า
แต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ปัจจุบันความโกรธแค้น เกลียดชังที่ลุกโชนอยู่ในใจของเขาไม่เคยมอดดับลงเลย!
เหตุผลที่หลินหยวนไม่เข้าร่วมกองทัพเป็นเพราะอยู่ดี ๆ ก็มีระบบลงชื่อเข้าใช้ที่เรียกว่า [หนทางรอด] เกิดขึ้นเมื่อ 100 วันก่อน!
ขอเพียงเราลงชื่อเข้าใช้ทุกวัน เราก็จะได้รับรางวัลตอบแทน
ถึงกระนั้น ตั้งแต่ที่เด็กหนุ่มได้รับระบบนี้มา ระบบก็ยังอยู่ในสถานะดาวน์โหลด จนกระทั่งเมื่อวานนี้ แถบความคืบหน้าในการดาวน์โหลดในที่สุดก็มาถึง 99%
ถ้าเขาเดาไม่ผิด วันนี้น่าจะเป็นวันที่เขาปลดล็อกระบบอย่างเป็นทางการ
ในขณะที่หลินหยวนกำลังคิดถึงเรื่องนี้ เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังเข้ามาในหูทันที
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี คุณปลดล็อกระบบ [หนทางรอด] สำเร็จ!”
“ตรวจพบว่าคุณไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ได้เป็นเวลา 100 วันในระหว่างขั้นตอนการดาวน์โหลด คุณต้องการลงชื่อเข้าใช้ใหม่อีกครั้งหรือไม่?”
หลินหยวนตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะพูดออกไปโดยที่ไม่ต้องคิดซ้ำว่า “ลงชื่อเข้าใช้ใหม่อีกครั้ง!”
ในระหว่างที่ระบบทำการดาวน์โหลด เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสิทธิ์ลงชื่อเข้าใช้เพื่อรับรางวัลจาก 100 วันที่ผ่านมาได้ด้วย!
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี คุณลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ ได้รับไอเทม: คริสตัลอัปเกรดพลัง!”
“ได้รับไอเทม: อัญมณีซ่อนเร้น!”
“ได้รับอาวุธ: ดาบปราบมังกร!”
“ได้รับสกิล: มังกรสายฟ้าพิโรธ!”
“ได้รับไอเทม: หุ่นจักรกล!”
“ได้รับไอเทม…”
“ได้รับไอเทม…”
…
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี คุณลงชื่อเข้าใช้สำเร็จเป็นเวลา 50 วัน ได้รับรางวัลพิเศษ: [น้ำแข็ง] ”
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี คุณลงชื่อเข้าใช้สำเร็จเป็นเวลา 100 วัน ได้รับรางวัลพิเศษ: [อันเดด] ”
เสียงแจ้งเตือนของระบบที่ดังก้องอยู่ในหูของหลินหยวนมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยืนนิ่งด้วยความตะลึงงัน
ระบบมอบรางวัลลงชื่อเข้าใช้ทั้งหมดให้กับเขาในคราวเดียวเป็นเวลา 100 วันเต็ม!
ความรู้สึกที่จู่ ๆ ก็ถูกลอตเตอรี่ส่งผลให้เด็กหนุ่มตื่นเต้นมากจนร่างกายของเขาสั่นสะท้าน
การรอคอยและความอดทนตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นคุ้มค่าแล้ว!
ระบบ [หนทางรอด] ที่เขาได้รับมาไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง!
หลินหยวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ระบบ เปิดหน้าสถานะ”
วินาทีต่อมา แผงสถานะแบบดิจิทัลก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาทันที
[โฮสต์: หลินหยวน
แรงก์: D
พลังปราณ: 5,348
พลังจิต: 1,793
พลังพิเศษ: [สายฟ้า] ระดับ D
[รักษา] ระดับ E
[น้ำแข็ง] ระดับ E
[อันเดด] ระดับ E
ไอเทม: คริสตัลอัปเกรดพลัง x20, ยารักษา x15, ยาฟื้นฟูกำลัง x15, คริสตัลฟื้นฟูพลังจิต x15, อัญมณีซ่อนเร้น, ดาบปราบมังกร, หุ่นจักรกล…]
หลังจากที่หลินหยวนเห็นแผงสถานะปัจจุบันของตัวเอง เขาก็อดไม่ได้ที่จะเหยียดยิ้ม
เขาเยาะเย้ยที่ตนเองนั้นยังคงอ่อนแอเกินไป ถ้าอยู่ในสนามรบ เขาเกรงว่าคงไม่สามารถแม้แต่จะฆ่าไททันระดับทั่วไปได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไททันที่กลายพันธุ์วิวัฒนาการจนแข็งแกร่งขึ้น นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงเลือกที่จะไม่เข้าร่วมกองทัพ
ทุกคนรู้หรือไม่ว่าในสนามรบแนวหน้ามีอันตรายซ่อนอยู่มากน้อยแค่ไหน? ต่อให้เป็นคนที่มีพลังพิเศษที่แข็งแกร่งก็ยังมีโอกาสตายได้ทุกเมื่อ แล้วนับประสาอะไรกับเขาที่เป็นแค่ทหารใหม่
หลินหยวนไม่ได้กลัวความตาย แต่เขายังไม่ได้คิดจะพาตัวเองไปตายง่าย ๆ แบบนั้น
หากไม่มีระบบ [หนทางรอด] บางทีเขาอาจจะเลือกเข้าร่วมกองทัพ ไปฝึกฝนตัวเองในสนามรบ คอยก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองซ้ำ ๆ ตอนนั้นเขาอาจจะตายหรือไม่ก็เหยียบกองกระดูกไททันนับหมื่นเพื่อให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น!
พอหลินหยวนได้รับระบบนี้มา มันทำให้เขาเลือกที่จะเปลี่ยนแผน บางครั้งการถอยก็เป็นทางเลือกที่ยากกว่าการเดินหน้าต่อไป
นั่นหมายความว่าก่อนที่เขาจะพัฒนาตัวเอง เขาจะต้องหลบซ่อนอยู่ในที่ปลอดภัย แม้ว่าเขาจะเห็นญาติพี่น้องและเพื่อนพ้องล้มหายตายจากไปทีละคน เขาก็ไม่สามารถหวั่นไหวได้เลย
สุดท้ายแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับไททัน ต่อให้เขาจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งเหมือนกับหลินเทียนเชวี่ย ผู้เป็นพ่อของเขา แต่ในสนามรบเขาก็ยังไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้
หลินเทียนเชวี่ยซึ่งตอนนี้กลายเป็นคนพิการไปแล้วเป็นบทเรียนที่ชัดเจนที่สุดสำหรับลูกชายอย่างเขา ดังนั้นหลินหยวนจึงจำเป็นจะต้องอดทนอยู่เงียบ ๆ ไปก่อน
ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เขาจะไม่ตายก่อนวัยอันควร และมีระบบนี้คอยช่วยเหลือ เขาจะมีพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้แน่นอน!
มนุษย์ที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดอยู่ภายใต้การกดขี่ข่มเหงของไททันนั้นช่างน่าสมเพช
นักวิชาการได้คำนวณเอาไว้แล้วว่าหลังจากการขยายตัวของแผ่นเปลือกโลก พื้นที่ที่มนุษย์ครอบครองอยู่นั้นมีน้อยกว่า 10% ถึงกระนั้น พวกไททันก็ยังต้องการกำจัดมนุษย์ให้สิ้นซาก!
สำหรับมนุษย์แล้ว นี่เปรียบเสมือนค่ำคืนที่ไม่มีวันสิ้นสุด พวกเขาแทบไม่เหลือหนทางรอดเลย แต่ไม่มีใครรู้ว่าในมุมหนึ่งของประเทศ มีเด็กหนุ่มผู้เด็ดเดี่ยวคนหนึ่งกำลังกำหมัดแน่น ขณะที่ในดวงตาของเขาคล้ายมีเปลวไฟลุกโชน
“หากในความมืดมิดไร้แสงไฟ ฉันจะเป็นแสงสว่างนั้นเอง ฉันจะขับไล่ไททันออกไปให้หมดโดยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง!”
…
ก๊อก ๆๆ
หลินหยวนเคาะประตูเบา ๆ
ไม่นานหลังจากนั้น เสียงเข้มเจือหัวเราะก็ดังมาจากด้านหลังประตู
“ไอ้หนู แกไม่ได้เอากุญแจไปอีกแล้วเรอะ?”
ในไม่ช้าก็มีเสียงดังกุกกัก ก่อนที่ประตูตรงหน้าเด็กหนุ่มจะถูกเปิดออก และชายขาเดียวที่ถือไม้เท้าก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
ชายขาเดียวมีริ้วรอยบนใบหน้าตามวัย มีหนวดเคราที่ยังไม่ได้โกนรกครึ้มอยู่เต็มใบหน้า แม้ว่าภายนอกเขาจะดูไม่ชวนมอง ทว่าดวงตาคู่นั้นยังคงคมกริบดุจนกอินทรี
ชายคนนั้นหยิบซองบุหรี่ออกจากกระเป๋ากางเกง เขาดึงบุหรี่ออกมามวนหนึ่งแล้วจุดมัน จากนั้นก็ถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ว่าแต่ทำไมวันนี้แกถึงกลับมาเร็วขนาดนี้?”
หลินหยวนมองชายตรงหน้า หลังจากเงียบไป 2-3 วินาที เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ผมลาออกจากโรงเรียนเพราะผมปฏิเสธไม่เข้าร่วมกองทัพ”
พอเขาพูดแบบนี้ออกไป เขาก็เหมือนจะเห็นร่างกายของตาแก่นั่นสั่นเล็กน้อย
แต่เด็กหนุ่มเตรียมใจที่จะเผชิญกับคำถามโกรธเกรี้ยวของพ่อไว้แล้ว เพราะสุดท้ายเขาก็เคยเป็นถึงวีรบุรุษที่ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุด แต่ตอนนี้ลูกชายของเขากลับกลายเป็นทหารหนีทัพที่น่าละอาย
อย่างไรก็ตาม ชายวัยกลางคนเพียงแค่เม้มปากเบา ๆ ก่อนจะถามว่า “ทำไม?”
หลินหยวนตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “ไม่มีเหตุผลครับ แต่ถ้าพ่ออยากฟังเหตุผล อาจเป็นเพราะว่าผมกลัวตายก็ได้ ผมกลัวว่าจะไม่มีใครดูแลพ่อหลังจากที่ผมตายไปแล้ว”
จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่องพูด “พ่อไม่โกรธผมเหรอ?”
“ทำไมฉันต้องโกรธด้วย?”
ชายขาเดียวยิ้มพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “แกเป็นลูกชายของฉัน หลินเทียนเชวี่ยคนนี้ แกคิดจะทำอะไร ฉันก็เคารพการตัดสินใจของแก ไม่ว่าแกอยากทำอะไรก็ทำไปเลย!”
“ถึงแม้ว่าแกอยากจะซ่อนตัวอยู่ในแนวหลังไปตลอดชีวิตโดยใช้ข้ออ้างเรื่องความดีความชอบที่ฉันทำมาทั้งชีวิต ก็จะไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งนั้น ถึงยังไงฉันก็เอาชีวิตครึ่งหนึ่งไปทิ้งไว้ในสนามรบ!”
พอกล่าวถึงเรื่องนี้ ชายวัยกลางคนก็ยกบุหรี่ในมือขึ้นมาสูดอีกครั้ง ก่อนจะหัวเราะจนสำลักไอเสียงดัง ถ้าสังเกตดูให้ดีแววตาของเขาฉายให้เห็นถึงความโดดเดี่ยวเล็กน้อย
เมื่อถึงเวลา ผู้คนจะฮึกเหิมร่วมกันเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง วีรบุรุษก็จะไร้อิสระ จนกระทั่งท้ายที่สุดวีรบุรุษคนนั้นก็จะมาถึงจุดจบ
ถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากไปยืนในสนามรบอีกครั้ง เพราะเขาจะได้ปลิดชีวิตไททันพวกนั้นให้เลือดไหลนองเป็นสายน้ำ!
ทางด้านหลินหยวนนิ่งเงียบมองผู้เป็นพ่อที่ดูเหมือนกำลังหงุดหงิดและสิ้นหวังอยู่นาน ในที่สุดเขาก็เอ่ยเพียงว่า “ขอบคุณครับพ่อ”
หลังจากเด็กหนุ่มพูดประโยคนี้ออกไป เขาก็เดินขึ้นไปบนห้อง ทิ้งหลินเทียนเชวี่ยให้นั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกับทำสีหน้าซับซ้อน
จากนิสัยของลูกชายที่เขาเข้าใจ อีกฝ่ายไม่ใช่คนที่กลัวตายอย่างแน่นอน
แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมเจ้าเด็กนั่นถึงเลือกที่จะปฏิเสธไม่เข้าร่วมกองทัพเช่นนี้?
เด็กคนนั้น… กำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่?
ดวงตาของหลินเทียนเชวี่ยหรี่ลงช้า ๆ ราวกับว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง
*******************************************
SkySaffron: โห มีพลังพิเศษแบบคู่ก็ว่าหายากแล้ว นี่มีถึง 4 พลัง!


แสดงความคิดเห็น