6. ใครคนนั้น

ผู้สาวสายฝอ

-A A +A
อ่านต่อ

6. ใครคนนั้น

 

จะกลายเป็นเพื่อนใจตัวร้าย...ในวันที่เธอหายดี

------------------------

น้อยหน่าทำเรื่องลางานให้คนึงนิจส่งไปที่ฝ่ายบุคคล และคนที่ลงชื่ออนุมัติคือมาร์คุส ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทที่เธออยู่ใต้สายงานโดยตรง มาร์คุสสงสัยว่าทำไมสาว

น้อยที่มีภารกิจต้องดูแลประสานงานกับลูกค้าช่วยเขา ไม่มาทำงานวันที่สองแล้ว

“ให้คุณชนากานต์ขึ้นมาพบผมตอนบ่ายสามโมง” เขาสั่งเลขาให้ตามน้อยหน่ามาพบเพื่อสอบถาม

“คุณชนากานต์ลาช่วงบ่ายแล้วค่ะ บอส” เลขาตอบเขา

“โทรหาเธอเลย”

 

เลขาติดต่อน้อยหน่าได้แล้วโอนสายให้เขา

“คุณนิจเป็นอะไรไม่มาทำงาน ลาพักร้อน” เขาถามด้วยความสงสัย เพราะมีงานหลายอย่างที่ยังคั่งค้าง

“เธอไม่สบายค่ะ บอส”

“เป็นอะไร...มากหรือ” เขาพูดภาษาไทยได้ชัดเจน เพราะอยู่ที่นี่เกือบห้าปี

“บอสอยากไปเยี่ยมไหมคะ”

“เธออยู่บ้านตรงไหน ส่งโลเคชั่นมาให้ ผมจะให้คนขับรถไปดูพรุ่งนี้”

 

รุ่งขึ้นสุธนฝากให้ป้าสมใจดูแลเรื่องอาหารการกิน เขาบอกให้สั่งจากร้านในหมู่บ้านมาส่งไม่ต้องทำกับข้าวให้ลำบาก เขามีภารกิจประชุมเรื่องคดีสำคัญทั้งวัน จึงไม่มีเวลาที่จะโทรสอบถาม แต่สั่งให้ป้าโทรกลับไปถ้าเธอมีอาการผิดปกติ

 

มาร์คุสนายใหญ่ของคนึงนิจให้คนขับรถไปตามแผนที่ที่น้อยหน่าส่งให้ พอมาถึงหน้าบ้านจึงกดกริ่งที่รั้ว เห็นป้าอายุราวห้าสิบเศษออกมาเปิดประตูให้

“บ้านคุณคนึงนิจนะครับ”

“ใช่ค่ะ...จากไหนคะ” ป้าสมใจมองหน้าฝรั่งหนุ่มใหญ่อย่างสงสัย หรือเป็นแฟนของหญิงสาวที่บอกเธอเมื่อวาน

“ผมเป็นนายจ้างของคนึงนิจ”

ป้าสมใจเชิญเขาเข้าไปข้างในนั่งตรงโซฟารับแขก และขึ้นไปตามสาวน้อยลงมาพบ

“ป้าให้ฝรั่งรออยู่ข้างล่าง เขาบอกเป็นนายจ้างของคุณนิจ”

“เหรอคะ...ชื่ออะไร”

“มาร์คุส...”

“อ๋อ...เดี๋ยวลงไปค่ะ” เธอทำหน้าเฉยๆ จนป้าสมใจ งง...

 

คนึงนิจเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อยและเดินลงไปมองเห็นฝรั่งตัวโตหันมามองเธอขณะก้าวลงบันไดจนถึงชั้นล่าง

“สวัสดีค่ะ...ไม่ทราบมาหาหนูหรือคะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจด้วยใบหน้าเหมือนไม่เคยรู้จักกับมาร์คุสมาก่อน

“จำผมไม่ได้หรือ...บอสคุณไง” เขางง จนเขาต้องบอกเธอ

“ชื่ออะไรคะ...”

“มาร์คุส” เขาเอ่ยอย่างแปลกใจ

“อ๋อ...นึกออกแล้ว บอสให้หนูพาไปพบลูกค้าแล้วเราจะไปเที่ยวที่มาดามทุซโซ วันนี้นี่คะ ตายจริงลืมเลย” เธอทำหน้าตกใจ

“นิจ...นั่นมันเดือนหน้า ไม่ใช่วันนี้ เราจะไปลอนดอนด้วยกัน” เขาสงสัยว่าเธอทำไมพูดเรื่องราวดูสับสน และปะติดปะต่อได้เหมือนคนรู้เรื่อง แต่เวลาไม่ใช่ปัจจุบันเท่านั้นเอง

“คุณเป็นบอส...น่ารักมากเลยค่ะ นิจหลงรักบอสมากๆ เลย” เธอพูดความในใจออกมาตรงๆ จนเขาตกใจเหมือนกัน เพราะไม่เคยเห็นเธอพูดอะไรแบบนี้

 

มาร์คุสเดินไปที่ป้าสมใจ แล้วเชิญให้เดินออกไปคุยกันที่สวนหน้าบ้าน

“ป้า...นิจเป็นแบบนี้กี่วันแล้ว”

“ป้าเพิ่งมาทำงานเมื่อวานค่ะ”

“เธออยู่บ้านกับใคร” เขาถามอย่างสงสัย

“กับรองผู้กำกับค่ะ...เธอเรียกว่า คุณพ่อ” คำตอบของป้าสมใจทำหนุ่มฝรั่งสงสัย เพราะเขาเคยถามเรื่องส่วนตัวของเธอ แต่เธอตอบเลี่ยงๆ ว่าอยู่กับญาติผู้ชาย

“เธอต้องไปพบแพทย์...” เขาสรุปในใจแล้วว่าจะให้เธอลางานยาว เพราะป่วยขนาดนี้ คงต้องกลับไปปรึกษากับผู้จัดการฝ่ายบุคคลว่าจะทำยังไงกับเธอตามกฎหมายแรงงาน

 

มาร์คุสนึกในใจเสียดายสาวน้อยคนนี้มาก เพราะเท่าที่ดูเธอแล้วเป็นคนที่น่ารัก ช่วยเหลือเขาเรื่องการงานได้ดีกว่าเลขาของเขาเสียอีก และที่สำคัญเขาเริ่มชอบเธอด้วยอุปนิสัยส่วนตัวที่ร่าเริงและดูเป็นธรรมชาติ แววตาสดใสมองโลกในแง่ดี เขาทำงานด้วยยังรู้สึกมีความสุข เหมือนเขามีเพื่อนข้างกายที่รู้ใจเขาไปหมดทุกเรื่อง เธอจำได้แม้กระทั่งอาหารที่เขาชอบ การแต่งกาย และรสนิยมการชอปปิ้งของเขาที่ไม่ต้องเอ่ยก็รู้ใจไปหมด

 

หนุ่มฝรั่งเช่นเขาที่ผ่านมาเจอแต่สาวไม่จริงใจ ไม่เคยเอาใจใส่ว่าเขาจะรู้สึกยังไง ชอบไม่ชอบอะไร และบางคนเอาเปรียบเห็นแก่ตัว มีแต่จะให้เขาเอาใจตลอดไม่เคยมองว่าเขาก็อยากให้อีกฝ่ายเอาใจและรับรู้ถึงความรู้สึกแคร์กันบ้าง หัวใจเขาตอนนี้เศร้าและกังวลกับอาการป่วยของเธอ เขายังรู้สึกในความเป็นกันเองของเธอตลอดมา อารมณ์หนึ่งที่เขาอยากให้เธอเป็นอย่างนี้ตลอดไป คือความเป็นเพื่อนไม่ว่าจะทางใจหรือทางกาย เขาอยากให้เธอคิดถึงเขาในจุดนี้ แต่วันนี้แววตาของเธอมองดูเขาอย่างเฉยเมย ผิดกับแต่ก่อนที่ทำงานเดินทางไปด้วยกัน เขาจะเห็นเธอคอยดูแลเอาใจใส่เขาทั้งในเวลางานและนอกเวลา ประหนึ่งเป็น confidential secretary เลขาที่กำความลับให้ทุกเรื่อง

 

ก่อนที่เขาจะกลับเข้าไปเพื่อบอกลาคนึงนิจ เขาสั่งป้าสมใจว่าถ้าเธออาการผิดปกติมากกว่านี้ ให้โทรหาเขาด่วน เขายื่นนามบัตรส่งให้ป้าเก็บไว้

 

“นิจ...ผมกลับนะครับ มีอะไรด่วน ให้ป้าโทรหาผมด้วย” เขาสั่งเธอมองหน้าสาวน้อยอย่างกังวล

“ค่ะ...นิจไม่ได้เป็นอะไรเลยนะคะ บอสไม่ต้องกังวลค่ะ” เธอตอบเสียงเน้นคำอย่างชัดเจน

“Call me in person if you like. โทรหาผมส่วนตัวถ้าอยากคุย” เขาบอกเธอด้วยสายตาวิงวอน ก่อนเดินออกจากบ้านเขาสวมกอดตบหลังเธอเบาๆ ให้กำลังใจ

 

ป้าสมใจออกไปส่งหนุ่มฝรั่งที่หน้าบ้าน ป้าส่งยิ้มให้เขามองดูท่าทางว่าเขาน่าจะใจดีกับสาวน้อย นางเดินกลับเข้าบ้านไม่เห็นคนึงนิจที่ห้องรับแขก จึงขึ้นไปดูที่ห้องของสุธน เห็นสาวน้อยเอาตุ๊กตาตัวเมื่อวานมาหอมแก้มและยิ้มอยู่คนเดียว

“คุณนิจ...ลงไปทานข้าวเถอะค่ะ วันนี้ท่านรองผู้กำกับจะกลับดึก” ป้าบอกเธอให้ตามลงไปที่ครัว นางถอนหายใจกับสาวน้อยว่าเธอเป็นอะไรมากมายขนาดนี้

 

สุธนกลับมาถึงเกือบสี่ทุ่ม หน้าตาอิดโรยเหมือนทำงานหนักมาทั้งวัน ป้าสมใจรีบถามว่าจะกินอะไรไหม แต่เขาส่ายหน้าว่าอิ่มมาจากที่ทำงานแล้ว เขาขอตัวขึ้นไปดูสาวน้อยของเขาที่เมื่อคืนได้นอนกอดเธอทั้งคืน กลิ่นหอมจากผมและแป้งที่ทาตัวเธอยังหอมละมุนอยู่ในความรู้สึกของเขา ยามที่ได้มองหน้าเธอเต็มตาเขายิ่งกระหวัดไปถึงอารมณ์เมื่อคืนอีกครั้ง

“เป็นไงมั่งหนูนิจ...”

“คุณพ่อหรือคะ...วันนี้เพื่อนหนูมาเยี่ยมด้วยล่ะ” เธอกระโดดลงจากโซฟาตัวน้อยที่นั่งอยู่ข้างเตียงเข้ามาโอบเอวเขา

“วันนี้ผมลืมสั่งเตียงเล็กมาให้...” เขางานยุ่งจนลืมเรื่องนี้ไป

“พรุ่งนี้ผมจะให้คนที่ทำงานสั่งให้” เขารีบกดไปเขียนในไลน์ของจ่าแดงทันที

“ใคร...” เขาทำหน้าสงสัย

“เขาเป็นฝรั่งตัวใหญ่...” เธอทำท่าตัวโตให้สุธนดูอย่างน่ารัก

 

ป้าสมใจเปิดประตูเข้ามารายงานสุธนว่ามีเจ้านายฝรั่งของหญิงสาวมาเยี่ยมถึงบ้าน เขาพยักหน้าเข้าใจว่าคงเป็นคนนั้นที่เธอเคยพูดถึง แต่วันนี้คนึงนิจกลับบอกว่าเป็นเพื่อน

 “หนูนิจ...เพื่อนคนนี้ชื่อมาร์คุส ใช่ไหม”

“ทำไมคุณพ่อ...รู้ชื่อเขาล่ะ”

“ก็เคยเล่าให้ฟังไม่ใช่เหรอ”

“ไปลอนดอนและจะไปเที่ยวด้วยนี่” เขาย้อนเธอ

“ใช่เลย...คนนี้ล่ะที่เป็นที่รักของมาดามทุซโซ” เธอยิ้มอย่างเบิกบาน

“เป็นเพื่อนรักหรือเปล่า” เขาถามขึ้น

“ใช่สิคะ...เป็นที่รักของมาดามเลยค่ะ” เธอยังตอบอย่างชื่นชม

“แล้วมาดามทุซโซ...ใครกัน” สุธนถามไปให้เธอสบายใจ เขาเครียดมากพอแล้ววันนี้เลยไม่อยากทำอะไรให้เครียด คุยกับสาวน้อยคนนี้ไปเรื่อยเปื่อยก็สบายใจดี

“เพื่อนรักของนิจเองค่ะ...นิจต้องไปหาเธอทุกคืนนะคะ” เธอเล่าเป็นตุเป็นตะ สุธนเหมือนจะเห็นจริงตามไปด้วย

“คืนนี้นอนเตียงนี้กับผมนะ...” เขาบอกเธอเพื่อย้ำให้เธอเข้าใจ กลัวว่าเธอจะตื่นตระหนกเหมือนครั้งที่ยังไม่ได้มีอาการแบบนี้

“ค่ะ...คุณพ่อคือเพื่อนที่รักของหนูเหมือนกันนะคะ” เธอพูดยิ้มละไมและยังกอดเอวเขาอยู่

 

สุธนคิดในใจ... ‘ใจกูนี่จะเป็นพ่อพระอยู่ได้สักกี่วันกัน ถ้าไม่ตบะแตกไปก่อน เธอกอดเอวแน่นจนหัวใจเต้นดังรัว...ขนาดนี้’

“ถ้าเรานอนกอดกัน...และเผลอทำอะไร นิจโกรธผมไหม” เขาถามด้วยหัวใจร่ำร้อง

“จะโกรธทำไม...คุณพ่อใจดีอยู่แล้ว” เธอเงยหน้าขึ้นมองเขายิ้มอย่างใสซื่อ

สุธนพึมพำกับตัวเอง

“เฮ้อ...จะกลายเป็นเพื่อนใจตัวร้าย...ในวันที่เธอหายดีนะสิ”

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.