บทที่ 147 เบื้องหลังของเนื้อนวล
ณ คฤหาสน์ท่านหญิงเธซ่า
หลังจากที่ท่านหญิงเธซ่าพาเนื้อนวลกลับมายังคฤหาสน์ของตนเองแล้ว อาการสั่นเทาเอาแต่ร้องไห้อยู่ตลอดเวลาของเนื้อนวล มันทำให้คนอย่างท่านหญิงเธซ่าที่ทั้งรักและเอ็นดูเด็กสาวคนนี้อดปวดใจไม่ได้
เมื่อนึกย้อนกลับไปในช่วงขณะที่กำลังเดินกลับ ในเวลาที่เนื้อนวลกำลังหวาดกลัวและร้องไห้อยู่นั้น ท่านหญิงเธซ่าอย่างเธอกลับทำได้เพียงโอบกอดปลอบประโลมเด็กสาวเท่านั้น ร่างเล็กที่ไร้เดียงสาแต่เกือบต้องมาสิ้นชีพตายคากรงเล็บของพญามัจจุราชอย่างเซบาสเธียหลานชายแท้ ๆ ของเธอ มันช่างไม่ยุติธรรมกับเด็กสาวเสียเลยในความรู้สึกของเธอ
เสียงสะอื้นที่ช่างดูน่าเวทนาถูกปล่อยออกมาเป็นระยะ มันช่างกัดกินเข้าไปถึงหัวใจของหญิงสูงวัยอย่างเธอ จนทำให้ดวงตาที่เริ่มจะขุ่นมัวจากอายุที่มากขึ้นเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสเพราะสงสารคนในอ้อมกอดจับใจ
จนกระทั่ง...
เมื่อทั้งสองเดินทางมาถึงยังคฤหาสน์อันเป็นที่พำนักของเธอ ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เนื้อนวลเองก็เริ่มที่จะสงบจิตสงบลงไปได้บ้างแล้ว ถึงแม้จะไม่มีหยาดน้ำตาที่รินไหลออกมาจากดวงตาใสซื่อของเด็กสาว แต่ทว่าอาการตัวสั่นขวัญผวาก็ยังคงมีอยู่ให้เห็นเล็กน้อย
และถ้าหากใครได้มองมายังลำคอระหงของคนที่กำลังสะอื้นอยู่แล้วล่ะก็ ต้องพบเข้ากับรอยนิ้วมือสีแดงเด่นชัดที่เกิดจากการลงทัณฑ์ของคุณเซฟ รอยนิ้วมือที่ดูน่ากลัวจนถึงขนาดที่ทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นต่างอดตกใจหวาดหวั่นกับภาพนั้นไม่ได้
แต่ทว่า...ไม่ใช่แค่ความรู้สึกตกใจเท่านั้น ที่คนเหล่านั้นจะรู้สึกเกี่ยวกับร่องรอยที่ลำคอนั่น แต่ยังมีความอยากรู้อยากเห็นอยากจะซุบซิบนินทาคนที่โดนกระทำว่าเพราะเหตุใดเด็กสาวที่ดูไร้เดียงสาถึงได้โดนทำร้ายมาขนาดนี้ แต่ที่พูดออกมาไม่ได้นั่นก็เป็นเพราะว่าเนื่องจากบารมีของท่านหญิงเธซ่าที่มีมากพอ จึงทำให้เหล่าผู้คนที่อยากจะเม้ามอยถึงกับหุบปากลงในทันที โดยไม่มีคำพูดหรือการกระทำใด ๆ มากระทบจิตใจคนกำลังขวัญเสียเลย
“เนื้อนวล นอนพักก่อนนะ ฉันให้คนไปตามหมอมาดูอาการให้แล้ว ไม่ต้องกลัวนะ ไม่เป็นไรแล้วนะ ดูสิ...โธ่ ตัวสั่นเป็นลูกนกเชียว...เด็กน้อย” ท่านหญิงเธซ่าเดินตรงพาเนื้อนวลกลับมาพักผ่อนยังห้องนอนของเนื้อนวลทันที พร้อมกับให้คนไปตามหมอประจำตระกูลของเธอ เพื่อให้มาดูอาการของเด็กสาวโดยเร็ว อีกทั้งยังช่วยประคองร่างเด็กสาวให้เอนกายลงนอนแล้ว ก่อนจะเอ่ยปลอบคนที่ตนเองเอ็นดูด้วยความรักและห่วงใย พร้อมกับเอื้อมมือลูบไปที่หัวทุยเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูอย่างที่สุด
สายตาของหญิงสูงวัยเมื่อยามมองไปที่คนด้านหน้า ก่อให้เกิดความรู้สึกสงสารเด็กสาวคนนี้ขึ้นมาจับใจ แต่ทว่า..เธอเองกลับไม่สามารถจะลงโทษคนที่ทำแบบนี้กับคนที่เธอเมตตาได้ เนื่องจากผู้ที่กระทำนั้นก็เป็นถึงหลานชายแท้ ๆ ในไส้ของตัวเธอเองเช่นกัน เธอจึงไม่อาจจะทำอะไรได้เลย นอกจากได้แต่เวทนาสงสารคนตรงหน้านี้เท่านั้น
ความรู้สึกปวดใจถาโถมเข้ามาที่กลางหัวใจของคนใกล้ชราอย่างเธอ ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนทำให้ข้างในอึดอัดไปหมด จนทำให้คนอย่างเธอทำได้เพียงดูแลรักษาคนตรงหน้าให้ดีที่สุด เพื่อไถ่โทษที่เธอไม่สามารถจะลงโทษคนที่ทำร้ายเด็กสาวที่เธอรักและเอ็นดูได้
“ไม่ต้องตามหมอมาหรอกค่ะ เนื้อนวลไม่เป็นอะไรแล้ว พักผ่อนอีกนิดหน่อยก็หายแล้วค่ะ ขอบพระคุณท่านหญิงมากนะคะ” เนื้อนวลยกมืออันสั่นเทาขึ้นมาไหว้ ด้วยท่าทีน่าสงสาร
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ฉันให้คนไปตามมาแล้วล่ะ คงใช้อีกสักพักก็น่าจะถึงแล้ว ระหว่างนี้เธอก็นอนพักไปก่อนแล้วกันนะ” น้ำเสียงและสายตาของหญิงสูงวัยยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและปรารถนาดีต่อเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยบอกคนที่ตัวเองเอ็นดูด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ถ้าอย่างนั้นเนื้อนวลขอนอนพักผ่อนก่อนนะคะ” เนื้อนวลเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะปิดเปลือกตาบอบช้ำที่เกิดจากการร้องไห้ลง
ท่านหญิงเธซ่ามองไปที่ใบหน้าสวยใสสมวัย แม้ตอนนี้จะดูอิดโรยเพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก อีกทั้งยังเพิ่งผ่านสถานการณ์ความเป็นความตายมาอีกด้วย ดังนั้นเมื่อเธอพินิจพิจารณาเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าที่พอรวมกับสิ่งที่เด็กคนนี้เจอะเจอมาแล้ว มันยิ่งกลับทำให้เธอทั้งสงสารและเอ็นดูสาวน้อยมากขึ้นไปอีก
และนอกจากความเอ็นดูที่เกิดจากความรู้สึกส่วนตัวแล้ว สิ่งที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยก็คือ ความรู้สึกอีกส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นที่มันอาจจะเป็นเพราะว่าตัวเธอเองไม่มีลูก ส่วนสามีของเธอเองก็มาตายจากไปเหลือทิ้งไว้ให้เพียงมรดกหลายพันล้านที่ใช้ยังไงชาตินี้ก็คงจะใช้ไม่หมด เลยทำให้เธอรู้สึกว่าการที่มีเนื้อนวลอยู่ข้างกาย มันทำให้เธอคลายเหงาไปได้มากเลยทีเดียว
อีกทั้งยังเป็นเพราะตัวเธอที่เลี้ยงเนื้อนวลมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยด้วยแล้ว จึงทำให้เธอทั้งรักและผูกพันกับเด็กคนนี้มาก มากจนเสมือนลูกคนหนึ่ง เธอที่คอยเฝ้าอบรมสั่งสอนให้เนื้อนวลมีความเพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาก็ให้เรียนที่ดี ๆ ไม่น้อยหน้าลูกหลานคนรวยที่ไหนเลย ทั้งกิริยามารยาทที่ถึงกับให้คนมาสอน ทั้งที่อยู่อาศัยอาหารการกิน เนื้อนวลได้สิทธิพิเศษทุกอย่างเมื่อเทียบกับเด็กรับใช้ข้างกายคนอื่น
ทุกอย่างมันเกิดจากเหตุผลเดียวคือเธอเอ็นดูเด็กคนนี้มาก และเธอก็แอบหวังเล็ก ๆ ในใจว่า ในอนาคตเธอเองก็คิดอยากจะฝากผีฝากไข้ไว้กับเด็กคนนี้เช่นกัน
แววตาของหญิงสูงวัยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ดูอ่อนโยนเสมอเมื่อมองไปที่เด็กสาว มือที่ประสานวางไว้บนหน้าตักด้วยท่าทางที่ดูสง่า ดวงตาของเธอจ้องมองไปยังใบหน้าเด็กสาวที่กำลังหลับตาพริ้ม พร้อมกับย้อนนึกไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ตั้งแต่วันแรกที่เธอได้เจอกับเนื้อนวล
เด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าสงสารที่ตอนนั้นมีอายุเพียงไม่กี่ขวบ แต่กลับต้องมากำพร้าพ่อแม่ พ่อแม่ของเด็กน้อยจากไปอย่างไม่มีวันกลับเนื่องจากพวกเขาถูกฆ่าตายหมด และถ้าในวันนั้นเธอไม่บังเอิญไปเจอและขอร้องคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเนื้อนวลให้ไว้ชีวิตน้อย ๆ นี้เอาไว้ วันนั้นเด็กน้อยคนนี้ก็คงต้องตายตกตามพ่อแม่ไปแล้ว
เธอที่รู้สึกถูกชะตาทันทีที่ได้เห็นใบหน้าเล็ก ๆ นั่น ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังจำใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นได้เป็นอย่างดี
พอได้นั่งนึกถึงเรื่องราวในวันวานเก่า ๆ เธอเองก็อดยิ้มน้อย ๆ ให้กับความทรงจำนั้นไม่ได้ เด็กน้อยที่ร้องกระจองอแง ร้องเรียกหาพ่อแม่ให้อ้อมกอดของเธอด้วยท่าทีหวาดกลัว ก่อนจะซุกตัวหลับคาอ้อมอกไปด้วยความอ่อนเพลียจากการร้องไห้มานาน มันทำให้เธอรู้สึกสะท้อนใจ นึกเสียใจขึ้นมาที่เมื่อยามที่เด็กคนนี้เจอเรื่องเลวร้าย แต่ตัวเธอกลับปกป้องคนตรงหน้านี้ไม่ได้เลย...
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 56
แสดงความคิดเห็น