บทที่ 120 มีบางคนไม่พอใจ
เขาแสดงความเจ้าเล่ห์ หว่านพืชหวังผลใส่ฉันทันที...
ฉันที่ได้ยินดังนั้น ถึงกลับหันขวับไปค้อนให้เขาวงใหญ่ พร้อมกับเบ้ปากหมั่นไส้ให้กับความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเขา เขานี่มันช่างหาผลประโยชน์เข้าตัวเองได้ทุกสถานการณ์เลยจริงๆ
ฉันที่ไม่อยากจะเสียเวลากับความหื่นของเขาอีกแล้ว รีบเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาของมาทำอาหารทันที
“เชิญเซฟกับคุณเอลิซทานกันเถอะค่ะ เรน่าขอตัวไปพักผ่อนก่อน ป้าสายช่วยเรน่ายกกระเป๋าไปที่ห้องพักหน่อยนะคะ” เรน่าที่จู่ๆ ก็พูดขึ้นมา แล้วรีบบอกให้ป้าสายนำทางไปยังห้องพักทันที
“ได้เจ้าค่ะ” ป้าสายรับคำพร้อมกับรีบยกกระเป๋าเดินไปจากตรงนี้ทันทีโดยไม่ต้องให้พูดซ้ำ
“อ้าว...คุณเร...เอ๊ะ...เฮียนี่จะช่วยหรือจะป่วนค่ะ...” ฉันที่กำลังเตรียมของเพื่อทำอาหาร เมื่อได้ยินคำปฏิเสธที่จะร่วมโต๊ะกินข้าวจากผู้หญิงคนนั้น แม้กำลังจะเรียกให้เธอหยุดรอก่อน แต่ก็ไม่ทันเพราะเธอเดินจากไปก่อนซะแล้ว
สายตาของฉันมองตามไปยังร่างหุ่นนางแบบของเรน่าด้วยความอ่อนใจ ก่อนจะกลับมาสาละวนคอยเอามือตัวเองปัดป้องมือปลาหมึกของคนตัวโตที่จ้องแต่จะก่อกวนร่างกายของฉันออก มือที่คอยแต่จะขยำตรงนู้นบีบตรงนี้ จนฉันเริ่มจะหงุดหงิด
“เฮียเห็นไหมคะ...เนี้ยคุณเรน่าเขาไม่รอกินข้าวกับเราแล้ว ก็เพราะเฮียนั่นแหละมัวแต่วุ่นวายอยู่กับตัวเอลิซอยู่ได้” ฉันอดต่อว่าเขาไม่ได้ เพราะมือของเขามันไม่อยู่สุขเลยจริงๆ
“ก็ช่างมันสิใครสนกันล่ะ...ดีซะอีกความจริงเฮียอยากกินเมีย...เอ๊ย...อยากกินข้าวกับเมียแค่สองคนเท่านั้น ไม่ได้อยากให้คนอื่นมาร่วมโต๊ะด้วยสักหน่อย” เขาที่พูดหน้าตาเฉยและดูว่าจะไม่สนใจไม่แยแสเรน่าเลยสักนิด นั่นก็เป็นเพราะว่าเขายังคงมีความขุ่นเคืองในเพื่อนคนนี้อยู่ และในขณะที่พูดสองมือของเขาก็ยังขยำแก้มก้นฉันเล่นอย่างสนุกสนาน
“แต่ว่า...” ฉันที่อดเป็นห่วงความรู้สึกของเรน่าไม่ได้ ถึงอย่างไรเราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน
“อย่าคิดมากเลยนะคะ นี่เป็นสิ่งที่เราอยากให้มันได้รับรู้ไม่ใช่หรอ แล้วอีกอย่างเราสองคนก็แสดงความรักออกมาด้วยความรู้สึกที่มาจากใจของเราจริงๆ ไม่ใช่แกล้งทำใส่มันสักหน่อย...จริงไหม” เขาพูดอธิบายเพื่อให้ฉันสบายใจและคล้อยตาม และในขณะเดียวกันก็ยังฉกฉวยหาโอกาสจากร่างกายฉันไม่เลิก โดยการที่เขาขยับมือหนาที่ขยำแก้มก้นฉันในตอนแรก เปลี่ยนมาลูบคลำที่หน้าอกฉันแทน
เพี้ยะ!!
“อู้ยยยยย~~ ซี๊ดดดด~~” เขาที่ร้องเสียงหลงออกมา หลังจากโดนฉันฟาดเข้าไปที่มืออย่างเต็มแรง
“หยุดหื่นก่อนค่ะ” ฉันดุเขาพร้อมกับจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่อง นั่นก็เพราะว่าฉันไม่ไหวกับคนตรงหน้าที่ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนเขาก็หื่นได้ตลอดเวลา
“อ่ะจ้าๆๆ “เขาที่ทำท่าทางทะเล้น ยกมือยกไม้ขึ้นมาทำท่าเหมือนยอมแพ้ จนฉันอดส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจในความทะเล้นของเขาไม่ได้ เห้ออออ หมดกันมาดมาเฟีย นี่ถ้าลูกน้องเขาได้มาเห็นนิสัยเขาตอนที่อยู่กับฉัน จะยังเหลือความน่าเกรงขามอยู่ไหมเนี้ย...
เราสองคนช่วยกันทำอาหาร แม้จะเต็มไปด้วยความวุ่นวายจากคนตัวโตที่คอยแต่จะหาโอกาสแต๊ะอั๋งฉัน แต่มันก็ทำให้ฉันมีความสุขมาก มากจนไม่รู้เลยว่าได้ทำให้ใครบางคนไม่พอใจ...
--- เรน่า Talk ---
ฉันที่ทนไม่ไหวกับการมองดูเขาทั้งสองคนพลอดรักกัน จนทำให้ฉันต้องรีบกลับเข้ามาทำใจอยู่ในห้องนอน เพราะถ้าขืนยืนอยู่นานกว่านี้อีกนิด ฉันคงได้ปล่อยโฮให้เขาและเธอได้มองดูฉันอย่างสมเพชแน่ๆ
เมื่อมาถึงห้องนอนห้องประจำที่อยู่ติดกับห้องนอนของเขาแล้ว ฉันก็ได้บอกให้ป้าสายออกไป หลังจากป้าสายปิดประตู ฉันก็ได้ทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วขดตัวปล่อยให้น้ำตาที่มันอัดอั้นอยู่เต็มขอบตาไหลรินลงมาเพื่อปลดปล่อยความเสียใจที่เกินจะบรรยาย
“ฮึก...ฮึก...ฮือออออ ~~” ฉันที่พยายามเม้มริมฝีปากเอาไว้ไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา แต่มันก็เป็นไปได้ยากจริงๆ
ความรู้สึกแหลกสลายเข้ากอบกุมหัวใจดวงนี้อีกครั้ง ฉันนี่มันไม่รู้จักเจ็บจักจำเลยจริงๆ ทั้งที่รู้ว่าถ้าตามมาต้องมาเจอภาพที่ทรมานตัวเองแบบนี้ ก็ยังมั่นหน้าที่จะมา หัวใจที่เจ็บเหมือนกับเข็มนับพันเล่มทิ่มแทง ความรู้สึกที่เหมือนกับหายใจไม่ออก ยามที่เขาทำเหมือนว่าฉันไม่มีตัวตน มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน...
ฉันนอนนึกย้อนคิดไปถึงเรื่องราวทุกอย่างที่นำพาฉันให้มาที่นี่ มานอนทรมานแบบนี้ ทุกอย่างมันคงเริ่มจากตรงนั้น หลังจากที่...
ฉันให้คุณมาร์คไปส่งที่คอนโดที่ฉันซื้อเอาไว้ยามมาพักผ่อนที่นี่ เมื่อฉันมาถึงห้องก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่ของเซฟ โดยท่านโทรมาบอกว่าตอนนี้เซฟกับผู้หญิงคนนั้นได้พากันไปที่เกาะส่วนตัวของตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาลแล้ว
ในตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับเขา ในเมื่อเขาไม่มีวันรับฉันเข้าไปในหัวใจ อย่างนั้นฉันควรจะต้องตัดใจจริงๆ สักที
แต่แล้วแม่ของเขาก็เข้ามาจุดประกายความหวังให้กับฉัน โดยการที่ท่านบอกว่า ท่านรอวันที่จะจัดงานหมั้นให้กับฉันกับเขา และรอวันที่จะรับฉันเข้าไปเป็นสะใภ้ ยิ่งไปกว่านั้นคำที่ทำให้มั่นใจมากขึ้นไปอีกก็คือ ท่านบอกว่าไม่ว่าอย่างไรท่านก็จะอยู่ข้างฉัน และจะไม่ยอมรับใครอื่นเข้ามาเป็นลูกสะใภ้เด็ดขาด เพราะท่านถือว่าคำสัญญาของลูกผู้ชายตระกูลธิพัฒน์เดชะไพศาลนั้นเป็นคำศักดิ์สิทธิ์จะมารับปากแล้วเมินเฉยทำพล่อยๆ ไม่ได้
บวกกับที่คุณมาร์คก็ดูท่าจะเต็มใจที่จะช่วยฉัน เรื่องที่จะดึงผู้หญิงคนนั้นออกไปจากชีวิตเซฟ นั่นยิ่งทำให้ฉันมีความหวังในการสู้เพื่อความรักของฉันต่อไป ฉันจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด...
และแรงผลักดันเหล่านั้น ก็นำพาให้ฉันมาถึงที่นี่...
ทุกอย่างช่างตลกสิ้นดี เมื่อคิดไปถึงบทสนทนาที่ฉันกับแม่ของเขาคุยกัน เมื่อนึกถึงบทสนทนาเหล่านั้น ฉันก็ได้แต่สมเพชตัวเองมากขึ้น สมเพชถึงความมั่นหน้าว่าจะทำให้เขามาเป็นของฉันได้...หึ...แกมันโง่...ยัยเรน่า...แกมันโง่จริงๆ T^T
สารบัญ / นำทาง
- ยอดวิว 23
แสดงความคิดเห็น