บทที่ 201 เป็นมันอีกแล้ว!!
“นะ...นายครับ...มะ...มีข้อมูลใหม่ที่อัปเดตเมื่อสักครู่เกี่ยวกับโรงพยาบาลนั้นมาส่งครับ” แฮ็กเกอร์คนเดิมที่ถูกผมเอาปืนจ่อเดินถือเอกสารเข้ามาด้วยทีท่ากล้า ๆ กลัว ๆ
และเมื่อผมหยิบเอกสารนั้นขึ้นมาพิจารณา พร้อมกับแฮ็กเกอร์คนเดิมที่ยังใจดีสู้เสือยืนรอเพื่อที่จะอธิบายข้อมูลในส่วนที่ผู้เป็นนายอย่างผมอาจจะสงสัยอยู่ เพราะตัวแฮ็กเกอร์หนุ่มรู้ดีแน่ ๆ ว่าเจ้านายของเขาต้องถามถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
และในวินาทีนั้นเอง...สิ่งที่แฮ็กเกอร์คาดการณ์เอาไว้ก็เป็นจริง
เพราะหลังจากที่เจ้านายของเขาได้เห็นข้อมูลในมือ ใบหน้าคมเข้มก็เงยหน้าขึ้นไปมองที่แฮ็กเกอร์หนุ่มเพื่อขอคำอธิบายในทันที
“คือเมื่อกี้ระบบของโรงพยาบาลนั้น จู่ ๆ ก็เด้งชื่อคุณหมอคนหนึ่งขึ้นมาเพื่อลงการตรวจ แต่พอผมจะทำการแฮ็กเข้าไปดูอีกครั้ง ก็ปรากฏว่าข้อมูลของหมอคนนี้และรายละเอียดอื่น ๆ หายเกลี้ยงเลยครับ เหมือนกับว่าถูกสั่งลบกะทันหันและน่าเสียดายตรงที่การลบเป็นการลบแบบถาวร จึงทำให้ไม่สามารถกู้ข้อมูลขึ้นมาได้ครับ” แฮกเกอร์หนุ่มอธิบายรัว
ผมที่ในตอนแรกรู้สึกใจชื้นขึ้นมา แต่ทว่า...หลังจากที่ฟังคำอธิบายของลูกน้องที่ในท้ายที่สุดก็เหมือนจะคว้าน้ำเหลว มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดมือตงิดอยากจะหยิบปืนมายิงสักนัดสองนัด
ในขณะที่ผมขมวดคิ้วแสดงสีหน้าไม่พอใจ ไอ้แฮ็กเกอร์หนุ่มก็รีบลนลานอธิบายเพิ่มเติมทันที
“อ่อ...ยะ...ยังมีอีกอย่างครับนาย” แฮ็กเกอร์หนุ่มเอ่ยบอกเสียงสั่นกรอบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อกาฬ เหมือนกับว่ามันรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ในใจ
ผมปล่อยให้มันพูด แม้ในใจแทบจะหมดความอดทน...
“ชะ...ชื่อที่ ผะ...ผมจดเอาไว้ข้างล่างสุดคือชื่อที่แผนกลงทะเบียนของโรงพยาบาลคีย์เอาไว้ก่อนจะลบทิ้งครับ” แฮ็กเกอร์คนเดิมพูดตะกุกตะกักในตอนแรก แต่พอได้เห็นสายตาอำมหิตของผมที่ส่งไป มันก็รีบอธิบายระรัวทันที
และเมื่อผมเหลือบตาไปดูตามที่แฮ็กเกอร์บอก ก็ทำให้ผมถึงกลับต้องขมวดคิ้วเพราะอ่านลายมือมันไม่ออก
“นี่ชื่อคนหรอ กูนึกว่ามึงวาดไส้เดือน” ผมส่งสายตาอำมหิตไปให้ จนแฮกเกอร์หนุ่มถึงกับลนลาน
“ชื่ออะไร...” ผมยื่นกระดาษคืนไปให้มันอ่านอีกครั้ง
“เอ่อ...อ๋อ...มาคินทร์...ครับนาย” แฮ็กเกอร์คนเดิมพยายามเพ่งลายมือของตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเอ่ยชื่อที่ทำให้ผมถึงกับถลึงตาแข็งกร้าวใส่ทันที
“มึงพูดอีกทีซิ...ชื่ออะไรนะ!!” ผมถามย้ำอีกครั้ง ในขณะที่เส้นเลือดในสมองของผมก็เดือดปุด ๆ ไปพร้อมกัน
“มะ...มาคินทร์...ครับนาย” แฮ็กเกอร์หนุ่มตอบกลับ พร้อมกับหลบสายตาอำมหิตของผมทันที
ปัง!!
ผมทุบโต๊ะเสียงดังลั่นห้อง จนคนที่อยู่ในห้องสะดุ้งเฮือก
“ไอ้มาคินทร์นี่มึงอีกแล้วหรอ...คงไม่อยากแก่ตายสินะ” ผมคำรามลั่น ดวงตาแข็งกร้าว ร่างกายแผ่รังสีแห่งความคั่งแค้นจนคนรอบข้างรู้สึกได้
มือผมกำกระดาษข้อมูลแน่นจนยับยู่ยี่ ใจผมที่เต้นระรัวจนแทบอยากจะกระโจนบึ่งรถไปลากคอมันมากระทืบให้สาสม แม่งกล้าดียังไงมาแอบนัดเมียผมไปเจอ
ผมที่เดือดปุด ๆ เพราะถึงแม้จะรู้ว่าลูกนอกสายตาของไอ้ผู้นำตระกูลวงศ์เวชรุ่งเรืองอย่างมัน จะเก่งถึงขั้นเรียนหลายสายทั้งด้านการแพทย์ เภสัช และการบริหาร แต่ไม่คิดว่าโรงพยาบาลแห่งนี้จะข้องเกี่ยวกับมัน หรือว่ามันจะเป็นเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้กันนะ
และเมื่อความคิดนี่แวบเข้ามา ก็ถึงกับทำให้ผมแสยะยิ้มร้ายขึ้นมาทันที
(หึหึ...ปกติกูไม่สนใจโรงพยาบาลเล็ก ๆ ที่เพิ่งเปิดใหม่แบบนี้หรอกนะ แต่ในเมื่อมึงอยากจะมายุ่มย่ามกับเมียกูละก็...งั้นก็ได้...เดี๋ยวกูจะจัดโรงพยาบาลมึงให้แหลกเป็นจุณไปเลย)
“กิต มึงไปสืบมาให้หมดเลยนะเกี่ยวกับโรงพยาบาลนี้ ขุดให้หมด กูอยากรู้ว่ามีใครถือหุ้นบ้าง เอาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งไปสืบให้ได้ว่าเมียกูไปทำอะไรที่โรงพยาบาลนั้น ในเมื่อไม่ได้ข้อมูลจากการแฮ็ก มึงก็จัดคนไปสืบให้ถึงที่ กูต้องรู้รายละเอียดทุกอย่างโดยเร็วที่สุด” ผมที่ออกคำสั่งได้ด้วยสายตามาดมั่นและแข็งกร้าว พร้อมกับใจที่ร้อนดั่งไฟเผา
และหลังจากที่ผมสั่งงานเสร็จ ผมก็รีบกลับไปรอแม่เมียตัวดีของผมที่เพนท์เฮ้าส์ทันที หึหึ...โกหกดีนัก เดี๋ยวพ่อจะจัดให้ขาเปลี้ยเดินออกไปเที่ยวเล่นไหนไม่ได้สักสองสามวันเลยดีไหม
ณ Penthouse เซบาสเธีย
หลังจากรอคอยอยู่สักพักใหญ่ แม่กวางน้อยเมียตัวแสบของผมก็ได้กลับมาถึงห้อง...
เธอที่ดูชะงักเล็กน้อยหลังจากที่เห็นผมนั่งไขว่ห้างรออยู่กลางห้องโถง
“อ้าว...เฮีย...ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วจังเลยค่ะ” ใบหน้าสวยยิ้มทรงเสน่ห์ พร้อมกับเสียงหวานที่ส่งออกมา ถึงกับทำให้ใจที่ขมุกขมัวอยู่ก่อนของผมผ่อนคลายลงในทันที
แต่ถึงกระนั้นผมก็ต้องรีบปรับสายตาที่มองเธออ่อนโยน ให้กลับมาสุขุมตามเดิม (โอ๊ยยยย...อยากกอดเมียโว๊ยยย...ฮึบไว้ อดกลั้นไว้ มึงต้องหาทางกินเมีย เอ๊ย ลงโทษเมียให้ได้ นิ่งไว้...นิ่งไว้ไอ้เสือเซฟ)
“พอดีวันนี้เฮียเคลียร์งานเสร็จเร็วนะคะ ก็เลยรีบกลับบ้าน” หลังจากที่ผมสะกดจิตเรียกสติตัวเองเสร็จ ก็ได้เอ่ยเสียงเรียบนิ่งตอบเธอกลับไป
“อ้าวหรอค่ะ...แล้วทำไมเฮียไม่โทรมาบอกเอลิซก่อนล่ะ เอลิซจะได้รีบกลับมา...เนี้ยเดินเล่นเพลินเลย” เธอที่ทำหน้าตาบ้องแบ๊วกลบเกลื่อนความลับของตัวเอง
(หึหึหึ ดูน่ะดู ยังทำตีเนียนโกหกผัวอยู่อีกนะ อย่างนี้มันน่าจับกดให้จมเตียง)
“อ๋อเหรอออออ...ค่ะ” ผมที่ผมอดหมั่นไส้เธอไม่ได้ส่งน้ำเสียงประชดประชันออกไป
เธอที่ดูเหมือนจะรู้ตัวว่าความลับที่ตัวเธอเองตั้งใจจะปกปิดผมเอาไว้ ผมน่าจะระแคะระคายแล้ว ถึงกับทำตัวเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก
และก่อนที่ผมจะทันได้พูดได้ถามอะไรเธอออกไป เธอก็รีบตรงเข้ามาคุกเข่าอยู่ที่ด้านหน้าของผมทันทีจากนั้นเธอก็โน้มตัวเข้าสวมกอดผม พร้อมกับเอ่ยคำหวานออกมาชโลมล้างความขุ่นมัวที่อยู่ในใจของผมจนหมดสิ้น
“คิดถึงเฮียจังเลยค่ะ เฮียเหนื่อยไหมคะ หิวหรือเปล่าอยากกินอะไรไหม...หื้ม”
นั้นไง...ลูกอ้อนทำลายล้างที่ถึงกับทำให้ใจของผมเหลวหลอมละลาย ที่ถูกเธอส่งมามันทำให้ผมแทบจะลืมสิ้นถึงความหมองใจที่มีต่อเธอ
และผลของการกระทำเหล่านั้นก็ทำผมได้ตกเป็นทาสรักของเธออีกครั้ง
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 29
แสดงความคิดเห็น