บทที่ 156 ยุบหนอพองหนอ

ความคิดที่ถึงกับทำให้เลือดในกายหนุ่มพลุ่งพล่าน น้ำลายเหนียวถูกกลืนลงคออย่างช้า ๆ ด้วยความยากลำบากทันที เมื่อสมองจินตนาการถึงเรือนร่างอันเปลือยเปล่าที่คุ้นเคย

ความแข็งขืนที่อยู่กลางกายเริ่มแสดงตัวเรียกร้องความต้องการในใจลึก ๆ ขึ้นมาทันที เม็ดเหงื่อที่ทยอยผุดออกมาเนื่องจากความร้อนที่วิ่งพล่านอยู่ในกายหนุ่ม ทำให้ตัวผมเองต้องรีบสงบสติอารมณ์ พร้อมกับจัดการสยบไอ้ลำเอ็นตัวเขื่องที่ดื้อดึงอยากจะชูตัวออกมา เพราะถ้าขืนปล่อยไว้ เกรงว่าวันนี้ผมคงต้องผิดคำพูดกับเธอแน่ ๆ เรื่องที่ว่าวันนี้ผมจะอดทนไม่รบกวนเธอเพราะผมอยากให้เธอได้พักผ่อน...

‘ใจเย็น ๆ ก่อนสิวะไอ้ลูกรัก’ ผมพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับตบไปที่ไอ้ลูกชายที่อยู่ตรงกึ่งกลางกายของตัวเองเบา ๆ เพราะหลังจากที่พ่อของมันจินตนาการถึงแม่มันว่าไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแล้ว ไอ้ลูกชายก็เหมือนจะรู้งานรีบผงกหัวขึ้นมาทำตัวเตรียมโล่อยากจะไปทักทายแม่มันทันทีเลยเชียว

‘เฮ้ออออ...ยุบหนอพองหนอ ยุบหนอพองหนอ ใจร่ม ๆ หายใจเข้าลึก ๆ เว้ยไอ้เซฟ’ ผมที่ไม่เพียงแต่ต้องพยายามสงบไอ้ลูกชายตัวเขื่องของตัวเองเท่านั้น ยังต้องพยายามสะกดจิตตัวเองด้วย พร้อมกับสลัดความคิดอกุศลที่มีต่อเธอให้ออกไปจากสมอง โดยการกำหนดจิตของตัวเองให้มีสติมากยิ่งขึ้น

แต่ก็อย่างว่าแหละผมมันคงไม่ได้ถูกกำหนดให้เกิดมาเป็นคนดีสักเท่าไรนัก เมื่อความคิดที่จะทำดีของผมมันมักจะพ่ายแพ้ให้กับความคิดเลว ๆ ของตัวเองเสมอ หรือไม่เทวดาฟ้าดินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่เป็นใจให้ผมทำดี นั้นก็เพราะว่า ในขณะที่ผมกำลังพยายามควบคุมสติของตัวเองอยู่นั้น...เจ้าของร่างนวลเนียนก็เกิดขยับตัวขึ้นมา...

อื้ออออ ~~

เสียงครางหวานออกมาจากลำคอคนใต้วงแขน ทำให้ผมกำลังพยายามคุมสติถึงกับรีบลืมตาขึ้นมาดูว่าคนตรงหน้าเป็นอะไร

เธอที่จากตอนแรกนอนตะแคงเหมือนคนไม่รู้สึกตัว แต่กลับขยับทำตัวยุกยิกเอาก้นงอนเด้ง เข้ามาเสียดสีหยอกล้อกับเจ้าลูกชายที่กำลังจะสงบให้ผงกหัวตั้งลำขึ้นอีกรอบ ก่อนที่เสียงเธอเงียบหายไป คงเหลือไว้เพียงแค่เสียงหายใจที่สม่ำเสมอของเธอที่บ่งบอกว่าเธอคงละเมอแค่นั้นเอง แต่ทว่า...กลายเป็นลมหายใจของผมเองที่เริ่มจะแรงขึ้นจากความเสียวกระสันที่โดนหยอกล้อด้วยความบังเอิญ... (แต่เอ๊ะ...หรือเธอจะแกล้งกันหรือเปล่าว่ะ..ผมลอบคิดขึ้นมาในใจ)

เมื่อผมเห็นว่าไม่มีอะไรแล้ว ผมก็ได้เอนตัวกลับลงไปนอนตามเดิม ก่อนจะกระชับวงแขนให้แน่นยิ่งขึ้นอีกรอบ พร้อมกับท่องยุบหนอพองหนอวนไป

“เฮ้อออ.....” ผมลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ พร้อมกับเรียกสติของตัวเองที่กำลังกระเจิดกระเจิงจากการกระทำของเธอเมื่อสักครู่ให้กลับมา เพราะถึงแม้ผมจะควบคุม จิตใจตัวเองได้มากแค่ไหน แต่สำหรับไอ้เจ้าลูกชาย ตาเดียวของผมแล้ว เหมือนมันจะไม่ฟังในสิ่งที่ผมพร่ำบอกกับมันเลย เพราะว่ามันยังคงชูชันกระดิกเขี่ยอยู่กับร่องก้นเด้งของคนตรงหน้า คล้ายกับว่าต้องการเรียกร้องให้เธอหันกลับมารับผิดชอบในสิ่งที่เธอทำทิ้งไว้กันเลยทีเดียว

จิตที่ฟุ้งซ่านของผมค่อย ๆ ถูกตีกลับมาให้สงบเช่นเดิม พร้อมกับการกำหนดลมหายใจของตัวเองให้เข้าสุดออกสุด เพื่อประคองสติไม่ให้ขาดสะบั้นตรงเข้าลักหลับร่างนวลเนียนที่อยู่ตรงหน้า

และในขณะที่ผมกำลังจะบรรลุศีลธรรมอยู่นั้น...

อื้ออออ ~~ ร้อนนนน ~~

เธอที่พยายามดิ้นออกจากวงแขนของผมอีกครั้ง หลังจากที่ผมเพิ่งจะทำสมาธิไปได้ไม่นาน อีกทั้งเธอยังครางกระเส่าบอกว่าตัวเองร้อนออกมาอีกด้วย ซึ่งน้ำเสียงนั้นมันช่างสร้างความสยิวให้ผมได้อย่างบอกไม่ถูก เพียงเท่านั้นยังไม่พอเมื่อเธอยังถีบผ้าห่มออก จนผมเองถึงกับอดแปลกใจไม่ได้ เพราะปกติเธอไม่ใช่คนขี้ร้อนขนาดนี้ แล้วนี่ผมก็เปิดแอร์แค่ 20 องศา ซึ่งผมว่ามันก็เย็นมากแล้วนะ แต่เธอยังบ่นว่าร้อนอีก หรือว่าเธอจะไม่สบายกันนะ

ผมที่พอคิดได้แบบนั้น ก็ตกใจรีบกุลีกุจอลุกขึ้นไปเปิดไฟทันที ด้วยความเป็นห่วง และอยากจะดูเธอด้วยว่าเธอเป็นอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า...

พรึ่บ!!

เมื่อหลอดไฟที่ให้ความสว่างถูกเปิดขึ้น ความจริงตรงหน้าก็ถึงกับทำให้ผมต้องเบิกตากว้างทันที พร้อมกับหัวใจที่แทบจะหยุดเต้น...

ภาพที่ร่างนวลเนียนขาวสว่างของหญิงสาวอันเป็นที่รัก ที่กำลังนอนหลับอยู่ตรงหน้า หลังจากที่เธอถีบผ้าห่มออกก็เผยให้เห็นเรือนร่างอะร้าอร่ามที่มีเพียงแค่ เสื้อชั้นในตัวบางซีทรูสีขาวที่ดูยังไงก็คล้ายจะเหมือนเกาะอกที่มีแขนซะมากกว่า และความบางของเนื้อผ้าที่ไม่ใช่แค่บางธรรมดา แต่มันบางถึงขนาดที่ว่าเห็นไปถึงเนื้อในขนาดมหึมาที่มีปลายยอดสีชมพูประดับอยู่...

ผมถึงกับยืนตัวแข็งทื่อไปไม่เป็น อีกทั้งสายตาคมยังคงจับจ้องมองค้างไปยังเรือนร่างเย้ายวนที่น่าเข้าไปขย้ำให้หนำใจ รวมถึงเจ้าก้อนอกตูมทั้งสองข้างที่เด่นสง่าชูชันอวดท้าสายตาหื่นของผมอย่างเชิญชวนให้ผมเข้าไปขบกัดให้สาแก่ใจ ไหนจะปลายปทุมถันสีชมพูเม็ดเป้งที่กำลังแข็งตั้งท่าท้าให้ผมกระโจนเข้าครอบงำนัวเนียเสียให้ช้ำปอด

ความอะร้าอร่ามยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น เมื่อผมได้ขยับลากสายตาลงไปตามเนื้อสาวที่ผุดผ่องเรียกความเร่าร้อนในกายหนุ่มให้รุกโชน ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งเมื่อสายตาต่ำลงไปเรื่อย ๆ จนไปถึงจุดยุทธศาสตร์กึ่งกลางกายสาว ความกระสันที่อยากจะเข้าครอบงำเรือนร่างสวยยิ่งโหมกระหน่ำจนแทบจะคุมสติไม่อยู่

สายตาคมเบิกกว้างด้วยความตื่นตาตื่นใจ พร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อพบเข้ากับความเบาบางของแพนตี้ซีทรูตัวจิ๋วสีขาวที่เข้าชุดกันกับชั้นในด้านบน จนเผยให้เห็นความอวบอิ่มของดอกไม้งามที่ตอนนี้กำลังแย้มกลีบเยิ้มหลั่งน้ำหวาน ท้าให้หมู่ภมรตัวเขื่องเข้าไปฉกชิมความหวานให้สาแก่ใจ

จากภาพด้านบนที่คิดว่าปลุกความกระสันในกายหนุ่มให้ลุกโชนปั่นป่วนวิ่งพล่านไปทั่วร่างได้แล้ว พอมาเจอกับภาพด้านล่างที่อะร้าอร่ามไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน ก็ทำให้ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ทำลายซึ่งความดีที่ผมเฝ้ากล่อมสะกดจิตมาถึงกับขาดสะบั้นลงทันที...