บทที่ 254 บุกยึดลานรวมพล
บทที่ 254 บุกยึดลานรวมพล
ลู่หยางหยิบชุดเจ้าอสูรอีก 19 ชุดออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ทุกคนเอาชุดใหม่ไปใส่ซะ”
เหล่าบรรดานักรบและพาลาดินนำชุดจากลู่หยางไปใส่ในทันที และมันก็ทำให้พลังชีวิตของพวกเขาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 7,000 หน่วย
“เลเวล 26 แต่มีพลังชีวิต 7,000 หน่วย สมแล้วที่มันเป็นอุปกรณ์ที่หัวหน้าไปหามา” โฮลี่ไลท์พูดอย่างตื่นเต้น
“ฮ่า ๆ ๆ แบบนี้ผมก็ชนกับมอนสเตอร์พวกนั้นได้อย่างไม่มีปัญหาแล้ว” ไป๋ฉือกล่าวพร้อมกับยกดาบยาวขึ้นมาเคาะโล่
“ใจเย็น ๆ ก่อน สาวน้อยเธอมานี่หน่อย” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับโบกมือเรียกหลานอวี่
“มีอะไรเหรอคะ?” หลานอวี่วิ่งเข้ามาด้วยแววตาเป็นประกาย
ลู่หยางหยิบน้ำยากุรุกุรุออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับพูดว่า
“กินน้ำยานี่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าค่าสติปัญญาจะเพิ่มขึ้น 1,700 หน่วย จากนั้นให้ใช้เอิร์ธสปิริตโฮลี่โพรเทคชั่นกับพวกเขา”
“ได้ค่ะ” หลานอวี่รับน้ำยามากิน แต่การดื่มน้ำยาเข้าไปขวดแรกมันก็ทำให้เธอกลายร่างเป็นลูกบอลตัวสีเขียวตัวอ้วนกลม
ลู่หยางอดที่จะขำขึ้นมาไม่ได้ เมื่อพวกเซี่ยหยู่เว่ยเห็นท่าทางของหัวหน้ากิลด์และสภาพของหลานอวี่ ทุกคนต่างก็ส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาเช่นกัน
หลานอวี่เพิ่งรู้ตัวว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอจึงยื่นปากพร้อมกับหันไปพูดทางลู่หยางว่า
“นี่คุณแกล้งฉันอีกแล้วงั้นเหรอ?”
“ฉันไม่ได้แกล้ง แต่นี้คือผลข้างเคียงของการดื่มน้ำยา” ลู่หยางกล่าวโดยพยายามกลั้นเสียงหัวเราะ
“โอเค ฉันจะเชื่อก็ได้” หลานอวี่ตอบ เพราะว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เธอจะมางอน ดังนั้นเธอจึงยังคงดื่มน้ำยาขวดต่อ ๆ ไป
ปุง! หลานอวี่กลายเป็นซอมบี้
ปุง! หลานอวี่กลายเป็นหนอน
…
หญิงสาวต้องดื่มน้ำยาไปจนถึงชุดที่ 6 ก่อนที่ร่างกายของเธอจะกลายเป็นราชากุรุกุรุและมีค่าสติปัญญาเพิ่มขึ้นมา 1,700 หน่วย
“ได้แล้ว” หลานอวี่พูดอย่างดีใจ
“เอาล่ะ รีบใช้เอิร์ธสปิริตโฮลี่โพรเทคชั่นเดี๋ยวนี้เลย ผลของน้ำยามันอยู่ได้เพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้น” ลู่หยางกล่าว
หลานอวี่พยักหน้าพร้อมกับท่องคาถาใช้งานสกิลเอิร์ธสปิริตโฮลี่โพรเทคชั่นกับตัวแทงค์ทั้ง 20 คน
เอิร์ธสปิริตโฮลี่โพรเทคชั่นสามารถเพิ่มพลังป้องกันให้ผู้เล่นเท่ากับ (30 + พลังโจมตีเวท/10) และมีผลเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เมื่อค่าสติปัญญาของหลานหยูเพิ่มขึ้นมา 1,700 หน่วย มันจึงทำให้พลังป้องกันของพวกฉิงชางเพิ่มขึ้นมาจากเดิมอีก 200 หน่วย
“โอ้โห ตอนนี้ผมมีพลังป้องกัน 860 หน่วยแล้ว พวกมอนสเตอร์ทำอะไรผมไม่ได้แน่นอน” บิทเทอร์เลิฟกล่าวอย่างตื่นเต้น
“แค่นี้มันยังไม่พอ เอาไอ้นี่ไปกินเพิ่มด้วย” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับหยิบน้ำยาป้องกันไฟขั้นกลางออกมาจากกระเป๋า
น้ำยาป้องกันธาตุไฟระดับกลาง (พิเศษ): เพิ่มความต้านทานธาตุไฟ 200 หน่วย
“เพิ่มความต้านทานธาตุไฟ 200 หน่วย! หัวหน้าในเกมมันมีน้ำยาแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย” ไป๋ฉือเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“น้ำยาปกติเพิ่มค่าความต้านทานธาตุไฟได้แค่ 100 หน่วย แต่น้ำยาพวกนี้เป็นน้ำยาพิเศษที่จินปู้ฮวนเจ้าของร้านขายยาเพลิงโลหิตสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง คุณสมบัติของพวกมันจึงได้เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 2 เท่า” ลู่หยางกล่าว
ทุกคนต่างก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
“หัวหน้า คุณใช้เงินไปเท่าไหร่กันแน่?” ซุนหยูถาม
ไม่ว่าจะเป็นชุดเซ็ตเจ้าอสูร +10 อัญมณีระดับ 10 หรือน้ำยาป้องกันธาตุไฟระดับกลางที่มีโบนัสพิเศษต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นของที่หายาก ทุกคนจึงไม่อยากจะคิดเลยว่าการรวบรวมของพวกนี้มาจะต้องสูญเสียเงินไปมากมายมหาศาลขนาดไหน
“ฉันว่าขั้นต่ำมันจะต้องเกินแสนเหรียญทองแน่ ๆ” โคลด์วิลโลว์กล่าวทำให้ทุกคนอ้าปากค้างอีกครั้ง
“แค่ทุกคนรู้ว่าฉันลำบากแค่นั้นก็พอแล้ว เอาล่ะทุกคนไปประจำตำแหน่งได้ วันนี้พวกเราจะต้องเข้ายึดลานรวมพล” ลู่หยางสั่งการ
“ครับ/ค่ะ” ทุกคนตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
กองกำลังทั้ง 6,000 คนเริ่มตั้งกระบวนทัพอย่างเป็นระเบียบ โดยเหล่าบรรดาตัวแทงค์ทั้ง 20 คนที่ได้รับอุปกรณ์ชุดใหม่ไปทำหน้าที่เป็นแนวหน้า ตามหลังด้วยหน่วยโจมตีระยะไกลและหน่วยรักษาผสมผสานกัน ทำให้โดยเฉลี่ยแล้วผู้ที่สวมชุดเจ้าอสูรแต่ละคนจะมีคนตามหลังอยู่ประมาณ 300 คน
การจัดทัพในรูปแบบนี้คล้ายกับการประสานงานระหว่างรถถังกับทหารราบในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรถถังจะทำหน้าที่เป็นแนวหน้าและให้ทหารราบเคลื่อนที่ตามหลังเพื่อคอยเก็บกวาดในระหว่างการบุกทะลวงเข้าใส่ศัตรู
เมื่อทุกคนเคลื่อนที่มาจนถึงลานรวมพล พวกเขาก็ได้พบกับเฟลมฟลายอิ้งสเนคและเฟลมสไปเดอร์หลายหมื่นตัว
เฟลมฟลายอิ้งสเนค (บอส)
เลเวล 30
พลังชีวิต 150,000/150,000
“ตัวแทงค์บุกไปข้างหน้าคอยดึงความโกรธของบอสเอาไว้ ส่วนหน่วยโจมตีระยะไกลให้รอฟังคำสั่งแล้วค่อยโจมตี” ลู่หยางส่งเสียงตะโกน
คราวนี้พวกฉิงชางไม่ได้กลัวมอนสเตอร์เหล่านี้อีกต่อไป พวกเขาจึงจัดแถวยืนห่างกัน 10 เมตรยกโล่ขนาดใหญ่และเดินไปด้านหน้าพร้อมกัน
ลานรวมพลมีความกว้างประมาณ 200 เมตร เมื่อเหล่าบรรดามอนสเตอร์ได้เห็นผู้บุกรุก พวกมันก็พุ่งเข้ามาจู่โจมพวกฉิงชางด้วยความโกรธ
ในบรรดามอนสเตอร์เหล่านี้เฟลมฟลายอิ้งสเนคมีพลังโจมตีมากที่สุด โดยมันมีพลังโจมตีสูงถึง 800 หน่วย พร้อมกับสามารถสร้างโบนัสความเสียหายธาตุไฟได้อีก 600 หน่วย การโจมตีของมันแต่ละครั้งจึงสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่า 1,400 หน่วยเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามเมื่อเฟลมฟลายอิ้งสเนคจู่โจมเข้าใส่ฉิงชาง มันกลับสร้างความเสียหายได้เพียงแค่ประมาณ 50 หน่วยเท่านั้น เพราะพลังป้องกันของฉิงชางถูกเพิ่มขึ้นมาจนสูงถึง 860 หน่วย และหลังจากที่เขากินน้ำยาป้องกันธาตุไฟเข้าไป มันก็ทำให้ค่าความต้านทานธาตุไฟเพิ่มขึ้นมาสูงถึง 550 หน่วย
ดังนั้นถึงแม้มอนสเตอร์จะบุกเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่พวกมันกลับไม่สามารถที่จะคุกคามพวกฉิงชางได้เลย
การโจมตีจากบอสจำนวนมากพุ่งเข้าหาพวกฉิงชางอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ฉิงชางรอมาประมาณ 30 วินาทีและได้เห็นว่าค่าความโกรธถูกดึงดูดเอาไว้ที่ตัวแทงค์อย่างมั่นคงแล้ว เขาจึงตะโกนสั่งการออกไปเสียงดังว่า
“หน่วยโจมตีระยะไกลเริ่มโจมตีได้ ให้เร่งการโจมตีไปที่มอนสเตอร์ทางด้านหลังก่อน”
ตราบใดที่ตัวแทงค์สามารถรับความเสียหายได้ มอนสเตอร์ที่อยู่ด้านหลังก็จะถูกมอนสเตอร์ที่อยู่ด้านหน้าบดบังเอาไว้จนไม่สามารถเคลื่อนที่เข้ามาโจมตีได้เลย วิธีการโจมตีในลักษณะนี้จึงกลายเป็นกลยุทธ์ที่มีชื่อเสียงในชาติก่อน และมันก็เป็นวิธีการบุกเบิกป้อมปราการที่บลัดไทแรนท์เคยออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยตัวเอง
ในตอนนั้นบลัดไทแรนท์มีประสบการณ์บุกเบิกสถานที่ต่าง ๆ มานานกว่า 1 ปีแล้ว เขาจึงมีความเข้าใจในตัวเกมอย่างลึกซึ้งและในระหว่างการให้สัมภาษณ์เขาก็ได้เปิดเผยถึงวิธีการต่าง ๆ ในการเข้ายึดครองป้อมปราการคริมสัน
อย่างไรก็ตามบลัดไทแรนท์ก็ยอมรับว่าหากเขารู้จักชุดเซ็ตเจ้าอสูร, การใช้น้ำยากุรุกุรุคอมโบกับสกิลเอิร์ธสปิริตโฮลี่โพรเทคชั่นและการใช้น้ำยาต้านทานธาตุไฟตั้งแต่แรก เขาก็คงจะบุกยึดป้อมปราการนี้ได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินไปหลายล้านเครดิตและสูญเสียกองกำลังกิลด์ไปมากกว่าครึ่งหนึ่งในการบุกป้อมปราการให้สำเร็จ
ในชาตินี้ลู่หยางได้ใช้ข้อมูลทุกอย่างที่บลัดไทแรนท์เคยให้สัมภาษณ์ในชาติก่อนมาบุกเบิกป้อมปราการคริมสันด้วยตัวเอง และเขาก็อยากจะรู้ว่าบลัดไทแรนท์ได้รับผลประโยชน์มากมายมหาศาลแค่ไหนหลังจากที่เขาสามารถบุกยึดป้อมปราการคริมสันไปได้แล้ว
ยึดป้อมของศัตรูโดยใช้วิธีการของศัตรูจากการที่ศัตรูให้สัมภาษณ์ สุดยอดไปเลย 5555


แสดงความคิดเห็น