บทที่ 200 มีคนช่วยปิดบัง!!
ตื๊ดดดด ~~ ตื๊ดดดด ~~
ผมที่นั่งอดทนต่อไปไม่ไหวจัดการยกโทรศัพท์โทรหาเธอด้วยใจที่ร้อนรน เพราะถึงอย่างน้อยถ้าได้ยินเสียงว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก ก็อาจจะพอที่จะทำให้ผมเบาใจลงได้บ้าง
ติ๊ด ~~
‘ค่ะเฮีย...’ เสียงหวานเอ่ยตามสายชโลมให้ใจที่แทบจะลุกเป็นไฟอ่อนยวบยาบ
‘คิดถึงจังเลยค่ะ ทำอะไรอยู่ค่ะ’ ผมเอ่ยถามออกไปด้วยหัวใจที่เต้นตึกตัก จากอารมณ์ที่ขุ่นมัวก็คลายลงในทันที
‘พอดีเอลิซมาเดินเล่นอยู่ห้างใกล้ ๆ บ้านอ่ะค่ะ’ แต่แล้วคำตอบของเธอก็ถึงกับทำให้หัวใจของผมห่อเหี่ยวขึ้นมาอีกครั้ง
ทำไมเธอเลือกที่จะโกหกผมกันล่ะ...
‘อ๋อเหรอ...’ และผมก็ได้เผลอลืมตัวตอบกลับเธอไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่โอเคเลย
‘คะ...ค่ะ’ ส่วนเธอที่น่าจะจับสัญญาณบางอย่างจากน้ำเสียงของผมได้ ถึงกับทำให้เธอรีบตอบผมกลับมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
และถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกเศร้าใจที่เธอไม่ยอมบอกความจริงว่าเธอไปทำอะไรอยู่ที่ไหน แต่เป็นเพราะว่าความรู้สึกที่ไม่อยากเสียเธอไปมันวาบผ่านขึ้นมา จึงทำให้ผมเลือกที่จะไม่ซักไซ้ไล่เลียงกับเธอต่อ เพราะผมคงทำใจไม่ได้ถ้าหายจะต้องเสียเธอไปเพียงเพราะความไม่ไว้ใจของผมที่มีต่อเธอ และอีกอย่างเรื่องนี้มันก็ไม่ยากเกินความสามารถของผมที่จะสืบหาความจริงด้วยตัวเอง
‘ถ้างั้นก็เดินเล่นให้สนุกนะคะ เฮียไม่กวนแล้ว’ ผมที่คิดทบทวนเป็นอย่างดีแล้วเอ่ยบอกเธอไป พร้อมกับปรับน้ำเสียงให้นุ่มนวลอ่อนโยน
‘ค่ะ...’ เสียงหวานเช่นเคยเอ่ยตอบกลับมา
และแม้ว่าในน้ำเสียงของเธอจะยังมีความแจ่มใสร่าเริงอยู่ในนั้น แถมยังดูไม่เหมือนคนที่กำลังเจ็บป่วยอะไรอยู่อีกด้วย แต่ทว่า...ถึงยังไงผมก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ และทำไมเธอถึงขั้นต้องแอบไปโรงพยาบาลอื่นโดยที่ไม่ให้ผมรู้ด้วย...
ในขณะที่ผมกำลังจะกดวางสาย ส่วนลึกที่อยู่ภายในหัวใจของผมก็เลือกที่จะสั่งให้ผมได้ทำอย่างที่ใจปรารถนา โดยการบอกความรู้สึก ณ เวลานี้ของตัวเองออกไปให้เธอได้รับรู้
‘อ่อ...แล้วก็เฮียขอให้เอลิซรู้เอาไว้อย่างหนึ่งนะคะว่า...ไม่ว่ายังไง...เฮียก็รักและเชื่อใจเอลิซเสมอ...รู้ไหมคะ...สุดที่รักของเฮีย ~~’
หลังจากที่ผมกดวางสาย แม้ว่าความกังวลใจดูจะเบาบางลงไปได้บ้าง แต่ทว่า...ในความเป็นจริงแล้วมันก็ยังคงสลัดความอยากรู้ที่เธอเลือกจะปิดบังบางสิ่งกับผมเอาไว้ให้ออกไปไม่ได้อยู่ดี
และในไม่ช้ากิตก็ได้พาหัวหน้าแฮ็กเกอร์เข้ามารายงานผล...
“ตรวจสอบหมดทุกอย่างแล้วครับ...เอ่อ...” แฮ็กเกอร์หนุ่มลังเลทำสายตาเลิ่กลั่ก
“เอ่อ...อะไรของมึงวะ!!” ผมที่รู้สึกรำคาญท่าทีของมันถึงกับตวาดออกไป (แม่บอกเล่า...ไม่รู้หรือไงว่าคนกำลังร้อนใจ)
“เอ่อ...มะ...ไม่พบข้อมูล...อะไรเกี่ยวกับนายหญิงเอลิซเลยครับ” แฮ็กเกอร์หนุ่มกลั้นใจตอบออกมาอย่างรวดเร็วแม้ว่าใบหน้าของเขาจะดูนิ่งเรียบ แต่ทว่า...เนื้อตัวกลับสั่นเทิ้มไปด้วยความหวาดกลัว
“มึงว่าไงนะ...!!!” ความโมโหของผมพุ่งทะยานขึ้นมาทันทีหลังจากได้ฟังคำตอบจากลูกน้อง พร้อมกับมือที่เปิดลิ้นชักหยิบปืนขึ้นมาจ่อไปที่แฮ็กเกอร์หนุ่มทันที
ภาพตรงหน้าทำให้แฮ็กเกอร์หนุ่มตัวแข็งทื่อ ส่วนกิตก็ได้รีบวิ่งมาที่ผมทันที
“ดะ...เดี๋ยวครับนาย...จะ...ใจเย็น ๆ ก่อนครับ” กิตรีบเข้ามาห้าม พร้อมกับยังพยายามจับปืนที่อยู่ในมือของผมให้ลดต่ำลงก่อนที่มันจะลั่นออกไปเจาะกลางหน้าอกแฮ็กเกอร์มือหนึ่ง
“ฟังเด็กมันอธิบายก่อนนะครับนาย” กิตพูดเตือนสติ โดยทื่มือยังจับประคองปืนที่อยู่ในมือของผมเอาไว้ เพราะกลัวว่ามันจะลั่น
ผมปล่อยปืนให้กิตไป ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างคนหัวเสีย และพยายามระงับสติอารมณ์ตัวเองเพื่อฟังคำอธิบาย
“ถ้าไม่ได้คำตอบที่ดี...เป่าหัวแม่งทิ้งซะ!!” ผมหมุนเก้าอี้หันข้าง ออกคำสั่งอย่างฉุนขาด
“คะ...คือ...ยะ...อย่าง...นะ...นี้....คะ...ครับ” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไอ้แฮ็กเกอร์มันกลัวจนตัวสั่นมากขนาดไหน ถึงกลับพูดตะกุกตะกักฟังไม่ได้ความ
ความรู้สึกรำคาญยิ่งเพิ่มพูนเมื่อเจอความหวาดกลัวของลูกน้องที่มีต่อผมให้ตอนนี้ ทำให้ตัวผมที่ใจร้อนอยากจะฟังเหตุผลให้รู้เรื่องอยู่ก่อนแล้ว ยิ่งรู้สึกโมโหมากขึ้นไปอีก
“กิตเอามันออกไปให้พ้นหน้ากู แล้วมึงค่อยเข้ามารายงานให้กูฟังแทน” ผมแค่นเสียงเย็นพูดอย่างหัวเสีย สั่งลูกน้องคนสนิทออกไป เพราะถ้าขืนรอมันติดอ่างกว่าจะได้อธิบายจนเข้าใจ มันคงได้โดนลูกตะกั่วของผมเจาะกบาลก่อนแน่ ๆ
และไม่ต้องรอให้ผมอนุญาตไอ้แฮ็กเกอร์มือหนึ่งก็รีบก้าวเท้าออกไปอย่างไว โดยที่มีกิตรีบเดินตามออกไปสอบถามข้อมูลติด ๆ ก่อนที่ไม่นานกิตก็เดินเข้ามารายงานสิ่งที่รู้ทันที
“นายครับ...ทีมแฮ็กเกอร์แจ้งว่า...ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับนายหญิงจริง ๆ นะครับ เหมือนกับว่านายหญิงไม่เคยไปที่โรงพยาบาลนั้นเลยครับ” กิตที่รายงานด้วยความแปลกใจเช่นกัน
“มึงแน่ใจนะ ว่าเช็กชัวร์แล้ว” ผมถามย้ำ พร้อมกับคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันด้วยความฉงน
“จริงครับนาย ผมยืนดูพวกเขาเช็กข้อมูล แม้กระทั่งตอนที่แฮ็กเข้ากล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลนั้น ก็ไม่เห็นแม้กระทั่งว่านายหญิงเดินเข้าไปในโรงพยาบาลนั้นเลยนะครับ” กิตที่ทั้งงง ทั้งสงสัย กับสิ่งที่ตัวเองได้เห็นกับตาตั้งแต่ตอนที่พวกแฮ็กเกอร์เริ่มทำงาน จนถึงกระทั่งตอนที่ได้รับข้อมูลจากทีมแฮ็กเกอร์
“แปลก...” ผมงึมงำกับตัวเอง
“หรือว่าไอ้ทดมันมั่วว่ะ” ผมโพล่งถามความคิดเห็นไอ้กิต
“เรื่องนั้นเราเช็กจากจีพีเอสแล้วครับนาย รถของนายหญิงได้ไปที่โรงพยาบาลนั้นจริงครับ” กิตบอกเล่าไปตามความจริง
“เอ้า...แล้วทำไมถึงไม่เจอว่าเอลิซเข้าไปในโรงพยาบาลนั้นล่ะว่ะ” ผมที่ถามไป พร้อมกับคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันไปจนเป็นปม
“หรือว่าเอลิซจะแอบออกไปอีกทาง แล้วไปที่อื่นต่อ” ผมตั้งข้อสงสัย
“ในส่วนนั้นผมได้ให้ทีมแฮ็กเกอร์เช็กกล้องวงจรปิดรอบนอกที่ไม่เกี่ยวกับของโรงพยาบาลนั้นแล้วครับ ก็ไม่พบความผิดปกติอะไรเลยครับนาย ไม่พบว่านายหญิงหรือผู้หญิงที่มีลักษณะเหมือนนายหญิงขึ้นรถหรือออกไปทางไหนเลยครับ” กิตที่มั่นใจว่าเช็กอย่างละเอียดแล้วเอ่ยอธิบาย
(-*-) คิ้วเข้มของผมยิ่งขมวดเข้าหากัน ทำไมมันแปลกแบบนี้ว่ะ ยังกับมีใครคอยช่วยปกปิดอย่างนั้นแหละ ถ้าที่กิตและทีมแฮ็กเกอร์รายงานมาเป็นเรื่องจริง เท่ากับว่าเอลิซไปที่โรงพยาบาลนั้นจริง และได้รับการตรวจจริง เพียงแต่ว่าร่องรอยทุกอย่างถูกลบกลบหายไปเหมือนกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย
ผมที่เงียบอย่างใช้ความคิด ก่อนที่ข้อมูลใหม่จะถูกส่งมาที่มือ...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 24
แสดงความคิดเห็น